World of Warcraft ราชันต่างภพ - ตอนที่ 575
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
“กรอม หาเชือกมาไต่ลงไป ดูว่าด้านล่างมีศพของมันหรือไม่ ร่างของมันล้ำค่า ต้องกู้ขึ้นมา” เซียวอวี๋เรียกกรอมมาสั่งการ
กรอมกลอกตามองบน หน้าที่กินแรงเช่นนี้มักตกใส่หัวเขาอยู่ร่ำไป
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก กรอมนำเชือกหลายเส้นออกมาจากแหวนมิติก่อนจะมัดต่อกันทีละเส้น จากนั้นจึงเหวี่ยงเชือกโรยตัวลงไป ขณะที่ปลายเชือกด้านบนมีคาร์นคอยจับไว้อยู่
“ถึงก้นหลุมหรือยัง?” เซียวอวี่ตะโกนถาม
“ยังขอรับ”
“ถึงหรือยัง?” หลังจากครู่หนึ่งเซียวอวี๋ก็ถามอีก
“ยังขอรับ”
“ให้ตายเถอะ ต่อเชือกให้ยาวกว่านี้” เซียวอวี๋หันไปสั่งผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลัง คราวนี้เซียวอวี๋สั่งให้หาเชือกเท่าที่จะหาได้มาต่อกันจนยาวกว่าเดิมหลายเท่า
“ถึงหรือยัง? เชือกข้างบนใช้หมดแล้ว” เซียวอวี๋ชะโงกหน้าตะโกนลงไป
“ด้านล่างไม่มีสิ่งใดอยู่ขอรับ” เสียงกรอมตะโกนขึ้นมา
“ท่านย่ามัน หายไปในอากาศแบบนี้มันไร้เหตุผลสิ้นดี! แล้วที่ลงทุนลงแรงไปเล่า?” เซียวอวี๋โวยวายก่อนจะให้คาร์นดึงกรอมขึ้นมา
“ทุกคน ต้องขออภัยด้วย เวทของท่านชัคคุนได้ทำลายร่างของคฑูนจนไม่หลงเหลือ นั่นเท่ากับว่าไม่มีสมบัติให้แบ่งแล้ว แต่พวกเราจะค้นให้ทั่ววิหาร พวกเซิกมักชอบสะสมผลึกอัญมณี ได้แต่หวังว่าจะหาเจอ พวกเราจะต้องไม่กลับไปมือเปล่า!” เซียวอวี๋กล่าวกับเหล่านักผจญภัย
ได้ยินคำกล่าวของเซียวอวี๋ ทุกคนก็รู้สึกผิดหวัง อย่างไรเสีย ชิ้นส่วนจากร่างของเทพโบราณย่อมต้องขายได้กำไรสูงเทียมฟ้า
“ถึงกระนั้น วีรกรรมอันกล้าหาญของพวกเจ้าในครั้งนี้จะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ชนรุ่นหลังจะแซ่ซ้องสรรเสริญไปเป็นร้อยปีพันปี ยามเมื่อแก่เฒ่า พวกเจ้าก็สามารถนำเรื่องนี้บอกเล่าให้ลูกหลานฟังว่าครั้งหนึ่งพวกเจ้าเคยเข้าร่วมศึกสังหารเทพโบราณคฑูน ว่าพวกเจ้าได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเวทมนตร์ต้องห้ามด้วยสองตาตนเอง ว่าพวกเจ้าเคยปกป้องทวีปแห่งนี้! ทุกคนจะได้รับเข็มกลัดเป็นสัญลักษณ์ในการสังหารคฑูน เข็มกลัดนี้ยังทรงคุณค่ากว่าเข็มกลัดจากการสังหารมังกร นี่เป็นเกียรติที่มีเพียงพวกเจ้าเท่านั้นที่ได้รับ เป็นกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวที่จะได้!”
เซียวอวี๋กล่าวด้วยเสียงอันดังจนทุกคนรู้สึกพลุ่งพล่าน ใช่แล้ว เพียงได้เข้าร่วมศึกนี้ก็นับว่าได้รับรางวัลที่สูงค่าที่สุดในชีวิตแล้ว!
เข็มกลัดจากการสังหารคฑูนนี้จะเป็นสิ่งแสดงความรุ่งโรจน์ไปหลายช่วงอายุคน
“เข็มกลัดคฑูนนี้จะถูกผลิตในดินแดนไลอ้อน จะใช้กรรมวิธีพิเศษเพื่อไม่ให้สามารถลอกเลียนแบบ ทุกคนที่นี่สามารถไปรับเข็มกลัดได้โดยไม่ต้องจ่ายแม้แต่เหรียญเดียว!”
เซียวอวี๋แสดงความใจกว้างเพื่อซื้อใจมวลชน
เฮ……..
เหล่านักผจญภัยต่างชูกำปั้นโห่ร้องด้วยความยินดี
“ทุกคน! เวลานี้ภัยพิบัติที่คุกคามทวีปของเรายังคงอยู่ ข้าจะเดินทางไปยังดินแดนทางตอนเหนือของจักรวรรดิเมฆาเพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูของมนุษยชาติ พวกปีศาจชั่วร้าย ตอนนี้พวกมันได้รุกรานไปทั่วทวีป ในฐานะนักรบของทวีปนี้แล้ว พวกเราต้องสู้เพื่อปกป้องทวีป! ไม่ว่าพวกเจ้าจะสังกัดอยู่ฝ่ายใด ตราบที่เจ้าสู้กับพวกปีศาจร้าย พวกเจ้าก็คือวีรบุรุษ! ข้าหวังว่าภัยพิบัตินี้จะจบลงโดยเร็ว ถึงเวลาที่จะแสดงความกล้าหาญของพวกเจ้าแล้ว!”
เซียวอวี๋กล่าวใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง นั่นทำให้เขาดูมีสง่าราศีดุจราชันผู้ยิ่งใหญ่
ทุกคนที่ได้ฟังต่างก็หันไปซุบซิบพูดคุยกัน เรื่องการรุกรานนี้พวกเขาย่อมเคยได้ยินมาบ้าง เวลานี้ดินแดนทางตอนใต้ได้ถูกกองทัพของกูดาลยึดครองไปแล้ว มีผู้คนนับไม่ถ้วนถูกสังหารจนโลหิตไหลเป็นท้องธาร
ในบางแห่งแทบจะไม่หลงเหลือมนุษย์อาศัยอยู่ และในเวลาเช่นนี้เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องลุกขึ้นสู้
คำกล่าวของเซียวอวี๋ได้ปลุกจิตสำนึกในการปกป้องทวีปขึ้นมา
“เอาล่ะ ข้าขอกล่าวเอาไว้แต่เพียงเท่านี้ พวกเจ้าสามารถแยกย้ายไปค้นหาสมบัติ ส่วนข้าจะออกเดินทางไปจัดการกับพวกปีศาจ ตราบที่พวกเราร่วมมือกัน เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ของเราจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!”
“จิตใจอันไร้ละโมบของเขาช่างน่ายกย่องนัก หลังกำจัดเจ้าปีศาจดวงตานั่นแล้วกลับไม่คิดตามหาสมบัติต่อ ทว่ากลับเลือกที่จะเดินทางเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง เขาช่างคู่ควรกับคำว่าวีรบุรุษผู้กล้าจริงๆ” หลายคนได้แต่ถอนหายใจชมเชย
สามจ้าวมนตราย่อมต้องร่วมทางไปกับเซียวอวี๋ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือนิโคลัสก็ไม่ได้อยู่ค้นหาสมบัติต่อ หากแต่เลือกจะเดินทางไปพร้อมเซียวอวี๋
ที่ด้านนอกวิหารอัลคีราฟ คล้ายกับรับรู้ได้ถึงการตายของคฑูน พวกเซิกทั้งหมดต่างก็แยกย้ายหลบหนีอย่างลนลาน ไม่หลงเหลือจิตต่อสู้อีก
ด้วยเหตุนี้ กองทัพมนุษย์จึงสามารถกวาดล้างพวกเซิกและค้นทั่ววิหารได้อย่างราบรื่น
ยามเมื่อมาถึงค่ายด่านหน้าของจักรวรรดิเมฆา เซียวอวี๋ก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักเพื่อเตรียมที่จะเคลื่อนกำลังไปช่วยโถวปาหงในวันพรุ่ง
ในช่วงพักผ่อน เซียวอวี๋ได้ไปหาสามจ้าวมนตราและพบว่าพวกเขาต่างก็อารมณ์ดี เพียงแต่ผลจากการใช้เวทต้องห้ามทำให้พวกเขาอ่อนเพลียอยู่บ้าง
“ผู้อาวุโสทั้งสาม พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปช่วยเหลือโถวปาหง พวกท่านไม่จำเป็นต้องร่วมทางให้ลำบากอีก พวกท่านสามารถกลับไปยังดินแดนไลอ้อนเพื่อพักฟื้น พวกท่านสามารถใช้วัตถุดิบที่ต้องการได้เลย ถือเป็นสิ่งตอบแทนความเหนื่อยยากของพวกท่าน” เซียวอวี๋กล่าวกับสามจ้าวมนตราอย่างจริงใจ
“ไร้สาระ การปกป้องทวีปแห่งนี้ถือเป็นหน้าที่ของพวกข้าอยู่แล้ว เมื่อพวกข้าลงมือยังจะต้องการคำขอบคุณอันใด?” ธีโอดอร์กลอกตาอย่างรำคาญ
เซียวอวี๋ยิ้มกล่าว “ถูกแล้ว ถูกแล้ว ผู้อาวุโสทั้งสามคือผู้พิทักษ์แห่งทวีป”
“วาจาไร้สาระให้พอแค่นี้ อย่าได้เล่นลิ้นและส่งดวงตาของคฑูนมาซะ ของสิ่งนี้ล้ำค่าทว่าไม่มีประโยชน์สำหรับเจ้า แต่สำหรับกับพวกเราแล้วสามารถนำมันไปหลอมสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ที่แข็งแกร่ง” ธีโดอร์กล่าว
“ดวงตาของคฑูน?” ได้ยินวาจาของธีโอดอร์ เซียวอวี๋ก็แสร้งแสดงสีหน้าประหลาดใจสุดขีด
“เสแสร้งเข้าไป คิดว่าพวกเราไม่ล่วงรู้ความคิดของเจ้าหรือ? คฑูนเป็นตัวตนระดับใด? นั่นเป็นถึงเทพจากยุคโบราณ อาศัยเพียงเวทต้องห้ามก็สามารถลบล้างมันได้หมดจรดหรือ? ฮึ่ม ส่วนดวงตาขนาดยักษ์นั่นก็คือที่กักเก็บพลังทั้งหมดของมัน ไม่ต้องกล่าวถึงเพียงเวทต้องห้าม ต่อให้เป็นพลังอำนาจจากสวรรค์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารไม่เหลือซาก” ธีโอดอร์ถลึงตากล่าว
“น่าตายนัก ไฉนพวกท่านดูจะรู้ไปทุกเรื่อง ของเล็กน้อยเช่นนี้มอบให้ข้าไม่ได้หรือไร?” เซียวอวี๋หน้าตาบูดบึ้ง
เหตุผลที่เขาส่งกรอมลงไปก็เพื่อเก็บกู้ร่างของคฑูน ในเวลานั้นทุกคนต่างก็ยังสะเทือนขวัญกับเวทต้องห้ามอยู่ไม่หาย พวกเขาย่อมไม่ทันฉุกคิดว่าคฑูนจะทิ้งซากร่างเอาไว้
เซียวอวี๋จึงฉวยโอกาสนั้นให้กรอมลอบเก็บร่างของคฑูนเข้าแหวนมิติ และแสร้งตอบว่าไม่พบเจอสิ่งใดเพื่อกลบข้อสงสัย
อย่างไรก็ตาม คิดไม่ถึงว่าจ้าวมนตราทั้งสามนั้นราวกับพยาธิในลำไส้ของเขา แผนการที่คิดฮุบสมบัติไว้คนเดียวจึงสลายเป็นอากาศธาตุ
แต่เรื่องจำพวกตัดเย็บชุดวิวาห์ให้กับผู้อื่น แน่นอนว่าเซียวอวี๋ย่อมไม่มีนิสัยเช่นนั้น
“เอาล่ะ ครั้งนี้เจ้าก็ได้ของกลับไปมากมายแล้ว แต่ของสิ่งนี้มีความสำคัญยิ่ง อย่าเก็บไว้เลย ไม่เช่นนั้นคงเกิดเรื่องทำนองว่าหยกไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก” ธีโอดอร์แบมือไปทางเซียวอวี๋เป็นนัยให้รีบส่งของมาซะ
“น่าตายนัก พวกท่านนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ เพียงร่ายเวทไม่กี่บทเท่านั้น แต่เอาเถอะ อย่างไรเสียก็เป็นพวกท่านที่สังหารมัน ข้ามีหรือจะไม่มอบให้ ขอข้าตรวจดูก่อนนะ อืม….”
แม้เซียวอวี๋จะมีท่าทีลากถ่วง แต่สุดท้ายก็นำดวงตาของคฑูนซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นจากแหวนมิติส่งให้กับธีโอดอร์
หลังได้รับมา ธีโอดอร์ก็สัมผัสได้ถึงพลังวอันแข็งแกร่งจากของที่อยู่บนฝ่ามือ เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า “เมื่อมีของสิ่งนี้อยู่ ภัยพิบัติคงจบลงโดยเร็ว”
“ใช่ ผู้ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังคงรับมือไม่ง่ายนัก แต่เมื่อมีดวงตาของคฑูนอยู่สถานการณ์ก็แตกต่างแล้ว” ชัคคุนกล่าวเสริม
“พวกท่านกำลังพูดถึงผู้นำของขุมกำลังลึกลับนั้น?” เซียวอวี๋เปิดปากถาม
“ใช่แล้ว เรื่องนี้เจ้าต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และเมื่อถึงคราวต้องลงมือ พวกเราจะเข้าร่วมด้วย” ธีโอดอร์ตอบรับ
ธีโอดอร์ทราบดีว่าอาศัยพวกเขาทั้งสามเพียงลำพังยังไม่พอ เรื่องนี้พวกเขายังต้องพึ่งพากองกำลังจำนวนมากร่วมด้วย
และในหมู่ขุมกำลังกลุ่มต่างๆ ความแข็งแกร่งของเซียวอวี๋นับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ที่พวกเขาต้องทำก็คือช่วยเหลือเซียวอวี๋เมื่อถึงยามตัดสิน ผู้ใช้มนตราเป็นขุมกำลังที่ขาดไปไม่ได้ แต่ก็ทำได้เพียงสนับสนุน พวกเขาไม่ใช่ผู้นำ
ทวีปแห่งนี้ต้องการราชา
ราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด……