World of Hidden Phoenixes - ตอนที่ 91.1
ฮวาจูอวี้ตกใจถึงกับไร้คำพูด นางไม่รู้ว่าพวกเขารู้ถึงอาการเจ็บป่วยของจี่เฟิงหลี่ได้อย่างไง แต่พวกเขาทั้งหมดเองต่างก็ป่วย แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นี่ในสายลมยามค่ำคืนที่หนาวเย็น อาการเจ็บป่วยของพวกเขาอาจเปลี่ยนไปเลวร้ายได้ พวกเขารู้ถึงอันตรายแต่ก็ยังคงมาเพื่อขอร้องแทนเขา
แต่นางจะบอกได้อย่างไรว่าเขาเป็นมากกว่าอาการเจ็บป่วยธรรมดา?
“โปรดลุกขึ้นก่อน อย่าคุกเข่าที่นี่” ฮวาจูอวี้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีกและทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยพวกเขาขึ้นเท่านั้น
“ท่านหยวนเป่า ถ้าท่านไม่ตกลงที่จะช่วยท่านเสนาบดี เราจะคุกเข่าอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืน”
คนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนป่วยทั้งหมด แล้วทำไมพวกเขาจึงหัวแข็งเช่นนี้?
เพียงเพื่อจะช่วยชีวิตของจี่เฟิงหลี่ พวกเขาจะละทิ้งชีวิตของตัวเองเลยหรือ? มันเป็นไปได้หรือที่หัวใจของประชาชนชาวเซวียนโจว จะให้ความสำคัญกับจี่เฟิงหลี่มากเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นขุนนางที่มีอำนาจและเฝ้าดูบังลังก์อยู่ตลอดเวลา แต่ประชาชนก็ยังคงเลือกที่จะสนับสนุนเขา แน่นอนว่าฮวาจูอวี้ยังตระหนักดีว่าพวกเขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นฮ่องเต้ ในสายตาของพวกเขาฮ่องเต้ที่ดีคือคนที่ทำทุกอย่างในนามของประชาชนและนั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ
“ข้าขอร้องท่านได้โปรดช่วยท่านเสนาบดีด้วยขอรับ !” ผู้ป่วยอ้อนวอนระหว่างไอออกมา
“ท่านจะช่วยท่านเสนาบดีได้ใช่ไหมท่านหยวนเป่า?
เมื่อฮวาจูอวี้ กวาดมองไปทั่งฝูงชน นางก็เห็นใบหน้าที่ผอมบางและขาวซีดของพวกเขา เมื่อนางได้พบกับสายตาที่โศกเศร้าของพวกเขา หัวใจนางก็อ่อนลง
หัวของนางอยู่ในความสับสน
นางจะต้องช่วยเขาจริงๆหรือ
ท่ามกลางคำวิงวอนของพวกเขา ฮวาจูอวี้ ก็เดินกลับเข้าไปในห้องครัว แล้วถือถ้วยยาออกมา จากนั้นนางก็เดินกลับออกมาและยกมันให้พวกเขาดู “นี่คือยาที่ข้าตั้งใจจะมอบให้กับท่านเสนา ถ้าพวกเจ้ายังคงคุกเข่าอยู่เช่นนี้ข้าจะไปส่งยานี้ได้อย่างไร? พวกเจ้าทั้งหมดควรจะกลับไปพักผ่อน ข้ามีวิธีการของตัวเองในการช่วยท่านเสนาจี่”
คำพูดของนางมีประสิทธิภาพมาก ทุกคนต่างก็ยืนขึ้นและต่างก็เดินเปิดทางให้นางเมื่อพวกเขาเห็นนางถือถ้วยยา
ขณะที่นางเดินออกไป เสื้อคลุมสีฟ้าของนางก็กระเพื่อมขึ้นไปพร้อมกับสายลมยามค่ำคืน สะท้อนความรู้สึกของนางในปัจจุบันออกมา
ระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเจ้าสาวในคืนนั้น นางจำได้ว่าถ้วยหยกชั้นดีของเหล้ามงคลหลุดจากมือของนางและแตกเป็นชิ้นๆ บนพื้น นางนึกถึงอาการปวดเมื่อยตามร่างกายแล้วร่างกายของนางก็กลายเป็นอัมพาตและทรุดตัวลงไป คำพูดของเขาสะท้อนอยู่ในหูของนาง “ทำไมยังจะต้องถาม? แม้แต่ถ้วยหยกยังไม่ถามว่าทำไมเจ้าถึงทำมันแตก “แล้วในหัวของนางก็กระพริบขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่เหลียงโจวที่นางต่อสู้และล้างเส้นทางไปเลือดในการพยายามที่จะช่วยบิดาของนาง เขานั่งอยู่บนเวทีสูงเพื่อเฝ้าดูการต่อสู้ของนางด้านล่าง ค่ำคืนที่หนาวเหน็บยังมาปรากฏขึ้นในหัวของนาง เสียงร้องที่น่าเวทนาของจินเซ่อ
จู่ๆ ทุกอย่างก็จู่โจมเข้ามา พร้อมกับคำว่า
ช่วยเขา! อย่าช่วยเขา!
ช่วยเขา! อย่าช่วยเขา!
สายลมพัดผ่านแก้มของนาง นำพาความรู้สึกเยือกเย็นมาพร้อมกับมันด้วย
ทันใดนั้นนางก็ตระหนักได้ว่านางได้มาหยุดอยู่ที่บันไดประตูของจี่เฟิงหลี่แล้ว ลานของเขาเงียบมาก คนที่ตามหลังนางมาก็หยุดลงเช่นกัน พวกเขายืนอยู่ที่นั่นจ้องมองนางด้วยความคาดหวังในสายตาของพวกเขา
นางหันกลับไป พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและสดไปให้พวกเขา
“พวกเจ้าทุกคนควรจะกลับไปได้แล้ว ข้าจะช่วยเขาอย่างแน่นอน!” เสียงของนางเย็นชาเล็กน้อย แต่ก็ยังถือถ้วยยาเดินเข้าไปในห้องอย่างใจเย็น โดยที่ไม่หันไปมองพวกเขาอีก
ภายในบรรยากาศเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง
หลานปิง นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยมือปิดหน้าของเขา แม้ว่านางจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ แต่นางก็สังเกตเห็นนิ้วมือของเขาสั่นเล็กน้อย หมอหลวงซานยืนอยู่ข้างๆ กำลังลูบไหล่ของเขาด้วยท่าทางเศร้าโศก
ฮวาจูอวี้เดินเข้าไปที่เตียงและวางถ้วยยาลงบนโต๊ะ “ท่านหลานปิงและท่านหมอหลวงซาน พวกท่านทั้งคู่ควรออกไปรอข้างนอกก่อน”
ทั้งสองตกใจและต่างก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองมาที่นางอย่างงงงวย
“หยวนเป่าเจ้าตั้งใจจะทำอะไร?” เส้นแห่งความหวังที่โผล่ขึ้นมาในดวงตาที่เศร้าสร้อยของหลานปิง เป็นเรื่องยากที่จะปิดบัง
“ก็ต้องช่วยท่านเสนาแน่นอนอยู่แล้ว พวกท่านทั้งสองควรออกไปก่อน กลับมาเมื่อข้าบอกเท่านั้น มิฉะนั้นข้าไม่สามารถรับประกันว่าเขาจะอยู่รอดพ้นคืนไปได้หรือไม่! อะไร? ท่านยังไม่ไว้วางใจข้าอีกหรือ?” ฮวาจูอวี้ถามอย่างเย็นชาในขณะที่นางขมวดคิ้วขึ้น
หลานปิงและหมอหลงงซาน จ้องมองไปที่ฮวาจูอวี้ ด้วยความไม่เชื่อ ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังนี้ พวกเขาไม่ได้คาดหวังให้ขันทีตัวเล็กๆ คนนี้มาบอกว่าเขาจะช่วยชีวิตท่านเสนาจี่
“ข้าเชื่อใจเจ้า!” พวกเขากล่าวขึ้นในขณะที่พวกเขาพยักหน้าและเดินออกไป ก่อนจะปิดประตูลงอย่างเงียบๆตามหลังพวกเขาไป
ห้องถูกทิ้งไว้ในความเงียบ ฮวาจูอวี้นั่งลงช้าๆข้างเตียง แล้วก็มองไปที่จี่เฟิงหลี่ เขานอนอยู่ที่นั่นอย่างไร้มีชีวิตชีวา ด้วยดวงตาที่ปิดสนิท ผิวของเขาซีด เกือบจะกลายเป็นโปร่งใส นำพาความโดดเด่นมาให้กับคิ้วสีดำที่โดดเด่นของเขาเป็นอย่างมาก
นางลุกขึ้นยืนและเดินไปที่โต๊ะเพื่อเอาถ้วยชามา พร้อมกับดึงกริชเล็ก ๆ ออกมาก่อนจะกรีดแขนของตัวเอง เลือดสีแดงสดไหลลงไปมายังข้อมือที่ขาวราวกับหิมะของนาง ก่อนจะลงมารวมตัวกันอยู่ในถ้วยทีละหยดๆ
เมื่อมีการระบาดของโรคในตะวันตกเหลียงในปีนั้น มียาที่ใช้ในการต่อสู้และควบคุมการระบาดของโรค แต่ก็มีผู้ป่วยหนักมากจนทำให้ยาไม่ได้ผล แล้วในที่สุดหมอผู้รักษาได้ใช้วิธีการนำเลือดของผู้ที่หายแล้วมาเป็นยา วิธีการนี้เป็นสิ่งที่หมอได้บอกกับนางอย่างลับๆ
ฮวาจูอวี้ ไม่เคยคิดว่าวันนี้นางจะต้องใช้วิธีนี้ นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและใช้เป็นผ้าพันแผล ก่อนจะค่อยๆหยิบถ้วยชาและเดินไปที่เตียง
นางจ้องมองไปในถ้วยชาที่มีน้ำสีแดงที่เป็นเลือดของตัวนางเองอยู่ นางไม่เคยคาดคิดว่าวันหนึ่งจะต้องใช้เลือดของนางเพื่อช่วยศัตรูของนาง!
นางช่วยจับจี่เฟิงหลี่ให้เอนหลังพิงไปที่หัวเตียงและป้อนเลือดให้ของเขาด้วยช้อน แต่เนื่องจากที่เขาหมดสติ เลือดที่นางป้อนเขาจึงได้ไหลออกจากมุมปากของเขา
ฮวาจูอวี้ถึงกับไม่พอใจ นี่คือเลือดของนางและนางก็ไม่ต้องการที่จะกรีดมันออกมาเพื่อที่จะใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้
หลังจากจ้องมองไปที่เลือดอยู่ชั่วครู่ นางก็ตัดสินใจได้ นางกัดฟันของนางก่อนจะเททุกหยดของเลือดจากถ้วยลงไปในปากของนาง จากนั้นนางก็ลดระดับริมฝีปากของนางลงไปหาจี่เฟิงหลี่