World of Hidden Phoenixes - ตอนที่ 92.1
เมื่อฮวาจูอวี้ ออกจากห้องของจี่้ฟิงหลี่ไป ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นแล้ว หลังจากที่ตื่นอยู่ตลอดทั้งคืนนางรู้สึกเหนื่อยมาก
แต่เหตุผลหลักที่ทำให้นางเหนื่อยล้าก็คือการเสียเลือดไป 2 ถ้วย แม้ว่านางจะมีศิลปะการต่อสู้และมีกำลังภายใน นางก็ยังไม่สามารถรับมือกับการสูญเสียเลือดไปมากเช่นนี้ได้ นางเดินตรงที่ห้องของนางด้วยย่างก้าวที่เบาและเร็ว ก่อนจะล้มตัวลงไปทันทีที่นางพบเตียงของนาง
เมื่อตื่นขึ้นมา นางก็รู้สึกดีขึ้นมาก นางกินอาหารของนางอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปเพื่อเตรียมยา หลังจากส่งยาไปให้ผู้ป่วยรายอื่นๆเสร็จ ในที่สุดนางก็มุ่งหน้าไปที่ห้องของจี่เฟิงหลี่ นางประหลาดใจเมื่อเห็นว่าที่หน้าประตูของเขามีคนเฝ้าอยู่สองคนคือจี่สุย และจี่ คนที่หลงอยู่ในค่ายกลของนางที่ภูเขาฉิ่งเฉิง จู่ๆ จี่สุยก็ยกมือขึ้นเพื่อปิดกั้นทางของนาง ก่อนจะรับชามยาไปและพูดขึ้น “ท่านเสนา มีคำสั่ง เขาอยากจะพักผ่อนและอย่าปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้าไปรบกวนเขา เนื่องจากท่านเสนามีเราอยู่แล้ว หยวนเป๋าเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยดูแลเขาและสามารถทำงานอื่นๆของเจ้าได้ “
หัวคิ้วของฮวาจูอวี้ขมวดขึ้น ก่อนจะหัวเราะเยาะความไร้สาระในฉากปัจจุบันนี้
นางเพิ่งลากเขาออกจากประตูนรก ตอนนี้นางกลับถูกมองว่าเป็นคนนอก นาง ‘ไม่ต้องมาคอยดูแลเขา’? เขาคิดว่านางชอบที่จะมาดูแลเขาหรืออย่างไร? ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็ให้ความสะดวกมากขึ้นสำหรับนาง นางยิ้มขึ้นพร้อมกับส่งชามยาไปและหันหลังจากไป
จี่เฟิงหลี่ที่ผิงอยู่กับหัวเตียงของเขา มองผ่านฉากประตูเห็นเป็นภาพเงาของฮวาจูอวี้ ค่อยๆจางหายออกไปเรื่อยๆ
จี่สุยเข้าไปพร้อมกับยา จี่เฟิงหลี่จ้องมองไปที่ชามยาก่อนจะเห็นของเหลวสีน้ำตาลเข้มที่ยังร้อนอยู่ จากกลิ่นจองมันเขาสามารถบอกได้ว่ามันจะขมมาก ในขณะที่จิบยาลงไป เขาก็ช่วยไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นจากความขมของมัน
เมื่อได้เห็นหัวคิ้วที่ขมวดของเขา จี่สุย รีบนำจานของหวานที่เตรียมไว้มาอย่างรวดเร็ว “ท่านเสนา เนื่องจากยานั้นมีรสขมมาก ลองของหวานหน่อยไหมขอรับ”
“ไม่จำเป็น” จี่เฟิงหลี่ตอบ
จี่เฟิงหลี่นั่งอยู่บนเตียงของเขาและใช้เวลาจิบยาไปทีละนิด ๆ ในแต่ละครั้ง แม้ว่าเขาจะขมมากเขาก็ยังคงดื่มแบบนี้ต่อไป เมื่อเห็นแบบนี้ หัวคิ้วก็จี่สุยก็ยิ่งขมวดมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น “ท่านเสนา ยาเป็นสิ่งที่แตกต่างจากการเพลิดเพลินไปกับชา ท่านควรจะบีบจมูกของท่านและดื่มมันลงไปในครั้งเดียว ถ้าท่านยังคงดื่นอยู่เช่นนี้มันก็จะยิ่งขมมากขึ้น “
จี่เฟิงหลี่มองลงไปที่ชามยาของเขา ก่อนจะพูดขึ้น “เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ? ข้าไม่รู้”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้บีบจมูกของเขา เขาก็ยกชามยาขึ้นแล้วดื่มมันลงไปในครั้งเดียว จากนั้นก็ตามด้วยของหวาน
จี่สุย และจี่เยวี่ย ออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ ทั้งสองต่างรู้สึกงงงวยเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าท่านเสนาไม่เคยดื่มยามาก่อน ในอดีตเขาก็ดื่มมันลงไปในครั้งเดียว ทำไมเขาถึงบอกว่าเขาไม่รู้ พวกเขารู้สึกสงสัยมาก
ห้าวันต่อมาก็มีเพียงไม่กี่คนที่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ สภาพของจี่เฟิงหลี่ ก็คงตัวขึ้นและหมอหลวงซ่านก็อยู่ในระหว่างการรักษาพิษของเขา
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาฮวาจูอวี้ไม่เคยเห็นจี่เฟิงหลี่เลย จี่สุย และจี่ เยวี่ย ยังยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกประตู เมื่อใดก็ตามที่นางนำยาไปให้ พวกเขาก็จะรับมันไปและบอกว่าจี่เฟิงหลี่ี่กำลังพักอยู่และไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะได้พบใคร ไม่ใช่ว่านางอยากเจอเขาเสียหน่อย นางคิดกับตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในวันหนึ่งนางก็ต้องการที่จะพบเขาเพื่อแนะนำให้เขาเคลื่อนทหารที่ประจำการอยู่นอกหมู่บ้านออกไปประมาณหนึ่งเมตรและมอบงานส่งยาให้กับทหารที่ฟื้นตัวแล้ว การทำเช่นนี้การติดต่อระหว่างทหารด้านนอกกับผู้ป่วยจะลดลงและช่วยลดการแพร่กระจายของโรคได้มากขึ้นอีกด้วย
แต่จี่เฟิงหลี่ ไม่ได้พบนาง เขาเพียงแค่บอกให้จี่สุย ส่งผ่านข้อความที่ว่าคำขอของนางได้รับอนุมัติแล้วเท่านั้น
ฮวาจูอวี้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนแรกเมื่อนางได้เห็นจี่เฟิงหลี่ ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อที่จะรับมือกับน้ำท่วม ความคิดที่ว่าเขาไม่ได้เลวทรามเกินกว่าการจะเยียวยาได้ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของนาง แต่จะมีใครในโลกนี้จะปฏิบัตกับผู้ช่วยชีวิตของพวกเขาในแบบที่เขากำลังปฏิบัติกับนางอยู่หรือไม่? ถ้าไม่ใช่เพราะนางเขาคงจะตายไปนานแล้ว
แต่บอกตามตรง การที่เขาไม่ต้องการที่จะพบนางก็ทำให้นางลดปัญหาในการคิดวิธีที่จะจัดการกับเขาไปได้มาก มันน่าพอใจและสะดวกสบายไม่น้อย ดังนั้นนางจึงมุ่งเน้นไปที่การเตรียมยาสำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
ในหมู่บ้านคนถือว่านางเป็นหมอในฐานะผู้ช่วยชีวิตของพวกเขา พวกเขาปัฏบัติกับนางด้วยความเคารพมากกว่าหมอหลวงซานเสียอีก ถ้าไม่ใช่นางที่เป็นคนเตรียมยาด้วยตัวเอง ประชาชนก็จะไปไกลถึงขนาดปฏิเสธที่จะดื่มมัน
ในพริบตาเวลาก็ผ่านไปสิบวัน จำนวนผู้ที่ฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ผู้ป่วยเข้ามาในหมู่บ้านก็น้อยลง การระบาดของโรคก็ค่อยๆที่จะเริ่มควบคุมได้
อยู่มาวันหนึ่งในกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ามามีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุแค่ 1 ขวบและยังคงต้องป้อนนมอยู่ แม่ของนางป่วยและไม่สามารถดูแลนางได้ ดังนั้นฮูหยิน ที่เพิ่งฟื้นตัวจึงตัดสินใจที่จะดูแลนางชั่วคราว ผู้หญิงคนนี้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็ก แต่นางเริ่มกังวลเพราะเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ไม่ยอมดื่มยา
ยานั้นขมมาก แม้แต่ผู้ใหญ่ก็พบว่ามันยากที่จะกลืนมันลงไป ไม่ต้องพูดถึงเด็กตัวเล็กๆ ที่จะปฏิเสธที่จะดื่มมัน เด็กจะอาเจียนทุกครั้งที่ถูกบังคับให้ดื่มมัน ฮูหยินพาเด็กไปหาฮวาจูอวี้ และอธิบายถึงสถานการณ์นี้อย่างเศร้าใจ
“ท่านหยวนเป่า เด็กคนนี้ปฏิเสธที่จะดื่มยา นางจะดีขึ้นได้อย่างไรถ้ายังคงเป็นเช่นนี้อยู่?”
ฮวาจูอวี้อยู่ในระหว่างการเตรียมยาเมื่อฮูหยินเข้ามา นางก็ขอให้ใครบางคนคอยดูไฟให้นาง ก่อนจะไปดูเด็กที่กำลังไอระหว่างเสียงร้องและหน้าผากของนางก็กำลังร้องเป็นไฟด้วยอาการไข้
“ฮูหยิน ข้ายังคงมีวิธี แต่ข้าไม่รู้ว่าฮูหยินจะยินดีที่จะลองใช้มันหรือไม่” ฮวาจูอวี้ พูดขึ้นด้วยเสียงที่เบา
“ฮูหยิน เมื่อท่านป่วย ท่านได้รับยาค่อนข้างมาก ถูกต้องหรือไม่? ยานี้ได้รวมกันอยู่ในเลือดของท่านแล้ว ดังนั้นท่านควรจะแทงนิ้วของท่านและปล่อยให้เด็กดื่มเลือดของท่านและดูว่านางจะดื่มหรือไม่ “ฮวาจูอวี้พูดขึ้นอย่างสุภาพ
ฮูหยินผู้นี้เพิ่งฟื้นตัว ดังนั้นเลือดของนางน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าของฮวาจูอวี้
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ฮูหยินก็พยักหน้าและพูดขึ้น “เด็กคนนี้เป็นทุกข์มาก ถ้าข้าสามารถช่วยนางได้ ด้วยการทำเช่นนั้นข้ายินดีที่จะลองดู! ขอบคุณท่านหยวนเป่า! “
ฮูหยิน พาเด็กออกไปและฮวาจูอวี้ก็ กำลังจะกลับไปเตรียมยา
แต่เมื่อนางหันกลับมา นางก็ได้เห็นการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจบนใบหน้าของทุกคน ในขณะที่พวกเขาร้องตะโกนขึ้นด้วยความนับถือ “ท่านเสนา!”
นางตกใจ ก่อนจะก็หันไปมองดูจี่เฟิงหลี่ที่ประตูห้องครัว
จี่เฟิงหลี่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะพยักหน้าขึ้นเล็กน้อยเป็นการรับคำทักทาย รอยยิ้มที่คุ้นเคยอยู่บนริมฝีปากของเขา ในขณะที่ดวงตาที่ลึกและมืดของเขามีความสงบตามปกติ แม้ว่ามือที่ไขว่อยู่ข้างหลังของเขาสั่นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ก็ตาม
ฮวาจูอวี้เหลือบมองไปที่จี่เฟิงหลี่ เนื่องจากที่ไม่ได้พบเขาหลายวัน นางจึงได้สังเกตเห็นว่าผิวของเขาดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก ดูเหมือนว่าเขาฟื้นตัวขึ้นมาอย่างเต็มที่แล้วจึงออกมาข้างนอก แต่เมื่อมองไปที่ชายที่เย็นชาและไร้ความปรานีคนนี้ นางอยากหันกลับไปมองดูหมอยาขมแทนมากกว่า
ยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบ จี่เฟิงหลี่มองผ่านๆไปที่ฮวาจูอวี้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะหันหลังจากไป เขาก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว แขนเสื้อของเขากระเพื่อมไปตามสายลม เขารู้สึกราวกับว่ามีเสียงกรีดร้องดังออกมาส่วนลึก ๆ ในตัวเขาและคล้ายคลึงกับราวกับว่าเขาถูกน้ำท่วมที่ไหลออกมาจากเขื่อนที่ทรงพลังกระแทกเข้า ทำให้ถึงกับหอบหายใจขึ้น