Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 309
หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.309 – องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี
ณ พื้นที่ๆอยู่ไม่ไกลจากโอเอซิส
กู่ฉิงซานกับเจ้าหน้าที่พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันอย่างสุภาพ และเพียงไม่นาน วังขนาดใหญ่ท่ามกลางโอเอซิสก็ปรากฏสู่สายตาของพวกเขา
“ทางเราได้จัดเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงให้แก่คุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องเปลี่ยนมันให้ดูเหมาะสมกับฐานะแขกผู้มีเกียรติขององค์จักรพรรดิ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณจะต้องเป็นคนไปเลือกมันด้วยตัวเอง ฉะนั้นโปรดตามมา” หลังจากที่ลงจากหลังอูฐ เจ้าหน้าที่ก็กล่าวอธิบายคร่าวๆ แล้วเดินนำทางเขาไป
“คงต้องขอรบกวนแล้ว” กู่ฉิงซานยิ้ม
ณ วังโอเอซิส
องค์จักรพรรดิพร้อมด้วยรัฐมนตรีกว่า7-8คนกำลังพูดคุยหารือกันอยู่ในห้องประชุม
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เดินนำตัวกู่ฉิงซานเข้ามา
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับฝ่าบาท” กู่ฉิงซานกล่าวพลางคำนับ
“อ่า? ไม่เลวนี่เจ้าหนุ่ม ดูเหมือนว่าเจ้าจะแกร่งยิ่งขึ้นอีกแล้วนะ” องค์จักรพรรดิมองไปทางเขาด้วยรอยยิ้ม “งานเลี้ยงจะเริ่มต้นขึ้นในทันที จงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ แล้วตรงไปที่งานเลี้ยงได้เลย”
สองสาวใช้ในวังเดินออกมาโค้งกายให้แก่กู่ฉิงซาน ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “โปรดมากับพวกเรา”
กู่ฉิงซานเดิมทีแล้วต้องการจะเอ่ยขอความช่วยเหลือเลย แต่ในปัจจุบัน เบื้องหน้าเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย มันจึงยากที่จะกล่าวออกมา นอกจากนี้องค์จักรพรรดิอุส่าห์หยิบยื่นน้ำใจให้ มันจึงยากที่จะปฏิเสธ เขาเลยต้องจำใจเดินตามสองสาวไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชุดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการของชนชั้นสูงในฟูซีจะมีทั้งสิ้น 15 ชุด และบัดนี้พวกมันทั้งหมดถูกจัดเรียงแขวนไว้เบื้องหน้ากู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานเลือกชุดที่ดูธรรมดาที่สุด จากนั้นก็ปล่อยให้สองสาวใช้เป็นคนสวมใส่มันให้แก่เขา
สองสาวใช้ลากกระจกบานใหญ่ที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานออกมา และนำมาวางลงเบื้องหน้ากู่ฉิงซาน
กระจกเบื้องหน้า สะท้อนให้เห็นถึงสองคิ้วที่คมราวกับดาบ และดวงตาทั้งสองของเขาก็ไม่แตกต่างกัน
ทั้งคนทั้งร่างแลดูสะอาดหมดจด และให้ความรู้สึกพิเศษบางอย่างออกมา
“ขอบคุณมากนะ” กู่ฉิงซานกล่าว
สองสาวใช้จ้องมองชายที่สะท้อนอยู่ในกระจก ใบหน้าของพวกเธอเริ่มแดงซ่าน ปากเอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มบานสะพรั่ง “ใต้เท้า ท่านช่างดูสง่างามอย่างมิอาจหาใครมาเทียบเปรียบ”
กู่ฉิงซานยิ้มรับ และเอ่ยถามอย่างไม่คิดอะไรว่า “แล้วราชินีของพวกคุณเล่า ทำไมผมถึงยังไม่เห็นเธอเลย”
ประโยคนี้เป็นคำถามธรรมดาที่ไม่มีเจตนาใด
แต่หนึ่งในสองสาวใช้กลับเอ่ยตอบทันที “องค์จักพรรดินีพึ่งตื่นจากบรรทม และกำลังแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่เจ้าค่ะ”
แล้วห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เงียบงันไปครู่หนึ่ง
กู่ฉิงซานเฝ้ามองตัวเองในกระจกแล้วเอ่ยถามว่า “ชุดผมก็เปลี่ยนแล้ว ถ้าอย่างงั้นรองเท้าไม่ควรจะเปลี่ยนด้วยหรอ?”
สาวใช้ในวังบรรเทาความตึงเครียดลง
“ท่านจะต้องเต้นรำ ฉะนั้นจึงสมควรที่จะเปลี่ยนรองเท้า โปรดรอสักครู่นะเจ้าค่ะ” สองสาวใช้เดินไปค้นโซนที่เก็บรองเท้า
“ขอบคุณอีกครั้งนะ อ้อ.. โดยส่วนตัวแล้วผมชอบรองเท้าสีดำ น้ำตาล แล้วก็น้ำเงิน ถ้ายังไงขอเป็นสามตัวเลือกนี้นะครับ” กู่ฉิงซานกล่าว
สองสาวใช้มองหน้ากันและกันวูบหนึ่ง
ดูเหมือนว่าแขกผู้มีเกียรติขององค์จักรพรรดิจะเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องรองเท้าของตัวเองเป็นอย่างมาก
ถ้าเป็นในกรณีนี้ พวกเธอคงจะต้องเตรียมรองเท้าคู่ใหม่ๆหลายคู่ มาให้แขกผู้มีเกียรติได้เลือกสรรอย่างพิถีพิถันเสียแล้ว
“โปรดรอสักครู่ พวกเราจะรีบไปนำมันมาเดี๋ยวนี้” สาวใช้ในวังกล่าว
“ผมเข้าใจแล้ว ไม่ต้องรีบก็ได้นะ”
กู่ฉิงซานยิ้ม แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีผ่อนคลาย สบายๆ
สองสาวใช้โค้งกายลงเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินจากไป
กู่ฉิงซานยกถ้วยเครื่องดื่มบนโต๊ะกาแฟขึ้นมาจิบ ในสมองขบคิดถึงปมเล็กๆที่ทำให้บังเกิดความเงียบงันขึ้นเมื่อครู่นี้
องค์จักรพรรดิกับจักรพรรดินี มิใช่คนสนิทกันหรอกหรือ?
กู่ฉิงซานจดจำได้ว่า ในบางครั้งบางที แม้องค์จักรพรรดิจะหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ แต่ปากของเขากลับไม่ยิ้มตาม
ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
เขาไม่เคยที่จะพอใจใครง่ายๆ และเขาก็ไม่คิดจะพยายามทำให้ใครพอใจเช่นกัน
แต่ในวันนี้ องค์จักรพรรดิกลับหัวเราะและยิ้มออกมา … มากเกินไป
นอกจากนี้ กู่ฉิงซานก็ยังไม่เห็นตัวองค์จักรพรรดินีเลย
‘องค์จักพรรดินีพึ่งตื่นจากบรรทม และกำลังแต่งองค์ทรงเครื่อง’ อย่างงั้นหรอ …
ช่วงเวลานี้อาหารค่ำกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะ แต่จักรพรรดินีพึ่งตื่นจากบรรทม หมายถึงพึ่งลุกขึ้นจากเตียงใช่ไหม? ทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันล่ะ?
ขณะคิด สาวใช้ในวังก็เดินกลับมา
กู่ฉิงซานวางถ้วยเครื่องดื่มลง และยืนขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
ด้วยความช่วยเหลือของสาวใช้ เขาก็สามารถเลือกรองเท้าที่ถูกใจมาสวมใส่ได้ในที่สุด
“งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่หรอ” เขาเอ่ยถาม
สาวใช้ “จะเริ่มขึ้นเมื่อคุณปรากฏตัวขึ้นในห้องจัดเลี้ยง”
ทั้งสองประกบซ้ายขวากู่ฉิงซาน และพากันเดินออกไป
ประตูหน้าห้องจัดเลี้ยงถูกผลักเปิดออก
พร้อมกับกู่ฉิงซานที่เดินเข้ามา
องค์จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนราชบัลลังก์ เมื่อเห็นฉากนี้ เขาก็ส่งสัญญาณไปทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆ
เจ้าหน้าที่โค้งกาย ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณมือ
นักดนตรีเริ่มบรรเลงท่วงทำนอง
สาวนักเต้นเริ่มร่ายระบำ
พร้อมด้วยสาวผมยาวจรดพื้นเริ่มขับขานบทเพลงอันสนุกสนาน
การแสดงละครสัตว์ได้เริ่มขึ้นแล้ว
คนพ่นไฟ
เล่นมายากล
แสดงตลก
คนที่มีชื่อเสียงเริ่มที่จะเข้าพบปะพูดคุยกัน
ฉากงานเลี้ยงอันวุ่นวายเช่นนี้ เป็นสไตล์เฉพาะตัวของสาธารณรัฐฟูซี
เพราะนี่คือสิ่งที่องค์จักรพรรดิชอบ
เขาชอบที่จะนำทุกอย่างที่ทำให้เขามีความสุข มาวางไว้เบื้องหน้า ไว้ในวิสัยทัศน์ของตนเอง
ฝูงชนเข้ารายล้อมรอบองค์จักรพรรดิ และต่างพากันกล่าวสรรเสริญออกมา
แม้ว่างานเลี้ยงดังกล่าวจะแลดูวุ่นวาย แต่มันก็มีชีวิตชีวา และบรรยากาศก็ไม่เลวทีเดียว
กู่ฉิงซานถูกนำตัวมายังเบื้องหน้าองค์จักพรรดิ
องค์จักรพรรดิโบกมือให้เจ้าหน้าที่ที่นำตัวเขามาปลีกตัวออกไป และจ้องมองลงมายังกู่ฉิงซาน
“ดูเถิด เจ้าหนุ่มผู้นี้ช่างแข็งแกร่งไม่เลวเลย หากมิใช่เพราะว่าแอนนาหมายตาเจ้าไว้อยู่ก่อนแล้ว ข้าคงแนะนำเจ้าหญิงน้อยของข้าให้แก่เจ้าไปแล้ว” องค์จักรพรรดิกล่าว
และผู้คนที่รายล้อมก็เปล่งเสียงหัวเราะอึกทึกออกมาทันที
กู่ฉิงซานรับเอาไวน์จากถาดที่วางอยู่ข้างกายเขา
“ฝ่าบาท ขอบพระคุณสำหรับการเลี้ยงต้อนรับอันยิ่งใหญ่ของท่านในวันนี้”
จากนั้นเขาก็ยกแก้วหันไปทางองค์จักพรรดิ และกระดกมันจนหมดแก้วในครั้งเดียว
พอองค์จักรพรรดิฟูซีได้ยินคำนี้ เขาก็หยิบแก้วไวน์มาชูขึ้น แล้วจิบเบาๆ
“ทำตัวตามสบายเถอะ ข้าหวังว่าเจ้าจะมีช่วงเวลาดีๆในค่ำคืนนี้” จักรพรรดิหัวเราะ
“ผมมาที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องข้อตกลงแลกเปลี่ยนกันอย่างจริงจัง และต้องการที่จะพูดคุยกับท่านในสถานที่ๆเหมาะสม”
กู่ฉิงซานเตรียมพร้อมที่จะก้าวไปสู่หัวข้อสนทนาหลักทันที
แต่ทว่าองค์จักรพรรดิกลับโบกมือและกล่าวว่า “ไม่ต้องรีบร้อนไป จงเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนอันแสนวิเศษนี้เสียก่อน หากมีธุระอันใด ไว้พวกเราค่อยมาพูดคุยเกี่ยวกับมันในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง”
กู่ฉิงซานจำต้องก้มหน้าลง และหยุดหัวข้อสนทนาของเขา
ทว่าในหัวใจกลับลอบรู้สึกสงสัย
องค์จักรพรรดิแห่งฟูซีเป็นผู้เคร่งครัดเสมอมา หากมีธุระใดที่ฟังดูร้ายแรงหรือเป็นเรื่องราวแปลกใหม่ ท่าทีของเขาก็จะกลับกลายเป็นจริงจังทันที
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงเกี่ยวกับมัน
ท่ามกลางสายตาของทุกผู้คน กู่ฉิงซานหยิบไวน์ขึ้นมาอีกแก้วพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาทพูดถูกแล้วพะยะค่ะ”
“ฉะนั้นแก้วนี้ เพื่อแสดงถึงพระบารมีของท่าน ขอสาธารรัฐฟูซีจงเจริญรุ่งเรือง และเข้มแข็งกว่าทุกชนชาติ ขอให้ประชาชนทุกคนได้ดื่มด่ำเพลิดเพลินไปกับเกียรติยศและเสรีภาพ”
กล่าวจบ เขาก็กระดกมันรวดเดียวหมด
รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าขององค์จักรพรรดิเผยถึงความสุข เขาปรบมือและกล่าว “พูดได้ดี!”
นอกจากนี้ เขาก็ยกแก้วไวน์ในมือดื่มมันจนหมดแก้ว
กู่ฉิงซานมองไปยังอีกฝ่าย ส่วนลึกในหัวใจของเขาเริ่มกระสับกระส่าย บังเกิดความไม่สบายใจอันยากจะอธิบายขึ้น
จักรพรรดิฟูซี คาดหวังไว้เสมอว่า อาณาจักรของตนจะยังคงรักษาการพัฒนาไปอย่างมั่นคงต่อเนื่อง และเกลียดชังสิ่งจอมปลอมที่เรียกว่า ‘เสรีภาพ’ มากที่สุด
เมื่อครั้งองค์จักรพรรดิได้มาเข้าร่วมประชุมนานาชาติในสหพันธรัฐ รัฐบาลกลาง เขาก็ไม่ยอมเข้าพักที่โรงแรมฟรีฮอลิเดย์ และเลือกที่จะกางเต็นท์บนสนามหญ้าภายในศูนย์ประชุมนานาชาติแทน
เนื่องเพราะเขาไม่ชอบคำว่าฟรี(เสรีภาพ)ที่อยู่ในชื่อของมัน
เมื่อครู้นี้ กู่ฉิงซานจงใจแสร้งพลาดพลั้งกล่าวคำนั้นออกไปโดยเจตนา
แต่ทว่าพอองค์จักรพรรดิได้ยิน เขากลับยกไวน์ขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว
ทั้งหมดนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“จงไปหาอะไรกินก่อน แล้วจากนั้นก็ออกไปเต้นรำเถิด ข้ากล้าพูดเลยว่าในช่วงเวลานี้ มีมีหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์และงดงามหลายคนกำลังเฝ้าจับตาดูเจ้าอยู่ตั้งนานแล้ว” องค์จักรพรรดิกล่าว
กู่ฉิงซานยังคงรักษาไว้ซึ่งรอยยิ้มบนใบหน้า ก้าวถอยออกไประยะหนึ่งจึงหันหลังกลับ แต่แล้วเขาก็พลันได้พบเห็นกับหญิงสาวที่ครอบครองรูปลักษณ์อันงดงามกำลังย่างกรายเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง
บนหัวของเธอสวมมงกุฏขนาดเล็กที่ประณีตและละเอียดอ่อน
ทุกคนต่างพากันเปิดทางให้กับเธอ พร้อมเอ่ยคำทักทาย
องค์จักรพรรดินีแห่งฟูซี ได้มาถึงแล้ว
“เวโรน่า มาได้ซักที ดูนี่ซีใครกันเดินทางมาให้เจ้าได้พบ” องค์จักรพรรดิกล่าว
จักรพรรดินีมีชื่อว่า เวโรน่า เป็นสมาชิกครอบครัวของราชวงศ์เมดิซีแห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นน้องสาวในสายเลือดของราชาแห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ที่สำคัญเลยก็คือ เธอเป็นป้าของแอนนา
“นักวิทยาศาสตร์กู่น้อย เราได้พบกันอีกแล้ว” องค์จักรพรรดินีเดินมาพร้อมรอยยิ้ม
เธอยื่นมือไปทางกู่ฉิงซาน
การจุมพิตลงบนมือ คือมารยาทในการทักทายกันในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์
ทว่าในสาธารณรัฐฟูซี ขีดเส้นแบ่งมารยาทในการทักทายของจักรวรรดิ์นั้น มีอยู่หลายส่วนที่ไม่เหมาะสม ทว่าแต่เดิมเธอก็เป็นถึงสมาชิกของราชวงศ์แห่งจักรววรดิศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นหลายๆคนจึงไม่ได้เอ่ยขัดในเรื่องนี้
กู่ฉิงซานจับมือองค์จักรพรรดินีและก้มจุมพิตลง
“ไม่ได้พบเจอกันเพียงไม่กี่วัน แต่ท่านกลับงดงามยิ่งกว่าที่เคย” กู่ฉิงซานเอ่ยชื่นชม
เขาสังเกตเห็นถึงรอยคล้ำใต้ตาของเธอที่เป็นสีดำอย่างชัดเจน ที่แม้มันจะถูกปกปิดด้วยการแต่งหน้าอันละเอียดอ่อนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่อาจกลบร่องรอยได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี