World of Hidden Phoenixes - ตอนที่ 106.1
ท้องฟ้าสดใสและชัดเจน ไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียวที่จะสามารถมองเห็นได้ แต่ท่ามกลางสภาพอากาศที่สวยงามเช่นนั้น หนานกง เจี๋ย กลับรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก
ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้โดยที่เขาไม่รู้ ถังยวีและหลานปิง ต่างก็ถูกท่านเสนาทำร้าย เมื่อเขาถามพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ยังคงนิ่งและปิดปากเงียบ ไม่ว่าเขาจะถามอะไร พวกเขาก็ไม่พูดอะไรสักคำ
วันนี้กระโจมของจี่เฟิ่งหลี่ ดูรกร้าง แถมทหารเฝ้าทั้งหมดต่างก็ยืนห่างออกไปมาก เมื่อหนานกง เจี๋ย เห็นสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลก แต่ก็เคาะประตูแล้วเข้าไป
“ มีอะไรจะรายงานหรือไม่” เสียงที่ชัดเจนและเย็นชาถามขึ้น
หนานกง เจี๋ยมองไปยังทิศทางของเสียงและพบกับท่าทางที่เย็นชาของจี่เฟิ่งหลี่ มันยากที่จะเชื่อว่าหลังจากผ่านไปคืนเดียว ท่าทางที่อ่อนโยนของท่านเสนาจะกลายเป็นเย็นชาและยังมีน้ำเสียงที่เหินห่างอีกด้วย“หากเจ้ามีธุรอันใด ก็จงรีบพูดออกมา” จี่เฟิ่งหลี่พูดอย่างหงุดหงิดพร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดขึ้น
“ไม่มีอะไรขอรับ ผู้ใต้บัญชาแค่อยากจะถามท่านเสนาว่า ท่านได้ไปพบคุณหนูสี่หรือยังขอรับ”หนานกง เจี๋ยถามขึ้น
“ยัง” จี่เฟิ่งหลี่พยายามให้ความร่วมมือเล็กน้อย
“เมื่อคืน หลังจากที่นางมาถึง นางก็มาหาผู้ใต้บัญชาคนนี้และผู้ใต้บัญชาคนนี้ก็ตั้งใจจะไปรายงานการมาถึงของนางแก่ท่านเสนา แต่นางบอกว่านางต้องการทำให้ท่านประหลาดใจ นางยังไม่ได้มาหรือขอรับ” หนานกง เจี๋ย ถามขึ้ยอย่างงงงวย “ถ้าอย่างนั้นผู้ใต้บัญชาจะไปหานางเองขอรับ”
“ช้าก่อน!” จี่เฟิ่งหลี่พูดอย่างลังเล“ ข้าจะ…. ข้าจะไป.”
หลังจากนั้นไม่นาน จี่เฟิ่งหลี่ ก็ยืนขึ้นแล้วก็เดินออกไป หลังจากผ่านกระโจมไปมาหลายลัง ในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าประตูกระโจมขนาดเล็กลังหนึ่ง เขายืนอยู่ตรงนั้นสักพักและไม่ได้เข้าไป มีคนแบกน้ำออกมาและเห็นจี่เฟิ่งหลี่ยืนอยู่เงียบ ๆ คนรับใช้ก็รีบคำนับและพูดขึ้น “บ่าวคารวะท่านเสนาเจ้าค่ะ” จากการที่ “เขาพูด” ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นชาย
จี่เฟิ่งหลี่ พยักหน้ารับทราบอย่างเย็นชา ก่อนจะถามขึ้น “นางอยู่ที่ไหน?”
“ คุณหนูอยู่ข้างในเจ้าค่ะ” คนรับใช้ลังเลสักครู่ ก่อนจะพูดขึ้นอีก“ท่านเสนา บ่าวไม่รู้ว่าคุณหนูไปเจออะไรมาเมื่อคืน แต่ตั้งแต่นางกลับมา นางก็ยังไม่หลับไม่นอนและเอาแต่ร้องไห้ ไม่ว่าบ่าวจะถามอะไร คุณหนูก็ไม่พูดเจ้าค่ะ “คนใช้รายงานขึ้นอย่างเงียบ ๆ
จี่เฟิ่งหลี่พยักหน้าอย่างไม่แยแส แต่หมัดที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของเขาสั่นเล็กน้อย เขาเข้าไปในกระโจมโดยไม่พูดอะไรอีก รูปร่างที่แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมของผู้ชายสามารถมองเห็นได้ว่ากำลังนั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะเล็ก ๆ ผมสีดำหมึกของนางนั้นยาวและหลวม มันตกลงมาด้านหลังของนาง ส่องแสงอยู่ภายในกระโจมที่มีแสงสลัวๆ
จี่เฟิ่งหลี่หรี่ตาลง ความทรงจำของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมา มันยุ่งเหยิงและปวดร้าว แต่เขาสามารถจำผมสีดำนี้ได้อย่างชัดเจน หัวใจของเขาสั่นเล็กน้อยและรู้สึกราวกับว่าขาของเขาทำมาจากเหล็ก มันหนักมากจนเขาไม่สามารถก้าวออกไปได้อีก
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา หญิงสาวก็หันกลับมา ภายใต้ผมสีดำนั้นเป็นใบหน้าที่ดูค่อนข้างซีดและเศร้าหมอง แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ได้ทำให้ความงามของนางหายไป นางมีหัวคิ้วโค้งยาว จมูกตั้งตรง และดวงตาที่ลึกล้ำ นี่คือผู้หญิงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่กล้าหาญ เพียงแค่ในขณะนี้ ดวงตาที่ส่องสว่างของนางนั้นชุ่มไปด้วยน้ำตา ทำให้คนรู้สึกสงสารและเกิดความรู้สึกอยากจะอ่อนโยนต่อนาง
นางถือเหล้าหนึ่งถ้วยอยู่ในมือของนาง เมื่อนางเห็นจี่เฟิ่งหลี่ ผิวของนางก็ซีดลงอีก นางเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและดื่มเหล้าลงไปทันที นางเอื้อมมือไปที่เหยือกเหล้า แล้วเทมันลงไปในถ้วยอีกครั้ง ในขณะที่นางกำลังจะเทเหล้าเข้าปาก เขาก็ยื่นมือออกมาหยิบถ้วยไปจากนาง เขามองนางด้วยตาที่หรี่ลงและถามขึ้น“ทำไมต้องดื่ม?”
หญิงสาวมองกลับไปด้วยรอยยิ้มที่น่าเศร้าและตอบขึ้น“ ข้าอยากมึนเมาเพื่อที่ข้าจะได้ลืมสิ่งที่ข้าไม่ต้องการจดจำ”
มือของจี่เฟิ่งหลี่สั่นเล็กน้อย และถ้วยเหล้าก็แตกจากมือที่จับเอาไว้แน่นของเขา ชิ้นส่วนที่แตกต่างก็ตกลงไปกับพื้นพร้อมกับเหล้า
“ เมื่อคืนนี้…มันเป็นเจ้าหรือ?” ในที่สุดเขาก็เอ่ยออกมา หลังจากสงบสติอารมณ์ลง
หญิงสาวมองดูเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน ด้วยเสียงที่เบาลง นางก็พูดขึ้น“ ในตอนแรกข้าต้องการสร้างความประหลาดใจให้กับท่าน ข้าไม่คาดหวังว่า… .. ”
น้ำตาไหลลงมาตามแก้มของนางอย่างช้าๆ
“ซื่อเอ้อร์….” จี่เฟิ่งหลี่ ลังเลอยู่นาน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไปและเช็ดน้ำตาของนาง จากนั้นเขาก็ดึงนางเข้าไปในอ้อมแขนของเขา แล้วลูบไหล่ของนางเบา ๆ “ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี”
เขายืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับกอดนางไว้และรู้สึกถึงความหวังทั้งหมดของเขาที่หายไป ร่างกายทั้งหมดของเขารู้สึกหมดกำลังและรู้สึกเศร้า เต็มไปด้วยความสิ้นหวังที่เพิ่มขึ้นอยู่ภายใน มันขึ้นมาถึงหน้าอกของเขา มันเป็นความรู้สึกที่เย็นยะเยือกไปถึงกระดูก
ราวกับว่านางจำบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้ รงซื่อก็รีบผลักจี่เฟิ่งหลี่ออกไปและพูดขึ้น“ ท่านเสนา ท่านไม่ต้องมาใส่ใจข้า ท่านควรกลับไป “
รงซื่อหันกลับมาแล้วเดินไปที่เตียง หัวใจของนางปกคลุมไปด้วยความเศร้าอยู่ลึกๆ ในขณะที่นางนอนลงไป
เมื่อคืน นางต้องการทำให้เขาประหลาดใจ แต่นางก็ไม่คิดว่าเมื่อนางไปถึงกระโจมของเขามันก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น นางได้ยินเสียงเหล่านั้นข้างใน นางปิดปากและซ่อนตัวอยู่นอกกระโจม หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็เห็นชายคนหนึ่งในชุดทหารเดินออกมา แม้ว่านางจะไม่เห็นหน้าเขา แต่นางก็ยังเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้าที่ไม่เป็นระเบียบของเขา
มันเหมือนเสียงคำรามของฟ้าร้องในวันที่ฟ้าสดใส นางเกือบจะเป็นลม นางไม่เคยคาดหวังว่าเขาซึ่งสูงส่งและสดใสเหมือนดวงจันทร์ จะอยู่ร่วมกับผู้ชายคนหนึ่งจริง ๆ
ในขณะนั้น นางหวังว่านางจะไม่มาที่ค่ายทหารแห่งนี้ และไม่ได้เป็นพยานในฉากนั้น นางอยากจะลืมช่วงเวลานั้น แต่ไม่ว่านางจะอยู่กับเหล้ามากแค่ไหน นางก็ยังจำได้อย่างชัดเจน นางไม่สามารถหยุดจินตนาการถึงเขากับผู้ชายคนนั้นได้ มันเกือบจะทำให้นางเป็นบ้า
นางรู้ว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนาง แต่ถึงอย่างนั้น นางก็ช่วยไม่ได้ที่จะชอบเขา นางมักจะรอเขาอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ ความหวังทั้งหมดของนางก็กระจายไปในอากาศหลังจากผ่านไปเพียงคืนเดียว
เขาชอบผู้ชาย เขาจะไม่ชอบนาง
การค้นพบนี้ ทำให้นางสั่นสะเทือนอย่างแท้จริง ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก
จี่เฟิ่งหลี่ ยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินไปที่เตียง ด้วยเสียงที่ลดลง เขาจึงถามขึ้น“ ซื่อเอ้อร์ เจ้าจะเต็มใจไหม…. เต็มใจเป็นภรรยาของข้า เจ้าจะยกโทษให้ข้าได้หรือไม่”
รงซื่อถึงกับพูดไม่ออก หลังจากนั้นไม่นาน นางก็มองไปที่จี่เฟิ่งหลี่
สิ่งนี้น่าตกใจยิ่งกว่าสิ่งที่นางเห็นเมื่อคืนนี้
จี่เฟิ่งหลี่ เขาต้องการแต่งงานกับนางหรือ? นางไม่เคยปิดบังความรักที่มีต่อเขาและเขาก็รู้ดี แต่เขาก็ปฏิเสธนางอย่างแน่วแน่มาตลอด แล้วทำไม ทำไมจู่ๆ เขาถึงถามนางในเรื่องนี้?
รงซื่อลุกขึ้นนั่ง แล้วมองไปที่จี่เฟิ่งหลี่พร้อมกับความสับสนเล็กน้อย เมื่อเห็นความเศร้าโศกที่อยู่ลึกๆ ในดวงตาของเขา ในที่สุดนางก็ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง บางทีเขาอาจจะไม่ต้องการตกหลุมที่ลึกไปกว่านี้ ในเรื่องของความรักต้องห้ามนี้ที่จะไม่เกิดผลดีอะไร
“ ข้า …. ข้าทำได้หรือ” นางถามออกไปอย่างไม่เชื่อ
จี่เฟิ่งลี่ยิ้มเล็กน้อย ดวงตาหงส์ของเขาอ่อนโยน ในขณะที่เขาถามออกไป“ ทำไม หรือว่าซื่อเอ้อร์ไม่เต็มใจ”
ใบหน้าของรงซื่อกลายเป็นสีแดงก่ำ นางก้มหัวลงก่อนจะเช็ดน้ำตาออกไป จากนั้นนางก็ซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและตอบขึ้นเบา ๆ “ข้ายินดี”
ในขณะที่กอดนาง จี่เฟิ่งหลี่ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังตกอยู่ในเหวลึกที่เย็นชาและรกร้าง