World of Hidden Phoenixes - ตอนที่ 88.2
“หลานปิง พาคนไปสอบสวนท่านเจ้าเมืองของเซวียนโจว หวางฟูกุ้ย”จี่เฟิงหลี่ สั่งขึ้นในขณะที่เขานั่งอยู่ที่โต๊ะ หลังจากที่หลานปิงจากไป จี่เฟิงหลี่ก็เอนหลังลงไปบนเบาะ ก่อนที่จะมองไปที่แผนที่บนโต๊ะอีกครั้งหนึ่ง
ฮวาจูอวี้ยืน อยู่ในกระโจมอย่างเงียบๆ นางไม่ได้คาดหวังว่าจี่เฟิงหลี่จะ กล้าที่จะใช้ตำหนักของราชวงศ์เป็นที่ระบายน้ำ หากเจ้าหน้าที่คนอื่นถูกปล่อยให้จัดการกับกับปัญหานี้ พวกเขาก็จะเรียงลำดับความสำคัญในการปกป้องหมวกในฐานะขุนนางของพวกเขาก่อน ถ้ามันขึ้นอยู่กับนาง นางก็จะไม่ลังเลที่จะใช้ตำหนักแห่งนี้เช่นกัน แต่นี่คือจี่เฟิงหลี่ นางรู้สึกว่ามันยากที่จะยอมรับได้
หรือว่าเขาจะเป็นขุนนางที่ดี? นางไม่เชื่อ เขาคงกำลังเล่นละครอยู่? มันอาจจะเป็นไปได้ที่เขาอยากจะแสดงความแข็งแกร่งและความไม่สนใจของเขาต่อฮ่องเต้น้อย
ไม่ว่าในกรณีใด ๆ เขาก็จะเป็นคนไม่ซือ ต่ำช้าในสายตาของนางเสมอ!
ความสนใจของจี่เฟิงหลี่ จดจ่ออยู่กับแผนที่มานานแล้วและไม่นานหลังจากนั้น การจ้องมองของเขาก็เปลี่ยนไปที่ฮวาจูอวี้ ราวกับว่าเขาตระหนักได้ว่ายังมีอีกคนหนึ่งอยู่ในกระโจม เขานวดหน้าผากของเขาและยิ้มอย่างอ่อนโยนในขณะที่พูดขึ้น “เป่าเอ้อร์ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของเจ้าเสีย ดูเจ้า เปียกโชกไปหมดแล้ว อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดเอาได้ ”
ในเวลานี้ฮวาจูอวี้ ถึงได้รู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน แต่โชคดีที่เสื้อคลุมที่นางสวมนั้นค่อนข้างหนาและไม่เปิดเผยอะไรเลย
“ท่านเสนา แล้วข้าจะสามารถไปเปลี่ยนที่ไหนได้?”ฮวาจูอวี้มองไปรอบ ๆ กระโจมซึ่งเป็นของจี่เฟิงหลี่ พวกเขามาเพื่อรับมือกับปัญหาน้ำท่วมและนางไม่มีสิทธิ์ที่จะมีกระโจมเป็นของตัวเอง
จี่เฟิงหลี่ ขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาเย็นชาและไม่แยแส แต่รอยยิ้มอ่อนโยนยังคงอ้อยอิ่งอยู่บนริมฝีปากของเขา “เจ้าอยู่ในกระโจมเดียวกับข้าเป็นธรรมชาติที่เจ้าจะเปลี่ยนที่นี่! ”
ฮวาจูอวี้ คาดหวังคำตอบเช่นนี้อยู่แล้ว การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยผู้ชาย ดังนั้นถ้านางไม่ได้อยู่กับจี่เฟิงหลี่ นางก็คงจะต้องอยู่กับชายคนอื่นอยู่ดี แม้ว่าจะมีผู้หญิงอยู่ที่นี่ แต่นางก็ยังคงไม่สามารถอยู่ในกระโจมเดียวกับพวกนางได้อยู่ดี
นางถอดเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มออก เมื่อเห็นว่าจี่เฟิงหลี่ ยังคงจดจ่ออยู่กับแผนที่ นางก็รีบเดินไปหลังฉากและถอดเสื้อคลุมที่เปียกโชกออก ชุดด้านในของนางก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นนางจึงรีบเปลี่ยนออกและใส่ชุดใหม่ลงไป นี่เป็นครั้งแรกที่นางเปลี่ยนเสื้อผ้าได้อย่างรวดเร็วที่สุดในชีวิตของนาง
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นางก็มองออกไปข้างนอก เมื่อเห็นว่าจี่เฟิงหลี่ ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะของเขา นางก็แก้ผมของนางออกและใช้ผ้าเช็ดผมของนางเพื่อให้มันแห้ง ผมของนางเปียกมาก ถ้ามันไม่แห้ง มันก็ยากที่จะไม่เป็นหวัด
ผ้าม่านของค่ำคืนค่อยๆตกลงมา ฝนก็เริ่มรุนแรงขึ้นพร้อมลมพัดกรรโชกแรง อยู่นอกกระโจม
ฮวาจูอวี้กำลังแปรงผมอยู่ แล้วจู่ๆเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้าใกล้ ๆ นางก็ตื่นตกใจ ก่อนจะรีบรวบผมขึ้นอีกครั้ง ผมของนางยาวมาก ถ้าจี่เฟิงหลี่เห็น เขาอาจะสงสัยเรื่องเพศของนาง
“หยวนเป่า” ทันทีที่เขาพูด เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้านางแล้ว
หัวใจของนางเต้นขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่นางยกมือขึ้นเพื่อจัดการกับผมของนาง พยายามที่จะทำตัวให้สงบ ในขณะที่นางถามขึ้น “ท่านเสนา ท่านมาทำอะไรอยู่ตรงนี้?”
ด้วยรอยยิ้มที่จาง ๆ เขาเดินตรงไปที่เตียงและถอดเสื้อคลุมออก “เป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่จะมาเปลี่ยนเสื้อผ้า หยวนเป่าเอ้อร์ นำเสื้อผ้าของข้ามา ”
ฮวาจูอวี้ ขมวดคิ้วขึ้น เขาไม่ได้พาหญิงรับใช้มาพร้อมกับเขาในการเดินทางครั้งนี้และมองว่านางเป็นคนรับใช้ของเขาที่จะสั่งอะไรก็ได้ นางลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หีบเดินทางของเขา ก่อนจะหยิบชุดเสื้อคลุมสีดำแขนยาวและส่งมอบมันให้กับเขา
ด้านนอกกระโจมสามารถได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา ฮวาจูอวี้รีบเดินออกไปและได้ยินข่าวแจ้งขึ้น “ท่านเสนา ท่านเจ้าเมืองหวางมาขอพบขอรับ!”
“ให้เขาเข้ามา” จี่เฟิงหลี่ พูดขึ้นในขณะที่เขาก้าวออกมา
เจ้าหน้าที่ใส่เสื้อคลุมเดินเข้ามา ทันทีที่เขาเห็นจี่เฟิงหลี่ เขาก็รีบทรุดตัวลงไปคุกเข่า ไม่รู้ว่าเกิดจากพายุข้างนอกหรือสิ่งอื่นใด แต่ใบหน้าของเขาซีดมาก
“ขุนนางระดับต่ำผู้นี้ไม่ทราบว่าท่านเสนาจี่จะมาถึงที่นี่ ข้าผู้น้อยมาต้อนรับท่านช้าไป ข้าผู้น้อยหวังว่าท่านเสนาจะให้อภัยข้าผู้น้อยด้วยขอรับ!” ท่านเจ้าเมืองหวางพูดขึ้นอย่างจริงจัง เขาไม่ได้คาดหวังว่าจี่เฟิงหลี่ จะมาด้วยตัวเองและไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะมาถึงได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
“หวางฝูกุ้ย ท่านมาจากที่ไหนกัน? ก่อนหน้านี้เมื่อคนของข้า เข้าไปในเมืองเพื่อสอบสวน พวกเขาไม่ได้เห็นท่านกำลังคอยสั่งให้ประชาชนหลบหนีออกไปจากน้ำท่วม “จี่เฟิงหลี่ เดินไปหาหวางฝูกุ้ย และจ้องมองไปที่เขาด้วยดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อย
หวางฝูถุ้ยถึงกับเหงื่อแตก แต่เขาไม่กล้าที่จะเช็ดพวกมันออกไป เขาพูดด้วยความหวาดกลัวและความกังวลใจในน้ำเสียงของเขาขึ้น “ขุนนางระดับต่ำผู้นี้ ผู้นี้ … ”
“ให้ข้าถามท่าน มีคนจำนวนมากเท่าไหร่ที่เสียชีวิตอยู่ในเมือง?” จี่เฟิงหลี่ถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนโยนที่คุ้นเคยยังคงอยู่บนริมฝีปากของเขา
หวางฝูกุ้ยเคยได้ยินมาว่าเมื่อใดก็ตามที่ท่านเสนาจี่เฟิงหลี่คนนี้โกรธ เขามีรอยยิ้มที่สดใสอยู่บนใบหน้าเสมอ เขาเหลือบมองที่จี่เฟิงหลี่ด้วยความหวาดกลัว และสังเกตเห็นรอยยิ้มอันลึกซึ้งของเขา
ร่างกายของเขาจมอยู่ในความหนาวเย็น ในขณะที่เขาตอบด้วยเสียงที่สั่นขึ้น “ประมาณ 100 คนขอรับ!”
“100 คนหรือ” จี่เฟิงหลี่ ย้ำด้วยตาที่หรี่ลงของเขา
หัวใจของหวางฝูกุ้ย สั่นขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนจะตอบขึ้นอีกครั้ง “200 คนขอรับ !!”
“ท่านแน่ใจหรือ?” ด้วยมือทั้งสองไขว่หลัง จี่เฟิงหลี่เดินไปที่โต๊ะและนั่งลงไปที่เบาะ
“ข้า .. ข้าแน่ใจ!” หวางฝูกุ้ยพูดขึ้นในขณะที่กัดฟัน “ท่านเสนาจี่ ขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้อยู่ในเมืองทุกวัน คอยกำชับให้เหล่าทหารทำการเสริมความแข็งแกร่งใก้กับกำแพง เช้านี้ขุนนางผู้นี้ไปขอความช่วยเหลือในจังหวัดใกล้เคียง แต่ขุนนางคนอื่นๆ ไม่ต้องการให้ความช่วยเหลือ ดังนั้นขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้จึงต้องกลับมาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้กลับมา ก็ได้ยินว่าท่านเสนาจี่ มาถึงแล้ว ขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้จึงรีบมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ท่านเสนาจี่ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ท่านต้องการ ขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้ยินดีมาที่นี่เพื่อคอยรับใช้และจะดำเนินการตามคำสั่งของท่านให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ”
ในเวลานี้หลานปิง ก็เข้ามาในกระโจมและเดินเข้าไปหาจี่เฟิงหลี่ ก่อนจะ กระซิบคำพูดไม่กี่คำที่หูเขา เมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด จี่เฟิงหลี่ก็จ้องมองไปที่หวางฝูกุ้ยและยิ้มขึ้นอย่างสดใส “เมื่อพูดเช่นนี้ข้าก็คงจะต้องให้รางวัลหวางฝูกุ้ย สำหรับการทำงานหนักและทุ่มเทให้กับประชาชนของเมืองเซวียนโจวของท่าน”
หวางฝูกุ้ยรีบคำนับลงและพูดขึ้นกู “ท่านเสนาจี่ ขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้ไม่ต้องการรางวัล ขุนนางที่ต่ำต้อยผู้นี้ทำได้ไม่ดีนักและยินดีที่จะรับลงโทษขอรับ ”
รอยยิ้มบนริมฝีปากของจี่เฟิงหลี่ ยิ่งลึกซึ้งขึ้นไปอีกๆ ในขณะที่เขาพูดขึ้น “ถ้าท่านเจ้าเมืองหวางไม่ต้องการรางวัล ก็คงต้องแล้วแต่ท่านแล้ว ถ้าท่านต้องการถูกลงโทษ มันก็ง่ายดายเช่นกัน ทหารนำตัวท่านเจ้าเมืองหวางผู้ที่ได้ก่ออาญา ออกไปตัดหัวในทันที! “