World of Hidden Phoenixes - ตอนที่ 90.2
แม้ว่าฮวาจูอวี้จะเป็นแม่ทัพ แต่นางก็ไม่ต้องการทำสงคราม
จิตใจของนางถูกทิ้งให้หมกมุ่นอยู่ตลอดทั้งคืนและนางก็ไม่สามารถนอนหลับลงได้ นางลุกขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นและไปรับเสบียงจากภายนอก จากนั้นนางก็ไปยุ่งอยู่กับงานประจำของนาง เตรียมยาและแจกจ่ายออกไป เมื่อมียาเหลืออยู่เพียงถ้วยเดียวเท่านั้นนางถึงได้มุ่งหน้าไปยังห้องของจี่เฟิงหลี่
แม้ว่าจะเป็นตอนเช้าแล้ว หมู่บ้านก็เงียบสงบเป็นพิเศษ มีเพียงอาการไอเป็นครั้งคราวแล้วก็ไม่มีเสียงอื่น ๆอีกเลย เมื่อนางผลักให้ประตูเปิดออก ห้องภายในทั้งมืดและอับ นางเดินขึ้นไปที่หน้าต่างก่อนจะเปิดผ้าม่านออก ทำให้รังสีของแสงแดงส่องลงไปบนร่างที่นั่งอยู่บนเตียง
เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวราวกับหิมะ เขากำลังจ้องเขม็งไปที่บางสิ่งบางอย่างบนเตียง ดูเหมือนเขาจะยังไม่ได้ล้างหน้าหรือแปรงผมที่ร่วงลงอย่างเป็นอิสระที่ด้านหลังของเขา อยู่ภายใต้แสงแดด นางไม่แน่ใจว่าเขาป่วยหรือไม่ ดูเหมือนเขาจะยังดูดีอยู่แม้ว่าเขาจะไม่ดื่มยาวันนี้ก็ตาม ความคิดของนางถูกขัดจังหวะโดยจี่เฟิงหลี่ ที่กำลังปิดปากและไอจนตัวงอ เขายังคงไม่หยุดจนกมันดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะหายใจ
รอจนกว่าอาการไอลดลงแล้ว นางจึงเดินไปและพูดขึ้น “ท่านเสนา ท่านควรกินยาของท่านก่อน” นางวางชามไว้บนเตียงและมองภาพที่กางออกบนเตียงของเขา น้ำท่วมในเมืองเซวียนโจว ได้รับการแก้ไขไปแล้วเหตุใดเขาจึงยังคงสำรวจแผนที่เหล่านี้อยู่อีก หลังจากการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดนางก็ตระหนักว่ามันไม่ใช่แผนที่ของเมืองเซวียนโจว แต่เป็นแผนที่ของชายแดนทางเหนือ ทำให้นางนึกถึงสิ่งที่หลานปิงได้พูดเอาไว้เมื่อคืนนี้
หรืออาจจะเป็นเพราะอาณาจักรทางเหนือเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง?
จี่เฟิงหลี่ เงยหน้าขึ้นมองไปที่นาง ในขณะที่เขาดื่มยาในชาม
“หยวนเป่า ทำไมข้าไม่เห็นเจ้ามาส่งยาเมื่อคืนนี้?” จี่เฟิงหลี่ถามขณะที่สายตาของเขากลับมายังแผนที่ตรงหน้าของเขา
เมื่อสังเกตเขาตอนนี้ นางจึงได้เห็นสีผิวที่ซีดและใบหน้าที่อ่อนล้าของเขา ความเจ็บป่วยในครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ แม้แต่คนที่มีทักษะการต่อสู้สูงอย่างเช่นจี่เฟิงหลี่ ก็ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้
“เมื่อคืนนี้มียาไม่พอ ดังนั้นข้าจึงให้ความสำคัญกับผู้ป่วยที่ป่วยหนักมากกว่าท่าน ” ฮวาจูอวี้พูดขึ้น
เขามองไปที่ฮวาจูอวี้ก่อนจะถามขึ้น “หยวนเป่า เจ้าหวังจะให้ข้าตายหรือ?”
ดวงตาของฮวาจูอวี้ หดลงในขณะที่นางยิ้มและพูดขึ้น “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าข้าจะเกลียดท่าน แต่ตอนนี้เมื่อข้าติดตามท่านแล้ว ข้าจะหวังให้ท่านตายได้อย่างไร ”
“เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ? หยวนเป่า ทำไมเจ้าไม่กลัวที่จะเจ็บป่วย เจ้าอยู่ในหมู่บ้านนี้มานานแล้วและเจ้าก็ไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันใด ๆ ดังนั้นทำไมเจ้าถึงไม่ล้มป่วย? “จี่เฟิงหลี่ ยกศีรษะขึ้นในขณะที่เขาถาม
นางรู้ว่าเขากำลังสงสัยนาง แต่นางก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้ นางจึงตอบขึ้น “เป็นเพราะข้าเคยเจ็บป่วยด้วยโรคนี้มาแล้วและจะไม่ติดเชื้ออีกเป็นครั้งที่สอง”
“เป็นเช่นนั้นหรือ” เขาพิงหลังไปกับหัวเตียง ดวงตาที่ลึกที่ไม่สามารถอ่านได้ของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
“ท่านเสนา ทำไมท่านต้องใช้เวลามากมายในการจ้องมองแผนที่เหล่านั้นด้วย?” ฮวาจูอวี้ ถามขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไร จี่เฟิงหลี่ก็ไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารเขา เขาเป็นเพียงเสนาบดีกรมพลเรือนเท่านั้น ดังนั้นมันจะมีประโยชน์อะไรที่จะมาดูแผนที่เหล่านี้
ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะตอบขึ้น “แน่นอนว่าข้าต้องศึกษาพวกมัน ถ้าสงครามปะทุขึ้นกับอาณาจักรเหนือ ข้าจะต้องกำหนดกลยุทธ์ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถตายที่นี่ได้.. ” ก่อนที่จะทันได้พูดจบในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด เสียงไอก็ขัดจังหวะเขาขึ้นอีกครั้ง ถ้าเขาเป็นผู้ป่วยรายอื่นๆ นางจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อลูบหลังเขา แต่นี่คือจี่เฟิงหลี่ นางไม่ต้องการช่วยเขา
เขาใช้มือข้างหนึ่งเพื่อพยุงให้ตัวเองมั่นคงอยู่บนเตียง ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งจับที่หน้าอกขณะที่เขาไอออกมา เขาไออย่างไม่ลดละจนเขาหมดแรงและเอนตัวลงไปกับเตียง ฮวาจูอวี้ไม่แน่ใจและตัดสินใจที่จะทำหน้าที่ของนางด้วยการสัมผัสกับหน้าผากของเขา
นางตกใจทันทีที่นางสัมผัสมัน หน้าผากของเขาร้อนมาก แต่เขาก็ยังนั่งอยู่ที่นี่เพื่อตรวจสอบแผนที่เพื่อที่จะกำหนดกลยุทธ์
นางช่วยเขานอนลงและพูดขึ้น “ท่านเสนาควรพักผ่อนก่อน ข้าจะไปเตรียมยา “คราวนี้นางไม่กล้าที่จะลดปริมาณลงอีก หลังจากที่จี่เฟิงหลี่ดื่มยาเขาก็หลับไปลึกทันที
การรับดื่มยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งวันและหนึ่งคืนของเขา มันไม่ได้แสดงอาการของดีขึ้นเลย และอาการไข้ของเขาก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย
ฮวาจูอวี้เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่ว่าใครป่วยแค่ไหนเมื่อเขาดื่มยาที่นางเตรียมไว้ อาการไข้ก็จะลดลงหลังจากหนึ่งคืน ด้วยทักษะการต่อสู้ที่สูงอย่างจี่เฟิงหลี่ เขาต้องแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก ดังนั้นทำไมยาจึงไม่มีประสิทธิภาพกับเขา
คืนนั้นหลานปิง ไม่ได้แวะไปเยี่ยมจี่เฟิงหลี่ แต่เมื่อได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นจากฮวาจูอวี้แล้วเขาก็ตื่นตระหนกและมุ่งหน้าไปดูเขา นอกจากนี้เขายังมีคำสั่งให้ทหารของเขาไปพาหมอหลวงซานมาด้วย หลังจากที่ได้จับชีพจรของจี่เฟิงหลี่แล้ว หมอหลวงซาน ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“ท่านเสนาไม่เพียงแค่ป่วย แต่เขายังถูกวางยาพิษอีกด้วย เป็นเรื่องยากที่จะรักษาทั้งสองอย่างนี้ในเวลาเดียวกัน “หมอหลวงซวนรายงานอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เขาจะไออย่างไม่หยุดหย่อน
“อะไรนะ?” หลานปิงเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ทันใดนั้นความรู้สึกหนาวสั่นจากร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นไอสังหาร
“หยวนเป่า เป็นเจ้าใช่ไหม? ท่านเสนาเห็นว่าเจ้ามีพรสวรรค์และไม่สามารถที่จะทนฆ่าเจ้าได้ แต่เจ้ากลับวางยาพิษเขา! “หลานปิง ตะโกนขึ้นในขณะที่มองมาที่นางพร้อมด้วยไอสังหาร
ฮวาจูอวี้ยิ้มก่อนจะพูดขึ้น “ท่านหลานปิง ถ้าข้าอยากจะฆ่าเขา ข้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาที่จะต้องวางยาพิษเขา ข้าไม่ได้เลวทรามต่ำช้าขนาดที่จะใช้วิธีการดังกล่าว”
“ท่านหลานปิง ดูเหมือนว่าท่านเสนาจะถูกวางยาพิษก่อนที่เขาจะติดเชื้อ ท่านหยวนเป่า อยู่ในหมู่บ้านตลอดเวลา เขาไม่ได้เป็นผู้ร้ายอย่างแน่นอน “หมอหลวงซวนพูดขึ้น
ฮวาจูอวี้มองไปที่หมอหลวงซาน ด้วยสายตาที่ขอบคุณ นางไม่ได้คาดหวังว่าชายปากแข็งคนนี้จะพูดแทนนาง
หลานปิงขมวดคิ้ว ก่อนจะถามขึ้นอย่างรวดเร็ว “แล้วเราจะช่วยท่านเสนาได้อย่างไร?”
“ข้าสามารถทำยาแก้พิษได้ แต่ถ้าอาการป่วยไม่หายเป็นปกติเสียก่อนการกินยาแก้พิษก็จะไร้ประโยชน์ เราต้องพยายามรักษาเจ็บป่วยของท่านเสนาก่อนที่จะถอนพิษออกไปได้ แต่เนื่องจากเพราะเขาถูกพิษ ยาที่ใช้ในการรักษาอาการป่วยจึงไม่ได้ผล นี่เป็นเรื่องยากจริงๆ! ”
จี่เฟิงหลี่ที่นอนอยู่บนเตียง ก็มีอาการไอขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขากำลังไอออกมาเป็นเลือด ซึ่งไหลลงมาจากมุมปากของเขาด้วย
แม้แต่ฮวาจูอวี้ก็ต้องตกใจ นางกลัวว่าเขาจะไม่สามารถผ่านคืนนี้ไปได้
หลานปิงเดินไปที่เตียงด้วยก้าวที่หนัก ๆ เขาหยิบผ้าขึ้นมาและเช็ดริมฝีปากของจี่เฟิงหลี่ ก่อนจะหันกลับมาตะโกนขึ้น “พวกท่านทั้งสองรีบคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด ท่านหมอหลวงซานมันจะดีที่สุดที่ท่านจะคิดหาวิธีช่วยเขา ส่วนเจ้าก็ไปเตรียมยาและนำมันมา!”
นางพยักหน้าด้วยความยินยอม ก่อนที่จะออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่นางเดินผ่านประตูไป นางก็หันกลับไปและเห็นหลานปิง ช่วยพยุงจี่เฟิงหลี่ ขึ้น เขาใช้ผ้าเปียกเพื่อเช็ดใบหน้าของจี่เฟิงหลี่ และใช้นิ้วมือของเขาแทนหวีเพื่อแปรงผมของจี่เฟิงหลี่
มุมมองที่อ้างว้างของหลานปิง ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่จี่เฟิงหลี่ที่ได้มีสติ ที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ทำให้เกิดน้ำหนักที่หนักอึ้งอยู่ในหัวใจของนาง แล้วจู่ๆ นางก็รู้สึกท้อแท้และเกือบจะเป็นว่างเปล่า
บางครั้งการสูญเสียของศัตรูก็ไม่ได้แตกต่างกันมากกับการสูญเสียของเพื่อน หากปราศจากคนที่จะต่อสู้และต่อต้าน บางทีความรู้สึกเหงาและเวิ้งว้างก็เกิดขึ้นได้
ด้วยหัวใจที่หนักหน่วง นางเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมยา แต่ลึกลงไปนางรู้ว่ายานี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับจี่เฟิงหลี่ เขาได้ดื่มยานี้ไปหลายครั้งแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
ค่ำคืนค่อยๆดึกดื่นขึ้นไปเรื่อยๆ
ดวงจันทร์ค่อย ๆ พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มืดมนและเต็มไปด้วยผู้ป่วย นอกเหนือจากเสียงไอเป็นครั้งคราวก็ไม่มีเสียงอื่นรบกวนอีก มันเงียบสนิทราวกับความตาย คล้ายกับความเงียบของเมืองร้างที่ไม่มีสัญญาณชีวิตชีวาอยู่เลย
ฮวาจูอวี้เพิ่มไม้ลงไปในกองไฟและดับลงหลังจากที่ยาต้มได้ทีแล้ว
ทันใดนั้น เสียงก็ดังมาจากภายนอก นางตกใจและสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะออกไปดูแล้วก็ได้เห็นผู้คนจำนวนมากมายืนอยู่ที่นั่น พวกเขาเป็นผู้ป่วยทั้งหมดที่ได้รับการรักษาในหมู่บ้านแห่งนี้ บางคนเจ็บป่วยเล็กน้อยขณะที่คนอื่นๆ เจ็บป่วยหนักจนต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นในการยืนอยู่กับที่ แม้ว่าพวกเขากำลังไอ พวกเขาก็ตะแบงที่จะยืนอยู่ที่นั่น เมื่อเห็นฮวาจูอวี้ โผล่ออกมาจากห้องครัว พวกเขาทั้งหมดต่างก็คุกเข่าลงไป
“ท่านหยวนเป่า ท่านต้องช่วยท่านเสนาบดีนะขอรับ! ท่านเสนาบดีเป็นขุนนางที่ดี ท่านต้องรักษาเขา! ได้โปรดด้วยเถิด! ไม่ใช่ว่ายาของท่านมีประสิทธิภาพดีมากหรอกหรือ คนจำนวนมากต่างก็รู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ดื่มมันแล้ว ท่านได้โปรดช่วยท่านเสนาบดีด้วยเถิด ได้โปรดช่วยเขาด้วย! “