Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 424
หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.424 – อร่อย!
บนท้องฟ้า อสูรกายตัวใหญ่ยักษ์เปล่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และโลก
มันเป็นงูดำที่มีสามหัว ตลอดทั้งสามหัวลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงสีเขียว ขณะที่ร่างของมันแข็งแกร่งใหญ่โต กินพื้นที่ปกคลุมไปเกือบทั่วน่านฟ้าบริเวณนี้
แต่ละหัวของมันมีรูปร่างแตกต่างกัน หนึ่งเป็นแค่หัวกะโหลก หนึ่งเป็นหัวแกะ สุดท้ายเป็นหัวของผู้หญิง
เปลวไฟสีเขียวลอยวนอยู่รอบๆตัวมัน ขณะที่เผ่ามารตนอื่นๆหลีกเลี่ยงเว้นระยะไม่ไปอยู่ใกล้ และคอยเฝ้ามองมันอย่างระแวดระวัง
อสูรกายตนนี้แทบจะอดรนทนไม่ไหว เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ
ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อมีศัตรูมากมายอยู่เบื้องล่าง –แล้วสิ่งที่มันต้องการจะทำน่ะหรือ?
ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกระโจนลงไปกัดกินเนื้อหนังและจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่อยู่เบื้องล่างเป็นอาหารน่ะสิ!
อสูรกายเหวี่ยงหัวเขาแกะ ใช้ปลายเขาแหลมทั้งสองกระแทก! และทิ่มแทงอย่างรวดเร็ว ไปยังกำแพงอุปสรรคของโลกที่กำลังอ่อนแอ
ดูเหมือนว่ามันจะมีความสามารถพิเศษในด้านระบบมิติ เพราะทันทีที่ปลายเขาคู่ทิ่มแทงลงไป ก็บังเกิดระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นขึ้นบนเขาทั้งสองในพริบตา
ช่วงวินาทีต่อมา อสูรกายมารงูดำก็สามารถก้าวข้ามผ่านกำแพงอุปสรรค และปรากฏกายขึ้นภายใต้ท้องฟ้าโลกมนุษย์ได้ในที่สุด
ไม่ผิดแล้ว! เขาคู่ของมันมีความสามารถในการเจาะกำแพงอุปสรรคที่ใช้ป้องกันโลก!
ความสามารถอันน่าสะพรึงเช่นนี้ แม้กระทั่งในหมู่อสูรกายด้วยกันก็ยังนับว่าโดดเด่นยิ่ง
อสูรกายงูดำสามหัวจ้องมองดูเบื้องล่าง และขู่ฟ่อเสียงแสบหูออกมา
ผู้คุมนรกทั้งเจ็ดต่างพากันแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ขณะที่ทุกสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะคนเป็นหรือคนตาย ก็ล้วนแหงนหน้ามองขึ้นไปพร้อมกัน
เห็นแค่เพียงอสูรกายสามหัวที่กำลังทิ้งตัวลงมายังเบื้องล่าง
มันคืออสูรกายตนแรกที่ตกลงมายังโลกมนุษย์!
รอบกายมัน ฟุ้งไปด้วยกลิ่นอายแข็งกร้าวอันแสนน่าหวาดกลัว!
หัวหญิงมนุษย์ซึ่งเป็นหนึ่งในสามหัวอสูรกายน้ำลายไหลหยดย้อย เธอเอ่ยอย่างตะกละตะกลามว่า “เนื้อคนเป็นๆสดๆ สมควรที่จะมาเติมเต็มอยู่ในท้องข้า!”
นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นการประกาศศักดา
มันกำลังจะบอกว่าตลอดทั้งโลก ช่วงเวลาแห่งการล่าสังหารได้มาถึงแล้ว!
แต่ชั่วขณะหนึ่ง แม้จะผ่านไปสักพักแล้ว แต่บนพื้นโลกกลับไม่มีใครส่งเสียงดังใดๆออกมา
กู่ฉิงซานที่ถือไม้เท้าแห่งการจองจำและกำลังเชื่อมต่อกับคนตายทุกคนได้เอ่ยออกมาว่า
“ทุกคนได้ยินไหม? มันบอกว่า … เนื้อคนเป็นสดๆล่ะ … ”
คิกๆ
ชูร่าหญิงหัวเราะออกมา
ขณะที่ผู้คุมนรกคนอื่นๆก็เริ่มหัวเราะตาม
เสียงหัวเราะราวกับเชื้อร้าย มันลุกลามราวกับไฟลามทุ่ง คนตายคนแล้วคนเล่าเริ่มที่จะพากันแหกปากหัวเราะออกมา
พวกเขาราวกับได้ยินถึงสิ่งที่น่าตลกที่สุด บ้างหัวเราะจนตัวงอไปบ้างหน้า บ้างหัวเราะเอนตัวไปข้างหลังจนหงายท้องตึง ขณะที่บ้างหัวเราะจนยกมือขึ้นตบหน้าอกตนเอง
“คนเป็นสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า นอกไปจากราชาภูติ ก็ไม่มีใครอีกแล้วที่คือคนเป็น!”
“ท่านปู่คนนี้ยังไม่ได้ไปเกิดใหม่ ฉะนั้นท่านปู่คนนี้ก็ยังคือคนตาย!”
“เรื่องที่มันพูดช่างทำให้ท่านปู่ผู้นี้ขบขันเสียจริง!”
“สงสัยจะหิวจนเป็นบ้าไปแล้ว”
ในช่วงเวลานี้ ตลอดทั้งดาวเคราะห์โลกต่างก็กระหึ่มไปด้วยหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
แต่เสียงหัวเราะก็หยุดลงอย่างรวดเร็ว
เพราะกู่ฉิงซานได้ส่งคลื่นความคิดของเขาผ่านไม้เท้าแห่งการจองจำที่ถืออยู่ไปยังเหล่าคนตาย
ในหัวใจของทุกคนตระหนักทราบถึงแผนการ
จากนั้น กู่ฉิงซานก็เริ่มลงมือทันที
เขาหายตัวไปในพริบตา และปรากฏขึ้นอีกครั้งบนพื้นที่ราบ
คนตายนับไม่ถ้วนที่เบียดเสียดแออัดกัน ต่างแยกตัวออกเป็นสองฟากฝั่ง เพื่อสร้างพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ให้แก่ราชาภูติ
กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้า สายตาจับจ้องไปยังอสูรกายสามหัวที่กำลังทิ้งตัวลงมาอย่างรวดเร็ว
“รีบร้อนนักใช่ไหม ฉันจะทำให้แกได้รู้จักและเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่เรียกกันว่า ‘คำทักทายจากนรก’ เอง!”
เขาบ่นงึมงำ
และทันทีที่เสียงของเขาตกลง ทั้งคนทั้งร่างก็หายวับไปจากจุดนั้นทันที
สกิลเทวะ ร่างเงาแทนที่!
กู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้าเบื้องบน ขณะที่พริบตานั้น อสูรกายสามหัวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นบนพื้นดินอย่างกระทันหัน
อสูรกายสามหัวตะลึงงันไปครู่หนึ่ง
ชั่วเวลานั้นเอง คนตายนับไม่ถ้วนที่ดักรออยู่ทั้งสองฟากฝั่งก็ได้เผยอปากขึ้น อ้าคำรนส่งเสียงสะท้านไปทั่วฟ้า
“ฆ่า-มัน!”
พวกเขาโจนทะยานไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ปีนป่ายไปตามร่างกายของอสูรกาย
บัดนี้! มันได้ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมอสูรกายที่กระจุกตัวเบียดเสียดกันอย่างหนาแน่น!
ด้วยปริมาณที่มหาศาล ส่งผลให้เพียงลมหายใจเดียว อสูรกายตนนั้นก็ถูกกลบฝังจนมิดด้วยเหล่าคนตายโดยสมบูรณ์
ก๊าซซซซ!
อสูรกายสามหัวโกรธจนคลั่ง มันระเบิดเสียงคำรามสะเทือนไปทั่วฟ้า
เปลวไฟสีเขียวอันน่าสยดสยองวิ่งผ่านไปรอบกายมัน
เปรี๊ยะ!
เหล่าคนตายทุกคนที่ปีนป่ายขึ้นไปบนร่างของมันถูกแผดเผาโดยสมบูรณ์
เพียงชั่วพริบตาเดียว อสูรกายสามหัวก็ได้สังหารคนตายไปแล้วกว่าหลายหมื่นหรืออาจจะถึงแสนคน!
“เป็นแค่มดปลวก อย่าริบังอาจมาสัมผัสตัวข้าให้เสียโฉม!”
หนึ่งในสามหัวอสูรกายที่เป็นหัวหญิงมนุษย์ได้ตะโกนออกมา
มันกลิ้งลงกับพื้นดิน และหมุนร่างขนาดใหญ่ที่ลุกท่วมด้วยเพลิงสีเขียว ม้วนตัวกวาดไปตลอดทั้งพื้นที่ราบ
ที่ซึ่งคนตายคนแล้วคนเล่ากระจุกตัวอยู่ที่นั่น
คราวนี้ คนตายนับล้านเสียชีวิตลงทันที
เมื่อกู่ฉิงซานเห็นถึงฉากนี้ เขาก็วาดไม้เท้าแห่งการจองจำออกไป
เขาเปิดใช้งานพลังของไม้เท้า ‘ต้นกำเนิดแห่งความตาย’
และต่อมา สิ่งที่คาดไม่ถึงก็บังเกิดขึ้น
บนพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ ร่างกายของคนตายนับล้านที่ถูกสังหารลง จู่ๆก็พลันลืมตาขึ้น
ก่อนที่คนตายเหล่านั้นผุดลุกขึ้นมาจากพื้นดิน
คนตายคนหนึ่งเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “น่าแปลก เหตุใดข้าถึงไม่ถูกส่งกลับไปหลับไหล?”
เหล่าคนตายหันมาสบตากัน ข้ามองเจ้า เจ้ามองข้า และจู่ๆก็พลันตระหนักได้ถึงสิ่งหนึ่ง
ตนเองได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในทันที!
นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!?
ตามกฏของนรกแล้ว เดิมทีหลังจากที่คนตายเสียชีวิตลง พวกเขาจะต้องถูกส่งกลับไปยังนรกก่อนเป็นอันดับแรก จมหายไปในห้วงหลับไหล จึงจะสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้ง
และนั่นก็เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษทรมานจากนรกเสมอไป มิอาจหลีกเลี่ยงหลบหนีได้
ทว่าตอนนี้ เหล่าคนตายกลับสามารถฟื้นคืนชีพได้ในสถานทีเดียวกันกับตอนถูกตนสังหาร!
และสิ่งนี้มันแตกต่างจากกฏพันธนาการของนรกอย่างสิ้นเชิง!
ผู้คุมนรกทั้งเจ็ดก็ประหลาดใจเช่นกัน
แต่แล้วราชันย์หมาป่าก็ร้องออกมาในฉับพลัน “ข้าเข้าใจแล้ว!”
“ไหนลองว่ามาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” ชูร่าหญิงเอ่ยถาม
“พวกเราน่ะ ถึงแม้ว่าจะยังเป็นคนตายจากนรก แต่บาปของพวกเรานั้นได้หมดสิ้นลงไปแล้ว และกำลังจะได้ไปเกิดใหม่ในไม่ช้า!”
“เออ เรื่องนั้นใครๆก็รู้ แล้วมันยังไงต่อ?”
“ก็ในเมื่อบาปของพวกเราหมดสิ้นแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปถูกลงโทษทรมานในนรกอีกต่อไป ฉะนั้น เมื่อพวกเราฟื้นคืนชีพ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปยังนรกของตนอีกแล้วอย่างไรเล่า”
“แบบนี้มันก็หมายความว่า … ”
“ใช่แล้ว ตราบใดที่ราชาภูติใช้งาน ‘ต้นกำเนิดแห่งความตาย’ พวกเราที่ถูกสังหารลง ก็จะสามารฟื้นคืนชีพได้ในสถานที่เดียวกันทันที!”
เจ็ดผู้คุมนรกหันมามองกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานยกไม้เท้าขึ้น ส่งสัญญาณกลับไป
“ทุกคนจงอย่าได้ลังเล ข้าจะเป็นคนปลุกพวกเจ้าให้ตื่นจากการหลับไหลเอง!” เขากล่าว
ชูร่าชายหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันวิเศษไปเลย! ข้าไม่สนใจพวกเจ้าแล้ว ขอตัวไปเล่นสนุกกับอสูรกายก่อนก็แล้วกัน!”
เขาชักอาวุธตนออกมา และทะยานเข้าหาอสูรกายสามหัว
เป็นอมตะ
แถมทันทีที่ตาย ก็ยังฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งในตำแหน่งเดิม
นี่มันนับว่าเป็นอำนาจอันยิ่งใหญ่ เหนือล้ำยิ่งกว่าทุกสิ่ง!
ไม้เท้าแห่งการจองจำ , บุญมหาศาลที่ได้รับ , กฏแห่งปรภพ , โลกทั้งสองเกิดการหลอม ในช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งมหัศจรรย์ถือกำเกิดขึ้นมากมาย ทั้งหมดหลอมรวมเข้าด้วยกันกลายมาเป็นช่วงเวลาสุดแสนจะพิเศษนี้!
เหล่าคนตายเมื่อรู้ถึงความจริงข้อนี้ ทั้งหมดก็คลั่งไปแล้ว!
“ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ต่อให้อสูรกายจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่มันก็ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด!”
“แถมเปลวเพลิงของมันก็ใช่ว่าจะรุนแรงอะไรมากมายนัก เทียบกับความทุกข์ทรมานที่ได้รับจากนรกกระทะทองแดงไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
“พวกเราเป็นอมตะ!”
“มาเถอะ! มาช่วยกันกำจัดเจ้าขยะชิ้นใหญ่นี่ซะ!”
พวกเขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
คนตายอีกระลอกหนึ่งโร่พุ่งเข้าหาอสูรกายสามหัว
พวกเขากระโจนเข้าหาร่างใหญ่ของอสูรกายที่ยังคงม้วนกลิ้งตัวไปมา ง้างอาวุธประจำตัวของตน สับ ตัด แทง ฉีกกัด -ทุ่มลงมืออย่างเต็มกำลัง
อสูรกายสามหัวบัดนี้ถูกรุมล้อมโดยฝูงคนตายที่กระจุกตัวหนาแน่น
ในท้ายที่สุด กายมหึมาของเจ้าอสูรกายสามหัวก็ถูกปกคลุมจนมิด มิอาจมองเห็นถึงร่างของมันได้โดยสมบูรณ์
มองจากระยะไกล จะเห็นแค่เพียงร่างคนตายที่กองทับๆกันแน่นจนแลคล้ายภูเขา
ภูเขาที่กำลังเคลื่อนไหวคืบคลานอยู่ตลอดเวลา
ก๊าซซซซซ!
อสูรกายคำรามออกมา อ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีเขียวแห่งความโกรธพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันพยายามสังหารฝูงคนตายด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่กลับไม่มีคนตายคนใดสิ้นใจลงเลย
เปลวเพลิงยังคงแผดเผาอย่างต่อเนื่อง แต่คนตายก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งๆที่ยังอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังถูกแผดเผาก็ตามที
คนตายจำนวนหนึ่่งถูกสังหารลง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งฟื้นคืนชีพ กล่าวได้ว่า ณ จุดๆนี้ ความตายมิอาจควบคุมพวกเขาได้อีกต่อไป!
พวกเขายอมเสียสละชีวิต เพื่อที่จะสังหารอสูรกายตนนี้
ทันใดนั้นเอง!
จ้าวอสูรร่างใหญ่ตนหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาอย่างคลุ้มคลั่งว่า “อร่อย! อร่อยยิ่งนัก! เนื้อของอสูรกายช่างอร่อยเกินจะบรรยายเสียจริงๆ!”
เหล่าคนตายทั้งหมดชะงักงันในพริบตา
วินาทีต่อมา
ก็บังเกิดเสียงสะท้านที่สั่นสะเทือนไปทั้งผืนฟ้า ครอบคลุมไปตลอดทั้งผืนดินดังขึ้นจากพื้นที่ราบ
“ข้า-ต้องการ-กินมัน!!”
ฝูงคนตายเริ่มจะบ้าคลั่งมากขึ้น
ขณะที่อสูรกายสามหัวส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ
เสียงหอนด้วยความหวาดกลัวก็แผ่วลง ๆ ๆ ๆ
จนในที่สุด เสียงที่ว่านั่นก็หายไป
บนพื้นที่ราบ เหล่าคนตายพากันแยกย้าย กระจายตัวออกไป
ขณะที่บริเวณดังกล่าว บัดนี้ทิ้งไว้เพียงร่างโครงกระดูกขนาดใหญ่ของอสูรกายสามหัวที่ยังหลงเหลืออยู่
“อร่อย!”
“โอชายิ่งนัก!”
“มันน่าเสียดายจริงๆที่ข้าจะต้องไปเกิดใหม่ในเร็วๆนี้ แต่กลับพึ่งได้เคยอิ่มเอมกับมื้ออาหารเลิศรส!”
คนตายตนแล้วตนเล่าได้สื่อสารกันผ่านกระแสความคิดที่ไม้เท้าแห่งการจองจำเป็นคนสร้างขึ้น
แต่– ยังมีคนตายอีกนับหมื่นนับแสนล้านคนที่ยังไม่ได้กินสิ่งใดเลย
แล้วต้องทำยังไงล่ะ?
ตลอดทั่วทุกมุมโลก ฝูงคนต่ายต่างแหงนต่างขึ้นไปมองเบื้องบนโดยไม่รู้ตัว
นั่นไงอาหาร!
อาหารอันโอชะ!
“ลงมาสิ!”
“จงลงมา!”
“ลงมา!”
เสียงของคนตายที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าโห่ร้องขึ้น
ขณะที่บนท้องฟ้า เสียงคำรามของเผ่ามารกลับค่อยๆแผ่วลง
นั่นเพราะเผ่ามารบางส่วนก็ได้คอยเฝ้ามองดูการเคลื่อนไหวของสถานการณ์เบื้องล่างอยู่เช่นกัน
ในฐานะที่ตนเป็นอาวุธสงครามที่ได้ต่อสู้มาแล้วหลายโลก พวกมันจึงตระหนักชัดว่าสิ่งมีชีวิตอันแสนยุ่งเหยิงเบื้องล่างนี้คือสิ่งใด
ตายแล้วฟื้น
ตายแล้วฟื้น
ตายแล้วฟื้น
ตายแล้วฟื้น
-ในตลอดทั้งหกโลก โลกปรภพนับว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่เลวร้ายที่สุด!
และตอนนี้ พวกคนตายก็ไม่จำเป็นต้องหลับไหลอีกต่อไป แต่กลับสามารถฟื้นคืนชีพในสถานที่เดียวกันได้เลยโดยตรง!
ความตื่นเต้น กระตือรือร้นที่จะต่อสู้ของพวกมันจึงได้ถดถอยลงไป
ขณะที่พวกมันบางตนเริ่มตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ
เดิมที พวกมันแค่ต้องการที่จะเฝ้ารอจนกระทั่งกำแพงแห่งอุปสรรคของโลกพังทลายลง จากนั้นก็ปรี่ลงไปล่าสังหาร กลืนกินอาหารแสนอร่อย
แต่ในเวลานี้ … ดูเหมือนว่าจะกลับกลายเป็นพวกมันเสียเองที่กลายเป็นผู้ถูกล่า