War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3361
ตอนที่ 3361 : เขมือบหายในคําเดียว!
“นี่มัน…”
ภายใต้สายตาสงสัยของพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ จุดแสงหลากสีสันนั่นยิ่งมาก็ยิ่งสาดแสงกลบแสง พลังสีฟ้าของมันมากขึ้นเรื่อยๆ!
ตอนแรกมันก็เห็นเป็นจุดแสงเล็กๆ
ทว่าต่อมามันก็แลเห็นว่าแสงดังกล่าวขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนเท่ากําปั้น และยังขยายใหญ่ขึ้นไม่หยุดยั้ง!
“ฝันไปเถอะ! อย่าได้หวังว่าเจ้าจักพลิกฟ้าอะไรได้!!”
สองตาพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ทอประกายเยียบเย็น เร่งติดต่อวารีเทพชําระโลกาภายในร่าง เพื่อให้ส่งพลังมาหนุนเสริมพลังทําลายของธารพลังเชี่ยวกราดทันที!
ภายในชั่วพริบตา ภาพวารีเทพเหนือศีรษะก็เปล่งแสงสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าครั้งใด จากนั้นกระแสพลังอันมหาศาลก็ทะลักออกมาปานธารดารา!
พลังที่ปรากฏออกมายังเปล่งแสงสีครามจ้า แลดูทรงพลังยิ่งกว่ากฎแห่งน้ําที่มันใช้เสียอีก!
“พี่สาวสุ่ย ตอนนี้ล่ะ!”
ด้านต้วนหลิงเทียน ที่เสือกกระบี่พุ่งสวนธารเชี่ยวมา พอเห็นการลงมือของวารีเทพชําระโลกา อีกฝ่ายมุมปากก็ยกยิ้มแสยะ เร่งกล่าวบอกวารีเทพชําระโลกาภายในร่างทันที
ด้านวารีเทพชําระโลกาเองก็กําลังเฝ้ารอโอกาสนี้อยู่
ถึงแม้จะเป็นวารีเทพชําระโลกาขั้นที่ 7 เหมือนกัน แต่เนื่องจากพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์เป็นถึงสัตว์เทพ อีกทั้งวารีเทพชําระโลกาในร่างอีกฝ่ายก็เพาะสร้างร่างต้นให้เหมาะสมกับตัวเองตั้งแต่อีกฝ่ายอยู่ในครรภ์มารดา เช่นนั้นทั้งคู่จึงสามารถพึ่งพาพลังของกันและกันได้
ยิ่งไปกว่านั้นการพึ่งพาพลังของกันและกัน ก็แทบไม่ส่งผลกระทบต่อพลังของอีกฝ่ายมากนัก
ทว่าแทบไม่ส่งผล ยังไม่ใช่ไม่ส่งผล!
“อาวุโสเพลิงท่านมาช่วยข้าอีกแรง…ส่วนพวกเจ้า 3 คน ช่วยเสี่ยวเทียนสังหารพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ตัวนี้เสีย!”
หลังวารีเทพชําระโลกากล่าวชวนเพลิงเทพโกลาหล นางก็หันไปกล่าวกับทองเทพสุดลี้ลับ พฤกษาเทพครองสวรรค์และปฐพี่เทพแรกกําเนิดฟ้าดิน “มาแข่งกันว่าทางไหนจะจัดการได้ก่อน!”
และแทบจะทันทีที่เสียงวารีเทพชําระโลกาดังจบคํา แสงกระบี่ของต้วนหลิงเทียนยิ่งมาก็ยิ่งสว่างเจิดจ้า พุ่งฝ่ากระแสธารพลังเชี่ยวกราด อันรวมไว้ด้วยพลังความลึกซึ้งของพยัคฆ์เทพวารี พิสุทธิ์ วารีเทพชําระโลกา และภาพวารีเทพไปฉับไว!
จังหวะนี้ด้านพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ไม่อาจไม่ตื่นตระหนก!
เพราะมันพบว่าแสงหลากสี่ยิ่งมายิ่งทรงพลัง ถึงขั้นที่มันไม่อาจหยุดยั้งได้เลย!
“ฆ่า!!”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเยียบเย็น จากนั้นทั่วร่างเขาพลันส่องแสงสว่างจ้า คนกระบี่หลอมรวมเป็นกระบี่แสงหลากสีสันเล่มเขื่อง พุ่งทะลวงแหวกธารพลังเชี่ยวกราดไปฉับไว ไวเสียจนเห็นเป็นเงาเลือนรางปานภูตผีสายหนึ่ง!
ถึงแม้ธารพลังเชี่ยวเปล่งแสงสีฟ้าย้อมโลกหล้าของพยัคฆ์เทพวาวรีพิสุทธิ์จะทรงพลัง แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งเขาได้
เห็นฉากดังกล่าวลูกตาของพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ก็หดเล็กลงเร็วไว ในใจบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลหนึ่ง ความตื่นตระหนกเริ่มฉายในแววตา แต่ทว่าไม่นานมันก็สงบสติลงได้
“รวม!”
ม่านตาพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ควบแน่นในฉับพลัน จากนั้นทั่วร่างพลันปลดปล่อยพลังสีครามออกมามหาศาล ยังปรากฏอัสนีพลังสีครามเข้มแล่นวาบแปลบปลาบไปทั่วร่าง
พริบตาต่อมาโลกสีฟ้าก็ค่อยๆดับลง
กล่าวให้ชัด ต้นตอแสงพลังสีฟ้าย้อมโลกหล้าอันเป็นสายธารพลังที่หลั่งไหลไปหนุนเนื่องไม่ขาดสายจากภาพวารีเทพ บัดนี้ได้รวมรั้งพลังทั้งหมดไปผสานเข้าร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ ก่อนจะบีบอัดควบรวม ก่อเกิดบอลพลังอันน่าพรั่นพรึงในปากพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์!!
พยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์อ้าปากออกกว้าง มวลพลังสีฟ้าที่ค่อยๆก่อตัว ยิ่งมายิ่งเปล่งกลิ่นอายพลังมหาศาลทั้งไม่เสถียรราวกับพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ รอบๆบอลพลังดังกล่าวยังมีอัสนีสีครามเข้ม แล่นวาบแปลบปลาบไม่หยุด!!
ชุ่มมม!
เมื่อกระแสพลังสีฟ้าดั่งธารเชียวขาดตอน แสงกระบี่หลากสีสันก็ส่องสว่างจ้าออกมา ท่ามกลางโลกอันมืดมิดแบบนี้ ยิ่งแลดูสว่างเจิดจ้าเป็นพิเศษ ราวกับแสงแรกแห่งรุ่งอรุณที่สาดส่องมาขับไล่ห้วงรัตติกาล!!
“โฮกกกก!!”
เผชิญหน้ากับแสงกระบี่ที่จี้ทะลวงแหวกฟ้าเข้ามาน่ากลัว พยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์คํารามออกมาเสียงดังสนั่นลั่นหล้า
ประหนึ่งสรรพเสียงในฟ้าดิน จะถูกหนึ่งเสียงคํารามพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธ์ดังกลบ ความว่างเปล่าโดยรอบสะเทือนสะท้าน คลื่นพลังมหาประลัยหนึ่งกําจายออกมาสะท้านสะเทือนไปในบรรยากาศ กวาดสะท้านไปทั่วทิศ!
จังหวะนี้กระทั่งฮ่วนเอ๋อกับเสี่ยวจินที่ลอยร่างคุมเชิงห่างๆ ยังถูกคลื่นกระแทกดังกล่าวพัดร่าง จนต้องล่าถอยไปหลายก้าวใหญ่ กว่าจะแข็งขึ้นร่างให้ลอยนิ่งได้อีกครั้ง
วู้มมม!!
ครื้นนน!!
ภาพวารีเทพที่ลอยล่องเหนือร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ตัวเขื่อง ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาปกคลุมไปทั่วร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ ก่อนจะถูกชักนําไปหลอมรวมเข้ากับบอลพลังที่ลอยล่องอยู่ในปากของพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์เร็วไว บอลพลังขยายใหญ่ขึ้นถึงขีดสุดในฉับพลัน!!
ปังงงงง!!
เสียงสนั่นดังขึ้น บอลพลังในปากพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ ราวกับถูกจุดชนวนระเบิด พลังมหาศาลที่อัดแน่นไว้ ในที่สุดก็ไม่อาจประคองสภาพสืบไป พุ่งยิงออกมาเป็นลําแสงพลังทําลายล้างมหาประลัยเข่นฆ่าออกไปเบื้องหน้า!
พริบตานั้นเอง
ปังงงง!!
เปรี้ยงงงง!!
ความว่างเปล่าแตกระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ห้วงมิติจวนเจียนพังทลาย ลําแสงพลังทําลายล้างที่ยิ่งพุ่งออกมา แผ่ซ่านกลิ่นอายพลังมหาศาลหาใดเปรียบ พุ่งทําลายเข้าใส่กระบี่แสงหลากสีสันเล่มเขื่องอย่างเกรี้ยวกราด!
“ไป!”
วารีเทพชําระโลกาให้สัญญาณคําหนึ่ง จากนั้นภายในแสงกระบี่หลากสีสันก็ปรากฏแสงพลังสีฟ้ากับสีแดงเพลิงพุ่งยิ่งม้วนพันกันออกไปเป็นเกลียว ราวมังกรน้ําไฟพัวพัน!
เมื่อพลังสองสายพุ่งออกไป พลังสภาวะของลําแสงพลังทําลายล้างที่ยิงเข้าใส่กระบี่แสงหลากสีสันเล่มเขื่อง ก็คล้ายจะอ่อนโทรมลงทันตา!
เนื่องเพราะวารีเทพชําระโลกาในร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ได้เร่งถอนรั้งพลังของมันคืนกลับ!
และต้นตอการถอนริ้งพลังครั้งนี้ ก็เพราะมันมพบว่าวารีเทพชําระโลกาของต้วนหลิงเทียนกําลังจู่โจมเข้าใส่มัน!!
“อะไร!? เพลิงเทพโกลาหลที่กําลังจักบรรลุขั้นที่ 8”
วารีเทพชําระโลกาในร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ หากพบเจอการจู่โจมเข้ามาหมายกลืนกินของวารีเทพชําระโลกาของศัตรู มันย่อมไม่หวาดกลัวใดๆ ถึงแม้จะไม่กล้าพูดว่าไม่แพ้พ่าย แต่โอกาสที่มันจะชนะก็มีมากกว่า
อย่างไรก็ตามเมื่ออีกฝ่ายบุกเข้ามา มันก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อพบว่า
อีกฝ่ายได้พาผู้ช่วยมาด้วย!
ถึงแม้ผู้ช่วยจะเป็นเพลิงเทพโกลาหลขั้นที่ 7 แต่ทว่าก็จวนเจียนจะบรรลุถึงขั้นที่ 8 เต็มที่! ระดับพลังของอีกฝ่ายสูงลํากว่ามัน!!
“เพลิงเทพโกลาหล นี่คือการต่อสู้ของพวกเราวารีเทพชําระโลกา ข้าขอร้องเจ้าอย่าได้สอดมือเข้ามายุ่ง!”
วารีเทพชําระโลกาในร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์หวาดกลัวแล้ว หากต้องเผชิญหน้ากับวารีเทพชําระโลกาของอีกฝ่ายอย่างเดียว ทั้งอีกฝ่ายเลือกมารบในร่างต้นของมันแบบนี้ มันมีความมั่นใจกว่า 9 ส่วนว่าต้องเอาชนะและกลืนกินอีกฝ่ายได้แน่
แต่ทว่าหากอีกฝ่ายมีเพลิงเทพโกลาหลคอยช่วย มันไม่เห็นหนทางเอาชนะได้เลย!
ตอนนี้มันจึงได้แต่หวังว่าเพลิงเทพโกลาหลจะไม่สอดมือเข้ามายุ่ง
อย่างไรก็ตามเพลิงเทพโกลาหลนั้น ไม่ได้สนใจฟังมันแม้แต่นิดเดียว ให้ความร่วมมือกับวารีเทพชําระโอกาของอีกฝ่ายอย่างดี พริบตาก็สะกดพลังของมันจนไม่อาจต่อต้านแข็งขึ้น กระทั่งสํานึกสติมันแทบจะดับสิ้นลง!
“อาวุโส!!”
ในเวลาเดียวกัน พยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ก็ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ของวารีเทพชำระโลกาในร่างมัน มันได้แต่ตื่นตระหนกตกใจ แต่กลับไม่มีทางช่วยเหลืออะไรได้เลย!
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่กระบี่แสงหลากสีสันของอีกฝากําลังเข่นฆ่าเข้ามาด้วยสภาวะพลังอันร้ายกาจ ต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ลงมือแปลงเป็นกระบีหลากสีพุ่งเข่นฆ่าเข้ามา มันที่คิดจะช่วยวารีเทพชําระโลกาในร่าง อย่างดีก็ทําได้แค่ส่งพลังให้วารีเทพชําระโลกาในร่างหยิบยืมเพื่อกดดันอีกฝ่ายเท่านั้น
แต่บัดนี้ อีกฝ่ายได้แปลงเป็นกระบี่หลากสีพุ่งเข่นฆ่าเข้ามาด้วยสภาวะพลังอันน่ากลัว
ตอนแรกยังดีอยู่
ทว่าอยู่ดีๆ กระบี่แสงหลากสีของอีกฝ่าย ก็ระเบิดพลังมหาศาลปานพลิกฟ้าคว่ําดินออกมา เสียงปลดปล่อยพลังยังดังสนั่นไปทั่วเจิ้งฟ้า กลิ่นอายพลังที่ระเบิดออกในฉับพลัน ถึงกับพาลให้หัว งอากาศโดยรอบสั่นสะเทือน ยังเลือนลั่นไปถึงผืนดินเบื้องล่าง!
ปังงงง!!
ซูมมมม!!
กระบี่แสงอันแหวกฟ้ามาด้วยพลังอานุภาพน่าพรั่นพรึงสุดที่มันจะจินตนาการได้ออก พริบตาก็พุ่งปะทะหักหาญกับลําแสงพลังทําลายล้างของมัน! ซ้ําร้ายยังแหวกฝาเข้ามาง่ายดายคล้ายพลังของมันเป็นแค่สายลมเย็นๆแผ่วเบา!!
“เป็นไปไม่ได้!”
พยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ร้อยพันหมื่นคาดก็ไม่เคยคิดว่ามนุษย์เบื้องหน้ายังจะสําแดงพลังอันร้ายกาจขนาดนี้ออกมาได้ ทั้งๆที่เสียการช่วยเหลือจากเทพเบญจธาตุทั้ง 2 ในร่างไป
อย่างไรก็ตาม ไม่นานมันก็ค้นพบว่า
ในกระบี่แสงหลากสีสันทรงพลังของอีกฝ่ายนั้น ไม่เพียงแต่จะมีพลังอํานาจหนุนเสริมน่ากลัวของอุปกรณ์เทพ และพลังของกฏมิติ แต่ยังมีพลังอันน่ากลัวอีก 3 ขุมรวมอยู่ด้วย และกลิ่นอายพลังทั้ง 3 ขุมดังกล่าวก็คือพลังของกฏแห่งทอง กฏแห่งดิน และกฏแห่งไม้!
“จบสิ้นกันแล้ว”
“เจ้าหนูไป๋ เจ้าโชคร้ายแล้วจริงๆที่มาพบพานสัตว์ประหลาดเยี่ยงมัน…มนุษย์คนนี้กลับถือครองเทพเบญจธาตุครบทั้ง 5 ธาตุ! นอกจากนั้นเทพเบญจธาตุในร่างของมันทั้ง 5 ล้วนบรรลุถึงขั้นที่ 7 หมดสิ้น!”
ในขณะที่พยัคฆ์เทพววารีพิสุทธิ์กําลังอื้ออึงกับพลังอํานาจเหนือสามัญสํานึกที่มนุษย์ใช้ออกเสียงอันเต็มไปด้วยความสิ้นหวังของวารีเทพชําระโลกาพลันดังขึ้นในร่างอย่างประจวบเหมาะ
“ลาก่อนเจ้าหนูไป๋ข้าจะไปรอเจ้าที่โลกหน้า”
กล่าวจบคํา วารีเทพชําระโลกาในร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ก็ถูกกลืนกินหายไป
การดับสูญของวารีเทพชําระโลกาที่คอยอยู่เคียงข้างสอนสั่งมาตั้งแต่มันจําความได้ ทําให้พยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์รู้สึกว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่ง พอดึงสติกลับมาได้ สองตาก็กลายเป็นสีแดงฉาน เลือดในร่างคล้ายหมุนเวียนสูบฉีดเร็วขึ้น!
สู้ตาย!
มันรู้ดีว่าตอนนี้มันได้แต่สู้ตายแล้ว!!
หลังจากสู้ตาย ต่อให้ต้องแพ้พ่ายตายตก มันก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม
พยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ ในฐานะสัตว์เทพ แน่นอนว่ามันย่อมมีไพ่ตายเอาไว้ช่วยชีวิตตัวเอง!
และบัดนี้มันได้กระตุ้นพลังสายเลือดของมันออกมาเต็มกําลัง กระทั่งยังเผาผลาญแก่นแท้โลหิตในร่างปานไม่คิดมีชีวิตสืบต่อ ยังผลให้พลังสายเลือดของมันทรงพลังยิ่งกว่าครั้งใด! ระดับพลังของมันถึงกับพุ่งสูงไปหลายขั้น!!
ไอพลังสีเลือดชวนสยองปะทุลุกโชนขึ้นมาท่วมร่าง ก่อนจะพุ่งไปผสานเพิ่มพลังให้กําลังแสงทําลายล้าง หมายเอาชนะกระบี่แสงหลากสีสันของต้วนหลิงเทียนให้จงได้
อนิจจามันเพียงต้านทานกระบี่แสงของต้วนหลิงเทียนได้เพียงเล็กน้อย ทําให้กระบี่แสงทะลวงฝ่าเข้ามาช้าลงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น!
ฟั่ฟฟฟฟ!!
กระบี่แสงหลากสีสันที่พุ่งมาด้วยความเร็วอัศจรรย์ เมื่อต้องปะทะเข้ากับพลัง สายเลือดของพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ในสภาวะเผาผลาญแก่นแท้โลหิต แม้จะช้าลงไปส่วนหนึ่งแต่ก็ยังคงเร็วมากๆอยู่ดี เพียงแค่ให้เทียบกับก่อนหน้ามันช้าลงเท่านั้น!
ซู่มมม!!
ทว่าทันใดนั้นเองท่ามกลางแสงหลากสีสันของกระบี่ อยู่ดีๆแสงสีแดงก็เรื่องสว่างขึ้นมาคล้ายมีเปลวเพลิงลุกโชนเป็นเพลิงเทพโกลาหลได้ย้อนกลับมาแล้ว!
พริบตานี้ กระบี่แสงหลากสีสันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นไปอีก! ความเร็วแน่นอนว่าย่อมเพิ่มพูนขึ้น!!
“ไม่”
เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังดังขึ้น เป็นแสงกระบี่หลากสีสันเล่มเขื่องอันเกิดจากต้วนหลิงเทียนผสานรวมกับกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน ได้พุ่งฝ่าลําแสงทําลายล้าง เลือกทะลวงเจาะเข้าหว่างคิ้วพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์จนทะลุออกหลังหัวได้ในที่สุด!
ทันใดนั้น ร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ก็แน่นิ่ง กลิ่นอายพลังชีวิตทั่วร่างดับสูญพลังที่เร่งเร้าออกมาไม่ว่าจะพลังจากกฏก็ดี พลังสายเลือดก็ดี ล้วนเริ่มสลายหายไปในอากาศ
“พี่ใหญ่หลิงเทียน หลบออกไปเร็ว!!”
ต้วนหลิงเทียนในร่างกระบี่แสงเล่มเขื่องพึ่งฆ่าพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์ได้ไม่ทันไร เสียงตะโกนของเสียวจินก็ดังขึ้นก้องหูเขา “ข้าจะกลืนกินมัน!”
พอต้วนหลิงเทียนหันกลับไปมองตามเสียง เขาก็พบว่าเสี่ยวจินในร่างที่แท้จริงกําลังพุ่งมาเร็วไว ยังอ้าปากออกกว้าง ปลดปล่อยพลังดูดรั้งอันน่าพรั่นพรึงขุมหนึ่งออกมาปกคลุมไปทั่วซากร่างไร้ชีวิตของพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์
กระทั่งเขาที่อยู่ใกล้ๆ ยังสัมผัสได้ถึงพลังดูดรั้งอันน่ากลัวเช่นกัน
วูบ!
ดุจละอองไฟวาบดับ กระบี่แสงหลากสีสันก็พุ่งหายไปหยุดข้างๆฮ่วนเอ๋อ ก่อนจะเรืองสว่างวาบหนึ่ง กลับกลายเป็นร่างด้วนหลิงเทียนที่ในมือถือกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน
ด้านฮ่วนเอ๋อเองตอนนี้ก็สลายเงาร่างที่แท้จริงไปแล้ว
ทั้งคู่ลอยร่างอยู่ข้างๆ ชมดูเสี่ยวจินอ้าปากคําโต ฮุบกลืนร่างพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์หายไปในหนึ่งคําด้วยความสนใจ จากนั้นก็พบว่าทั่วร่างของเสี่ยวจินพลันปรากฏพลังสายเลือดพุ่งพล่านนมา!
“พี่ใหญ่หลิงเทียน ฮ่วนเอ๋อ คอยปกป้องข้าที่”
“ข้าอยากลองดูหน่อยว่าหากข้ากลืนกินพลังสายเลือดกับร่างของพยัคฆ์เทพวารีพิสุทธิ์นี่ ข้า จะทําลายขีดจํากัดสายเลือดของข้า และวิวัฒนาการกลายไปเป็นสัตว์เทพได้เล่า!”
เสียงเสี่ยวจินดังเข้าหูตัวนหลิงเทียนกับฮ่วนเอ๋ออีกครั้ง “หากข้าทําลายขีดจํากัดสายเลือดสําเร็จ และวิวัฒนาการได้จริงๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพาด ข้าสมควรกลายเป็นหนูเทพสังหาร 9 สันโดษ!”
“ถึงตอนนั้น ในหุบจันทร์โลหิต ข้าสามารถเดินทอดน่องได้อย่างสบายใจ…ต่อให้ข้าทําลายสมบัติของหวงของประมุขหุบจันทร์โลหิต หรือเผาหนวดตาแก่นั่น ก็ไม่มีใครกล้าดุว่าข้าแน่!”
ขณะกล่าววาจาประโยคนี้ออกมา แววตาของเสี่ยวจินก็ฉาดชัดถึงความคาดหวังอันแรงกล้า