[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 3 บทที่ 0 การเกิดใหม่ของสีดำ - ยมทูตและเจ้าหญิงอำมหิต
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 3 บทที่ 0 การเกิดใหม่ของสีดำ - ยมทูตและเจ้าหญิงอำมหิต
โน้ตจากผู้แต่ง : เรื่องดำเนินต่อจาก Prologue นะ
(ว่าแต่ นี่ฉันมาคิดเรื่องอะไรน่าอายอยู่คนเดียวแบบนี้เฉยเลยแฮะ)
หาหนทางในการใช้ชีวิตของตัวเองน่ะ มันเป็นเป้าหมายของฉันเมื่อ 10 ปีก่อนนู่น
แต่ว่านะ ฉันบอกได้เลยว่าเพราะตอนนี้ฉันต้องอยู่กับปัจจุบัน ฉันกลับคิดเรื่องอะไรที่มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรเลยขึ้นมาแบบนี้ซะได้
ฉันไม่เชื่อในพระเจ้าหรอก แล้วโลกนี้ก็ไม่ได้อยู่ข้างเดียวกับฉันด้วย เรื่องพวกนั้นน่ะฉันรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว
เพราะมันแน่อยู่แล้วล่ะ ฉันถูกบีบบังคับมาตั้งแต่ตอนที่เกิดมาพร้อมกับผมสีดำแล้ว ฉันก็ไม่ควรจะไปคาดหวังลมๆ แล้งๆ ถึงเรื่องในอนาคตเลย
อีกอย่าง ฉันก็เชื่อใจคนรอบตัวไม่ได้เลย เพราะมันเกิด[b]เรื่องนั้น[/b]ขึ้นมา
ก็นะ แบบนั้นแหละถึงได้เข้าตาท่านโนอะเข้า แล้วฉันก็อยู่ที่นี่แล้วตอนนี้
“คุโระ เหม่อน่ะ”
“เอ๊ะ? อา โทษทีนะ พอดีนึกถึงเรื่องสมัยก่อนขึ้นมาน่ะ”
ฉันกับสแตกำลังเดินฝ่าป่าไม้ตรงไปที่เป้าหมายของพวกเรากัน
เพราะสแตอุ้มตุ๊กตาเอาไว้อยู่ตลอด มือของนึงของเธอก็เลยจะใช้งานไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โตเลย เพราะเธอขยับตัวได้อย่างไหลลื่นเลยล่ะ
“เรื่อง สมัยก่อน? เรื่องอีกโลกเมื่อชาติก่อนเหรอ?”
“เปล่า ไม่ใช่ตรงนั้นหรอก ก็ มีด้วยนิดนึงนะ แต่หลักๆ ก็นึกถึงตอนที่ท่านโนอะเก็บฉันมานั่นแหละ”
“อ๋า”
สแตพยักหน้าให้อย่างเข้าอกเข้าใจ
“ฉันก็ จำได้เหมือนกัน ถ้าคุณหนูไม่เก็บมา คงตายไปแล้ว”
“ฉันก็เหมือนกัน ไม่สิ ผู้รับใช้คนสนิทของท่านโนอะทุกคนก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันหมดเลยนี่นา”
สแตที่แสดงอารมณ์สีหน้าไม่เก่งเท่าไหร่ยังหน้าแดงนิดๆ แล้วก็ยิ้มหน่อยๆ ทุกครั้งเลยล่ะเวลาที่เธอพูดถึงท่านโนอะขึ้นมา
ก็นะ เพราะอะไรไม่รู้ ฉันเองก็ให้ค่ากับคนคนนั้นยิ่งกว่าชีวิตของฉันเองเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวหรอก เพื่อนๆ ของฉันทุกคนที่ถูกท่านโนอะช่วยชีวิตเอาไว้ซักทางนึงก็คิดแบบนี้
เพราะแบบนั้นแหละ ฉันถึงได้ยอมรับฟังคำสั่งอันไร้เหตุผลของคนคนนั้นแบบนี้ไงล่ะ
“โอ๊ะ เห็นแล้วล่ะ สแต ฉันจะเข้าไปเจรจาก่อน เพราะงั้น ถอยหลังไปนิดนึงนะ”
“อือ”
พวกเราเดินออกมาพ้นป่าแล้ว ก็มาดักหน้าก่อนที่กองทหารหลายร้อยคนจะเดินขบวนกันมาถึงนิดหน่อย
ในเวลาแบบนี้ คนที่อยู่ในแนวหน้าจะทั้งแข็งแกร่งทั้งสุดยอดเลยล่ะ มันเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว
“ต้องขออภัยในความไม่สะดวก แต่ช่วยหยุดเดินขบวนซักครู่ด้วยนะคะ”
“…พวกแกเป็นใคร”
คนที่อยู่ในแนวหน้าเป็นลุงคนนึงที่ให้บรรยากาศเหมือนทหารผ่านศึกที่มีผมสีน้ำเงินเถิกขึ้นไปจากหน้าผากของตัวเองแล้ว
บางที เขาอาจจะระแวงพวกเราที่ออกมากันตามลำพังก็ได้ ก่อนที่เขาจะหยุดเท้ากึก
“ขอบคุณสำหรับการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดนะคะ”
“นี่อยู่ในกำมือของอาณาจักรงั้นเรอะ? ส่งคนออกมาแค่ 2 คน แถมยังเป็นเด็กผู้หญิงด้วย คิดจะทำอะไรกันแน่เนี่ย บอกความต้องการมา”
“ถ้าอย่างนั้น เพราะนายเหนือหัวของฉันไม่ชอบการอ้อมค้อม ฉะนั้น จะขอพูดโดยสรุปเลยนะคะ ถอนกำลังกลับไปเสียตอนนี้เลย ถ้าทำแบบนั้นแต่โดยดี เราจะไม่เอาชีวิต”
ฉันพูดอย่างสุภาพมากแล้วนะ
แต่ว่า ชายผมน้ำเงินคนนั้นก็จ้องเขม็งมาหาฉันจนเส้นเลือดดำปูดขึ้นมาให้เห็นได้เลย
“ยัยหนู ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้หรอก แต่นี่พวกแกแค่ 2 คน คิดจะสู้กับทหาร 500 คนเรอะ?”
“ใช่แล้วค่ะ”
“แล้วคิดว่าจะชนะได้รึไง?”
“คำสั่งจากนายเหนือหัวของฉัน สั่งให้กำจัดพวกคุณให้หมด แต่ว่า ถ้าพวกคุณอยากจะถอนกำลังกลับไป ฉันคิดว่าแบบนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ชีวิตของท่านไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย ฉันมั่นใจว่าท่านจะต้องเข้าใจได้แน่นอน แล้วนี่ก็เป็นความเมตตาจากฉันด้วย”
“……ขอค้าน คุโระ แบบนั้นยุ่งยากแย่”
“สแต เงียบก่อนซักนาทีได้หรือเปล่า?”
“…คุโระ? สแต?”
คนที่อยู่ข้างๆ ชายผมน้ำเงินคนนั้น ที่เหมือนจะเป็นเลขาของเขาก็ดูจะนึกอะไรเกี่ยวกับชื่อของพวกเราขึ้นมาได้
แล้วทันใดนั้น เขาก็หน้าซีดเผือดเลย
“ผ- ผมสีดำ… ตาสีดำ… ผ้าคลุมสีดำ… เครื่องประดับผมสีทอง…
ถ- แถม ผมสีฟ้า ตาสีม่วง ผ้าคลุมสีฟ้า สร้อยโชคเกอร์สีทอง กับตุ๊กตาน่าขนลุกนั่น…!
ห- ห- หัวหน้า เจ้าพวกนั้น… ‘ยมทูต’ กับ ‘เจ้าหญิงอำมหิต’ ครับ! พวกนักเวทย์ที่ทำงานภายใต้โนอามารี เทียไลท์โดยตรง! เมื่อครึ่งปีก่อน ในศึกที่ราบเซรัทเซ พวกนั้นแค่ 5 คนก็กวาดล้างทหารของจักรวรรดิกว่าหมื่นคนจนหมดไม่เหลือได้! แถมนี่ยังก็มีอยู่ตั้ง 2 คนแล้วด้วย!”
ดูเหมือนว่าจะมีบางคนรู้ว่าพวกเราเป็นใครด้วยสินะ
แถมยิ่งแย่กว่านั้นอีก หมอนั่นดันพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดกับสแตเข้าให้แล้ว
“หัวหน้า! เจอกับพวกนั้นน่ะเลวร้ายสุดๆ แล้ว! ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง! รีบ-”
“{ไนท์แมร์เวิร์สท์ (ฝันร้ายแห่งสูญสิ้น)}”
“ถอย-…”
แล้วนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายของชายคนนั้น
ร่างของชายคนนั้นไหลตกจากหลังม้า ร่างสั่นชักเกร็งไปทั้งตัว ก่อนจะหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวอีก
สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ยังกับว่าได้เห็นความน่ากลัวที่มีอยู่ในโลกทั้งใบซัดเข้าใส่ในคราวเดียว
เสียชีวิตจากอาการช็อก ถูกทำให้เห็นฝันร้ายยังกับนรกบนดินที่ยาวนานยังกับจะเกิดต่อไปจนชั่วฟ้าดินสลายในชั่วพริบตา จนเลือกที่จะตายเพื่อหนีจากมันไปให้พ้นๆ เลยดีกว่า
เวทมนตร์ของสแตน่ะ เชี่ยวชาญในการควบคุมสติการรับรู้ของคนอื่นแบบนี้นี่แหละ
“…สแต เราตกลงกันไว้ว่ายังไง ต่อให้แนวโน้มที่อีกฝ่ายจะถอยกลับไปมันจะน้อยก็ตาม แต่ถ้าเธอเริ่มเปิดฉากไปแล้ว อีกฝ่ายก็จะถอยกลับไปไม่ได้แล้วนะ”
“ทางนั้นเริ่มก่อน บอกว่าโกราสึเกะน่าขนลุก”
“ไม่ใช่แบบนั้น หมอนั่นก็ผิดจริงนั่นแหละ แต่เธอก็ต้องใจเย็นด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ดูถูกเพื่อนฉัน คนนั้นผิด”
“อ่า โธ่เอ๊ย เด็กคนนี้นี่นะ…”
หมอนั่นน่ะซวยเอง ดันพูดคำที่สแตเกลียดที่สุด นอกจากคำปรามาสท่านโนอา ออกมาตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกแบบนี้น่ะ
แต่ว่านะ แบบนี้มันก็…
“หึ! ว่าแล้วเชียวว่ามันจะเป็นยังงี้! แต่ก็ยืนยันได้แล้วล่ะว่าเป็นยมทูตกับเจ้าหญิงอำมหิตแน่นอน เส้นผมชั้นต่ำนั่นมันก็บอกอยู่แล้ว ไม่รู้หรอกนะว่าแกใช้เวทมนตร์ได้ยังไง แต่ถ้าเราฆ่าพวกแกได้ กองทัพเราต้องได้งบเพิ่มแบบพุ่งทะยานแน่!
พวกแกทุกคน! ยึดกลยุทธ์เดิมไว้ไม่มีอะไรเปลี่ยน! ฆ่าเจ้าพวกนี้ซะ แล้วเอาหัวของโนอามารี เทียไลท์ไปถวายให้ฝ่าบาทให้ได้!”
“““โโโโโโโโอ้!!”””
นั่นแหละ มันก็จะออกมาอีหรอบนี้เนี่ยสิ
แต่ว่า บ้าบิ่นดีจริงๆ เลยนะ
“…สแต เมื่อกี้พวกนั้นว่ายังไงนะ?”
“จะฆ่าคุณหนู”
“เพราะงั้น พวกมันจะได้อะไร?”
“โทษประหาร”
“ใช่แล้ว ตอบได้ดีมาก”
คิดไม่ถึงเลยนะว่าพวกนั้นจะประกาศออกมาอย่างเปิดเผยขนาดนี้ว่าจะทำร้ายท่านโนอะต่อหน้าพวกเราแบบนี้เลยน่ะ
“เริ่มจากแกก่อนเลย! เจ้ายมทูตตต!”
ไอ้ลุงเวรนี่คงจะกระสันอยากลงโลงมากเลยสินะ
“{เดธ (มรณา)}”
เวทมนตร์ของฉันเข้าโอบล้อมรอบอีกฝ่าย
แล้วตาลุงนั่นที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าก็ร่วงหัวทิ่มจากหลังม้า ลงมานอนแผ่ที่พื้นเลย
“……เอ๊ะ?”
“ห- หัวหน้า? หัวหน้า!”
“ก- แกทำอะไรลงไปน่ะฮะ!?”
“ต้องยังหายใจอยู่สิ! กลับมาเร็วเข้า…”
“ตายไปแล้วล่ะ สัมผัสกับเวทมนตร์ของฉันแบบนั้นเลยนี่”
“บ้ามาก วิ่งเข้าใส่คุโระตรงๆ เลย”
“อืก…”
“ก- แกนะแก มาทำกับหัวหน้า-”
“{เดธ (มรณา)}”
เวทมนตร์ของฉันพรากเอาชีวิตของคนที่จับดาบอยู่ไปอีก 1 คน
“สแต คงจะช่วยไม่ได้แล้วล่ะ เป็นไปตามที่ท่านโนอะต้องการเลย เราจะกวาดล้างพวกมันให้เหี้ยน เริ่มจากควบคุมบางคนซะก่อนเลย”
“อือ {ฟอลซ์เมมโมรี่ (ปลอมแปลงความทรงจำ)}”
พอสแตร่ายเวทออกไป ก็มีเหตุชุลมุนเริ่มเกิดขึ้นตรงใจกลางของกองทหารทันทีเลย
“กุอ้าาา!?”
“พ- พวกแก ทำพวกเดียวกันทำไมน่ะฮะ!”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทหารบางส่วนในกลุ่มนั้นก็เริ่มหันไปฟันใส่พรรคพวกของตัวเองแทน
{ฟอลซ์เมมโมรี่} ของสแตน่ะ เป็นเวทมนตร์ที่จะฝังความทรงจำปลอมที่สแตสร้างขึ้นมาใส่เป้าหมายได้
ตอนนี้ พวกนั้นคิดว่าตัวเองเป็นสายลับของท่านโนอะที่แฝงตัวเข้ามาในกองทัพของศัตรูไปแล้ว
“บ้าเอ๊ย! นี่แกเป็นสายลับของศัตรูงั้นเรอะ!”
“ข้าจะลากพวกแกตามข้าไปให้ได้! เพื่อท่านโนอามารี!”
“อ- ไอ้เจ้านี่ เก่งชะมัด-… อ้าาา!”
ขนาดถูกล้อมเอาไว้ พวกนั้นก็สู้สุดชีวิตโดยไม่สนใจร่างกายของตัวเองเลย
นี่ล่ะความน่ากลัวของขอบเขตพลังของเวทมนตร์ที่สแตใช้
ไม่ใช่ควบคุมอย่างเดียว แต่ทั้งควบคุม ทั้งเสริมให้พวกนั้นแข็งแกร่งเข้าไปอีก
ด้วยการฝังความทรงจำของทหารผ่านศึกมากมายหลายคนที่สแตขโมยมาก่อนหน้านี้โดยที่ไม่ทำให้มันดูผิดธรรมชาติ แล้วก็บังคับเพิ่มทักษะของเป้าหมายเข้าไปอีก
“วุ่นวายโกลาหลกันแบบนี้ ก็แทบจะเป็นฝูงจลาจลซะแล้ว งั้นก็มารีบจบมันเลยดีกว่า {ชู้ตดาร์ก (กราดกระสุนทมิฬ)}”
ทรงกลมสีดำเล็กๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซน เกือบๆ ร้อยลูกปรากฏขึ้นมารายล้อมรอบตัวฉัน
พอยิงออกไปใส่พวกศัตรูที่เข้ามา คนที่โดนยิงใส่ก็เป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกตัดเชือก พวกนั้นก็ร่วงลงไปกับพื้น แล้วก็ไม่มีทางจะลุกกลับขึ้นมาได้อีกเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
เวทมนตร์ของฉันเป็นเวทที่ควบคุมความตาย
วิธีใช้งานก็ยังมีอีกหลายวิธีเลย แต่นี่เป็นวิธีการเก็บกวาดพวกปลาซิวปลาสร้อยที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว
{ชู้ตดาร์ก} คือเวทง่ายๆ อย่างการยิงลูกบอลเวทมนตร์จำนวนนับไม่ถ้วนออกไปเท่านั้นเอง ลูกบอลเวทมนตร์ที่มีคำสาปมรณะของฉันอยู่น่ะนะ
ถึงความเป็นไปได้ที่จะทำให้ตายทันทีจะต่ำกว่าเวทมนตร์ที่ธรรมดาที่สุดแล้วก็แข็งแกร่งที่สุดในสายอย่าง {เดธ} ก็เถอะ แต่กับพวกที่ความต้านทานต่ำแค่นี้ โดนเข้าไปก็ตายแน่นอนอยู่แล้วล่ะ
คนประมาณ 100 คนที่อยู่ในระยะเวทมนตร์ของฉันตายหมดแล้ว เหลืออีก 400 คน
ปัญหาของเวทมนตร์ของฉันคือขอบเขตความสามารถค่อนข้างจะแคบอยู่นิดหน่อย ถ้าเป็นในด้านนี้ ฉันจะแพ้สแตอยู่นะ
“สแต คุมพวกคนในแนวหลังด้วยแล้วใช่มั้ย?”
“อือ ฝังความทรงจำของลูเชียสเอาไว้ แต่ได้สุดแค่ 3 คน”
“ไม่เป็นไร แค่เป็นความทรงจำของลูเชียสนี่ก็พอแล้วล่ะ”
ถ้าฝังความทรงจำของเขาไปแล้ว ไม่ว่าเดิมจะมีความแข็งแกร่งอยู่เท่าไหร่ มันก็เหมือนกับการเปลี่ยนจากทหารเกณฑ์ดาดดื่นเป็นสุดยอดนักสู้ชั้นแนวหน้าได้เลยล่ะ
“ตอนนี้ที่แนวหลังคงจะตื่นตระหนกกันแล้วล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ ดูท่าทางจะจบเร็วนะเนี่ย”
“อือ กลับบ้านเร็ว ให้คุณหนูชมด้วย”
จากนั้น พวกเราก็อ้อมไปที่ด้านหลังของกองทหารนี่
ก็ ฉันว่าพวกมันตายไปเกินครึ่งแล้วล่ะนะ