Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 1027 ตัวตนของเหล่าต้า
สัตว์ประหลาดตายแล้วจริงๆ
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
การผ่อนคลายอย่างกะทันหันหลังจากจิตใจตึงเครียดมานานทำให้วิญญาณของทุกคนตกอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า
จางหยิงห่าวหยิบขวดสุราออกมายกดื่มแล้วกล่าวว่า “ข้าจะอยู่คุ้มกันที่นี่ให้ พวกเจ้าพักก่อนเลย”
“ได้”
เย่เฟยหลีตอบ
เขาจ้องมองความว่างเปล่าราวกับบางสิ่งกำลังปรากฏบนแผงควบคุม “นักฆ่าตัวตลก” อย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น แสงสีเทาปรากฏขึ้นมาก่อนปกคลุมเย่เฟยหลีเอาไว้
“พลังความโกลาหล” เหล่าต้าพึมพำอย่างแผ่วเบา
การเคลื่อนไหวของเย่เฟยหลียังคงมากขึ้นราวกับได้รับความช่วยเหลือจากพลังความโกลาหล เขาจึงพัฒนาได้สำเร็จ
ไม่ช้า
แสงสีเทาทั้งหมดหายไป
เย่เฟยหลีปรากฏต่อหน้าทุกคนด้วยความกระฉับกระเฉง
“ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่เลย”
จางหยิงห่าวกล่าวติดตลก
ใครจะนึกล่ะว่าเย่เฟยหลีจะพยักหน้าก่อนกล่าวว่า “ใช่ ข้าใช้รางวัลบางส่วนไปแลกกับพลังวิญญาณจำนวนมาก ทีนี้เครื่องดื่มของพวกเจ้าก็จะมีมากเพียงพอ”
กู่ฉิงซานมองสีหน้าจริงจังของเขาจนอดที่จะยิ้มเล็กน้อยออกมาไม่ได้
โชคยังดีที่เขาเลือกทำสัญญากับอีกฝ่ายมาตั้งแต่แรก ไม่ได้รีบเร่งที่จะสังหารฆาตกรคนนี้
เด็กคนนี้เก่งจริงๆ
“เอาล่ะ ท่านเอิร์ลของข้า ฝากของของเจ้าไว้ที่ข้าได้เลย”
ลอร่าตบบ่าของเย่เฟยหลีเช่นกัน
“ขอบคุณ นายหญิง”
เย่เฟยหลียิ้มก่อนส่งกระป๋องเครื่องดื่มพลังงานให้
เขาแจกจ่ายเครื่องดื่มให้ทุกคน
ทุกคนยืนอยู่ในความว่างเปล่าขณะดื่ม
การต่อสู้จบลงแล้ว พวกเขาจึงต้องได้รับการเติมเต็ม
ทุกคนค่อยๆ ผ่อนคลาย
กู่ฉิงซานมองรอบข้าง
สวนหายไปจนสิ้นแล้ว
ในความว่างเปล่า แสงและเงาทั้งหมดกะพริบ สะท้อนตัวตนและโลกที่อธิบายไม่ได้นับไม่ถ้วน แต่ในวังวนความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ พวกเขาช่างดูเล็กจ้อยไม่ต่างจากควันและธุลีที่ลอยขึ้นมาจากส่วนลึกของทะเลสาบ
ม่านหมอก
ความโกลาหล
ที่นี่เต็มไปด้วยความลึกลับและความไม่รู้จัก แม้กระทั่งวิญญาณแปลกประหลาดที่หลบหนีมาชั่วชีวิตก็ยังสำรวจไม่เสร็จสิ้น
กู่ฉิงซานถอนหายใจ ทันใดนั้นก็นึกบางสิ่งที่อยู่ในใจได้
“อา ว่าไป ศพของราชาล่ะ”
เขาถาม
ทุกคนมองหน้ากัน
ลอร่าตอบว่า “หลังจากถูกตรีศูลแทง เขาเหมือนจะเหลือแต่หนังเท่านั้น”
เย่เฟยหลีเสริมว่า “ใช่ หลังจากนั้นเหล่าอัญเชิญเจตจำนงของหุบเหวมาจนสวนถูกเอาไป จากนั้นข้าก็ไม่เห็นศพของราชาอีกเลย อาจจะถูกเจตจำนงหุบเหวเอาไปหรือเปล่า”
เหล่าต้าโบกมือแล้วกล่าวว่า “ไม่ หุบเหวไม่ได้ทำมันสลายไปหรอกนะ”
จางหยิงห่าวดันแว่นกันแดดก่อนกล่าวว่า “ข้าสังเกตเห็นว่าหนังของราชาถูกพัดโดยสายลมแห่งความว่างเปล่าน่ะ”
“ว่าไงนะ” กู่ฉิงซานโพล่งออกมา
“ใช่ ข้าเห็นมัน ข้ารู้สึกเสียใจแทนเขาเหลือเกิน”
จางหยิงห่าวพยักหน้า เป็นสัญญาณว่าเขามั่นใจ
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนถามว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้ารู้หรือว่ามันปลิวไปทางไหน”
จางหยิงห่าวตอบว่า “ข้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ทำไมเจ้าไม่ถามผู้เชี่ยวชาญแทนล่ะ”
กู่ฉิงซานพูดไม่ออก
สายลมในความว่างเปล่าเร็วบ้างช้าบ้าง ทิศทางไม่แน่นอน มีเพียงภูตผีเท่านั้นที่รู้ว่าหนังนั่นปลิวไปไหน
เขาวางแผนจะรับราชาเข้ากลุ่มหลังจากตรวจสอบบางอย่างเสร็จแล้ว
ยังไงเสีย อีกฝ่ายก็มีทักษะวิเศษมากมาย สามารถรับบทบาทสำคัญได้
แต่สัตว์ประหลาดที่เผชิญหน้าในครั้งนี้น่าสะพรึงเกินไป ชีวิตของทุกคนถูกแขวนบนเส้นด้าย กู่ฉิงซานจึงไม่มีโอกาสที่จะดูแลศพของอีกฝ่าย
คนอื่นก็ไม่ทราบสถานการณ์ชัดเจน
ดังนั้น
ตั้งแต่ที่ราชาตายจนถึงตอนนี้ เวลาผ่านมานานแล้ว เขาไม่สามารถตามหาหนังอีกฝ่ายเจอได้จริง ๆ
กู่ฉิงซานถอนหายใจก่อนตัดใจจากแผนเดิม
เขานั่งลงในความว่างเปล่า หยิบยาเม็ดวิญญาณออกมา เอามันเข้าปากแล้วเริ่มพักผ่อน
เบื้องหน้าเขา หน้าต่างระบบเทพสงครามกำลังฉายหิ่งห้อยขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง
“ท่านได้รับข้อมูล: เส้นทางแห่งความว่างเปล่า”
“ข้อมูลข้องเกี่ยวกับสิ่งหนึ่ง เมื่อท่านกระตุ้นสิ่งนั้นได้แล้ว ข้อมูลจะเผยออกมา”
กู่ฉิงซานถามอย่างแผ่วเบาว่า “ข้าขอรู้ชื่อกับสกิลของเทพสงครามแห่งความว่างเปล่าได้หรือเปล่า”
“ไม่ได้”
หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบอย่างเฉียบขาด
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ กู่ฉิงซานจึงเลิกสนใจทันที
สิ่งที่เขาไม่มีทางรู้เมื่อยังไม่ถึงเวลา
ชื่อที่ไม่มีทางรู้ว่าจะได้ประโยชน์อะไร
มันช่างไม่แน่นอนเหลือเกิน
ตรงกันข้าม พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
ดวงตาของกู่ฉิงซานจับจ้องหน้าต่างระบบเทพสงครามขณะดูข้อความแจ้งเตือนสองแถวสุดท้าย
“ท่านฆ่าสิ่งมีชีวิตในตำนานฝั่งแปลกประหลาด: ปรสิตวิญญาณและเลือดเนื้อ (ร่างเด็ก)”
“ท่านได้รับพลังวิญญาณห้าล้านแต้ม”
นักแทะซากศพมืดมนให้พลังวิญญาณสามล้านแต้ม
ปรสิตวิญญาณและเลือดเนื้อให้พลังวิญญาณห้าล้านแต้มทันที!
เมื่อเห็นจำนวนนี้ กู่ฉิงซานไม่รู้สึกเจ็บที่ดวงตาอีก
คุ้มค่า
เขาเอาผ้าสีดำมาปิดตาเอาไว้
จากนั้นใช้จิตเทพมองแทน ยังไงก็ตาม เขาชินกับการทำแบบนี้ไปแล้ว
“อา นั่นอะไรน่ะ”
เขาชี้ไปที่กองสมบัติที่ปลดปล่อยแสงเจิดจ้าออกมาขณะถาม
“นั่นคือผนึกของลอร่า ตรีศูลสีดำของวิญญาณแปลกประหลาดถูกกดเอาไว้ภายในนั้น” จางหยิงห่าวตอบ
ผนึก…
กู่ฉิงซานมองกองสมบัติ
ถึงแม้จะคุ้นเคยกับพฤติกรรมของลอร่ามานาน แต่เมื่อมองกองสมบัตินี้ก็ยังทำให้ผู้คนตกตะลึงเล็กน้อยไม่ได้
กู่ฉิงซานนึกสิ่งที่สัตว์ประหลาดบอกขึ้นมาได้ก่อนกล่าวว่า “ตรีศูลนั่นเหมือนจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ข้าเกรงว่ามันจะอันตรายนิดหน่อย”
ทุกคนพยักหน้าเล็กน้อย
ราชาแห่งเมืองเรเควี่ยมคือลูกหลานของเทพทรงพลัง เขากลับตายเพราะถูกตรีศูลนี้แทง
อาวุธชิ้นนี้คล้ายกับมีปัญญาเป็นของตัวเอง
เหล่าต้าตอบว่า “ใช่ เจ้าไม่สามารถใช้อาวุธนั้นได้ ถึงตอนนี้จะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ให้ข้าเป็นคนดูแลมันก่อนจะดีกว่า”
ขณะเขาส่งสัญญาณ ลอร่าเก็บสมบัติผนึกทั้งหมดไป
ตรีศูลสีดำพลันปรากฏตรงหน้าทุกคน
มันแผดเสียงกรีดร้องโหยหวนครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะเตรียมพุ่งขึ้นท้องนภาด้วยสภาพที่สั่นไหว
เหล่าต้าคาดไว้อยู่แล้ว เขาถือหนังสือแห่งชะตากรรมไว้ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างจับด้ามจับยาวของตรีศูลสีดำเอาไว้มั่นแล้วตะโกนว่า “หยุด!”
พลังลึกล้ำกว้างใหญ่พุ่งออกมาจากเขา
ดูเหมือนหลังจากเรียกเจตจำนงหุบเหวมาแล้ว พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
เสียงของตรีศูลหายไปทันที
เหล่าต้าผูกมันไว้ที่หลังของเขา
การที่มือของเขาหยุดมันไว้ได้สำเร็จสร้างความตกตะลึงให้ทุกคน
“หืม ลอร่า ข้าคิดว่าเจ้าเหมือนมีอะไรอยากจะพูดใช่หรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
ลอร่ามองเหล่าต้าอย่างละเอียดก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า “กู่ฉิงซาน จะ…เจ้าอาจจะไม่รู้นะ แต่เหล่าต้าคือราชาหุบเหว!”
จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีสงบลงพร้อมกัน
กู่ฉิงซานหันไปมองเหล่าต้า
เขาเห็นว่าเหล่าต้ายังมองความว่างเปล่า แผ่นหลังหันมาที่ทุกคน มือกอดอก มองท้องนภาในมุมสี่สิบห้าองศา
กู่ฉิงซานพยักหน้าช้าๆ ก่อนกล่าวว่า
“โอ้…”
หลังจากพูดไปคำหนึ่งก็ไม่มีคำอื่นตามมา
ลอร่าอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “เจ้าพูดแค่นี้ หมายความว่ายังไง”
“หมายความว่าเข้าใจแล้วน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
ลอร่าอ้าปาก พูดไม่ออกเล็กน้อย
นางมองกู่ฉิงซานที่ยังสงบอยู่ จากนั้นมองเหล่าต้าที่สงบเช่นกัน ก่อนถามอย่างวิตกว่า “เจ้าไม่อยากพูดอย่างอื่นเลยหรือ”
กู่ฉิงซานตอบอย่างแผ่วเบาว่า “เขาน่าจะเป็นคนใหญ่คนโตนั่นแหละ”
“ทำไมล่ะ”
“ตอนพวกเราช่วยเขา เขากำลังต่อสู้กับวิญญาณกรีดร้อง ภายหลัง เขาฝึกมังกรมารต่อหน้าพวกเรา หลินเองก็ยอมทำตามเขาด้วยการไปปกป้องแอนนา อีกอย่าง เขารู้มากกว่าเจ้าและข้า เขาน่าจะเป็นบุคคลที่มีประวัติโชกโชนอยู่แล้ว”
จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีอดที่จะตกตะลึงไม่ได้
มันก็จริง
เหล่าต้าคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ พวกเขามองเหล่าต้าด้วยความยำเกรงเล็กน้อย
คางของเหล่าต้ายกสูงขึ้น ดูเหมือนกับปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้
กู่ฉิงซานเดินเข้ามา ตบบ่าอีกฝ่ายแล้วกล่าวว่า “นี่ ในเมื่อเจ้าคือราชาหุบเหว… แล้วทำไมเจ้าถึงถูกวิญญาณกรีดร้องอัดจนเละเป็นขี้ล่ะ”
ร่างกายของเหล่าต้าสั่นเทาจนแทบจะยืนไม่ติดกับพื้น
กลิ่นอายที่เขาสั่งสมมาหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ถ้าข้าเป็นขี้ แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไร”
เหล่าต้าจ้องกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าหรือ ข้าก็คงเป็นคนจับขี้อย่างเจ้าล่ะมั้ง จำไม่ได้หรือว่าข้าสามารถคว้าเจ้าเอาไว้ได้”
“พรืด”
ลอร่ายิ้มกว้าง
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าราชาหุบเหวจะลงมือสังหารในวินาทีต่อมาหรือไม่ แต่นางกลั้นขำไม่ไหวจริงๆ
ให้ตายเถอะ
กู่ฉิงซานก็ช่างกล้านัก
ไม่สิ ต่อให้ต้องตาย นางต้องได้หัวเราะก่อน
เหล่าต้าจ้องมองกู่ฉิงซานโดยไม่พูดจา
‘อึ่ก!’
ไม่ไหวเลย
ให้ตายสิ
อีกฝ่ายมีพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้
ยังไงก็ไม่มีทางทำร้ายได้อยู่แล้ว
ไม่จำเป็นต้องให้สวรรค์มาบอกเขาก็รู้
แต่กู่ฉิงซานยังคงพูดต่อไป
เขาถามว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นราชาหุบเหว เจ้าอยากทำอะไรตอนอยู่กับพวกข้าล่ะ”
เหล่าต้าโบกมือก่อนไม่วางท่าเป็นปรมาจารย์ผู้ไร้ใครเทียบเคียงอีก เขาตอบว่า “เจ้าเองก็ไม่ใช่ราชาภูตผีแห่งยมโลกของหวนคืนชาติภพหกวิถีนี่ มาคุยเรื่องตัวตนหรืออะไรเทือกนั้นมันออกจะน่าเบื่อเกินไปนะ”
กู่ฉิงซานรู้สึกโล่งอก
“เรื่องนั้น”
“ข้าแค่อยากรักษาบาดแผลน่ะ ยังไงเสีย ความสามารถของเย่เฟยหลีถือว่าหายากเช่นกัน มีแค่เขาที่สามารถรักษาข้าได้อย่างช้าๆ”
“เพราะอย่างนั้นเจ้าเลยเข้าร่วมกับพวกข้าสินะ ก็เหมือนกับที่เจ้าบอกเอาไว้ในตอนแรกอยู่แล้วนี่”
“เหตุผลหลักคือมองพวกเจ้าแล้วมันสบายตาก็เลยมาเข้าร่วมชั่วคราว ยังมีปัญหาอีกไหม”
“ไม่มีแล้ว ขอต้อนรับอีกครั้ง”
หัวข้อนี้จึงจบลงไปโดยปริยาย
หลังจากนั้น ทุกคนก็จดจำเหล่าต้าที่เป็นราชาหุบเหว แต่พอจะรู้สึกถึงความเหินห่าง พวกเขาก็อดที่จะคิดประโยคของกู่ฉิงซานอย่าง “คนจับขี้” ขึ้นมาไม่ได้
จากนั้น
ความรู้สึกเหินห่างก็หายไปสิ้น
กลายเป็นมิตรภาพแทน
แน่นอนว่านี่มันน่าทึ่ง
ส่วนตอนนี้
“ราชาตายแล้ว จากสถานการณ์ตอนนี้ ต่อให้เลือกที่จะไปต่อ แต่ก็ไม่มีทางได้อะไรจากซากปรักหักพัง พวกเรายังไม่รู้ด้วยว่าสัตว์ประหลาดที่จะเผชิญหลังจากนั้นจะเป็นอะไร พวกเราควรทำยังไงต่อดีล่ะ” จางหยิงห่าวถาม
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก” กู่ฉิงซานกล่าว
เขายกมือขึ้น
แหวนสีทองสวมอยู่ที่นิ้วของเขา
……………………..