War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3622
WSSTH ตอนที่ 3622 : ข้าไม่ขาดหินเทพ
โอสถเทพทั้ง 3 เม็ดอย่างเจี้ยอี้ปิงนั้น ต้วนหลิงเทียนเคยได้ยินมาก่อนแล้วว่ามันมีสรรพคุณอย่างไร ตั้งแต่ตอนที่เขายังอยู่ในเมืองหลินซาน
หากแยกโอสถเทพทั้ง 3 ออกมาแบ่งขายที่ละเม็ดยา เกรงว่าเม็ดยานึงขายในราคาหินเทพ 1,000 ตําลึงก็จัดว่าเหมาะสม ขาย 3 เม็ดยารวมกัน 3,000 ตําลึงถือว่าปกติ กระทั่งตั้งราคาหินเทพ 4,000-5,000 ตําลึงก็คงไม่มีใครซื้อเพราะมัมนไม่คุ้มค่า สําหรับหินเทพ 10,000 ตําลึงนั้น เรียกว่าราคาสูงเสียดฟ้ามหาโหด!
หลายคนไม่ใช่ว่าไม่ซื้อเพราะขาดหินเทพจนจ่ายไม่ไหว เพียงแต่หากราคาสูงเกินไป มันก็ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
อย่างไรก็ตามสําหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว โอสถเทพทั้ง 3 เม็ดยาอย่างโอสถเทพ เขี่ย อิ่ปิงนั่น เขาต้องได้! เพราะสาหรับเขามันเป็นสิ่งที่สําคัญอย่างยิ่งยวด หากเขาได้มาก็สามารถทะลวงถึงขอบเขตเทพขั้นกลางได้ทันทีแน่ กระทั่งพลังฝึกปรือยังจะปริ่มเปร่จุดรอคอเทพขั้นสูงด้วยซ้ํา
เนื่องเพราะเคล็ดวิชาเทพที่เขาใช้ฝึกฝนบ่มเพาะ มันก็คือ “เคล็ดเทพมายาพันวิถี” ที่อาจารย์มอบให้เขา และเขาก็ได้ใช้พลังอํานาจของเคล็ดเทพมายาพันวิถีที่ว่าเปลี่ยนเคล็ดวิชา 19 มังกรจักรพรรดิสงครามของเขาให้กลายเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับอริยะเทพไปแล้ว…
หลังรับประทานโอสถเทพเจียอียิ่งไป และโคจรพลังตามเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับอริยะเทพ ย่อมสามารถดูดซับพลังของโอสถเทพทั้ง 3 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้านพลังฝึกปรือของเขาย่อมเพิ่มพูนขึ้นอย่างก้าวกระโดด!
ดังนั้นวันนี้อย่าว่าแต่หินเทพ 10,000 ตําลึงเลย ต่อให้เป็นหินเทพ 20,000 ตําลึงหรือ 30,000 ตําลึง ต้วนหลิงเทียนก็จ่ายได้ไม่กระพริบตา!
โอสถเทพเจ๋ยอง เขาต้องได้!
“พี่ชาย”
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเพิ่มราคาประมูลออกไปเป็หินเทพ 10,000 ตําลึง ต้วนเฉียวอวีที่นั่งข้างๆก็กุมมือเขาแน่น ขมวดคิ้วกล่าวว่า “พี่ชายท่านไม่เชื่อเสียวอวหรือ? โอสถเทพเจี้ย ซึ่งนั่นถึงแม้ตอนนี้เสียวอวี่จักมิมี แต่เสียวอวก็สามารถไปหาจากที่อื่นมาให้ท่านได้”
“พี่ชายอย่าได้สู้กับมันเลย ให้มันใช้หินเทพ 8,000 ตําลึงซื้อไปเถอะ”
ต้วนเฉียวอวกล่าว
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้ขาดหินเทพ”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อครู่ตอนที่เขาเพิ่มราคาเป็นหินเทพ 7,000 ตําลึง ต้วนเฉียวอวก็ได้บอกเขามาแล้วว่าหากเขาต้องการมัน ก็ไม่จําเป็นต้องจ่ายแพงขนาดนั้น นางจะไปหาโอสถเทพเจ๋ยองมาให้เขาเอง
ภายใน 3 เดือนเขาจะได้มันแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนไม่คิดเสียเวลารอขนาดนั้น และคุณค่าของมันในตอนนี้กับอีก 3 เดือนก็แตก ต่างกันมาก
เป็นธรรมดาว่าเรื่องของเรื่องก็คือเขาไม่ขาดแคลนหินเทพ
ในปัจจุบันเขามีหินเทพในมือถึง 190,000 ตําลึง อาศัยหินเทพแค่ 10,000 ตําลึงไม่อาจนับเป็นอะไรในสายตาเขาเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเชื่อว่าขอเพียงพลังฝึกปรือก้าวหน้าเข้มแข็งขึ้น การจะหาหินเทพก็เป็นเรื่องราวอันแสนง่ายดาย
ความมั่งคั่งก็แปรผันตรงกับพลังฝีมือ…
ขณะเดียวกัน หลังจากต้วนหลิงเทียนเสนอราคาหินเทพ 10,000 ตําลึงออกไป ผู้คนในโถงประมูลก็ตกอยู่ในความเงียบงันทันที
ทุกสายตาจับจ้องไปยังหน้าต่างห้องส่วนตัวหมายเลข 9 อย่างอื้ออึง กระทั่งโจวอนที่เป็นพิธีกรเองก็ไม่เว้น
อย่างไรก็ตาม นางสามารถดึงสติกับมาได้ก่อนใคร และกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัดว่า “ดูเหมือนแขกผู้มีเกียรติในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ตั้งใจชนะประมูลโอสถเทพเลี้ยอีปิงจริงๆ…ตอนนี้แขกผู้มีเกียรติในห้องส่วนตัว หมายเลข 9 เสนอราคาหินเทพ 10,000 ตําลึง มิทราบมีผู้ใดคิดเพิ่มราคาหรือไม่ หากมีมีข้าจักเริ่มนับถอยหลัง!”
เดิมที ตอนนี้โจวอนสมควรเริ่มนับถอยหลังได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม นางอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ก่อนจะหัวเราะกล่าวออกมาเสียงใส “นาย 4 ตระกูลจัง เจ้ายังต้องการเพิ่มราคาอยู่อีกหรือไม่ หากไม่เพิ่มราคาสู้ ข้าจักเริ่มนับถอยหลังแล้ว”
เรียกว่าเสียงกล่าวเคล่าหัวเราะของโจวอน ไม่ขาดการถากถางแม้แต่น้อย
“ซึ่ม!”
ได้ยินเสียงถากถางอย่างไม่คิดจะปกปิดของโจวอน นาย 4 ตระกูลจังในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 ก็พ่นลมสบถขึ้นจมูกออกมาเสียงเย็นค่าหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะตอนนี้จะพูดอะไรก็รังแต่จะทําให้ตัวเองอับอายขายหน้าเท่านั้น
“ไปสืบมาให้ข้า…ว่าในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เป็นตัวบัดซบแต่ที่ใด!”
หลังพ่นลมสบถเสียงเย็น นำ 4 ตระกูลจังก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับโทสะ ก่อนจะกล่าวสั่งคนที่อยู่ด้านหลังเสียงแข็ง
“ทราบแล้วนายท่าน 4”
คนด้านหลังมันก็รับคําแล้วจากไปทันที
ขณะเดียวกันบนเวทีประมูล โจวอวันที่นับถอยหลังถึง 3 ครั้งแล้วพบว่าไม่มีใครเพิ่มราคา นางก็ประกาศปิดประมูลโอสถเทพเจียอี้ยิ่งด้วยราคาหินเทพ 10,000 ตําลึงทันที กล่าวได้ว่ารายการประมูลแรกตกเป็นของต้วนหลิงเทียนเรียบร้อย
เมื่อพบว่าได้ของที่ต้องการมาในราคาแค่หินเทพ 10,000 ตําลึง มุมปากต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มบางๆอย่างถูกใจ ทันที
ขณะเดียวกัน โจวอนก็มอบขวดโอสถให้คนของตระกูลโจวที่เดินขึ้นเวทีมารับ จากนั้นก็เริ่มทําการประมูลรายการที่ 2 ต่อ “แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ของต่อไปที่จักนําขึ้นประมูลเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับเทพขั้นสูง
“เคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับเทพขั้นสูงเป็นเช่นไรข้าคงไม่จําเป็นต้องกล่าวคําอธิบายแล้วกระมัง…เช่นนั้นข้าขอประกาศราคาเปิดประมูลที่หินเทพ 5,000 ตําลึง!”
“แขกผู้มีเกียรติท่านใดสนใจ เชิญเสนอราคาได้!”
“กฏเดิม…หากผู้ใดคิดเพิ่มราคาประมูล ต้องเพิ่มราคาขั้นต่ําเป็นหินเทพ 1,000 ตําลึง!”
ตราบใดที่ศักยภาพของผู้ใช้สูงพอจะบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้ ด้วยมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับเทพขั้นสูง ก็สามารถบรรลุถึงขอบเขตเทพขั้นสูงได้แน่นอน และเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับนี้ก็ถือว่ามีค่าไม้นอยในละแวกเมืองวายุสวรรค์
ปกติแล้วเคล็ดวิชาบ่มเพาะระดับนี้สามารถยืมฝึกได้แต่ในขุมกําลังระดับราชาเทพในเมืองวายุสวรรค์เท่านั้น แถมราคาที่จ่ายยังไม่น้อยเลย
แต่ตระกูลโจวกลับนําเคล็ดวิชาระดับนี้ออกมาประมูล
กล่าวคือ ไม่ว่าผู้ใดที่ประมูลเคล็ดวิชาบ่มเพาะนี้ไป ก็สามารถให้ผู้อื่นยืมฝึกตามราคาที่เหมาะสมได้เช่นกัน และยังเป็นรายได้ที่มั่นคงนัก…
เป็นธรรมดาว่าคงไม่อาจนํามาให้ผู้อื่นจ่ายเพื่อยืมฝึกได้ในละแวกเมืองวายุสวรรค์ เพราะมีขุมกําลังระดับราชาเทพผูกขาดไว้แล้ว…
ทว่าหากน่าออกไปยังพื้นที่ห่างไกล อาจรับทรัพย์กันแทบไม่หวาดไม่ไหว
ด้วยเหตุนี้พอสิ้นคํากล่าวของโจวอน ก็มีผู้ประเดิมราคาแรกทันที”หินเทพ 5,000 ตําลึง!”
ประมูลไม่ทันไร ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นตามติด”หินเทพ 6,000 ตําลึง!” “7,000 ตําลึง! “8,000 ตําลึง!”
ต่างจากตอนประมูลโอสถเทพเจียอียิ่งมาก ที่ราคาเริ่มขึ้นช้าตั้งแต่เสนอราคากันไม่กี่ครั้ง ทว่าราคาประมูลของเคล็ดวิชาระดับเทพขั้นสูง มันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งเกินหินเทพ 10,000 ตําลึงไปแล้วก็ยังไม่หยุด
จนเมื่อถึงราคาหินเทพ 14,000 ตําลึงก็เริ่มชะลอตัว
สุดท้ายมันก็ถูกประมูลไปในราคาหินเทพ 15,000 ต่าลึง
และผู้ที่ประมูลได้ไปก็คือผู้ที่นั่งอยู่ในโถงรวม ไม่ได้อยู่ในห้องส่วนตัว
อันที่จริงผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็คงไม่แยแสเคล็ดวิชาระดับนี้
“ก็อกๆ
ทันทีที่รายการประมูลชั้นที่ 2 ถูกขายออกไป ก็มีคนมาเคาะประตูห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ที่ต้วนหลิงเทียนอยู่ ขณะเดียวกันกับที่เสียงเคาะดังขึ้น ก็มีเสียงคนกล่าวว่า”แขกผู้มีเกียรติข้าคือคนของตระกูลโจว นําของที่ท่านประมูลได้มามอบให้ท่าน…”
โรงประมูลของตระกูลโจว ห้องส่วนตัวไม่เพียงสะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัวเท่านั้น แต่จะได้รับสิ่งของที่ประมูลได้ทันที ต่างจากผู้ที่นั่งประมูลในโถงรวม ซึ่งจะได้รับสิ่งของประมูลหลังจบการประมูลทั้งหมด
“เข้ามา
พอต้วนหลิงเทียนกล่าวอนุญาต ประตูห้อส่วนตัวก็ถูกเปิดออก จากนั้นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างปานกลางผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมพานหรูหรา บนพานปูพื้นด้วยผ้าสีแดง และมีขวดโอสถตั้งอยู่บนนั้น
เป็นขวดโอสถเทพเจียอียิ่งในมือโจวอนก่อนหน้า
“เชิญแขกผู้มีเกียรติตรวจสอบสินค้าก่อน หากไม่มีปัญหาอันใดท่านสามารถชําระหินเทพกับข้าได้เลย”
ชายวัยกลางคนกล่าวพลางยิ้ม
“อืม”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า จากนั้นก็เหลือบมองชายชราคนหนึ่งที่เดินเข้ามาพร้อมๆกับชายวัยกลางคน ตั้งแต่ที่เข้าประตูมาชายชราเพียงติดตามชายวัยกลางคนอย่างเงียบงัน อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ทันทีว่า พอมันเข้ามา สิ่งแรกที่มันทําก็คือการแผ่สํานึกเทวะออกมาตรวจสอบเขา ต้วนเฉียนอวี่ แล้วก็อวี่ชิวซวน ทําให้สตร์ทั้ง 2 หันมามองหน้ากันทันที
จากนั้นมันก็เดินมายืนข้างชายวัยกลางคนโดยไม่พูดอะไรสักค่า
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจมันมากนัก เพียงหยิบขวดโอสถขึ้นมาถือไว้ก่อนจะเปิดขวดเพื่อตรวจสอบเม็ดยาต้านในทันที พอพบว่าเป็นโอสถเทพเจียอีปิงไม่ผิดแน่ เขาก็นําหินเทพ 10,000 ตําลึงออกมามอบให้ชายวัย กลางคน”ของไม่มีปัญหา นี่คือหินเทพ 10,000 ตําลึง” “ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ
หลังชายวัยกลางคนได้รับแหวนพื้นที่อันมีหินเทพ 10,000 ตําลึงใส่ไว้ มันก็ถอยกลับไปด้วยท่าทีสุภาพ
จากนั้นชายชราก็เดินออกไปนอกห้องทันที
ชายวัยกลางคนที่ติดตามออกไป ก็ปิดประตูอย่างเบามือ
หลังจาต้วนหลิงเทียนเก็บขวดโอสถลงแหวนและหันไปชมดูการประมูลด้านล่าง ชายวัยกลางคนก็พาชาย ชราเดินไปหยุดลงที่มุมหนึ่ง
ตอนนี้เองชายชราที่ไม่พูดไม่จาและติดตามชายวัยกลางคนมาแต่ต้นจนจบ ก็ได้โยนแหวนพื้นที่วงหนึ่งให้ชายวัยกลางคน”นายท่าน 4 ไม่ชอบพวกพลิกลิ้น เจ้าเองก็คงจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนกระมัง…ทุกเรื่องที่เกิด ขึ้นเมื่อครู่ เจ้าคิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น หาไม่แล้วข้ามิอาจรับรองได้ว่าครอบครัวของเจ้าจะอยู่ดี…”
ชายวัยกลางคนนั้นไม่ใช่คนของตระกูลโจวแต่อย่างไร มันเป็นแค่คนของตระกูลที่อยู่ใต้อาณัติตระกูลโจวเท่านั้น เนื่องจากมันรู้จักชนชั้นอาวุโสบางคนของตระกูลโจว จึงได้รับโอกาสให้เข้ามาทํางานที่โรงประมูล
เมื่อครู่ตอนมันกําลังเดินนําของไปให้แขกในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 มันก็ถูกคนหยุดไว้ อีกฝ่ายกล่าวว่า เป็นคนของนายท่าน 4 ตระกูลจัง และบอกว่าจะติดตามมันไปยังห้องส่วนตัวหมายเลข 9 เพื่อดูว่าใครอยู่ในนั้น หากมันไม่พาอีกฝ่ายไปแต่โดยดี อีกฝ่ายจะเล่นงานครอบครัวมัน
เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว มันก็ทําได้แค่ยอมจ่านน
“ขอท่านผู้เฒ่าอย่าได้กังวล เรื่องวันนี้จักเน่าในท้องข้า”
ชายวัยกลางคนที่รับแหวนบรรจุหินเทพมา กล่าวด้วยน้ําเสียงนอบน้อม
พอเห็นว่าชาวัยกลางคนรับหินเทพไปอย่างเชื่อฟัง ชายชราก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ย้อนกลับไปยังห้องส่วนตัวหมายเลข 6
“ตกลงมันเป็นผู้ใด?”
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 6 นาย 4 ตระกูลจังพอเห็นชายชรากลับมาก็เร่งถามออกไปเร็วไว
“เป็นหน้าใหม่ 3 คนที่ข้าน้อยมิเคยเห็นมาก่อน
ชายชรากล่าว
ได้ยินคําพูดของชายชรา สองตานา 4 ตระกูลจังก็ฉายแสงเย็นเรื่องขึ้นวาบหนึ่ง”ดูเหมือนพวกมันจะเป็นคนนอก…หากมาจากเมืองวายุสวรรค์หรือพื้นที่รอบๆ นอกจากคนของขุมกําลังระดับราชาเทพ และสถานศึกษาหมอกเร้นลับแล้ว คนอื่นยังไม่กล้าพอจะหักหน้าข้า! “เจ้าจดจ่าหน้าตาของพวกมันได้ชัดเจนหรือไม่?
นาย 4 ตระกูลจังเอ่ยถามชายชราอีกรอบ
“ข้าน้อยจําได้”
ชายชราพยักหน้า”เป็นชายหนุ่มในชุดสีม่วง ลักษณะ ฯลฯ…แล้วก็สตรี 2 คน ลักษณะ ฯลฯ… “ “อย่างไรก็ตา มนายท่าน 4 ข้าแลแล้วทั้ง 3 มิน่าจักใช่คนธรรมดา…เป็นการดีเสียกว่าที่ท่านจะไม่ผลีผลามลงมือจนกว่าพวกเราจักทราบตัวตนที่แน่ชัดของพวกมัน เพื่อป้องกันมิให้เผลอไปล่วงเกินผู้ที่มิอาจล่วงเกิน”
กล่าวถึงจุดนี้ ชายชราก็เผยท่าที่โน้วน้าวออกมา
“ข้ารู้ว่าต้องทําอย่างไร”
นายท่าน 4 ตระกูลจังเช่นมัน หรือต้องให้ชายชราคนนี้มาสอน?
มันเป็นถึงนาย 4 แห่งตระกูลจัง สามารถอยู่มาจนถึงวันนี้ได้ กระทั่งดูแลกิจการเหลาอาหารที่ดีที่สุดของตระกูลจังมาได้อย่างยาวนาน มันจะเป็นตัวไร้สมองได้หรือ?
งานประมูลดําเนินไปอย่างคึกคัก สิ่งของถูกนําออกมาประมูลรายการแล้วรายการเล่า
ในกระบวนการดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่เคยเสนอราคาประมูลอีกเลย เพราะสิ่งของที่นําออกประมูลหลังจากนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเขา และไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเขา