Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 417
หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.417 – สายใยแห่งกฏเกณฑ์
วิหารแห่งวัฏจักรเป็นสถานที่ๆเทพปรภพคอยรับผิดชอบจัดการเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ได้ชดใช้กรรมในนรกจนหมดสิ้นลง โดยการส่งพวกเขาไปเกิดใหม่
นอกจากนี้ ที่นี่ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดการเรื่องราวสำคัญๆต่างๆเกี่ยวกับโลกปรภพอีกด้วย
กล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือสถาบันสูงสุดของปรภพ!
และยังมีแหล่งกำเนิดธาตุดินถูกเก็บเอาไว้อีกด้วย
เหล่าคนตายได้วิ่งเข้ามาในวิหารแห่งวัฏจักร
“หยุดก่อน!”
ชูร่าหญิงชักมือขึ้น ปากเอ่ยสั่ง
“จงอย่าทำลายสิ่งใด! เพราะเรายังไม่ทราบถึงตำแหน่งที่แน่นอนของสิ่งที่ราชาภูติต้องการ หากใครเผลอทำลายมัน ก็เฝ้ารอเวลาที่จิตวิญญาณของตนถูกทำลายได้เลย!” เธอตะโกนเสียงดังออกมา
คนตายตนอื่นๆชะงักงันไปทันที นิ่งค้างอยู่ในสถานที่เดียวกันราวกับถูกแช่แข็ง
ชูร่าหญิงเป็นผู้นำการบุกจู่โจมในรอบนี้
ขณะที่รอบก่อนหน้าถูกนำโดยราชันย์หมาป่า เขาเป็นระลอกแรกที่ทำการบุกเข้าใส่หอกหลากสีอย่างเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายราชันย์หมาป่าก็ถูกสังหารลงโดยเงาหอก
ชูร่าหญิงจึงฉวยโอกาสนั้นพุ่งทะยานออกไป ใช้แรงระเบิดถลาตัวม้วนกลิ้งเข้ามาในวิหารได้ในที่สุด
แล้วหอกหลากสีก็หยุดการโจมตีไป
ไม่นานนัก หกผู้คุมนรกก็ได้มารวมตัวกันในวิหารแห่งวัฏจักร
พวกเขาเริ่มที่จะค้นหาแหล่งกำเนิดของธาตดิน
ในความเป็นจริงแล้ว แหล่งกำเนิดเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งที่จะค้นหา เพราะตัวแหล่งกำเนิดน่ะจะปลดปล่อยกลิ่นอายและพลังแบบเฉพาะเจาะจงออกมา เลยสามารถสัมผัสถึงได้ง่าย
ตัวอย่างเช่น แหล่งกำเนิดธาตุน้ำ ที่ตัวมันจะปล่อยกลิ่นอายเย็นเยียบออกมา และแหล่งกำเนิดธาตุน้ำก็มีพลังที่จะสามารถฟื้นฟูบาดแผลต่างๆได้อย่างช้าๆอีกด้วย
ดังนั้น ครั้งแรกที่กู่ฉิงซานพบกับฉานนู่ เธอจึงอยู่ในสายธารแห่งการหลงเลือน และกำลังใช้แหล่งกำเนิดธาตุน้ำหล่อเลี้ยงร่างจิตเพื่อที่จะทำการฟื้นฟูตนเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่
หกผู้คุมนรกหลับตาลง และเริ่มทำการสัมผัสถึงมัน
สักพักหนึ่ง พวกเขาก็ทยอยกันลืมตาขึ้นอีกครั้ง พร้อมด้วยร่องรอยของความประหลาดใจที่เขียนอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
“นี่มันชักจะไม่ง่ายซะแล้วสิ เหตุใดข้าจึงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความผันผวนของคลื่นพลังเลยล่ะ?” ชายชราเผ่ามนุษย์กล่าว
“ข้า-ก็-เหมือนกัน” ผู้คุมนรกที่เป็นยักษ์ตอบ
“มันคงจะเป็นการที่ดีสุด หากถามเอาจากราชันย์หมาป่า จมูกของมันดีมากๆ มันจะต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นแน่” มนุษย์ปีศาจเอ่ยปากออกมา
“ดูนั่นสิ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาเลย” ชูร่าชายกล่าว
เห็นแค่เพียงราชันย์หมาป่าที่ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง กำลังเดินตรงมาจากทางเข้าวิหาร
มันขยับจมูกฟุดฟิด ในสมองขบคิดอย่างจริงจังอยู่สักพักหนึ่งจึงกล่าวว่า “พวกเจ้าทุกคนช่วยกันมองหาดูหน่อยว่าภายในวิหารนี้มีสิ่งผิดปกติใดๆหรือไม่ และจงระวังอย่าให้สิ่งเหล่านั้นเกิดความเสียหายล่ะ”
แล้วผู้คุมนรกทั้งเจ็ดก็แยกย้ายกันไป แต่ละตนเริ่มที่จะทำการสำรวจวิหาร
แต่หลังจากที่ทำการสำรวจแล้ว พวกเขากลับไม่พบว่ามีอะไรที่ผิดสังเกตเลย
ราชันย์หมาป่าจึงอดไม่ได้ที่จะใช้กระแสจิตส่งออกไปเพื่อรายงานปัญหาแก่กู่ฉิงซาน
“มันไม่สมควรจะเป็นเช่นนี้”
กู่ฉิงซานขมวดคิ้วมุ่น
“เราได้ลองออกค้นหามันดูแล้ว แต่กลับไม่พบถึงแหล่งกำเนิดของธาตุดิน หรืออะไรแปลกๆที่ดูผิดสังเกตเลย” ราชันย์หมาป่ากล่าว
แต่แล้วจู่ๆมันก็กวาดสายตาไปในฝูงชนอย่างฉับพลัน
“ประเดี๋ยวก่อน ข้าว่าข้าไม่เห็นชูร่าหญิงนะ บางทีนางอาจจะเจอบางสิ่งเข้าแล้วก็ได้”
ในช่วงเวลาเดียวกัน
ชูร่าหญิงก็กำลังยืนอยู่ในมุมๆหนึ่งที่ห่างไกลของตัววิหาร
มีกองเครื่องจักรโลหะอยู่ที่นี่
มันเกือบที่จะพังทลายลงโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังสามารถคงสภาพเอาไว้ได้อยู่เล็กน้อยด้วยพลังอำนาจบางอย่าง และยังไม่ได้ถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์
แต่ที่เด่นสะดุดตาก็คงจะไม่พ้นหมายเลข ‘33’ ที่ถูกสลักไว้บนผิวเครื่องจักร
ควันดำจางๆลอยออกมาจากมันอยู่เป็นระยะๆ
เห็นได้ชัดว่าแม้จะมีการสนับสนุนด้วยพลังบางอย่าง แต่เครื่องจักรก็ยังได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากอยู่ดี
แต่ยังไงก็เถอะ ดูเหมือนว่ามันจะยังพอทำงานได้อยู่นะ
ชูร่าหญิงเอื้อมมือออกไปและพยายามที่จะกดลงบนเครื่องจักรโลหะเย็น
แต่แล้วเสียงของเครื่องจักรก็ดังสะท้าน จนทำให้เธอต้องกระโดดโหยงด้วยความตกใจ
“ท่านเทพ!!!”
เครื่องจักรพ่นคำนี้ออกมาอย่างลุกลี้ลุกลน
แต่เพียงแค่เอ่ยคำนั้นออกมา ตัวเครื่องจักรก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง
ส่วนประกอบบางชิ้นหลุดลอก กลิ้งตกลงมาจากเครื่องจักร
เครื่องจักรดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้ว เป็นแบบนี้อยู่สักพักมันก็หยุดทำงานลงในที่สุด
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็บังเกิดเปลวไฟลุกโชนขึ้นจากมัน
เครื่องจักรดิ้นรนเฮือกสุดท้ายให้ตนสามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง มันสั่นไหวอย่างไร้เสถียรภาพ แต่ก็ยังคงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะพูดประโยคหลังออกมา
“หนีไป-”
ตูม!
เครื่องจักรเกิดการระเบิดขึ้น
ชิ้นส่วนเครื่องจักรนับไม่ถ้วนแตกกระจายและร่วงตกลงกับพื้น
ชูร่าหญิงแข็งค้างไปชั่วขณะหนึ่ง
อ่า… สถานการณ์นี่มันบ้าอะไรกันล่ะเนี่ย?
ดูเหมือนว่าเครื่องจักรจะมีสิ่งที่อยากจะพูดอยู่มาก อย่างไรก็ตามสุดท้ายมันก็ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้
ว่าแต่มันพยายามที่จะบอกอะไรกันแน่นะ?
บังเกิดความคิดขึ้นในจิตใจของชูร่าหญิง
แต่แล้วในจุดที่เครื่องจักระเบิด จู่ๆก็พลันสาดแสงสีเหลืองเรืองรองออกมา
-แหล่งกำเนิดธาตุดิน
กลับกลายเป็นว่าแท้จริงแล้วมันอยู่ที่นี่!
ด้วยการสนับสนุนจากพลังของมัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเครื่องจักรจึงสามารถทนมาได้ถึงขนาดนี้ และเกิดปฏิกริยาตอบสนองขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีคนมาถึง
มันเป็นเพราะเครื่องจักรตระหนักดีว่าตนเองกำลังจะพังลง มันเลยตามหาแหล่งกำเนิดธาตุดิน หรือไม่ก็เพราะว่ามันมีแหล่งกำเนิดธาตุดินอยู่กับตัวอยู่แล้วกันแน่นะ? แต่จะยังไงก็ช่าง เพราะมันได้พังไปแล้ว และเรื่องนี้ก็คงจะเป็นปริศนาไปตลอดกาล
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงของราชันย์หมาป่าดังขึ้น
หกผู้คุมนรกปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังชูร่าหญิง
“โอ้! ไม่มีอะไรหรอก มันอยู่ที่นี่ไง!” ชูร่าชายร้องโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ดีล่ะ ตอนนี้ก็ส่งมันไปให้ราชาภูติกันเถอะ”
มนุษย์ปีศาจที่ลอยอยู่กลางอากาศรับเอาแหล่งกำเนิดธาตุดินมา และชูมันขึ้นให้ประจักษ์ต่อสายตาของเหล่าคนตายที่อยู่เบื้องหลัง
เหล่าคนตายพอได้เห็นก็โห่ร้องด้วยความปิติยินดีออกมา
กระทั่งเทพก็ยังต้องตกตายลงด้วยน้ำมือของหอกหลากสี
แต่พวกเขา! พวกเขากลับสามารถฝ่าด่านป้องกันของหอกและชิงแหล่งกำเนิดธาตุดินมาไว้ในกำมือได้!
สำหรับคนตายแล้ว นี่นับว่าเป็นชัยชนะอย่างแท้จริง!
แล้วพวกเขาก็ได้นำแหล่งกำเนิดธาตุดินไปยังนรกทะเลเลือด
ณ บนชายฝั่งของนรกทะเลเลือด
กู่ฉิงซานกำลังกะน้ำหนักของแหล่งกำเนิดธาตุดินที่อยู่ในมือของเขา
คราวนี้ก็ได้แหล่งกำเนิดมาสี่แล้ว!
ปัจจุบันนี้ เหลืออีกเพียงแหล่งกำเนิดธาตุไม้ที่อยู่บนภูเขาล้อมเหล็ก
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆชูร่าหญิงก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายเขา
“มีอะไรงั้นหรอ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
“ข้ามีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่อยากจะเอ่ยถามฉานนู่หรือไม่ก็ตะขอเกี่ยววิญญาณน่ะ”
ชูร่าหญิงดูเหมือนว่าจะกำลังกังวล
“เชิญถามมาได้” ตะขอเกี่ยววิญญาณกล่าว
“พอจะมีวีธีที่สามารถซ่อมแซมเครื่องจักรปรภพได้หรือไม่?”
“มีเพียงเทพวิญญาณที่จะสามารถซ่อมแซมพวกเขาได้ นอกเหนือไปจากนั้น ก็คงจะเป็นพลังของกฏเกณฑ์แห่งปรภพ ที่จะค่อยๆซ่อมแซมพวกเขาเอง แต่สำหรับอย่างหลังกระบวนการมันจะเป็นไปอย่างช้าๆ”
ชูร่าหญิงพยักหน้า ขณะที่ในหัวกำลังขบคิด
“เอาล่ะ เหลือแหล่งกำเนิดธาตุอีกแค่อันเดียวแล้ว ทุกคนบุกได้!” กู่ฉิงซานเอ่ยบัญชา
ฮ่าาาา!!!
เหล่าคนตายตะโกนก้อง และเริ่มพุ่งทะยานเข้าปะทะอีกครั้ง
แต่คราวนี้หอกหลากสีก็ยังคงสงบนิ่ง
มันที่อยู่บนยอดได้เปล่งเส้นแสงเฉดเงาหลากสีออกมาทั่วบริเวณรอบครึ่งบนของภูเขาล้อมเหล็ก
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคำประกาศของมัน ที่น่าจะใจความว่า
‘หากผู้ใดก็ตามข้ามเส้นนี้มา มันทุกคนจักต้องตาย’
เหล่าคนตายจึงไม่คิดเข้าไปวุ่นวายกับมัน ก่อนจะเริ่มทำการสำรวจครึ่งล่างของภูเขาล้อมเหล็ก และในที่สุดก็พบกับแหล่งกำเนิดธาตุไม้อย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก แหล่งกำเนิดธาตุไม้ก็มาถึงมือของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานรับเอาแหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้ามา และเริ่มที่จะย้อนระลึกความทรงจำอย่างเงียบๆ
เมื่อครั้งที่เขาอยู่ในโลกเทวะ ร่างใหญ่ได้เคยบอกเขาถึงวิธีการผสานรวมระหว่างสองโลกเข้าด้วยกัน
“ต่อไป ก็ถึงเวลาที่จะหลอมกลั่นพวกมันสินะ”
ขณะที่กู่ฉิงซานกำลังกล่าว เขาก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา ให้มันประสานเข้ากับจิตสัมผัสเทวะ และเริ่มทำการหลอมกลั่นแหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้า
แหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้าเหล่านี้ไม่มีเจ้าของ และมันเข้ากันได้ดีเป็นอย่างมากกับพลังวิญญาณ ช่างเป็นวัสดุสำหรับการหลอมกลั่นที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน
และการดำรงอยู่ของพวกมันจะยังคงอยู่ต่อไป ตราบใดที่ในโลกทั้งหกไม่มีการหลอมกลั่นเกิดขึ้น
ไม่นานนัก แหล่งกำเนิดธาตุทั้งห้าก็ถูกประทับตราโดยกู่ฉิงซานด้วยจิตสัมผัสเทวะของเขา
เขาใช้พลังวิญญาณเพื่อจัดการกับกระบวนการหลอมกลั่น และค่อยๆยืดกลุ่มแสงให้กลายเป็นเส้นใย และเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกัน
ทันใดนั้นเส้นแสงยาวเหยีดดที่ทอประกายห้าสีก็ถือกำเนิดขึ้น
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม เส้นแสงตัวอักษรขนาดเล็กเด้งเตือนขึ้นมาทันใด
“คุณได้รับสายใยแห่งกฏเกณฑ์”
“นี่คือสายใยกฏเกณฑ์แห่งโลกปรภพของหกวิถีแห่งสังสารวัฏ”
“หากคุณนำมันเข้าสู่โลกอื่น โลกปรภพก็จะถูกดึงดูดโดยสายใยแห่งกฏเกณฑ์นี้ และค่อยๆถูกหลอมรวมเข้ากับอีกโลกหนึ่งที่คุณได้นำพามันเข้าไป”
กู่ฉิงซานกำไม้เท้าแห่งการจองจำในมือ หลับตาลงครุ่นคิด
“ฉานนู่”
“ข้าอยู่นี่นายน้อย”
“เรื่องราวของที่นี่ ข้ายกให้เจ้าจัดการก็แล้วกัน ส่วนข้าขอตัวกลับไปที่โลกมนุษย์ก่อน”
“แล้วนายน้อยต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”
“เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เองในไม่ช้า”
กู่ฉิงซานกระทุ้งปลายไม้เท้าแห่งการจองจำให้มันตั้งตรงบนพื้น
ขณะเดียวกันเขาก็บีบสายใยแห่งกฏเกณฑ์ห้าสีในมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกข้างจีบออกด้วยวิชาลับ
“วิญญาณหวนคืน”
“วิญญาณหวนคืน : แม้ตนจะตกตาย หรือกระทั่งจิตแห่งตนล่องลอยสู่ปรภพ ก็ยังสามารถที่จะเรียกมันกลับคืนมาได้”
ในความว่างเปล่า ราวกับว่ามีแรงฉุดที่มองไม่เห็นบังเกิดขึ้น มันคอยบ่งบอกให้กู่ฉิงซานรับรู้ได้ถึงทิศทางของกายมนุษย์ของตนเอง
เขาผลุบเข้าไปในความว่างเปล่าพร้อมกับแรงฉุด ออกจากนรกทะเลเลือดอย่างฉับพลัน
และในวินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำมืด
เขาเดินผ่านถ้ำมืดที่ว่างเปล่าเข้าไปในกระแสมิติอันเชี่ยวกราด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปตามทิศทางของแรงฉุด
ชั่วระยะเวลาหนึ่ง กู่ฉิงซานก็หยุดลง
เขาสัมผัสได้รางๆว่ากายมนุษย์ของตนอยู่ภายนอกมิติที่ว่างเปล่าตรงจุดนี้
ด้วยวิชาลับที่ใช้ไป ทำให้บังเกิดภาพรางๆของกำแพงโปร่งใสปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
แม้ภาพจะไม่ชัด แต่ก็จะเห็นว่าเบื้องหน้าเขา คือห้องนั่งเล่นในวิลล่าบนภูเขา
กู่ฉิงซานทะลุกำแพงโปร่งใสเข้ามา และปรากฏกายขึ้นในโลกมนุษย์
เขาลอยอยู่กลางอากาศ และหันไปมองรอบๆห้องอย่างเงียบๆ
ซางหยิงฮ่าวกับเย่เฟย์หยูยังคงประกบซ้าย-ขวา ข้างกายเขา คอยปกป้องตนเองอย่างระมัดระวัง
เอ๋?
แอนนาก็มาด้วยหรอนี่?
ปรากฏว่ามีสาวสวยผมยาวสีแดงเพลิงนั่งอยู่บนโซฟา ขณะนี้เจ้าตัวกำลังแสดงท่าทีเบื่อหน่ายออกมา
และข้างกายเด็กสาว มีหมาดำกำลังนอนโชว์พุงอยู่
ขณะเดียวกัน หมาดำก็กำลังถือขวดไวน์และยกปากขวดกระดกเข้าปากจนคอของมันงอหงายไปข้างหลัง
แต่ทันทีที่กู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้น
หมาดำก็ดีดตัวนั่งหลังตรงอย่างฉับพลัน มันเงยหน้าขึ้นมองมายังร่างวิญญาณของกู่ฉิงซาน
หมาดำจ้องมองใบหน้าของกู่ฉิงซานอย่างรอบคอบ ก่อนจะสลับกลับมาดูกายมนุษย์ของเขา จากนั้นมันก็เริ่มผ่อนคลายลงในไม่ช้า
หมาดำหย่อนหลังของมันลง เอนกายนอนดังเดิม
-สถานการณ์นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย?
เมื่อกี้เจ้าหมาตัวนั้นมันมองเห็นฉันใช่ไหม?
ขณะที่กู่ฉิงซานยังคงสงสัย กลับเห็นแค่เพียงหมาดำที่จู่ๆก็ดีดตัวขึ้นอีกรอบ พร้อมด้วยสองตาของมันที่กำลังจับจ้องมายังสายใยกฏเกณฑ์ห้าสีในมือของกู่ฉิงซาน
หมาดำอ้าปากค้าง ท่าทีการแสดงออกของมันดูจะประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง