WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1500
แลกเปลี่ยนกับตระกูลโอวหยาง
มาตอนนี้หลิวเยว่ก็รู้ได้ทันทีว่าข่าวลือสมควรเป็นจริง อาวุโสฮุยกับอาวุโสป๋ายลี่หงสมควรมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน
“อาวุโสฮุย ข้าขอตัวลา”
หลังจากที่พาต้วนหลิงเทียนมาส่งถึงที่แล้ว หลิวเยว่ก็คิดปลีกตัวจากไปทันที
“อืม”
อาวุโสฮุยหันมองหลิวเยว่ค่อยพยักหน้าออกมา
หลังจากนั้นหลิวเยว่ก็หันไปอำลาต้วนหลิงเทียน
“ลำบากพี่เยว่นำทางแล้ว”
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนลาหลิวเยว่ เขาก็หันไปประสานมือคารวะอาวุโสฮุยด้วยรอยยิ้ม “ต้วนหลิงเทียนคารวะอาวุโสฮุย”
“อะไร? ไฉนศิษย์น้องต้วนเรียกข้าห่างเหินเช่นนั้นเล่า? หรือเจ้าคิดว่าข้ามิคู่ควรเป็นศิษย์พี่ของเจ้า?”
พอได้ยินคำทักของต้วนหลิงเทียน อาวุโสฮุยก็ชักสีหน้าหม่นหมองทันที
“ศิษย์พี่ฮุย”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มเจื่อนๆ
ถึงแม้เขาจะเห็นชัดว่าอาวุโสฮุยเพียงจงใจปั้นหน้าซึม แต่เขาก็ได้แต่เล่นตามน้ำอีกฝ่ายไปเท่านั้น ขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอีกฝ่ายกับศิษย์พี่ของเขาอย่าง ‘ป๋ายลี่หง’ ยังสนิทสนมเหนือกว่าที่คิดไว้เสียอีก
“ประเสริฐ!”
ได้ยินต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนคำเรียกหา หน้าต่งฮุยก็เผยยิ้มกว้างออกมาทันที
“ว่าแต่…เจ้านี่มันเป็นใครหรือ?”
ไม่นานสายตาต่งฮุยก็หันไปสนใจโอวหยางชิงที่พึ่งถูกต้วนหลิงเทียนเขวี้ยงทิ้งอีกรอบ
มันพอเดาได้คร่าวๆว่าที่ต้วนหลิงเทียนมาหามันเอาดึกดื่นขนาดนี้ มิแคล้วต้องเกี่ยวข้องกับคนผู้นี้แน่นอน
“มันคือคุณชายใหญ่ตระกูลโอวหยาง โอวหยางชิง”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองโอวหยางชิงอย่างไม่แยแสค่อยกล่าว
“ตระกูลโอวหยาง? ตระกูลโอวหยางที่อยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองหานเหอนี่น่ะรึ?”
ต่งฮุยขมวดคิ้วกล่าวถาม
“เป็นตระกูลโอวหยางนั่น”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
“แล้วเกิดอันใดขึ้นกัน หรือมันมากวนใจอันใดศิษย์น้อง?”
ต่งฮุยถาม
“หากมันแค่มากวนใจข้าเฉยๆ ข้าก็ไม่คงไม่สนใจอะไรมัน…ปัญหาคือมันกลับไปพาผู้อาวุโสของตระกูลมาพยายามฆ่าข้า”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว วาจาท้ายประโยคลูกตายังเผยประกายดุร้าย
“อะไรนะ!?”
ได้ยินคำนี้ หน้าต่งฮุยเปลี่ยนสีทันที มองโอวหยางชิงอีกครั้งลูกตายังเต็มไปด้วยอำมหิต
ในใจของมันยกย่องนับถือป๋ายลี่หงเป็นดั่งอาจารย์มาโดยตลอดในแง่การจารึกอาคมเซียน
ตอนที่มันได้ยินว่าป๋ายลี่หงรับชายหนุ่มคนหนึ่งมาเป็นศิษย์น้อง ด้วยความชื่นชมที่มีต่อป๋ายลี่หงมันจึงแผ่ความชื่นชมมาถึงชายหนุ่มผู้นั้น และมองเป็นศิษย์น้องของมันไปด้วยอีกคน
มันครุ่นคิดถึงฉากการพบพานระหว่างมันกับศิษย์น้องคนนี้ไว้มากมาย แต่ไม่คิดเลยว่าพบหน้ากันครั้งแรกจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้!
หากเกิดอะไรขึ้นกับต้วนหลิงเทียนในเมืองหานเหอ แล้วมันจะมีหน้าไปพบป๋ายลี่หงได้อย่างไร!
ดังนั้นต่งฮุยจึงพิโรธนัก ไฟโทสะยังลุกท่วมใจ!
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตฆ่าฟันอันน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากร่างต่งฮุย โอวหยางชิงถึงกับตัวสั่นระริก มันหวาดกลัวจับใจ
มันที่ตื่นตระหนกก็ได้แต่หันไปกล่าวกับต้วนหลิงเทียน “ต้วนหลิงเทียน ท่านกล่าวไว้แล้วว่าจะไม่ฆ่าข้า! ท่านบอกแล้วว่าจะไม่ฆ่าข้า!!”
“หืม?”
ได้ยินคำของโอวหยางชิง ต่งฮุยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วหน้าบึ้งตึง หันไปมองถามต้วนหลิงเทียน
มันไม่อาจเข้าใจได้
ว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงให้อภัยคนที่คิดจะฆ่าตัวเองแบบนี้
“วาจาที่ข้ากล่าว ดั่งตะปูที่ตอกลงไปแล้ว…เจ้าจะร้อนรนทำอะไร”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเย็น ทำให้โอวหยางชิงหุบปากลงทันที
“อย่างไรก็ตามแม้ข้าบอกว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่นั่นเพราะข้ามีเงื่อนไขบางอย่าง…หากเจ้าให้ความร่วมมือแต่โดยดีไม่คิดเล่นเล่ห์อะไร เจ้าก็ไม่ตาย”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสียงเรียบ
“ข้าจะให้ความร่วมมือกับท่าน! ข้าไม่มีลูกไม้อันใด!!”
โอวหยางชิงเร่งกล่าวออกมาทันที ด้วยกลัวต้วนหลิงเทียนจะเปลี่ยนใจแล้วฆ่ามันทิ้ง
“บอกข้ามา ว่าไอ้แก่ที่มันตามเจ้ามาฆ่าข้ามันเป็นใครกันแน่? ด้วยพลังฝีมือของมันข้าเชื่อว่ามันสมควรเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งในตระกูลโอวหยางเจ้า”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองโอวหยางชิงพร้อมถาม
“ชื่อของมันเรียกว่า โอวหยางชาน เป็นอาวุโสลำดับ 2 ของตระกูลโอวหยางเรา!”
โอวหยางชิงไม่กล้าลังเลอะไร เร่งกล่าวตอบออกมาทันที
“พ่อเจ้าสั่งมันมา หรือเป็นเจ้าที่ไปยุยงมัน?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามอีกรอบ
“มิใช่คำสั่งบิดาข้า!”
โอวหยางชิงส่ายหัว
“งั้นก็เป็นเจ้าที่เป็นคนต้นคิดพามันมาฆ่าข้าสินะ?”
ลูกตาต้วนหลิงเทียนเผยประกายเย็นชา กล่าวถามเสียงเย็น
“ไม่! ไม่ใช่!!”
โอวหยางชิงที่เห็นสายตาเย็นเยือกของต้วนหลิงเทียนจ้องมา มันก็ตกใจเสียขวัญเร่งส่ายหัวเป็นพัลวัน “ข้ามิได้ยุยงมันนะ! ข้ามิเคยยุยงมันเลย! เป็นมัน! พอมันได้ยินเรื่องราวของเจ้า และพอรู้ว่าเจ้ามีศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียน 3 ดาว มันก็วางแผนฆ่าเจ้าเพื่อชิงทรัพย์ทันที!!”
โอวหยางชิงเร่งสร้างเรื่องราว ทั้งผลักไสความผิดทั้งหมดไปยังโอวหยางชานที่ตายไปแล้วทันที
หากโอวหยางชานที่กำลังเดินทางไปปรภพ มาได้ยินวาจาซัดทอดนี้ของโอวหยางชิง มิรู้ว่ามันจะมีโทสะถึงเพียงใดบางทีมันอาจกระอักเลือด หรือบางทีมันแค่เสียใจที่เชื่อวาจายุยงของโอวหยางชิงจนมาเล่นงานต้วนหลิงเทียนจนตัวตาย
วาจาที่โอวหยางชิงพ่นมา แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนไม่เชื่อมันแม้ครึ่งคำ
แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับเขาเลย
“ตระกูลโอวหยางของพวกเจ้าช่างกล้านัก!”
ต่งฮุยที่ยืนอยู่ข้างๆ พอได้ยินคำของโอวหยางชิงก็เดือดดาลจนแทบระเบิด “พวกเจ้าถึงกับกล้าคิดฆ่าชิงทรัพย์คนสำนักจันทร์จรัสแสงของข้า! ตระกูลโอวหยางเจ้าคราวนี้ขวัญกล้าเทียมฟ้าแล้วจริงๆ!!”
“ศิษย์น้องต้วน ในเมื่อเจ้ารับปากมันแล้วว่าจะมิฆ่ามัน…ทว่าศิษย์พี่ผู้นี้มิเคยรับปากอันใด…ในสายตาข้าในเมื่อสกุลโอวหยางมันเหิมเกริมไม่เห็นสำนักจันทร์จรัสแสงเราอยู่ในสายตา เช่นนั้นก็อย่าได้เก็บชีวิตตัวบัดซบนี่ไว้อีกเลย!”
ถึงแม้ต่งฮุยจะแทบทนไม่ไหวไม่ให้ฟาดโอวหยางชิงตายในฝ่ามือเดียว แต่มันก็เคารพการตัดสินใจของต้วนหลิงเทียนและไม่อาจลงมือทำอะไรได้
“ไม่นะ! ท่านฆ่าข้าไม่ได้นะ!!”
ต้วนหลิงเทียนยังไม่ทันพูดอะไร โอวหยางชิงก็ตีตนไปก่อนไข้ เร่งร้องวิงวอนออกมาน้ำหูน้ำตาไหล
ถูกแล้ว
ต้วนหลิงเทียนบอกว่าจะไม่ฆ่ามัน แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้คนอื่นฆ่ามัน!
“ท่านต้วนหลิงเทียน ท่านรับปากฆ่าแล้วว่าจะไม่ฆ่าข้า เช่นนั้นท่านก็มิอาจทนมองผู้อื่นฆ่าข้า…เรื่องนี้ข้ามิมีใดเกี่ยวข้องเลย! ข้าไม่เกี่ยวอะไรด้วยจริงๆ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะโอวหยางชานบังเกิดความละโมบในสมบัติของท่านทั้งสิ้น! มันคิดฆ่าท่านชิงศาสตราเซียน!!”
โอวหยางชิงที่หน้าซีดไร้สีเลือดเร่งร้อนอธิบายออกมา
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองโอวหยางชิงด้วยความรังเกียจอีกครั้งก่อนที่จะเลิกสนใจใยดีอะไรมันอีกต่อไป หันไปมองต่งฮุยแทน “ศิษย์พี่ฮุยชีวิตมันจะอยู่หรือตายล้วนไม่นับว่าสำคัญอะไรกับข้าหรือท่าน…แต่ข้าขอถามศิษย์พี่ฮุยสักคำ ว่าข้าจะลงมือถอนรากถอนโคนตระกูลโอวหยางเพราะเรื่องนี้ได้หรือไม่?”
วาจาท้ายประโยค ต้วนหลิงเทียนยังกล่าวถามออกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ต่งฮุยพอได้ยินคำนี้ ก็เงียบนิ่งไปทันใด
ไม่นานมันก็ส่ายหัวออกมา “เรื่องนี้ข้ากลัวว่าอาจมิมีน้ำหนักมากพอให้กระทำเช่นนั้น…ถึงแม้ว่าสำนักจะส่งเสริมเจ้า แต่อย่างดีก็เพียงหาความจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง…ยากที่จะลงมือรุนแรงถึงขั้นล้างตระกูลโอวหยาง”
“สุดท้ายจะอย่างไรสกุลโอวหยาง ก็เป็นผู้นำของตระกูลใหญ่อันเป็นขุมพลังชั้น 8 ในเมืองหานเหอ และพวกมันให้ความร่วมมือกับ 9 พันธมิตรเราด้วยดีมาโดยตลอด…การทำลายตระกูลโอวหยางก็เสมือนตัดท่อน้ำเลี้ยง 9 พันธมิตร พลอยให้อีก 8 ขุมพลังประสบความเสียหายไปด้วย…”
ต่งฮุยกล่าว
“เรื่องนี้ ข้าพอจะคาดเดาได้แต่แรก”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มกล่าว “เพราะแบบนี้ข้าเลยไม่คิดจะฆ่ามัน…ข้าคิดใช้เรื่องนี้ยื่น ‘ข้อแลกเปลี่ยน’ กับตระกูลโอวหยางแทน”
คำว่า ‘ข้อแลกเปลี่ยน’ นั้น ต้วนหลิงเทียนเน้นหนักเป็นพิเศษ
ต่งฮุยเองก็สองตาลุกวาว มันทราบได้ทันทีว่า ‘ข้อแลกเปลี่ยน’ ของต้วนหลิงเทียนนั้น ต้องเล่นงานตระกูลโอวหยางแทบทรุดแน่!
“เช่นนี้น่าจักประเสริฐกว่าจริงๆ…”
ต่งฮุยพยักหน้าเห็นด้วย ค่อยกล่าวขอขมาออกมาหน้าซึม “ศิษย์น้องต้วน ศิษย์พี่ผู้นี้ไร้สามารถนัก เรื่องเท่านี้ก็มิอาจช่วยเจ้าได้…”
ในสายตาของมัน การที่มันไม่อาจลงมือทำลายตระกูลโอวหยางได้ เช่นนั้นมันก็ไม่มีคำอธิบายอะไรให้ต้วนหลิงเทียน ยิ่งไม่อาจอธิบายให้กับป๋ายลี่หงผู้กลายเป็นศิษย์พี่ของต้วนหลิงเทียนไปแล้วได้
ดังนั้นในใจมันจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด จึงได้แต่กล่าวขอขมาออกมา
“ศิษย์พี่ฮุยท่านจะกล่าวว่าไม่อาจช่วยข้าได้ยังไงกัน? หลังจากนี้เรื่องตระกูลโอวหยางข้าต้องมอบให้ท่านจัดการแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะ
“เช่นนั้นศิษย์น้องต้วนโปรดวางใจ ศิษย์พี่ผู้นี้จักจัดการเรื่องราวให้ดี!”
ต่งฮุยกล่าวคำมั่นออกมา
เช้าวันต่อมาของสกุลโอวหยาง ผู้นำตระกูลโอวหยางพอได้รับรายงานก็โมโหเป็นฟืนไฟ
“อะไรนะ? หาตัวไอ้ลูกไม่รักดีคนนั้นไม่พบ?”
โอวหยางป้ามองโอวหยางจี้ด้วยใบหน้าโมโห กล่าวถามเสียงเหี้ยม”อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเจ้าช่วยซ่อนมันเอาไว้เพราะเห็นแก่อาวุโสรอง?”
“ท่านผู้นำ ให้ข้าน้อยมีความกล้ามากกว่านี้อีก 10 เท่า ข้าก็มิกล้าขัดคำท่านหรอกขอรับ…”
ได้ยินวาจาเปี่ยมโทสะของโอวหยางป้า โอวหยางจี้ได้แต่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าขื่นขม
โอวหยางป้าพอได้ยินก็คลายโทสะลงบ้าง
มันเพียงแต่ทดสอบโอวหยางจี้เท่านั้น มันยังเชื่อในตัวโอวหยางจี้ไม่น้อย เพราะโอวหยางจี้ไม่เคยขัดคำสั่งมันมาก่อน
“ท่านพ่อแล้วตอนนี้ท่านจะทำอย่างไรต่อไปเล่า? ยังจะไปหาเขาหรือไม่?”
โอวหยางหลัวกล่าวถามโอวหยางป้า
“ไป! ย่อมต้องไป!”
โอวหยางป้าตอบ ก่อนที่จะกัดฟันแล้วสบถออกมาอีกครั้ง “สารเลวไม่รักดีนั่น…หากข้าเจอมันเมื่อไหร่ข้าจะตีมันให้ตาย!”
ในขณะที่โอวหยางป้าวางแผนที่จะนำของขวัญจำนวนมากไปมอบให้ต้วนหลิงเทียนที่โรงเตี๊ยมที่พักเพื่อขอขมานั้นเอง…เสียงกังวลแฝงตื่นตระหนกพลันดังขึ้นมาแต่ไกล
“ท่านผู้นำแย่แล้ว! แย่แล้วขอรับ!!”
ผู้ที่วิ่งหน้าตั้งมาด้วยท่าทางร้อนรน เป็นคนของตระกูลโอวหยาง
กล่าวให้ชัดคือผู้ที่รับหน้าที่เฝ้าประตูหน้าของสกุลโอวหยาง
“มีเรื่องบัดซบอันใดอีก! ไฉนเจ้าถึงได้โวยวายนัก!?”
โอวหยางป้าแต่เดิมก็อารมณ์ขุ่นมัวเป็นทุน พอมาเจอเสียงเอะอะโวยวาย ก็ไม่ต่างใดจากเทน้ำมันราดรดกองไฟ กล่าวถามออกมาหน้าถมึงทึง
“ท่านผู้นำ คุณชาย..เป็นคุณชาย…”
ร่างผู้เฝ้าประตูที่พึ่งเร่งรุดมา ย่อมกล่าวออกตะกุกตะกักเพราะเหนื่อยหอบ ทว่ามันไม่ทันได้กล่าวจบคำ โอวหยางป้าก็ตะเบ็งเสียงถามออกมาเสียก่อน “เจ้าว่าอะไร? สารเลวนั่น! เจ้าพบมันแล้วหรือ? มันอยู่ที่ใด?!”
ทันทีที่กล่าวจบคำร่างโอวหยางป้าก็วูบไปหยุดหน้าผู้เฝ้าประตูคนนั้นปานสายลม ยังเปล่งกลิ่นอายพลังออกมาด้วยโทสะ
ด้านผู้เฝ้าประตูเมื่อเจอผู้นำอันน่าเกรงขามที่ปกติแล้วพวกมันได้แต่เหลือบมองไกลๆ พุ่งวูบมาอยู่ต่อหน้า มันย่อมไม่อาจทานรับแรงกดดันได้ไหว มีวาจาคิดกล่าวก็ไม่อาจกล่าวออก!
แรงกดดันจากผู้นำตระกูลโอวหยางนั้นทำให้มันหายใจไม่ออก!
“ท่านผู้นำ ให้ข้ากล่าวถามมันเองเถอะ”
ตอนนี้เองโอวหยางจี้พลันก้าวเข้ามาแทรกระหว่างโอวหยางป้ากับผู้เฝ้าประตูคนนั้น ยังขอให้ผู้นำตระกูลโอวหยางถอยไปสักสองสามก้าว ค่อยกล่าวถามผู้มาใหม่ “เจ้ามีอันใดก็ค่อยๆกล่าว มิต้องกลัว…”
“ขอรับ”
คนเฝ้าประตูตระกูลโอวหยางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองโอวหยางป้า เร่งกล่าวบอกเรื่องราวออกมาทันที “เรียนท่านผู้นำ เมื่อครู่มีคนของสำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตร มาส่งข้อความ…แจ้งว่าให้ท่านไปยังสำนักงานใหญ่ 9 พันธมิตร เพื่อรับตัวคุณชายใหญ่กลับ…”