[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 17 บทที่ 1 ความโลภของสีทอง - ไปซื้อของกันเอง
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 17 บทที่ 1 ความโลภของสีทอง - ไปซื้อของกันเอง
“เข้าใจแล้วนะคะ ท่านโนอะ อย่าออกห่างจากตัวฉันนะคะ”
“เข้าใจแล้วน่า”
“ท่านโนอะน่ะโดดเด่นกว่าที่ท่านเองคิดนะคะ เพราะงั้น ห้ามออกห่างจากตัวฉันเด็ดขาดเลย”
“เข้าใจแล้วน่า”
“เข้าใจจริงๆ หรือเปล่าคะเนี่ย? ถ้าเกิดท่านเดินหลงไป คนที่ต้องออกตามหาก็คือฉันนะคะ”
“คุโระ เธอคิดว่าฉันเป็นใครกันน่ะ?”
“ที่ฉันพูดถึงขนาดนี้ก็เพราะเป็นท่านโนอะไงคะ!”
“…ด้าย”
ฉันตามท่านโนอะที่หนีออกมาจากคฤหาสน์ ก่อนจะเดินลงมาตามทางลาดตรงไปที่เมือง ระหว่างนั้น ฉันก็คอยเตือนเน้นย้ำกับท่านโนอะไปด้วย
“จะว่าไปแล้วนี่ ท่านมีเงินด้วยหรือเปล่าคะ?”
“มีสิ นี่ไง ดูสิ มีเยอะเลยนะ”
“เดี๋ยวสิ! อย่าเปิดแบบนั้นสิคะ! จะหล่นแล้วๆ!”
ในชาติก่อน ท่านโนอะเป็นราชา ชาตินี้ท่านก็เป็นลูกสาวขุนนาง มุมมองที่ท่านมองเรื่องเงินเรื่องทองจะต้องต่างจากคนทั่วไปพอสมควรแน่นอนเลย
ฉันต้องทำอะไรซักอย่างแล้วสิ
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
“อ๊ะ! รอเดี๋ยวสิคะ!”
เอาเถอะ ถ้าฉันคอยจับตาดูเอาไว้ มันก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีนั่นแหละ
ฉันตอนนั้นเนี่ย คิดอะไรได้โลกสวยชะมัดเลยนะ
“ท่านโนอะ! ท่านโนอะคะ! อยู่ที่ไหนน่ะคะ!?”
ฉันออกวิ่งวุ่นไปทั่วเมือง ตามหาท่านโนอะสุดชีวิตเลย
“ท่านโนอะ! ตอนนี้ฉันไม่โกรธหรอก! ออกมาเถอะนะคะ!”
ฉันอ่อนหัดเกินไป เมื่อไม่นานนี้ คนคนนั้นเพิ่งจะทำอะไรโง่ๆ อย่างการโดดลงไปในน้ำพุมาเองนะ ก่อนจะทำอะไรก็น่าจะคิดบ้างสิ
นี่ฉันกำลังพูดถึงท่านโนอะที่ทั้งเห็นแก่ตัวทั้งชอบทำอะไรตามอำเภอใจนะ อยู่ๆ จะไม่มีความคิดอยากออกไปเที่ยวซื้อของเองคนเดียวแวบขึ้นมาหรือไง
“ท่านโนอามารี! ถ้าท่านยังไม่ออกมาอีก ฉันจะโกรธแล้วนะคะ! โกรธจริงๆ ด้วยนะ!”
ท่านโนอะมีเวทมนตร์ที่เร็วที่สุดในบรรดาทุกเวทมนตร์ที่มีอยู่แล้ว เป็นผู้ใช้เวทมนตร์สายแสงสว่างเลยนะ
การปล่อยให้เด็กที่ดูไม่น่าสงสัยอะไรเดินหลงไปเนี่ยมันอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ นะ
แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ ฉันก็อยากจะให้ท่านคิดถึงข้ารับใช้ของท่านที่มีตัวตนอยู่เพื่อจะ ‘หายไป’ เพื่อท่านด้วยซักหน่อยนะ
“ม- ไม่อยู่ที่ไหนเลย…”
รู้สึกเหมือนนี่มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย
ถ้าเกิดว่าท่านไม่ได้เดินหลงไปไหน แต่ดันไปเจอพวกลักพาตัวแทนล่ะ
หรือ ท่านไปเจออุบัติเหตุอะไรเข้าล่ะ
อดคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ ไม่ได้เลย จนความคิดของฉันมันก็กลายเป็นความตื่นตระหนกไปหมดแล้วด้วย
จนถึงตอนเย็น ฉันก็หาท่านโนอะไม่เจอเลย ฉันยืนหอบหายใจ รู้สึกอ้างว้างไปหมดเลย
“ท่านโนอะ ไปอยู่ที่ไหนกันแน่…”
“เฮ้ย”
พอฉันหันไป ก็เจอผู้ชาย 3 คน ไม่ใช่ท่านโนอะ
รู้สึกเหมือนเคยเจอคนพวกนี้มาก่อนเลยแฮะ แต่นึกไม่ออกเลย
“หาตัวเจอซักที ไอ้เส้นผมปีศาจ”
“ฮะ? ใครเนี่ย? ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่ ช่างฉันไปก่อนซักทีจะได้มั้ย?”
“หา! ไอ้ผมดำอย่างแกเนี่ยนะยุ่ง? วิ่งหนีอยู่รึไง?”
วุ่นวายชะมัด
…อ่า นึกออกแล้ว
พวกเหยียดสีผมแบบสุดขั้วที่เคยวิ่งไล่ฉันไปทั่วก่อนหน้านี้นี่นา
ผู้ชายคนทางขวานั้น อาจจะเป็นคนที่ฉันดึงอายุขัยออกมาด้วยออร่าของความตายเมื่อตอนที่ฉันกำลังทรมานอยู่ล่ะมั้ง
“กลับกันเลย ฉันหาคนอยู่ต่างหาก เข้าใจแล้วก็ช่วยหลบไปที”
“ไอ้ท่าทางแบบนั้นมันอะไรน่ะฮะ!?”
“เฮ่อ…”
ต้องหาตัวท่านโนอะให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วสิ
ครั้งแรกที่เจอกัน ฉันรู้สึกกลัวนะ ครั้งที่ 2 ฉันรู้สึกเกลียดชัง แต่ก็แปลกดี ครั้งนี้ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย
ฉันไม่ได้สนอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าพวกนี้ ฉันไม่ได้ใส่ใจซักนิด แต่ มายืนขวางทางไม่ให้ฉันไปตามหาตัวท่านโนอะแบบนี้น่ะ น่ารำคาญชะมัด
“แล้วจะเอาอะไรล่ะ? อยากให้ฉันทำอะไร?”
“มันแน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไง! แค่มีแก! กับไอ้ผมดำๆ ของแก! เมืองนี้ก็ต้องเจอโชคร้ายแล้ว!”
“แถมถ้าปล่อยให้แกออกไปที่เมืองอื่น เดี๋ยวแกก็เอาโชคร้ายมาอีกอยู่ดี”
“ก่อนมันจะเกิดเรื่องพรรค์นั้น เราจะถอนรากถอนโคนมันให้เหี้ยนซะที่นี่ตรงนี้ซะ!”
พวกนั้นชูมือขึ้น ตั้งท่าเตรียมพร้อมจะใช้เวทมนตร์แล้ว
อัคคีสอง วายุหนึ่ง จากบรรดาจตุรธาตุ 2 คนนั่นมีพลังในการโจมตีค่อนข้างสูงเลย
แต่พวกนี้ก็ไม่ได้ต่อสู้เป็นอาชีพ คงจะรู้แค่เวทมนตร์ขั้นต่ำเท่านั้นแหละ
“{เฟ- (พ-”
“{ดาร์กไบนด์ (พันธนาการมืด)}”
ถ้างั้น ก็สวยสิ
ขอใช้พวกแกเป็นเป้าลองเวทความมืดที่ฉันศึกษามาดูหน่อยแล้วกัน
“อะ-… อะ-!?”
“น- นี่มันอะไรฟะเนี่ย!!”
{ดาร์กไบนด์} เวทมนตร์ขั้นพื้นฐานของเวทมนตร์สายความมืด อย่างที่ชื่อว่านั่นแหละ เป็นการปลดปล่อยความมืดออกมาเพื่อผูกมัดและหยุดยั้งเป้าหมายเอาไว้
แถม ยังไม่ใช่แค่นั้น
“{วินด์คัตเตอร์ (สายลมเฉือน)}! อ-… เอ๊ะ?”
“เฮ้ย! มัวทำอะไรอยู่! รีบแก้ไอ้นี่เร็วๆ เซ่!”
“ช- ใช้เวทมนตร์ไม่ได้เลย!”
“หา!?”
ความมืดนี้น่ะ มีความสามารถในการลบล้างพลังเวทของอีกฝ่ายด้วย
ตัวฉันในตอนนี้ที่ยังขาดประสบการณ์น่ะ ไม่มีทางจะลบล้างเวทมนตร์ของใครก็ตามที่มีพลังเวทในตัวสูงๆ ได้อย่างสมบูรณ์ได้หรอก ยิ่งกว่านั้น ถ้าเป็นอย่างท่านโนอะล่ะก็ เวทแสงสว่างของท่านหักล้างการผูกมัดนี้ได้ก่อนที่มันจะเกิดผลซะอีก
แต่ กับเจ้าพวกนี้น่ะเหรอ ถ้าเป็นแค่พวกมดปลวกที่ดึงพลังเวทออกมาใช้ได้แค่หลักหน่วยแบบนี้เนี่ย ไม่กี่วิก็โดนลบจนเกลี้ยงแล้ว
พอฉันสัมผัสได้ว่าพลังเวทในตัวเจ้าพวกนี้หายไปแล้ว ฉันก็คลายพันธนาการออก
“แฮ่ก… แฮ่ก…”
“น- นี่มันอะไรกันเนี่ย…!?”
ได้ยืนยันพลังของเวทความมืดแบบไม่ได้ตั้งใจเลยแฮะ
ทีนี้ ต้องตามหาตัวท่านโนอะแล้ว
“ด- เดี๋ยว!”
“อะไรอีก?”
“กิน- แกทำอะไร!? แกมีผมสีดำนี่! แกใช้เวทมนตร์ได้ที่ไหนกัน! แล้วท-”
น่ารำคาญชะมัด
ลบพลังชีวิตเจ้าพวกนี้ไปซะหน่อยให้มันตายเร็วๆ ดีมั้ยเนี่ย?
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉันน่าจะปรับให้มันอยู่ในจุดที่อีกไม่กี่วันก็ตายได้อยู่นะ
“…พวกนายไม่จำเป็นต้องรู้“
ไม่ได้ ต้องหยุดไว้ก่อน
ต่อให้จะเป็นคนพวกนี้ แต่ต่อไปก็อาจจะมีประโยชน์กับท่านโนอะในวันข้างหน้าก็ได้
“ย- อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ น่า! ข้าไม่รู้หรอกนะว่าแกทำอะไร! แต่ไอ้ผมดำอย่างแกน่ะ!”
“ต- แต่ ต่อให้จะลองทำอะไรซักอย่าง เวทมนตร์มัน”
“แค่เด็กตัวกระเปี๊ยกคนเดียว ต่อให้ไม่ต้องใช้เวทมนตร์ เราก็จัดการได้อยู่แล้วล่ะเฮ่ย!”
อยากจะพูดจริงๆ เลยว่าใครกันแน่คือคนที่ทำอะไรไม่ได้เลยต่อให้จะมีเวทมนตร์ก็ตามน่ะ
“จัดมันเลย!”
“อ๋า ให้ตาย ฉันต้องตามหาท่านโนอะให้เจอนะ ไหนจะต้องมาจัดการเรื่องนี้อีก น่ารำคาญชะมัดเลย…!”
ถ้ายังจะเข้ามาอีก ก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว
ฉันเริ่มคุมพลังเวทของตัวเอง เตรียมจะลดอายุขัยของตัวเองลงซักหน่อย
แต่กลายเป็นว่า เวทมนตร์นั่นไม่ได้ถูกร่ายออกมาเลยด้วยซ้ำ
“{โฟตอนไบนด์ (พันธนาการแสง)}”
เพราะจากข้างหลังเจ้าพวกนั้น มีเวทมนตร์อีกบทที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิงถูกร่ายออกมาแล้ว
“อ- เหวอ!?”
“น- นี่มัน หรือว่า เวทแสงสว่าง!?”
คนที่เดินมาจากทางที่เวทมนตร์นั่นถูกร่ายออกมา มันแน่อยู่แล้วล่ะที่จะต้อง
“พวกคุณ ทำอะไรกับคุโระของฉันกันน่ะ?”
เป็นท่านโนอะ ที่เดินมาพร้อมถุงใส่ของหลายใบอยู่เต็มมือทั้ง 2 ข้างเลย
“ท- ท่านโนอามารี…!?”
“ท่านจะปกป้องไอ้ผมสีดำนี่ทำไม! ท่านมีผมสีทองนะครับ!”
“ฉันไม่สน เด็กคนนี้คือข้ารับใช้ของฉัน ใครอนุญาตให้พวกคุณริอาจมาแตะต้องของของฉันกัน?”
ชายพวกนั้นมองมาที่ฉัน สลับกับท่านโนอะด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
ด้วยสามัญสำนึกแล้ว คงคิดไม่ถึงสินะว่าผมบลอนด์ทองจะเลือกผมดำมาเป็นคนรับใช้แบบนี้น่ะ
“ต่อให้จะไม่รู้ แต่พวกคุณก็ได้ลงมือกับผู้ติดตามของบุตรีขุนนางไปแล้ว เข้าใจแล้วสินะว่าความผิดที่พวกคุณก่อขึ้นนั้นร้ายแรงขนาดไหน?”
“อ- อะไรกัน บ้าน่า…!”
“เราแค่-”
“ถ้าจะแก้ตัวอะไร ก็ไปพูดต่อในคุกซะเถอะ”
ท่านโนอะมองดูชายพวกนั้นด้วยสายตาที่เหมือนกำลังมองอะไรซักอย่างที่ไม่ได้มีคุณค่าอะไรให้สนใจอยู่ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าและเดินเข้ามาหาฉัน
“มาอยู่ในที่แบบนี้เองเหรอ คุโระ ที่จริง จู่ๆ ฉันเกิดสนใจเรื่องออกตะลอนซื้อของคนเดียวขึ้นมา ก็เลยตัดสินใจจะลองดูซักหน่อย โทษทีนะ?”
หนอย
“อ- อะไรกัน… รู้มั้ยคะว่าท่านทำให้ฉันเป็นห่วงมากแค่ไหนน่ะ…?”
“เป็นห่วง? ฉัน? ผู้ใช้เวทแสงสว่างน่ะนะ? เล่นมุกตลกได้ไม่เลวเลยนี่นาคุโระ”
“ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้นซักหน่อย! ยัยบ้าตัวเอกนี่! นี่อะไรเนี่ย! ทำคนเขาเป็นห่วงแทบตาย! แล้วยังจะมาพยายามเข้ามาทำตัวเหมือนเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยในสถานการณ์วิกฤตนี่อีก!”
“คิย้า!?”
“บอกแล้วใช่มั้ยคะ? ว่าอย่าออกห่างจากตัวฉันน่ะ! คำนึงถึงตำแหน่งของตัวท่านเองบ้างสิคะ! ทั้งที่พูดไปถึงขนาดนั้นแท้ๆ ต้องคิดอะไรอยู่กันแน่คะท่านถึงไม่ฟังอะไรเลยแบบนี้น่ะ!? นี่ท่านอยากจะโดนฉันดุแบบจริงจังซักครั้งนึงเลยหรือไงกันคะ!?”
“น- น่า เธอก็โมโหพอแล้วนะ”
“ห้ามแก้ตัวค่ะ!”
อะไรกันเนี่ยคนคนนี้
ทำไมถึงต้องปรากฏตัวแบบเท่ๆ แบบนี้ด้วยเนี่ย
หลังจากแทบจะทำคนอื่นเขาเป็นห่วงมากจนเกือบตายแล้ว ยังจะมาทำอะไรแบบนี้อีก!
“ฉันจะเอาคนพวกนี้ไปส่งให้ตำรวจ แล้วจะรีบกลับมาทันที! ตอนนี้ ฉันได้บทเรียนแล้วค่ะ ฉันไม่สามารถละสายตาจากท่านได้อย่างเด็ดขาดเลย! ฉันจะไม่ยอมให้ท่านออกไปไหนตามลำพังอีกแล้วค่ะ!”
“น- นั่นอะไรน่ะ? ขอหมั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ!”
จากนั้น ชายกลุ่มนั้นที่โจมตีฉันต่างก็ถูกจับกุมโดยละม่อม ก่อนจะต้องเผชิญกับบทลงโทษสถานหนักในนามของตระกูลเทียไลท์
ส่วนเรื่องท่านโนอะ ดูเหมือนพวกคนรับใช้กำลังจะว่าอยู่แล้วที่ท่านออกไปนอกคฤหาสน์โดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่แล้วนะ
แต่ว่า ด้วยท่าทางที่กำลังเดือดจัดของฉัน พวกเขาก็เลยโกรธกันไม่ลงเลย
TN: น่ารักจริงๆ 555 ยังกับผู้ปกครองแน่ะ