World of Warcraft ราชันต่างภพ - ตอนที่ 527
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
ดินแดนไลอ้อนขยายอาณาเขตออกไปอีกครั้ง มีหลายเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มันไม่ใช่เพียงดินแดนอันยากแค้นอีกต่อไป
เซียวอวี๋เตรียมที่จะจัดสร้างเมืองขึ้นเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างดินแดนไลอ้อนและดินแดนของรัฐเว่ย เมื่อเป็นเช่นนั้น ทั้งดินแดนไลอ้อนและรัฐเว่ยก็จะถูกผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียว ถึงตอนนั้นเซียวอวี๋ก้จะกลายเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคนี้
หลังจากยึดครองรัฐเว่ยได้แล้ว สิ่งแรกที่เซียวอวี๋ทำคือการส่งคนไปประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนที่นี่ได้รับทราบถึงนโยบายของดินแดนไลอ้อน และประชาชนในอาณาเขตนี้เองก็จะได้รับการปฏิบัติในแบบเดียวกัน
การโฆษณานี้ได้ผลอย่างมาก นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องกระทำหลังจากยึดครองอาณาเขตได้ มิเช่นนั้นประชาชนก็อาจจะตื่นตระหนกและก่อปัญหาขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ประชาชนส่วนใหญ่ในรัฐเว่ยก็เริ่มยอมรับเซียวอวี๋ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตำแหน่งต่างๆ เซียวอวี๋ก็ให้พวกเขาคงตำแหน่งไว้ เป็นเพราะเดิมที ทางฝั่งของเขาก็ขาดแคลนผู้มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว เขายังไม่อาจหาคนจำนวนมากมาทดแทนตำแหน่งเหล่านี้ได้
เซียวอวี๋สอนพวกเขาและให้พวกเขาปฏิบัติตามให้ดี แล้วพวกเขาจะได้รับรางวัล และหากว่ากระทำได้ไม่ดีพวกเขาก็จะถูกลงโทษ
พวกเขารู้สึกโชคดีอย่างมากที่ยังรักษาตำแหน่งของตนไว้ได้ เมื่อเซียวอวี๋ย้ำเตือนพวกเขา พวกเขาก็หวาดกลัวและสาบานว่าจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
สำหรับเหล่าผู้บัญชาการทางทหาร แม่ทัพหลายตำแหน่งถูกแทนที่ด้วยคนของเซียวอวี๋ และหากว่าบางคนยังคงต้องการจะทำงานให้เซียวอวี๋ พวกเขาก็จะต้องสมัครเข้ากองทัพและค่อยๆไต่เต้าตำแหน่งขึ้นมาใหม่
ชูฉีและบิดาของเขา ลี่เหอที่ถูกจับกุมตัวไว้ เซียวอวี๋ไม่ได้ออกคำสั่งประหารพวกเขา หากแต่ปล่อยพวกเขา กระนั้นพวกเขาก็ยังถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าทำงาน นั่นเพราะพวกเขาเคยทรยศต่อรัฐเว่ยมาก่อน คนประเภทนี้ย่อมไม่ควรค่าแก่การรับตัวไว้ใช้งาน
กระนั้นสองพ่อลูกคู่นี้ก็รู้สึกว่าดีมากแล้ว เดิมทีพวกเขาคิดว่าเซียวอวี๋จะต้องไม่ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อ
ผู้ที่มีความแค้นโดยตรงกับพ่อลูกคู่นี้ก็คือมู่หลี่ ตัวเขาถูกสองคนนี้ให้ร้ายจนต้องกลายเป็นศัตรูกับรัฐเว่ย อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการช่วยเหลือจากเซียวอวี๋ ทั้งยังได้รับประโยชน์มากมายอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โกรธแค้นพ่อลูกคู่นี้เท่าใดนัก
ซึ่งอันที่จริง เขาอยากจะขอบคุณอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ หากไม่ใช่เพราะการใส่ร้ายของลี่เหอ ตัวเขาก็คงไม่ได้เข้าร่วมกับดินแดนไลอ้อน และคงไม่ได้ดำรงตำแหน่งสุงส่งอย่างเช่นทุกวันนี้
ที่ดินแดนไลอ้อน ในด้านการทหารแล้ว มู่หลี่และหลงฮุ่ยนับเป็นผู้มีอำนาจอันดับต้นๆและรับคำสั่งจากเซียวอวี๋โดยตรง กล่าวได้วว่าทั้งคู่อยู่ใต้คนเพียงหนึ่งคน หากแต่อยู่เหนือผู้คนนับล้าน
เซียวอวี๋ไว้ใจมู่หลี่อย่างมาก เขาให้อำนาจในการพัฒนากองทัพต่อพวกเขา และนั่นทำให้อำนาจด้านกองทัพของดินแดนไลอ้อนพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากว่าเขายังคงอยู่ในรัฐเว่ย เขาก็ไม่รู้ว่ารัฐเว่ยจะมีวันเช่นนี้ได้หรือเปล่า แล้วเขาจะยังเคียดแค้นต่อลี่เหอไปทำไม?
เมื่อได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เซียวอวี๋ได้คืนคฤหาสน์หลังเดิมให้เขา นี่ทำให้ครอบครัวของพวกเขามีความสุขมาก
แม้ว่าที่เมืองไลอ้อนจะดียิ่ง แต่อย่างไรเสีย ที่นี่ก็เคยเป็นบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่มานาน ตอนที่พวกเขาถูกขับไล่ออกไปจึงเศร้าอย่างมาก
เวลานี้ พวกเขาได้กลับมาบ้านเดิมที่เคยอยู่แล้ว
มู่หลี่นั้นมีชื่อเสียงอย่างมากภายในรัฐเว่ย และเมื่อมู่หลี่กลับมาแล้ว ด้วยชื่อเสียงอันดีของเขา มันจึงง่ายที่จะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เซียวอวี๋ก็คร้านจะลงไปจัดการเอง เขาได้ฝึกบุคคลากรขึ้นมาเพื่อสะสางเรื่องราวเหล่านี้ คำขอของเขามีเพียงแค่อย่าทำให้เกิดปัญหาใหญ่
ในอดีต หากว่าอาณาจักรแพ้สงคราม พวกทหารส่วนใหญ่ก็จะถูกจับล่ามโซ่และส่งไปเป็นทาส แต่เซียวอวี๋ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้มีการค้าทาส บรรดาผู้ที่เคยเป็นทาสก็ให้พ้นสถานะทาส
หากว่าพวกเขาต้องการจะเป็นทหารต่อ พวกเขาก็จะได้รับการดูแลเช่นเดียวกับไพร่พลของดินแดนไลอ้อน หรือหากว่าพวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาก็สามารถกลับไปเป็นพลเรือน
นโยบายของเซียวอวี๋ทำให้พวกเขารู้สึกดีกว่ากว่าอยู่ภายใต้กฏของผู้ปกครองคนเก่า
หลายวันมานี้ เซียวอวี๋ไม่ได้ทำอย่างไรกับนิโคลัส เซียวอวี๋นั้นมีแผนการในใจอยู่แล้ว มันยากที่จะหาคู่ต่อสู้ที่สามารถตามความคิดของเขาได้ทัน ซึ่งแน่นอนว่านิโคลัสนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะพบพาน
ความสามารถของชายผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย หากว่าเซียวอวี๋ไม่มีระบบของเกมวอร์คราฟมาช่วย เกรงว่าเขาคงไม่อาจเ็นคู่ต่อสู้ของนิโคลัส
ในหลายวันที่ผ่านมา เซียวอวี๋และนิโคลัสได้แข่งขันกันหลายเกม ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ผลออกมาสูสีอย่างยิ่ง
“ในเกมนั้น ควรเป็นข้าที่ได้ชัย” นิโคลัสแค่นเสียง
“ไร้สาระ เห็นชัดๆว่าข้าชนะ” เซียวอวี๋แค่นเสียง
“เหอเหอ วาจาของเจ้าไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ?”
“เพ้ย พูดอะไรของเจ้า….เอาเถอะ ข้าไม่สน เกมนั้นควรเป็นข้ามากกว่าที่ชนะ….”
ขณะที่ทั้งสองยังคงถกเถียงอย่างไร้สาระต่อไปนั้นเอง คนผู้หนึ่งก็เร่งรีบเข้ามารายงาน “ท่านลอร์ดขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” พลส่งสารกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“หืม เกิดเรื่องอะไร? หรือเมืองไลอ้อนโดนบุก?” เซียวอวี๋ถามอย่างจริงจัง เขาคิดไม่ออกจริงๆว่าเรื่องอะไรถึงทำให้พลส่งสารดูตื่นตระหนกขนาดนี้
“ไม่ใช่ขอรับ”
“อะไรทำให้เจ้าตื่นตระหนกเพียงนี้? ฟ้าถล่มลงมาหรือ? แต่ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา ข้าก็จะรับมันไว้เอง เจ้ากลัวอะไร?” เซียวอวี๋สังเกตท่าทีไม่สู้ดีของผู้ส่งสาร พลางคิดในใจ ‘ต่อให้เกิดเรื่องอะไรก็ไม่น่าจะทำให้เขาวิตกได้ขนาดนี้’
“ไม่ใช่ฟ้าจะถล่มลงมาขอรับ แต่มีบางสิ่งที่อาจจะถล่มลงมา” พลส่งสารกระพริบตาปริบๆ
“เล่ามา เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เมื่อคิดดูแล้ว เซียวอวี๋ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับข้าศึกบุกจู่โจม
หากว่ามีทัพแกร่งของศัตรูปรากฏขึ้นจริง ตราบใดที่เขายังมีฐานทัพของระบบอยู่ เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย
“เรียนท่านลอร์ด เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืน ไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร มีเมืองลอยฟ้าลอยมาอยู่เหนือเมืองไลอ้อนขอรับ! ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของมันยังใหญ่กว่าเมืองไลอ้อนทั้งเมือง….หากว่ามันถล่มลงมา….เกรงว่าเมืองไลอ้อนคงเหลือแต่ซากขอรับ” พลส่งสารกล่าวตอบอย่างวิตก
“มารดามันเถอะ เจ้าว่าอะไรนะ? เมืองลอยฟ้า? เมืองมันจะไปลอยได้อย่างไร?” เซียวอวี๋คิดว่าสมองของคนผู้นี้คงเพี้ยนไปแล้ว
“ใช่ขอรับ ข้าเห็นมันมากับตา มันเป็นเมืองจริงๆขอรับ ขนาดของมันใหญ่อย่างยิ่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายความตายแผ่ออกมาราวกับเป็นเมืองของคนตาย…”
“มารดามันเถอะ!” ได้ยินคำรายงาน เซียวอวี๋ก็สบถออกมา ขณะที่คิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง
นครลอยฟ้า แน็กแรม!