[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 14 บทที่ 1 ความโลภของสีทอง - ห้องสมุดใหญ่
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 14 บทที่ 1 ความโลภของสีทอง - ห้องสมุดใหญ่
“…หาาา!?”
ฮารุ จอมเวทผมสีดำ ผู้ใช้เวทมนตร์สายความมืด ที่ครั้งนึงเคยถูกเรียกกันว่าจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก กับท่านโนอะ เป็นคนคนเดียวกันงั้นเหรอ?
เป็นเรื่องเล่าที่ตามปกติก็คงหัวเราะ ต่อด้วยตอบว่าเป็นไปไม่ได้หรอกอยู่แล้วล่ะ
แต่ว่า ถ้าเป็นเรื่องจริง อะไรๆ ก็เข้าเค้าขึ้นเยอะเลยนะ
เรื่องที่ท่านช่วยฉันที่มีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์สายความมืดมาด้วย
เหตุผลที่ท่านรู้เรื่องการมีอยู่ของเวทมนตร์หายากที่ไม่มีใครคนอื่นเลยที่รู้ถึงเรื่องนี้
แล้วก็ ก่อนอื่นเลย ก็เรื่องที่ว่ากุญแจเข้าสู่ที่นี่คือเวทมนตร์สายความมืดน่ะ
“จ- จริงเหรอคะ?”
“จริงสิ คนที่สืบทอดความทรงจำและประสบการณ์ทั้งหมดของฮารุมา ถึงแม้ว่าร่างกายจะเป็นเด็กอายุ 5 ปี แต่ภายในก็เก่าแก่กว่านั้นมากทีเดียว นั่นแหละคือฉันล่ะ”
“เอ๊ะ ไม่สิ แต่ว่า คือ สีผมมัน-”
“นี่น่ะ ถึงชาติก่อนฉันจะมีผมสีดำก็เถอะ ถ้าเป็นชาตินี้ด้วยอีกทีก็น่าเบื่อแย่ ถึงยังไงฉันก็อยากลองใช้เวทมนตร์ของผู้หญิงคนนั้นที่เอาชนะฉันได้ดูน่ะ
แต่ ข้อผิดพลาดก็คือเรื่องที่ว่ากุญแจเข้าสู่ที่นี่คือเวทมนตร์สายความมืด ฉันก็เลยไขเข้ามาไม่ได้ซักที ตอนที่ฉันกำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคนมีผมสีดำอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอก็โผล่ขึ้นมาพอดีเลย ไม่สิ เธอทำได้ดีมากเลยนะ”
“ไม่ใช่แล้วค่ะ ก่อนจะเรื่องทำดีหรือเปล่า ที่ท่านพยายามจะยึดครองโลกทั้งชาติก่อนทั้งตอนนี้เลยแบบนี้ ท่านไม่ใช่คนดีสินะคะเนี่ย ดูห่างไกลจากความเป็นผู้กล้าสุดๆ เลย ดูยังไงก็ฝั่งจอมมารชัดๆ”
“ฉันไม่สนใจเรื่องยิบย่อยพวกนั้นหรอก ขนาดฉันเองยังตกใจเลยที่มีคฤหาสน์โอ่อ่ามาตั้งทับตรงที่ที่ฉันเคยใช้เป็นแหล่งกบดาน แถมตอนที่ฉันหาทางเข้ามาถึงที่นี่ได้ ก็เพิ่งมานึกได้ว่าตัวเองมีเวทมนตร์สายแสงสว่างอยู่นี่นา”
คนคนนี้นี่ ดูจะตกหล่นได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยแฮะ
มีอีกหลายเรื่องเลยนะที่ฉันอยากจะถาม แต่ก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน
เพราะเวทมนตร์สายความมืดของฮารุที่เคลื่อนลงมาเหมือนลิฟต์น่ะ ลงมาหยุดแล้วน่ะสิ
“มาถึงแล้วล่ะ ไม่ได้ใช้ซะนาน รู้สึกว่ามันช้าๆ เหมือนกันนะ”
หลังจากผ่านไปซักพัก ความมืดที่โอบล้อมรอบตัวของพวกเราก็หายไป
ตรงหน้าฉัน ก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากบันไดง่ายๆ
“ไปก่อนนะ”
“อ๊ะ ค่ะ”
พอพวกเราเดินขึ้นบันไดไป พวกต้นไม้ที่เรียงเป็นแถวอยู่ข้างทางเดินก็มีไฟลุกขึ้นมา แล้วก็ส่องแสงจ้าออกไปทั่วเลย
“มีอะไรอยู่ข้างหน้างั้นเหรอคะ?”
“น่า ไปถึงแล้วเธอก็จะรู้เอง”
ตอนที่ฉันเซ็งๆ กับคำตอบของท่านโนอะ ฉันก็เห็นปลายทางของบันไดประมาณ 100 ขั้นนี่พอดี
แล้วหลังจากเดินผ่านบันไดที่ทอดยาวนั่น ตรงนั้นก็มี
“ว้าว…!”
“ถึงสำหรับฉันเองจะไม่ได้รู้สึกว่านานอะไร แต่ก็เป็นครั้งแรกในรอบพันปีเลยสินะ โล่งอกไปทีที่ดูจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย”
ภาพตรงหน้าที่แผ่กว้างออกไปนี่
คือห้องสมุด
ใหญ่กว่าห้องสมุดที่ฉันเคยรู้จักตั้ง 2-3 เท่า หนังสืออัดแน่นเต็มไปหมดเลย
หนังสือสะสมอยู่มากขนาดที่รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นแหล่งรวมหนังสือทั้งหมดทั่วโลกมาอยู่ที่นี่ยังไงยังงั้นแหละ
“ท่านโนอะคะ! ที่นี่…!?”
“ห้องลับที่แม่มดฮารุและพวกพ้องเคยสร้างเอาไว้ยังไงล่ะ พันปีต่อมา นี่ก็เป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว มีตำราเวทที่มีอยู่บนโลกมากกว่า 90% แล้วก็ดูเหมือนจะคงสภาพเดิมไว้ได้ด้วย [เวทมนตร์สายผนึก] หนึ่งในเวทมนตร์หายากของพรรคพวกคนก่อนของฉันด้วยนะ ขนาดผู้ร่ายตายไปแล้วก็ยังทำงานอยู่เลย”
“ท- ทั้งหมดนี่เป็นตำราเวทหมดเลยเหรอคะ!?”
“ถูกต้อง มีหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับเวทมนตร์สายความมืดอยู่นับไม่ถ้วนเลยล่ะ”
ไม่ใช่แค่นั้นนะ
ถ้าเกิดไม่ใส่พลังเวทของเวทมนตร์สายความมืดเข้าไปในที่ที่กำหนดล่ะก็ จะไม่มีทางเข้ามาที่ห้องสมุดนี้ได้เลย
เพราะว่าในโลกนี้ มันไม่มีของอย่าง ‘ฉันรู้สึกได้ถึงพลังเวท’ แบบที่เห็นกันบ่อยๆ ตามเรื่องแต่งเมื่อชาติก่อนด้วยสิ
พอคุณลักษณะของพลังเวทในแต่ละคนมันต่างกันไปเหมือนกับลายนิ้วมือ พลังเวทที่เราจะรู้สึกได้ก็จะมีแต่ของตัวเองเท่านั้นแหละ
เพราะแบบนั้น พื้นที่นี้ที่อยู่ลึกอยู่ใต้ดินสุดๆ ก็เลยไม่มีทางถูกหาเจอได้เลย
“มีแค่พวกเราเท่านั้นแหละที่อยู่ที่นี่ ทีนี้ พวกเราจะได้นั่งคุยกันซักที”
ท่านโนอะนั่งลงที่บนโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องสมุดด้วยท่าทางรู้สึกคิดถึง
“คุโระ ฉันจะให้โอกาสเธอถอนคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้นะ”
“เอ๊ะ? หมายถึงอะไรเหรอคะ?”
“ฉันหมายถึง ด้วยเรื่องที่พวกเราเพิ่งคุยกันเมื่อกี้นี้ ฉันอนุญาตให้เธอถอนคำถวายสัตย์ที่เธอบอกว่าจะภักดีต่อฉันได้ ถึงยังไง ฉันก็คือการเกิดใหม่ของผู้หญิงคนที่เป็นต้นเหตุที่ว่าทำไมเด็กๆ ที่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์หายากต้องถูกกดขี่ แค่เพราะพวกเขาถูกเรียกกันว่าพวกเส้นผมชั้นต่ำเท่านั้นเอง ถ้าฉันไม่แพ้ให้รูชเมื่อตอนนั้น เธอก็คงจะไม่ต้องโดนทำร้ายทารุณถึงขนาดนี้หรอก”
ท่านโนอะเล่าเรื่องต่อมา ระหว่างนั้น คิ้วของท่านก็ขมวดเข้ามาด้วยความรู้สึกผิดไปด้วย
“เพราะฉะนั้น ถ้าเธอบอกว่าจะไปจากฉันแล้วตอนนี้ ฉันก็จะห้ามเธอเลย ขอแค่เธอช่วยลืมสถานที่นี้ไปทีก็พอ”
ท่านโนอะพูดออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางเลี่ยงๆ ไม่อยากพูดแบบนั้นเท่าไหร่ ทางฉันก็
“ไม่ค่ะ ถ้าท่านไม่รังเกียจ โปรดให้ฉันรับใช้ท่านต่อไปแบบนี้ด้วยนะคะ ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร เรื่องที่ท่านช่วยชีวิตฉันเอาไว้ก็ยังเป็นความจริงอยู่ดี ความเมตตานั้น ฉันจะต้องตอบแทนให้ได้เลยค่ะ”
ตอบกลับไปแบบเปิดเผยตรงๆ นี่แหละ
“…จะไม่เสียใจทีหลังแน่นะ? รู้ใช่มั้ยว่าจากนี้ไป ฉันจะไม่อนุญาตให้เธอจากฉันไปโดยไม่มีคำสั่งของฉันอีกแล้วน่ะ?”
“ค่ะ แบบนั้นก็ไม่เป็นไร หากว่าท่านต้องการพลังนี้ของฉันแล้วล่ะก็ เชิญใช้งานได้ตามสะดวกเลยค่ะ”
จะเป็นท่านโนอะ หรือจะเป็นฮารุ ยังไงก็ไม่เกี่ยวซักหน่อย
ฉันจะปกป้องชีวิตของคนคนนี้ที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ให้ได้เลย
นั่นแหละ [ความหมายของชีวิต] ที่ควรค่ากับการอุทิศชีวิตของฉันให้ล่ะ
“ฮุฮุ เอาล่ะ แบบนี้ก็ดีเลย ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ มาพูดถึงความท้าทายของพวกเราในอนาคตกันเลยดีกว่า”
“ค่ะ!”
พอท่านโนอะลุกขึ้นยืน ท่านก็วาดนิ้วเขียนตัวอักษรอยู่ในอากาศ
จากนั้น เส้นแสงกับตัวอักษรก็ปรากฏขึ้นมา
เวทมนตร์สายแสงสว่างนี่สามารถเอามาใช้เขียนหนังสือในอากาศได้ด้วยสินะเนี่ย
“เรื่องที่จะต้องทำเพื่อยึดครองโลกน่ะมีอีกเยอะเลย แต่ถ้าสำหรับคุโระล่ะก็ แบ่งอย่างหยาบๆ ได้เป็น 3 อย่างนะ”
“3 อย่าง งั้นเหรอคะ”
“อย่างแรก ฉันต้องให้เธอได้รับการศึกษาขั้นต่ำและมารยาทในฐานะบริวารของฉันด้วย การยึดครองโลกน่ะเป็นสิ่งที่ทำกันหลังฉาก แต่หน้าฉาก ฉันก็คือบุตรีของตระกูลเทียไลท์ ขุนนางในย่านนี้อยู่ดี ในวัย 5 ปีแบบนี้ ฉันก็จะอยู่หลังหน้ากากของโนอามารี เทียไลท์ผู้ไร้เดียงสาล่ะนะ เพราะฉะนั้น ข้ารับใช้ของฉันอย่างคุโระก็ต้องเป็นคนลงมือออกเคลื่อนไหวอยู่มากไปโดยปริยาย”
“แบบนี้เอง”
“อย่างที่ 2 ก็คือ การค้นหาตัวผู้ใช้เวทมนตร์หายาก จากการที่เป็นลูกสาวขุนนาง ฉันก็จะถูกพาตัวออกไปเยี่ยมเยียนตามย่านชนบทหรือประเทศอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง ในช่วงระหว่างนั้นนะ คุโระ บางครั้งก็ให้อยู่กับฉัน ส่วนบางครั้งที่อยู่คนเดียว ก็ให้ค้นหาเบาะแสของคนที่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์หายาก ที่ถูกเรียกกันว่าเส้นผมชั้นต่ำมาด้วย ขอให้เธอช่วยฉันดึงพวกเขามาเป็นบริวารของฉันด้วย
ถึงแม้ว่าเวทมนตร์หายากไม่ควรจะเป็นที่รู้กันแพร่หลายนัก แต่เรื่องที่พวกเราแค่ 2 คนจะทำได้กันก็มีจำกัดอยู่ดี นั่นสินะ รวมเธอด้วยแล้ว ฉันอยากได้ซัก 5 คนนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เวทมนตร์สายความมืดกับเวทมนตร์สายแสงสว่างก็ทำอะไรได้น้อยจริงๆ นั่นแหละ
การที่อยากได้ความอเนกประสงค์มากกว่าเดิมนี่ ฉันเห็นด้วยเลย
“แล้วก็ อย่างที่ 3 ไว้ฉันค่อยให้พวกนักเวทย์หายากที่อยู่ในแผนนั่นทำทีหลัง แต่ฉันต้องให้คุโระเรียนรู้การใช้เวทมนตร์อยู่ที่นี่นะ”
“หมายความว่าให้ศึกษาจากการอ่านหนังสืออยู่ที่นี่สินะคะ”
“ถูกต้อง หนังสือที่มีการเขียนถึงเวทมนตร์หายากน่ะถูกเผาทำลายไปแทบจะหมดแล้ว นี่อาจจะเป็นแค่เล่มเดียวแล้วก็ได้ กลับกัน บันทึกทั้งหมดจากเมื่อพันปีก่อน เมื่อตอนที่เวทมนตร์ขึ้นถึงจุดสูงสุด ยังคงอยู่ที่นี่ยังไงล่ะ”
ท่านโนอะหยิบหนังสือเล่มนึงที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา ก่อนจะยื่นส่งมาให้ฉัน
“อย่างเช่น หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มเดียวที่มีการเขียนเกี่ยวกับ [เวทมนตร์สายกาลเวลา] ที่ว่ากันว่าหายากที่สุดในบรรดาเวทมนตร์หายากทั้งหมด เล่มนี้คือความคิดของฉันที่มีต่อเวทมนตร์สายแสงสว่าง แล้วก็… อ๋า นี่ไง เล่มนี้เกี่ยวกับวิธีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและกลยุทธ์ของเวทมนตร์สายความมืดนะ”
หนายังกับพจนานุกรมเลยแฮะ แถมใหญ่ยังกับหนังสือภาพเลย
“นอกจากเล่มนั้น ฉันก็มีหนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์สายความมืดทุกเล่มจากทั่วโลกเก็บเอาไว้ด้วยนะ ถึงยังไง ก็เป็นเวทมนตร์ที่ฉัน (แม่มดทมิฬ) ใช้นี่นะ”
“ต้องจำให้ได้หมดเลย…”
“ถ้าแค่จำเฉยๆ มันจะเป็นปัญหานะ เธอต้องเรียนรู้มันต่างหาก นั่นสินะ ถ้ามีพรสวรรค์ของเธอด้วยล่ะก็ ภายใน 5 ปี เธอก็น่าจะใช้เวทมนตร์สายความมืดได้อย่างสมบูรณ์แล้วนะ คงต้องพยายามแบบรากเลือดเลย มีปัญหาอะไรมั้ย?”
ท่านโนอะพูดแบบนั้น พร้อมๆ กับที่เอาเอกสารอื่นๆ เกี่ยวกับเวทมนตร์สายความมืดมากองไว้ตรงหน้าฉันอีกเพียบเลย โจทย์ยากซะแล้วสิ
“ไม่ค่ะ ไม่มีปัญหา กลับกัน ฉันดีใจมากกว่าค่ะที่มีวิธีการควบคุมเวทมนตร์ที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องใช้งานมันยังไงเยอะแยะขนาดนี่เลย ภายใน 5 ปีสินะคะ? เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะลองทำอะไรซักอย่างดู”
“คิดไว้แล้วล่ะว่าเธอจะต้องพูดแบบนั้น”
ฉันไปหยิบกระดาษกับดินสอมา แล้วก็เริ่มศึกษาเลย
ทั้งหมด ก็เพื่อประโยชน์ของท่านโนอะ
เพื่อจะเป็นจอมเวทที่แกร่งที่สุด เพื่อกำจัดสิ่งขวางทางทุกอย่างที่ขวางกั้นหนทางสู่ความยิ่งใหญ่ของท่านโนอะให้พ้นทาง
TN: แอบสปอยไว้แล้วนะครับว่า โนอะอยากได้บริวารข้างกายไว้ซัก 5 คน ตอนนี้เรามีคุโระแล้วหนึ่ง ใช้เวทมนตร์สายความมืด อีกคน หลายๆ คนคงเดาได้แล้วนะครับว่าต้องเป็น “สแต” แน่นอน โผล่มาตั้ง 2 ตอนแล้วนี่ ส่วนน้องใช้เวทมนตร์สายอะไร ไปอ่านแล้วเดากันเองก่อนเนอะ
ส่วนอีก 3 คนนี่ ยังไม่มีบอกนะว่าเป็นใคร ผมสีอะไร หรือใช้เวทมนตร์อะไร รอติดตามกันดูนะครับ พอโนอะได้ลูกเรือครบ 5 คน จะได้ออกเรือมุ่งสู่แกรนด์ไลน์กันเลย 555