World of Hidden Phoenixes - ตอนที่ 94.2
หลานปิง ยืนแข็งค้างอยู่ในความเงียบ ด้วยความรู้สึกที่ผสมกันไปหมดอยู่ภายใน
ฮวาจูอวี้ส่งเสียงเย็นขึ้น ก่อนจะหันหลังและจากไปที่เรือนซินหยวนของนาง
เช้าตรู่หลานปิง มาแจ้งฮวาจูอวี้ ว่านางต้องตามจี่เฟิงหลี่ ไปที่ราชสำนัก เนื่องจากที่เขายังคงมองนางด้วยความแปลกประหลาดในสายตาของเขา นางจึงรู้สึกรำคาญอย่างมาก
จี่เฟิงหลี่ นั่งอยู่ในรถม้า ในขณะที่ฮวาจูอวี้ขี่ม้ากับทหารคุ้มกันคนอื่น ๆ ในขณะเดินตรงไปยังพระราชวัง
พระราชวังยังคงงดงามและยิ่งใหญ่ แต่คนนั่งบนบัลลังก์ทองกลับถูกแทนที่ไปเป็นคนอื่นแล้ว
สองสามวันนี้จี่เฟิงหลี่ก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันการต่อสู้ ในเดือนที่ 8 ของทุกปีในอาณาจักรใต้จะมีการจัดแข่งขันการต่อสู้เพื่อคัดเลือกแม่ทัพจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันตัว แต่เนื่องจากฮ่องเต้ก่อนหน้านี้ไม่ต้องการปล่อยให้คนจาก เจี้ยงหู และวิธีที่หยาบคายของพวกเขาเข้าสู่ราชสำนัก ดังนั้นการแข่งขันจึงถูกยกเลิกไปเกือบทศวรรษแล้ว แม่ทัพคนปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นคนที่ได้รับการเสนอชื่อจากเจ้าหน้าที่หรือไม่ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
ฮ่องเต้หวงฝู่ อู๋ ฉาง ตัดสินใจที่จะคืนสถานะของการแข่งขันในการค้นหาผู้ที่มีพรสวรรค์ใหม่ ๆ แต่คราวนี้จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยคือให้มีการตรวจสอบสภาพพลเรือน และมีเพียง 500 คนเท่านั้นที่ผ่านการตรวจสอบ การแข่งขันที่จะเกิดขึ้นจะลดรายชื่อลงให้เหลือเพียง 100 รายชื่อเท่านั้น
จี่เฟิงหลี่ และผู้ตรวจสอบรายอื่น ๆ มุ่งหน้าไปที่เวทีสำหรับการแข่งขันการต่อสู้ จึงธรรมชาติที่ผู้คุ้มกันส่วนตัวของเขา อย่างฮวาจูอวี้จะไปกับจี่เฟิงหลี่ด้วย
การแข่งขันการต่อสู้ในวงกว้างเต็มไปด้วยผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่มาจากทุกประเภทของพื้นหลังของการต่อสู้ เป็นการเปิดหูเปิดเปิดตาของฮวาจูอวี้ไม่น้อย ในขณะที่นางกำลังเฝ้าดูการแข่งขันอยู่ จู่ๆ นางก็ได้ยินผู้ตรวจสอบคนอื่นเรียกชื่อของนาง หยวนเป่า แต่นางคิดว่านางได้ยินผิดไป แต่ผู้ตรวจสอบก็เรียกชื่อของนางขึ้นอีกครั้ง
นางรู้สึกตกตะลึงไปเล็กน้อยเมื่อถังโจวพูดขึ้น “หยวนเป่า เร็วเข้ารีบขึ้นบนเวที เนื่องจากเจ้าเป็นหนึ่งในคนของท่านเสนาแล้ว เขาจะไม่ปล่อยให้พรสวรรค์ของเจ้าเสียไปเปล่าๆ “
“ท่านหมายถึงท่านเสนาลงชื่อของข้าลงไปในการแข่งขันด้วยหรือ” อวาจูอวี้ถามขึ้นด้วยท่าทางที่จริงจัง
“ถูกต้องแล้ว” ถังโจว ตอบโดยไม่ได้มองไปทางนางแม้แต่น้อย เพียงแค่มองไปข้างหน้ายังผู้ตรวจสอบที่อยู่บนเวที
ฮวาจูอวี้ยังคงยืนอยู่ด้านหลังของจี่เฟิงหลี่
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยทักษะของนาง แต่นางเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจี่เฟิงหลี่ ถ้านางปฏิเสธมันอาจจะทำให้เขาสงสัย นางลังเลใจและหลังจากคิดได้แล้ว นางก็เดินไปหาจี่เฟิงหลี่และพูดขึ้น “ท่านเสนาทักษะการต่อสู้ของข้ามีขีดจำกัด ข้ากลัวว่าข้าจะไม่สามารถแข่งขันได้ “ในตอนท้ายนางก็รู้สึกมันจะว่าเป็นการดีที่สุดที่จะไม่เข้าร่วม
จี่เฟิงหลี่ ไม่โกรธและเพียงแค่กวาดสายตามาที่นาง ก่อนที่จะพูดขึ้น “ทำตามที่เจ้าต้องการ”
เมื่อผู้ตรวจสอบทวนชื่อของนางเป็นครั้งที่สาม ถังโจวก็สั่งให้ใครบางคนส่งคำไปให้ผู้ตรวจสอบ ก่อนที่เขาจะเรียกผู้เข้าร่วมรายอื่นๆ ต่อไป
ยืนอยู่ข้างหลังจี่เฟิงหลี่ ฮวาจูอวี้ ยังคงรู้สึกไม่สงบสักเท่าไหร่ นางไม่เข้าใจว่าทำไมจี่เฟิงหลี่ ถึงยอมให้นางเข้าร่วมการแข่งขัน เป็นไปได้ไหมที่เขาได้ให้ความสำคัญกับความสามารถของนางจริงๆ? เขามีความจริงใจอย่างแท้จริงในการที่จะให้นางทำงานให้เขาหรือ?
หลังจากผ่านไปสองวัน รายชื่อก็ลดลงเหลือน้อยกว่า 100 คนและการแข่งขันครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นภายใน 3 วัน
บ่ายวันนั้น จี่เฟิงหลี่ได้เรียกฮวาจูอวี้เข้าไปที่ห้องของเขา
นับตั้งแต่วันนั้นฮวาจูอวี้ ก็หลีกเลี่ยงจี่เฟิงหลี่ เว้นเสียแต่นางจะถูกเรียกตัวและโชคดีที่เขาไม่ค่อยเรียกนาง
ดังนั้นนางจึงสงสัยว่าทำไมเขาถึงเรียกนางในวันนี้
ทันทีที่นางเดินเข้าไปในห้อง จี่เฟิงหลี่ ก็ได้โยนรายงานทางทหารลงไปบนโต๊ะและส่งสัญญาณให้ ฮวาจูอวี้ ดูมัน
นางเต็มไปด้วยความงงงวย ก่อนจะหยิบรายงานทางทหารขึ้นมาและมองดูมันแล้วหัวใจที่สงบของนางก็กระวนกระวายขึ้นทันที
ภาคเหนือของราชอาณาจักรใต้ถูกรุกราน!
นางคิดว่าหลานปิง เพียงแค่พยายามที่จะทำให้นางกลัวตอนที่อยู่ที่เซวียนโจว เมื่อเขาเล่าให้นางฟังเกี่ยวกับอาณาจักรเหนือและการเคลื่อนไหวที่ชายแดน ไม่ถึงเดือนที่ผ่านมา ทางตอนเหนือของราชอาณาจักรใต้ก็มีกองกำลังติดอาวุธอยู่ในพรมแดนของอาณาจักรใต้แล้ว
อาณาจักรทั้งสองได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่ถึงครึ่งปีและเสี่ยวหยิน ก็กำลังทำลายมัน เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อฮวาจูอวี้ต้องอยู่ในราชอาณาจักรเหนือ นางได้ช่วยเสี่ยวหยิน เพื่อนำสันติสุขมากลับอาณาจักรและปราบปราม 3 เผ่าที่สำคัญ นี่เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพของอาณาจักรเหนือ ทำให้พวกเขามีอำนาจในการโจมตีอาณาจักรใต้ได้
ด้วยความพยายามอย่างมาก นางได้ระงับความตกใจของนางเอาไว้และค่อยๆวางรายงานลงไปบนโต๊ะ เมื่อนางเงยหน้าขึ้นและพบกับสายตาที่จริงจังของจี่เฟิงหลี่ นางก็เห็นเพียงว่าดวงตาที่ดำมืดและมืดกว่าค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ด้วยซ้ำ
“ท่านเสนา สถานการณ์ในปัจจุบันคือสงครามหรือ?” ฮวาจูอวี้ ถามขึ้นอย่างจริงจัง
จี่เฟิงหลี่ตอบด้วยรอยยิ้มที่เลือนราง “แม่ทัพผู้รักษาชายแดนทางเหนือได้นำทหาร 30,000 คนเข้าต่อสู้กับกองทัพของเสี่ยวหยินที่ริมฝั่งแม่น้ำ กองทัพของเราถูกซุ่มโจมตีและแม่ทัพแนวหน้าก็ถูกสังหาร ทหาร 30,000 รอดชีวิตเพียง 5,000 คน ก่อนที่จะหนีไปยังเมืองหยางกวนซึ่งพวกเขากำลังปกป้องอยู่ ”
ฮวาจูอวี้ถึงกับสั่นขึ้น นางไม่ได้คาดคิดว่าเสี่ยวหยินจะสามารถเข้าถึงหยางกวน ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ระหว่างอาณาจักรใต้และอาณาจักรเหนือจะกลายเป็นสงครามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแท้จริงหรือ?