Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 344
หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.344 – เด็กกำพร้าในเกาะหมอก(3)
เธอคือเด็กสาวกำพร้า
พ่อแม่ของเธอเป็นนักเรียนของจอมมาร และทั้งคู่ก็เสียสละชีวิตเพื่อเกาะหมอก
เธอที่เป็นลูกสาวของพวกเขา ร่อนเร่ไปทั่วโลก และตอนนี้พึ่งกลับมาได้เพียงไม่นาน ทว่ากลับถูกใส่ร้าย และคำใส่ร้ายนี้ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่จะถึงขั้นต้องถูกลงโทษจนจบชีวิตลง
เด็กสาวกำพร้าไร้ที่พึ่งพิง กำลังรอคำตัดสินชีวิตเป็นตายอยู่
จอมมารชุดคลุมเลือดเงียบไปนาน สุดท้ายจึงกล่าว “ซูเซี่ยเอ๋อ เจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ ”
“ขอบพระคุณท่านอาวุโสบังคับกฏ”
“เช่นนั้นเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้ เจ้ามีสิ่งใดอยากจะระบายหรือไม่?” จอมมารชุดคลุมเลือดเอ่ยถาม
มาแล้ว
ตอนนี้ล่ะ!
ซูเซี่ยเอ๋อจิกริมฝีปากเธอ เผยท่าทีค่อนข้างลังเลออกมา
“หนู … ขอถามอะไรซักเล็กๆน้อยๆจะได้ไหม?” เธอเอ่ยปาก
“แน่นอน เจ้าสามารถถามสิ่งใดก็ได้ตามต้องการ” จอมมารดูจะมีความอดทนมากเป็นพิเศษในวันนี้
“ขอบพระคุณท่าน” ซูเซี่ยเอ๋อพูดอย่างระมัดระวัง
นี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะโต้กลับ! และเธอต้องคว้ามันมาให้จงได้!
‘จะแสดงให้เห็นเอง ว่าฉันก็สู้คนเหมือนกัน’
อีกอย่างชายเบื้องหน้า ก็ดูเหมือนว่าจะมีทัศนคติที่ดีกับฉันไม่น้อย
เอาล่ะ ทีนี้แหละพวกแกจะไม่สามารถทำแบบนี้กับฉันได้อีกต่อไปแล้ว
ฉันต้องการจะอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข! โดยที่ไม่มีใครสามารถรังแกฉันได้อีกต่อไป!!
ถ้าหากใครต้องการชีวิตของฉันอีกครั้งล่ะก็ …
“เพื่อความเป็นธรรม หนูหวังว่าท่านอาวุโสบังคับกฏจะทำการค้นตัวพวกเธอด้วย” ซูเซี่ยเอ๋อกล่าว
“นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น” จอมมารชุดคลุมเลือดตอบรับ
หลากหลายแสงสีเลือดบิดม้วนไปมาในอากาศ ก่อนจะตกลงแล้ววนรอบๆสาวๆทั้งหลาย และพ่นถุงขยะชิ้นหนึ่งลงบนพื้น
ภายในถุงขยะ มีหนังสือเล่มหนึ่งวางอยู่ภายในอย่างสงบ
จอมมารชุดคลุมเลือดหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา และพลิกอ่านแบบลวกๆ
“ฮะฮะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ
ตนเองเกือบจะถูกหลอก … เกือบจะสังหารลูกสาวของนักเรียนตัวเองไปแล้วเชียว
“ผู้ฝึกสอน จงสลับกันดูเจ้าสิ่งนี้เสีย”
หนังสือเล่มเล็กๆลอยไปทางรูปปั้น และตกลงบนพื้น
“วิชาชั่วร้าย!”
สีหน้าของรูปปั้นหม่นทะมึนลง ปากเอ่ยเสียงต่ำ
“ไม่นะ! หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของพวกเรา!”
“นี่ต้องเป็นกับดักแน่ๆ”
“ท่านอาจารย์ หนูไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่นี่ไม่ใช่หนังสือของหนู”
สาวๆกรีดร้องอลหม่านด้วยความหวาดกลัว
เพราะพวกเธอทราบดี ว่าการฝึกฝนวิชาชั่วร้าย ถือว่าเป็นอาชญากรรมใหญ่หลวง
ทันใดนั้นเด็กสาวคนหนึ่งก็ร้องไห้ออกมา “หนูผิดไปแล้ว หนูแค่อิจฉาเธอที่สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมาถึงที่นี่แบบยังมีชีวิตอยู่ หนูคิดว่าเธอเป็นแค่กำพร้า หากรังแกไปก็คงไม่สำคัญ หนูไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้!”
ทันทีที่เธอร่ำไห้ ทั้งหมดก็เริ่มร้องตาม
พวกเธอทราบดีว่าจุดจบของการฝึกฝนวิชาชั่วร้ายนั่นคืออะไร
และนั่นคือสิ่งที่พวกเธอเตรียมไว้ให้แก่อีกฝ่าย
ทว่าในขณะนี้ พวกเธอตระหนักแล้วว่าสิ่งที่ทำกับคนอื่น กำลังจะย้อนกลับมา
จอมมารชุดคลุมเลือดเอ่ยถาม “พวกเจ้าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา มีความคิดเห็นว่าอย่างไร?”
รูปปั้นเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง สุดท้ายจึงกล่าวออกมา “ตามแต่ท่านจะตัดสินใจ”
จอมมารครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนจะหันไปถามซูเซี่ยเอ๋อ “แล้วเจ้าเล่า มีความคิดเห็นว่าอย่างไร?”
ซูเซี่ยเอ๋อหันไปมองกลุ่มเด็กสาว
ทั้งหมดคุกเข่าลงเบื้องหน้าเธอ และร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตา
ซูเซี่ยเอ๋อมองไปยังหนังสือที่เมื่อครู่ยัดอยู่ในถุงขยะจนมันเปื้อนฝุ่นไปหมด
—นั่นคือหนังสือเล่มเล็กที่กู่ฉิงซานมอบให้เธอ เป็นหนังสือเล่มจริง
ทว่าในสถานการณ์สิ้นหวัง เธอกลับใช้หนังสือเล่มนี้เป็นกับดัก เพื่อไขว่คว้าฟางเส้นสุดท้ายที่จะรอดชีวิต
*(เฉลยปม ซูเซี่ยเอ๋อกับแหวนได้ร่วมมือกันให้เด็กสาวกลุ่มนี้เห็นว่าตนกำลังอ่านหนังสือ + เฝ้ารอให้พวกเธอไปฟ้อง+ฉวยโอกาสเอาหนังสือไปซ่อนที่อีกฝ่ายนั่นเอง)
เวลานี้กลุ่มก้อนเปลวไฟปรากฏขึ้นบนหนังสืออย่างรวดเร็ว มันถูกแผดเผาจนมิอาจกู้คืนได้ สุดท้ายมันก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
ราวกับได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของกู่ฉิงซานกระซิบอยู่ในหูของเธอ
“ … หนังสือเล่มเล็กๆนี้คือวิธีการฝึกยุทธ มันสำคัญมาก เธอจะต้องฝึกฝนมันอย่างตั้งใจนะ”
“รีบฝึกฝนจะได้แข็งแกร่งขึ้นเร็วๆ อนาคตข้างหน้า โลกมันไม่แน่ไม่นอน เธอจะต้องแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเองให้ได้นะ”
“เก็บมันไว้ให้ดีล่ะ!”
แต่ตอนนี้ เธอได้สูญเสียหนังสือเล่มนั้นไปตลอดกาลแล้ว
“ท่านอาวุโสบังคับกฏ คำพูดของหนูจะมีประโยชน์หรอ?” เธอถาม
“เจ้าเป็นเหยื่อ ดังนั้นคำพูดเจ้าย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีประโยชน์” จอมมารชุดคลุมเลือดกล่าว
เสียงร่ำไห้ของเหล่าเด็กสาวยิ่งดังขึ้น
พวกเธอแผดเสียงอ้อนวอนซูเซี่ยเอ๋อ
ซูเซี่ยเอ๋อเอ่ยเสียงกระซิบ “เรียนรู้วิชาชั่วร้าย หลอกลวงผู้ฝึกสอน หนูคิดว่าสมควรจะถูกลงโทษโดยการเป็นอาหารแมงมุมในเหว”
“นั่นสินะ” จอมมารชุดคลุมเลือดพยักหน้า
เขาโบกมือออกไป
แล้วเส้นสีขาวที่มีลักษณะคล้ายผ้าไหมก็ห้อยลงมาจากเพดาน
กลุ่มเด็กสาวที่กำลังร่ำร้อง ถูกเส้นไหมเหล่านั้นรัดพันรอบหัวเอาไว้ จนเสียงมิอาจเล็ดลอดออกมาได้อีก
และแมงมุมยักษ์หลากสีสันก็ตกลงมาจากเพดาน
แมงมุมยักษ์ยื่นเท้าบางๆของมันออกไป จับเส้นไหมสีขาวเหล่านั้น แล้วหมุนๆไปรอบๆ ห่อพวกเธอจนดูราวกับมัมมี่
แมงมุมนำมัมมี่สดใหม่ขึ้นไปบนเพดาน และออกไปนอกหน้าต่างด้วยความพึงพอใจ
“การพิพากษาในวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าสามารถกลับไปได้แล้วล่ะซูเซี่ยเอ๋อ” จอมมารชุดคลุมเลือดกล่าว
แต่แล้วเขาก็พลันฉุกคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเธอ ก่อนจะกล่าวว่า “ข้านึกขึ้นได้ว่าเจ้ากำลังจะเข้าร่วมการทดสอบฝึกหัดในครั้งนี้ และคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะผ่านเกณฑ์ก็พึ่งกลายเป็นอาหารแมงมุมไปเมื่อครู่แล้ว”
“แม้ตอนนี้พวกเธอจะหายไปแล้ว แต่เจ้ามิอาจประมาทผ่อนปรนได้ จงพยายามอย่างหนักต่อไป” ร่างแห้งกรังแนะนำแนวทางให้ปฏิบัติตาม
แล้วจู่ๆทันใดนั้นก็บังเกิดม้วนคัมภีร์ผุดออกมาจากความว่างเปล่า
ม้วนคัมภีร์หายไป และวินาทีต่อมามันก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าซูเซี่ยเอ๋อ
“ท่านอาวุโส สิ่งนี้คืออะไรกัน?” ซูเซี่ยเอ๋อถามด้วยความสงสัย
“นั่นสำหรับเจ้า”
ซูเซี่ยเอ๋อยิ้มเล็กน้อย โค้งกายกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ “ขอบพระคุณท่านอาวุโสบังคับกฏ”
“ไม่จำเป็นต้องสุภาพ พ่อแม่เจ้าเป็นนักเรียนของข้า แต่ข้ากลับมิได้ใส่ใจดูแลใดๆเจ้าเลย แถมยังเกือบลากเจ้าลงสู่หุบเหวแห่งความตายเสียแล้ว นี่ถือว่าเป็นคำขอโทษเล็กๆน้อยๆจากข้าก็แล้วกัน” จอมมารชุดคลุมเลือดกล่าว
ซูเซี่ยเอ๋อมิได้เปิดม้วนคัมภีร์ แต่รับมันมาโดยตรง
“ม้วนคัมภีร์นี้มีอิทธิพลต่อตัวหนูมากจริงๆ มันจะต้องช่วยเหลือหนูได้มากแน่ๆ ดังนั้น หนูไม่ปฏิเสธที่จะรับมัน แต่ถ้าหากวันหนึ่งหนูประสบความสำเร็จในอนาคต หนูจะไม่ลืมเลือนความเมตตาของท่านอย่างแน่นอน” เธอกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
เมื่อเข้าสู่เกาะหมอกในตอนแรก ทุกคนจะไม่มีพลังอำนาจใดๆจนกว่าพวกเขาจะถูก ‘ปลุกให้ตื่น’ ขึ้นมา
และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับพลัง หากคุณไม่ปล้นจากผู้อื่น หรือได้รับของขวัญ , ของรางวัลจากผู้ฝึกสอนระดับสูง คุณไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
ม้วนคัมภีร์นี้ ย่อมสามารถช่วยซูเซี่ยเอ๋อได้อย่างมหาศาล
เธอไม่เพียงแต่ยอมรับมัน แต่ยังกล่าวแบบนี้ออกมา
จอมมารชุดคลุมเลือดค่อนข้างแปลกใจ แต่ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างสุขใจเล็กน้อย
เด็กสาวผู้นี้ช่างเป็นคนที่มีความประพฤติซื่อตรง วาจาไม่มีมดเท็จ แถมยังรู้จักตอบแทนพระคุณ
ไม่เลวเลย
“เจ้ามีความมั่นใจในการทดสอบฝึกหัดหรือไม่?” จอมมารชุดคลุมเลือดกล่าวด้วยความเป็นห่วง
ซึ่งนี่แตกต่างจากตอนหญิงชุดดำ เขาดูจะเป็นห่วงเธออย่างแท้จริง
“หนูไม่มีความมั่นใจเลย” ซูเซี่ยเอ๋อกล่าว
จอมมารชุดคลุมเลือดยิ้ม และเอ่ยว่า “เจ้ามาถึงเกาะหมอกทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ นั่นย่อมหมายความว่าโชคชะตาโปรดปรานในตัวเจ้า มิต้องกังวลไปหรอก”
ซูเซี่ยเอ๋อลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดสิ่งที่เก็บลึกอยู่ในจิตใจออกมาว่า “หนูอาศัยเครื่องมือบางอย่าง เลยสามารถมีชีวิตรอดมาถึงเกาะหมอกได้”
เธอกล่าวต่อ “อันที่จริง หากวัดกันเฉพาะความสามารถ หนูย่อมไม่มีทางรอดชีวิตมาถึงที่นี่ได้แน่ๆ”
“เพราะฉะนั้น หนูเลยไม่มีความมั่นใจในการทดสอบ”
จอมมารชุดคลุมเลือดพอได้ฟังก็รู้สึกคาดไม่ถึง
เขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเทใจมาให้เขา ไว้ใจเขา
ลูกสาวของนักเรียน เด็กกำพร้า กำลังบอกกล่าวความลับในใจออกมา
กี่ปีดีดักแล้วหนอ ที่มีคนกล้าที่จะมาใกล้ชิดกับตนเอง?
หลังจากที่เงียบงันไปสักพัก จอมมารชุดคลุมเลือดก็เอ่ยออกมาในที่สุด “ซูเซี่ยเอ๋อ ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า”
“เชิญชี้แนะ”
“หากโชคชะตามิได้โปรดปรานเจ้า ต่อให้มีเครื่องมือใดๆ เจ้าก็มิอาจเข้ามาถึงเกาะหมอกได้อยู่ดี”
“เจ้าคิดว่าบนอากาศจะไม่มีมารอยู่เลยหรือไร?”
“เป็นเวลากว่าร้อยปีแล้ว และเจ้าเป็นคนเดียวที่บินข้ามผ่านอากาศที่ว่างเปล่าทั้งหมดทั้งมวล สามารถมาถึงเกาะหมอกได้ โดยมิดึงดูดความสนใจจากมอนสเตอร์”
ซูเซี่ยเอ๋อชะงักงัน
มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ?
ตนเองละทิ้งโชคชะตาก่อนหน้า เพื่อใช้มันแลกบัตรผ่านเข้ามาสู่โลกใบนี้
แต่ผลลัพธ์คืออะไร?
ตนเองถูกส่งมายังมหาสมุทรแห่งซากศพ
เกือบจะถูกกัดกินโดยมอนสเตอร์ในทะเล
หลังจากเข้าสู่เกาะหมอก ก็ถูกนักเรียนฝึกหัดด้วยกันอิจฉา ถูกผลักไสและต้องแยกตัวออกไปอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ผู้ฝึกสอนยี่ชาก็ต้องการเอาชีวิตเธอ
เธอน่ะหรือคือคนที่โชคชะตาโปรดปราน?
ดูเหมือนว่ามันจะเกลียดเธอซะมากกว่า
ทว่าตัวตนที่มีชื่อเสียงอย่างจอมมารชุดคลุมเลือดเป็นคนเอ่ยปากออกมาด้วยตนเอง ฉะนั้นย่อมไม่มีทางที่เขาจะโกหก
ซูเซี่ยเอ๋อลังเลเล็กน้อย
จอมมารมองไปยังการแสดงออกทางสีหน้าของเธอ และในหัวใจของเขาก็ตระหนักถึงมันดี
จอมมารชุดคลุมเลือดยังคงกล่าวต่อว่า “ไม่ว่าใครก็ตาม เมื่อมาถึงเกาะหมอก โชคชะตาของพวกเขาจะถูกเขียนขึ้นใหม่”
“ชีวิตหรือความตาย , ความปรารถนาในหัวใจของเจ้า , การต่อต้านและเรียกร้องในโชคชะตา”
“ไม่ว่าเจ้าจะพึ่งพาเครื่องมือหรืออะไรก็ตาม นั่นคือของขวัญจากโชคชะตาที่ถูกเขียนขึ้นใหม่เพื่อมอบมันให้แด่เจ้า”
“มิฉะนั้นโชคชะตาจะคงจะทำลายตัวเจ้าไปแล้ว”
ซูเซี่ยเอ๋อฟังอย่างตั้งใจ พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
ดูเหมือนว่าจอมมารชุดคลุมเลือดจะรู้สึกตัวว่าตนพูดมากไปเล็กน้อย เขาจึงโบกมือและกล่าว “เจ้าไปเถอะ จงไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทดสอบ”
“เจ้าค่ะ ขอบพระคุณท่านอาวุโสบังคับกฏ ขอบพระคุณท่านผู้ฝึกสอน”
ซูเซี่ยเอ๋อคำนับและค่อยเดินจากไปอย่างช้าๆ
เธอชะลอฝีเท้าลง และออกจากกรมบังคับกฏไปอย่างสงบ
หลังจากที่เธอจากไป
รูปปั้นยักษ์ก็หายไปทันที
ตลอดทั้งกรมบังคับกฏ หลงเหลือเพียงจอมมารชุดคลุมเลือดที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เพียงลำพังเท่านั้น
จอมมารนั่งอยู่เฉยๆ สักพักเขาก็พูดกับตัวเองว่า “ยังไม่ตาย แต่ร่างกายกลับให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายแรกเกิดใหม่ของโชคชะตา ช่างเป็นเด็กน้อยที่โชคดีเสียจริงๆ”
ซูเซี่ยเอ๋อมุ่งหน้าไปยังห้องพักของตนเอง
การทดสอบของนักเรียนฝึกหัด สามอันดับแรกจะมีรางวัลพิเศษมอบให้
นั่นคือคนเหล่านั้นจะมีอิสระที่จะกำหนดอาจารย์ที่ปรึกษา แทนที่จะถูกคัดเลือกโดยผู้ฝึกสอนแทน
ดังนั้นสามตำแหน่งนี้จึงเป็นสิ่งยั่วยวน และแก่งแย่งกันของผู้คนนับไม่ถ้วน
ทุกประเภทและวิธีการต่างๆจะถูกนำออกมาใช้อย่างไม่รู้จบ
และตัวเธอเอง ในฐานะที่เป็นคนเดียวในรอบร้อยปีที่มายังเกาะหมอกแบบยังมีชีวิต ย่อมมีแนวโน้มที่จะได้รับหนึ่งในตำแหน่งนั้น
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนอิจฉาตาร้อน
และพวกเขาย่อมที่จะคิดหาวิธีจัดการกับตัวเธออย่างแน่นอน
ถูกทำเย็นชาใส่ ขับไล่ผลักไส กีดกัน กระทั่งกลั่นแกล้งด้วยกำลัง
อย่างสุดท้ายก็คือ ในระหว่างทางที่เธอและกลุ่มเด็กสาวกำลังไปที่ห้องสมุด พวกนั้นก็หาทางทำให้นักเรียนทางการหันมาหาเรื่องเธอได้สำเร็จ
ถ้าไม่ใช่ว่านักเรียนคนนั้นต้องเข้าชั้นเรียนไปก่อนแล้วล่ะก็ เธอก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นต่อไป
โชคดีจริงๆที่เธอไม่ได้เลือกที่จะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ
พวกเด็กสาวกลุ่มนั้น สุดท้ายก็พลาดสะดุดขาตัวเองพ่ายแพ้ไป
บางทีวันนี้ หรือพรุ่งนี้ แมงมุมหุบเหวอาจจะกินพวกเธอ
—อาาาา ความรู้สึกที่ได้แก้แค้นอย่างสาสมใจนี่มันดีจริงๆ
รอยยิ้มพึงใจค่อยๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าของซูเซี่ยเอ๋อ