War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3272
WSSTH ตอนที่ 3,272 : พ่นกระบี่บิน
ในสายตาของหลิวเจี้ยน หากมันใช้พลังทั้งหมดแต่แรก มันคงไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แน่ เพราะต้วนหลิงเทียนคงสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของพลังและชิงยอมแพ้ไปก่อน!
เมื่อต้วนหลิงเทียนเอ่ยคำยอมแพ้ออกมา ตัวมันก็จนปัญญาจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป เพราะถ้ามันยังรั้นจะฆ่าต้วนหลิงเทียนทั้งๆที่อีกฝ่ายยอมแพ้แล้ว วังเทียนฉือไม่พ้นต้องลงโทษมันตามกฏ ประหารทันที!
ถึงมันจะเป็นศิษย์อัจฉริยะของวังเทียนฉือ แต่ในบรรดาศิษย์อัจฉริยะทั้ง 100 คน ในแง่พรสวรรค์และความเข้าใจแล้ว มันก็ถือว่าเป็นชนนั้นล่างๆเท่านั้น
วังเทียนฉือที่ต้องดำรงรักษากฏ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไว้ชีวิตมัน!
ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดเผยพลังที่แท้จริงขณะโจมตีใส่ต้วนหลิงเทียนแต่แรก เลือกที่จะปิดซ่อนพลังกว่าครึ่งเอาไว้ เพียงให้เข้าใกล้ต้วนหลิงเทียนมากพอ มันจึงจะระเบิดพลังสังหารทั้งหมด ดับชีวิตต้วนหลิงเทียนก่อนจะตั้งตัวได้ทัน!
“ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนผู้นั้นไม่ใช่เล่นๆเลย…ถึงกับรับมือหลิวเจี้ยนได้!”
“พวกเจ้ารู้สึกเหมือนข้ารึเปล่า ว่าศิษย์พี่หลิวเจี้ยนไม่ได้เอาจริง…หากจำไม่ผิดพลังของศิษย์พี่หลิวเจี้ยนสมควรเหนือว่านี้ไม่ใช่หรือ?”
“ไม่ผิด จากที่ข้าดูหลิวเจี้ยนเลือกจะกักเก็บพลังเอาไว้กว่า 5 ส่วน เท่าที่ใช้ออกอย่างดีก็พอๆกับหวงลู่หนานเท่านั้น…มันซุกกซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้!”
…
ศิษย์วังเทียนฉือที่ชมดูเรื่องราวรอบๆ หลายคนสามารถมองออกว่าหลิวเจี้ยนจงใจซุกซ่อนพลังเอาไว้ขณะป้อนกระบวนท่าใส่ต้วนหลิงเทียน ไม่ได้เปิดฉากสังหารเข้าใส่ด้วยพลังทั้งหมด
“ดูเหมือน ศิษย์พี่หลิวเจี้ยนคิดจะฆ่ามันให้ตายจริงๆ…”
เห็นฉากเรื่อราวดังกล่าว หวงลู่หนานย่อมคาดเดาความคิดในหัวหลิวเจี้ยนได้ออก แน่นอนว่าไม่เพียงมันจะไม่ขัดข้อง ในแววตายังเผยความกระหายเลือดออกมาอีกด้วย!
เพราะก่อนหน้าต้วนหลิงเทียนพึ่งทำราวกับมันเป็นหมูหมาต่อหน้าสาธารณะชน! หากเรื่องราวก่อนหน้าแพร่ออกไป มันคงไร้จุดยืนในวังเทียนฉือแล้ว เพราะทุกครั้งที่ผู้คนพบเจอต้วนหลิงเทียนหรือมัน ไม่พ้นต้องนึกถึงเรื่องที่มันถูกทำร้ายด้วยบาทาไร้เงาแน่…!!
อย่างไรก็ตาม หากต้วนหลิงเทียนตกตายไปสักคน มันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป!
“ศิษย์น้องเล็ก หลิวเจี้ยนมันซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้กว่าครึ่ง! มันคิดระเบิดพลังสังหารเจ้า! รีบกล่าวยอมแพ้เร็วเข้า!!”
ทุกคนสามารถมองเจตนาการลงมือขอหลิวเจี้ยนได้ออกก แล้วไหนเลยหงเฟยที่เป็นอริเก่าของหลิวเจี้ยนมาหลายปีจะมองไม่ออก? ด้วยเหตุนี้ดวงตาเล็กๆของมันจึงหยีจนแทบปิด เร่งตะโกนบอกต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยท่าทางร้อนรน!
และแทบจะเป็นวินาทีเดียวกับที่เสียงตะโกนของหงเฟยยดังจบคำ แสงกระบี่สีทองที่ถูกรอยแยกมิติมหึมาประหนึ่งงูหลามตัวเขื่องของต้วนหลิงเทียนขวางรั้งจนพลังสภาวะถดถอย อยู่ๆก็เปล่งแสงทองสว่างเจิดจ้าออกมาในฉับพลัน!
วู้มม!!
วู้มม!!
…
และท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของผู้คน แสงกระบี่สีทองที่ว่า ก็ปลดปล่อยแถบริ้วกระบี่สีทองอีกนับพันสายกำจายออกมารอบๆ! ริ้วกระบี่ดังกล่าวทะลวงทำลายพลังมิติที่ขวางระหว่างแสงกระบี่สีทองกับต้วนหลิงเทียนเอาไว้ ด้วยสภาวะพลังที่เหนือชั้นกว่า!!
เรียกว่าบัดนี้หนึ่งแสงกระบี่สีทองกับแถบริ้วกระบี่สีทองนับร้อยพัน ได้เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าปกคลุมไปทั่วกรงมิติของต้วนหลิงเทียนก็ว่าได้!
พริบตาต่อมา ในสายตาทุกคน ก็แลเห็นร่างต้วนหลิงเทียนถูกหนึ่งแสงกระบี่ รวมถึงแถบริ้วกระบี่ที่โถมถันมาดั่งธารเชี่ยวกลืนกิน!
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
…
เสียงทะลวงฟันผ่าอากาศ ของแสงกระบี่สีทองกับแถบริ้วกระบี่สีทองนับร้อยพันดั่งน้ำเชี่ยวที่ว่าก็พึ่งจะดังมาถึง ชวนให้เหล่าศิษย์วังเทียนฉือที่ชมดูเรื่องราวอยู่อดขดลุกไปไม่ได้!
ต้องทราบด้วยว่าท่ามกลางมรสุมพลังกระบี่ทองนั่น มีร่างผู้คนดำรงอยู่…ไม่ทราบตอนนี้จะแหลกเหลวป่นปี้อย่างไรแล้ว!
“นี่…เป็นการลงมือเต็มพลังของศิษย์หลิวเจี้ยนหรือ?”
“ข้าว่าแล้วเชียวว่าศิษย์พี่หลิวเจี้ยนต้องซุกซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้ ดูเถอะ นี่ล่ะพลังที่แท้จริงของศิษย์พี่หลิวเจี้ยน!”
“ร้ายกาจ! น่ากลัวนัก! ใต้คมพลังกระบี่มหาศาลเช่นนั้น อย่าว่าแต่ต้วนหลิงเทียนเลย ต่อให้เป็นหงเฟยศิษย์พี่ของต้วนหลิงเทียน หากไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือ ก็ไม่พ้นสาหัสเจียนตาย!”
“เจ้าหลิวเจี้ยนนั่นมันตั้งใจฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายจริงๆ”
…
เหล่าศิษย์วังเทียนฉือที่อยู่โดยรอบ ขณะจับจ้องมองไปยังห่าพลังกระบี่สีทองที่โถมถล่มเบื้องหน้าไกลๆ ในแววตาก็ฉายชัดถึงความเวทนาสงงสารประการหนึ่ง
เป้าความเวทนาสงสารในแววตาของพวกมัน แน่นอนว่าย่อมเป็นต้วนหลิงเทียน
‘หากโดนกระบวนท่านั่นเข้าไป ข้าคงต้องตายอย่างไม่เหลือซากแน่!’
ดวงตาหวงลู่หนานตอนนี้เป็นประกายยระยิบระยับปานดวงดาว มันเชื่อว่าด้วยการโจมตีนี้ของศิษย์พี่มัน ต้วนหลิงเทียนต้องดับอนาถไม่เหลือแม้แต่ซากศพแน่นอน!
‘หลิวเจี้ยนผู้นี้มันตั้งใจจะฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายจริงๆ…’
จังหวะนี้เองอาวุโสตำหนักของกระบี่เองก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ เพราะมันมองออกว่าการลงมือของหลิวเจี้ยนเปี่ยมล้นไปด้วยจิตฆ่าฟัน หาไม่แล้วคงไม่เลือกปะทุพลังสังหารเอาในวินาทีสุดท้าย!
อย่างไรก็ตามแม้มันจะเห็นเจตนาของหลิวเจี้ยน แต่มันก็ไม่อาจทำอะไรได้
การประลองครั้งนี้คือการประลองเป็นตาย ต่อให้มันจะเห็นแก่หน้าฮ่วนเอ๋อและไม่อยากให้ต้วนหลิงเทียนตายมากแค่ไหน มันก็ไม่อาจสอดมือทำอะไรได้
เว้นเสียแต่ต้วนหลิงเทียนจะปริปากกล่าวคำยอมแพ้ออกมา ไม่งั้นมันไม่อาจทำอะไรได้จริงๆ
แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะอยากกล่าวคำยอมแพ้แค่ไหน ก็คงไม่มีโอกาสแน่นอน เพราะด้วยพลังของต้วนหลิงเทียน เจอห่าพลังสังหารถล่มมาแบบนั้น ไม่พ้นต้องรีดเค้นทุกอณูพลังทั้งจิตสมาธิทั้งหมดออกมาแข็งใจต้านทานรับมือ! หากวอกแวกไปปริปากกล่าวคำยอมแพ้ออกมา สภาวะพลังก็จะผ่อนลงทันที ถึงตอนนั้นไม่พ้นได้ตกตายคาที่แน่!!
‘ลงนรกไปเสีย!!’
ลูกตาเหลยจวิ้นฉายชัดถึงความสะใจประการหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อหางตามันเหลือบไปเห็นฮ่วนเอ๋อที่ลอยอยู่ไม่ไกล มันกลับพบว่าสีหน้าท่าทีฮ่วนเอ๋อยังคงสงบเหมือนเดิม ราวกับไม่ได้กังวลว่าต้วนหลิงเทียนจะตกตายภายใต้การโจมตีดังกล่าวของหลิวเจี้ยนเลย!
‘นี่มันยังไงกันแน่?’
เหลยจวิ้นตกลงสู่ความสับสนทันที ในใจยังเริ่มบังเกิดความคิดเหลวไหลประการหนึ่งขึ้น ‘ไม่จริงกระมัง…หรือต้วนหลิงเทียนนั่น…มันยังจะรอดพ้นกระบวนท่าสังหารของหลิวเจี้ยนได้?’
เหลยจวิ้นลอถามตัวเองดูแล้ว ก็ตอบได้ทันที…ว่าหากมันอายุยังไม่ถึง 500 ปี ถ้าต้องมาเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารของหลิวเจี้ยนอย่างไม่ทันตั้งตัว มันก็ไม่อาจรอดชีวิตได้แน่!
“ศิษย์น้องเล็กกก!!”
พอเห็นว่าห่าพลังกระบี่ของหลิวเจี้ยนกำลังถล่มเข้าใส่ร่างในชุดสีม่วงก่อนหน้า ที่บัดนี้ถูกแสงสีทองกลืนหายจนไม่อาจแลเห็นแล้ว ลูกตาหงเฟยก็หยีจนเหมือนมันปิดตาอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนใจดั่งไฟผลาญ ตะโกนเรียกหาออกมาเสียงดัง จนแก้มอันเต็มไปด้วยไขมันสั่นสะท้านไปอย่างแรง!!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ท่ามกลางมรสุมห่าพลังกระบี่สีทอง
พลังมิติของต้วนหลิงเทียนบัดนี้ได้ถูกแสงกระบี่สีทองรวมถึงแถบริ้วพลังกระบี่สีทองจำนวนมหาศาลของหลิวเจี้ยนเข่นฆ่าทำลายเข้ามาอย่างไร้หยุดยั้ง อย่างไรก็ตามกลับแสงกระบี่สีทอง กลับติดพลังมิติขุมหนึ่งที่เป็นปราการป้องกันสุดท้ายรอบกายต้วนหลิงเทียน!!
‘คิดไม่ถึงจริงๆว่าต่อหน้าการจู่โจมเต็มกำลังของข้า มันยังเร่งเร้าพลังแข็งขืนอยู่ได้…แต่สุดท้ายอีกไม่เกิน 2 ลมหายใจอย่างไรมันก็ต้องตาย!!’
ท่ามกลางแถบริ้วกระบี่สีทองนับพัน ร่างหลิวเจี้ยนที่กลายเป็นแสงกระบี่เล่มเขื่องก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา
ในสายตาของมัน ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้เร่งเร้าพลังชั่วชีวิต กระทั่งรีดเค้นเรี่ยวแรงดูดนมมารดามาสร้างพลังมิติขุมสุดท้ายป้องกันเอาไว้อย่างสิ้นหวังแน่แท้! และอีกฝ่ายก็ไม่แม้แต่จะปริปากกล่าวคำใดๆให้เสียลมหายใจได้เลย เพราะถ้าทำแบบนั้นไม่พ้นต้องถูกห่าพลังของมันกลืนกินสังหารในพริบตา!!
และในหัวของมัน ก็บังเกิดภาพผลลัพธ์ดังกล่าวเอาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามต่อให้หลับหลิวเจี้ยนก็ไม่อาจฝันถึง ว่าต้วนหลิงเทียนนั้นยังไม่ได้ใช้ความลึกซึ้งของกฏมิติที่เข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ออกมาทั้งหมดด้วยซ้ำ…
แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะหากใช้ออกมาทั้งหมดแต่แรก ยังไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือไร?
ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้ดี ว่าถึงใช้พลังจากความลึกซึ้งที่เข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ออกมาทั้งหมด แม้มันจะฆ่าหลิวเจี้ยนได้แน่ แต่ก็ไม่ใช่เข่นฆ่าได้ในชั่วพริบตา…ในสถานการณ์ดังกล่าว หลิวเจี้ยนจึงเหลือเวลามากพอให้กล่าวคำยอมแพ้
ต้วนหลิงเทียนไม่คิดไว้ชีวิตคนที่ตั้งใจฆ่าเขาแต่แรก!
“ทองเทพสุดลี้ลับ ขอแรงท่านด้วย”
ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันติดต่อกับทองเทพสุดลี้ลับขั้นที่ 6 ในโลกใบเล็ก เพื่อขอให้อีกฝ่ายช่วยลงมือทันที
แม้ทองเทพสุดลี้ลับจะยกระดับพัฒนาไปถึงขั้นที่ 6 แล้ว แต่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนมันก็ไม่ได้วางท่าหรือเล่นตัวอะไร เมื่อหลิงเทียนเอ่ยปาก มันก็จ่ายพลังของกฏแห่งทองสุดไพศาลขุมหนึ่งให้ต้วนหลิงเทียนเร็วไว! พลังกฏแห่งทองมหาศาลขุมดังกล่าวพวยพุ่งออกจากโลกใบเล็ก ผสานหลอมรวมเข้าร่างต้วนหลิงเทียนในเสี้ยวพริบตา!!
“ขอบคุณมาก!”
หลังกล่าวคำขอบคุณทองเทพสุดลี้ลับแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มองไปยังห่าแถบริ้วกระบี่นับพันที่กำลังเข่นฆ่าเข้ามาเบื้องหน้าทันที ยังจ้องมองไปที่แสงกระบี่เล่มเขื่องหนึ่งเดียวในนั้นด้วยสายตาเย็นชา!
และแสงกระบี่สีทองเล่มเขื่องดังกล่าว ก็มีร่างหลิวเจี้ยนอยู่ด้านใน
‘มันจ้องข้า?’
เมื่อต้วนหลิงเทียนมองเพ่งเล็งมาที่มันแบบนี้ หลิวเจี้ยนเองก็ตระหนักได้ถึงสายตาของต้วนหลิงเทียนทันที แต่มันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะในความคิดมัน ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะหามันเจอท่ามกลางริ้วกระบี่และจ้องมันเขม็ง ก็ไม่อาจทำอะไรมันได้ ไม่พ้นอีกฝ่ายก็กำลังทำได้แค่สาปแช่งมันอยู่ในใจเท่านั้น
เพราะเห็นๆกันอยู่ว่าพลังของมันเหนือกว่าพลังของต้วนหลิงเทียนโดยสมบูรณ์
“ตายเสีย!!”
และเมื่อพบว่าแสงกระบี่รวมถึงแถบริ้วพลังกระบี่สีทองมหาศาลนั้นได้ฝ่าทำลายพลังมิติขุมสุดท้ายรอบตัวต้วนหลิงเทียนเข้ามาจนเหลืออีกครึ่งครึ่งฉื่อก็จะป่นปี้ทำลายร่างต้วนหลิงเทียนได้แล้ว มุมปากหลิวเจี้ยนก็เผยรอยยิ้มแสยะย่ามใจออกมาทันที!
เพราะในสายตามัน อีกแค่ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ ต่อให้ต้วนหลิงเทียนมีอีกสิบชีวิตก็ไม่พอตาย!!
อย่างไรก็ตาม พริบตาต่อมารอยิ้มแสยะย่ามใจที่มุมปากของมัน ก็มีอันต้องชะงักค้างแข็งเติ่งไปทันใด!
เพราะมันพบว่าอยู่ๆพลังมิติรอบกายต้วนหลิงเทียน ก็ทวีความแข็งแกร่งขึ้นมาสุดที่มันจะจินตนาการได้ออก! สามารถผลักไสการจูโจมเต็มกำลังของมันออกไปได้อย่างง่ายดาย เรื่องราวดังกล่าวย่อมทำให้หลิวเจี้ยนตื่นตระหนกตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี ‘สารเลวต้วนหลิงเทียนนี่ ที่แท้มันกลับซ่อนพลังเอาไว้!!’
วินาทีนี้ หลิวเจี้ยนพลันตระหนักได้ถึงความจริงงอันน่ากลัวประการหนึ่ง ต้วนหลิงเทียน…ซ่อนได้ลึกกว่ามัน!
พลังที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียน เหนือกว่ามันเสียอีก!!
“ต้วนหลิงเทียน เจ้าซ่อนตัวได้ลึกยิ่งนัก!!”
อย่างไรก็ตามแม้มันจะตระหนักแล้วว่าต้วนหลิงเทียนได้ซุกซ่อนพลังได้ลึกกว่ามัน อีกทั้งรู้ว่าวันนี้คงไม่มีทางที่มันจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป แต่หลิวเจี้ยนก็ไม่ได้รีบร้อนจะยอมแพ้แต่อย่างใด
เพราะจากสำนึกเทวะ ต่อให้พลังของต้วนหลิงเทียนจะเหนือกว่ามัน แต่เรื่องจะเข่นฆ่ามันให้ตายนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ในเวลาสั้นๆ และนี่เป็นสามัญสำนึกของมัน!
ตราบใดที่มันคิดยอมแพ้ มันก็ทำได้ทุกเมื่อ
ทว่าในขณะที่หลิวเจี้ยนพึ่งจะกล่าววาจาจบคำ ต้วนหลิงเทียนก็เปิดปากออกราวกับจะพูดตอบ ทว่าทันใดนั้นเองพลันปรากฏประกายแสงสีทองขุมหนึ่งพวยพุ่งออกจากปากดั่งงสาฟ้าฟาด! จู่โจมเข่นฆ่าเข้าใส่หลิวเจี้ยนด้วยกลิ่นอายพลังที่คุ้นเคยนัก!!
หลิวเจี้ยนไม่อาจคุ้นเคยกับมันได้มากไปกว่านี้อีกแล้วจริงๆ! นั่นเพราะกลิ่นอายพลังที่ว่า…มันเป็นกลิ่นอายพลังของกฏแห่งทอง!!
ด้วยเหตุนี้สีหน้าหลิวเจี้ยนจึงเปลี่ยนไปใหญ่หลวง ลูกตาหดเล็กลงแทบปิด ในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ‘ต้วนหลิงเทียนที่ใช้กฏมิติอยู่ ไฉนมันใช้พลังของกฏแห่งทองได้?’
‘ยิ่งไปกว่านั้นพลังของกฏแห่งทองที่อัดแนน่นอยู่ในนั้น กลับทรงพลังนัก!’
ความคิดทั้งหมดอุบัติขึ้นในห้วงพริบตา
“ขะ—”
วินาทีนี้หลิวเจี้ยนคิดปริปากกล่าวคำว่า ‘ข้ายอมแพ้’ อนิจจาปากมันพึ่งจะอ้าออกได้ไม่ทันไร วาจายังดังขึ้นไม่ทันครบพยางค์ดี มันก็พบว่าลำแสงสีทองที่พุ่งออกกจากปากต้วนหลิงเทียนได้เสือกทะลวงเข้าหว่างคิ้วของมันเสียแล้ว!
“เจ้านับว่าเกิดมาไม่เสียชาติเกิดจริงๆ ที่ได้ตายด้วยการพ่นกระบี่บินครั้งแรกของข้า…”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองหลิวเจี้ยนด้วยสายตาเฉยเมย ส่งเสียงผ่านพลังไปถึงหูมันในวินาทีเดียวกับที่แสงกระบี่สีทองได้เสือกทะลวงหว่างคิ้วทะลุท้ายทอย…
เมื่อหลิวเจี้ยนตกตาย กระบวนท่าที่หลิวเจี้ยนใช้ออกมาก็สิ้นไร้พลังขับเคลื่อน จึงเริ่มสลายตัวตามระเบียบ
และก่อนที่กระบวนท่าของหลิวเจี้ยนจะสลายหายไปหมด แสงกระบี่สีทองที่ต้วนหลิงเทียนพ่นออกมาเมื่อครู่ ก็สลายหายไปหมดก่อนแล้ว…
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ทุกคนไม่อาจแลเห็นมัน ต่อให้แลเห็นก็ต้องเข้าใจว่าเป็นแสงกระบี่ของหลิวเจี้ยน เพราะแสงกระบี่ดังกล่าวมันอัดแน่นไปด้วยพลังของกฏแห่งทอง…