WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1554
พลังฝีมือถูกเปิดเผย
“เป็นฝีมือผู้ใดกัน!?”
หน้าป๋ายลี่หงบิดเบี้ยวนัก มันเองก็คิดทำลายม่านกระจกฉายลักษณ์บนฟ้า แต่มันก็รู้ดีว่าตัวเองหาได้มีพลังอำนาจเช่นนั้นไม่!
หากม่านกระจกฉายลักษณ์ปรากฏออกมาแล้ว ถ้าไม่ใช่ยอดฝีมือขอบเขตเซียน ก็ยากที่จะทำลายมันได้!
ในตอนนี้ป๋ายลี่หงเพียงเคียดแค้นตัวเองนัก ที่อ่อนด้อยจนไร้สามารถในการทำลายม่านกระจกฉายลักษณ์ มิอาจช่วยเหลือศิษย์น้องของมัน
“หากเจ้าสำนักกับคนอื่นเห็นก็มิเป็นไร…แต่หากเฉียนคงแลเห็นเรื่องนี้…”
คิดถึงจุดนี้ป๋ายลี่หงก็ยิ่งร้อนใจขึ้นมานัก
“ต้วนหลิงเทียน? ชายหนุ่มคนนี้น่ะหรือคือต้วนหลิงเทียน?”
ด้วยเสียงตะโกนจากเหล่าศิษย์ ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักทั้งหลายจึงได้รับทราบอัตลักษณ์ของชายหนุ่มชุดม่วงบนม่านกระจกฉายลักษณ์เหนือฟ้า ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ความบาดหมางระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหลิวฮ่วนพวกมันทราบดี
อย่างไรก็ตามพวกมันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าหลิวฮ่วนยังจะคับแค้นฝังใจไม่เลิก จนกล้าฆ่าต้วนหลิงเทียนแบบนี้!
จังหวะนี้เจียงเว่ยอดไม่ได้ที่จะลอบเสียใจ หากมันลอบสังหารหลิวฮ่วนทิ้งไปเสียแต่เนิ่นๆ คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้!
มันสามารถจินตนาการออกได้เลย หากป๋ายลี่หงเห็นภาพต้วนหลิงเทียนถูกสังหาร อีกฝ่ายจะโกรธแค้นถึงเพียงไหน เกรงว่าเผลอๆจะสะบั้นเยื่อใยกับสำนักจันทร์จรัสแสงเอา!
นั่นไม่ใช่อะไรที่มันอยากจะเห็น!
ขณะเดียวกันนอกจากเฉียนคงแล้ว ผู้อาวุโสชราทั้งหลายก็หน้าเปลี่ยนสีไปตามๆกัน ความคิดของพวกมันก็ทำนองเดียวกันกับเจียงเว่ย ป๋ายลี่หงย่อมโมโหแน่หากเห็นหลิวฮ่วนฆ่าต้วนหลิงเทียน!!
“ม่านกระจกฉายลักษณ์นี่ต้องถูกทำลาย!!”
เจียงเว่ยและอาวุโสชราไม่กี่คน เผยประกายตาเย็นชา พวกมันเตรีมพร้อมทำลายม่านกระจกฉายลักษณ์ทันที!
อย่างไรก็ตาม เมื่อปราณแท้เริ่มคุกรุ่นขึ้นมาเตรียมซัดออกลงมือ ภาพเรื่องราวในม่านกระจกก็แปรเปลี่ยนในฉับพลัน…ยังทำให้พวกมันตกตะลึงจนทำให้ปราณแท้ที่ผนึกควบรวมขึ้นมาสลายหายไป!
เพราะในม่านกระจกฉายลักษณ์บนฟ้า มันฉายถึงจังหวะที่หลิวฮ่วนลอบลงมือจู่โจมสังหารต้วนหลิงเทียนจากข้างหลังแล้ว!!
และพริบตานั้นเอง ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนกลับปรากฏม่านพลังสีทองหนึ่งฉาบคลุมไปทั่ว สามารถทานรับหมัดพลังสังหารของหลิว่ฮ่วนได้อย่างไม่ยากเย็น!
“นี่มัน…ม่านพลังที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!!”
จังหวะนี้ทุกคนในสำนักจันทร์จรัสแสงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น
พวกมันตกตะลึงกับม่านพลังป้องกันอันแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน
“จากท่าทางทั้งสภาวะของอาวุโสหลิวฮ่วน เห็นชัดว่าหมัดพลังนั่นทุ่มออกด้วยพลังสุดตัว…แต่ข้ามิคิดเลยว่าศิษย์พี่ต้วนแค่อาศัยม่านพลังจากวรยุทธ์ป้องกัน จักต้านทานเอาไว้ได้ไม่ยากเย็น…”
“เหลือเชื่อ! ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก!!”
“พลังป้องกันของศิษย์พี่ต้วนนั่นมัน…นี่ที่แท้ศิษย์พี่ต้วนร้ายกาจถึงขั้นใดกัน!?”
“จักร้ายกาจเกินไปแล้ว! นี่ศิษย์พี่ต้วนยังใช่ผู้คนเหมือนเราๆหรือไม่!?”
……
เหล่าศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงถูกภาพเรื่องราวทำให้ตกตะลึงพรึงเพริดไปแล้วจริงๆ
ไม่ได้หันกลับมาแต่อย่างใด เพียงกางกั้นม่านพลังหนึ่ง ก็รับกระบวนท่าสังหารด้วยพลังชั่วชีวิตของหลิวฮ่วนได้อย่างง่ายดาย!
ต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งถึงเพียงใดกัน?
ต่อให้เป็นยอดฝีมือสูงสุดสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่กระทั่งครึ่งก้าวเซียน น่ากลัวว่าคงไม่อาจทานรับการโจมตีของหลิวฮ่วนได้อย่างไร้เรื่องราวเช่นนี้!
“ศิษย์น้อง…”
หากเป็นยามปกติได้เห็นภาพนี้ป๋ายลี่หงคงจะโล่งใจที่ต้วนหลิงเทียนปลอดภัยไร้อันตราย
ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่มันจะไม่ได้ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก อารมณ์ยังกลับกลายเป็นหนักอึ้ง!
เพราะฉากต่อไปไม่ใช่อะไรที่มันต้องการเห็นเลย!
ในขณะเดียวกันด้านเฟิ่งหวู่เต้ากับคนอื่นๆที่อยู่ในคฤหาสน์ป๋ายลี่หง ก็ได้แลเห็นภาพทั้งหมดชัดตา
พอเห็นว่าต้วนหลิงเทียนป้องกันการโจมตีจากหลิวฮ่วนได้ทั้งหมดก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“นี่มันภาพอันใดกันแน่สามารถฉายขึ้นกลางฟ้า แถมยังชัดเจนเสมือนมองเห็นด้วยตาตัวเอง”
เฟิ่งหวู่เต้ากับคนอื่นๆค่อนข้างสงสัยในเรื่องนี้
สุดท้ายเป็นซื่อหม่าฉางฟงที่ตระหนักใดได้กล่าวตอบออกมาทันที “นี่สมควรเป็นพลังของยันต์เต๋าม่านกระจกฉายลักษณ์ …พวกเจ้าจำได้ไหมว่าตอนที่พวกเราซื้อป้ายหยกบันทึกข้อมูลมา ในนั้นก็มีเรื่องนี้กล่าวบอกเอาไว้ ม่านกระจกฉายลักษณ์…ภาพที่ปรากฏชัดเจนเสมือนกับส่องกระจก!”
“จริงสิ ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”
“เป็นผลของม่านกระจกฉายลักษณ์จริงๆ”
“ยันต์เต๋าม่านกระจกฉายลักษณ์นั่น มิใช่ว่ามีแต่ปรมาจารย์ยันต์เต๋าระดับ 4 ดาวขึ้นไปถึงจะเขียนได้หรอกหรือ…ในเขตปกครองของ 9 พันธมิตรที่ข้าจำได้ ไม่มีข้อมูลใดบันทึกว่ามีตัวตนระดับนั้นอยู่เลยนี่นา…”
……
เมื่อได้ยินคำของซื่อหม่าฉางฟง คนอื่นๆก็นึกขึ้นได้เช่นกัน
“ม่านพลังสีทองนั่น สมควรเป็นรังสีพลังกระบี่…การป้องกันอันทรงพลังเช่นนี้ มิใช่ขอบเขตของวรยุทธ์ป้องกันระดับมนุษย์โดดเด่นจักมีได้…นี่มันวรยุทธ์เซียนเลิศล้ำอันใดกันแน่!?”
เหนือขึ้นไปบนฟ้า เหล่าระดับสูงของสำนักจันทร์จรัสแสงที่เหินลอยอยู่ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับเรื่องราวที่ฉายออก ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าที่แท้ต้วนหลิงเทียนสำแดงวรยุทธ์เซียนป้องกันอันใด…
“พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนผู้นี้สูงส่งนัก!”
กระทั่งเจียงเว่ยที่หวาดกลัวภาพเรื่องราวสังหารก่อนหน้า มาตอนนี้ยังยิ้มออกมาอย่างยินดี “ข้ามิคิดฝันเลยว่าสำนักจันทร์จรัสแสงเรากลับมีสุดยอดอัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้น…อัจฉริยะระดับนี้ขอเพียงขัดเกลาอีกเล็กน้อย วันหน้าต้องกลายเป็นเสาหลักของสำนักเรา กระทั่งเรื่องที่จะยกระดับสำนักเราให้กลายเป็นขุมพลังชั้น 6 ก็มิใช่เรื่องที่จักเป็นไปมิได้!!”
ตอนนี้ในใจของเจียงเว่ยตื่นเต้นนัก มันชมมองร่างต้วนหลิงเทียนในม่านกระจกฉายลักษณ์ด้วยสองตาลุกวาว
ยกเว้นเฉียนคง อาวุโสที่เหลือก็สองตาลุกวาวทอประกายจ้าเช่นกัน!
ถึงแม้พวกมันจะเคยได้ยินเรื่องราวของเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่โด่งดังขึ้นมาทั้งสำนักในเวลาอันสั้นอย่างต้วนหลิงเทียนมาบ้าง แต่พวกมันคิดว่าเป็นแค่เด็กน้อยที่โชคดีเพราะมีป๋ายลี่หงอุ้มชูเท่านั้น..
อย่างไรก็ตามมาวันนี้พวกมันได้ตระหนักแล้ว ว่าชายหนุ่มคนนี้ที่ถูกป๋ายลี่หงรับเป็นศิษย์น้องไม่ใช่ชนชั้นธรรมดาสามัญที่บังเอิญมีโชคอย่างที่พวกมันเข้าใจ!
บรรลุพลังฝีมืออันร้ายกาจขนาดนี้ได้ก่อนอายุ 40!
แล้วในอนาคตหากเติบโตขึ้นเต็มศักยภาพ จะร้ายกาจถึงเพียงใด?!
กลับกันด้านเฉียนคง ตอนนี้ใบหน้าของมันเริ่มบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ‘นี่น่ะเหรอศิษย์น้องของป๋ายลี่หง ต้วนหลิงเทียน? มิคิดเลยว่าจะบรรลุพลังฝีมือระดับนี้ด้วยวัยเพียงเท่านี้…ดูเหมือนที่จ้าวเฟิงตกตายจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับมันไม่มากก็น้อย!’
คิดถึงจุดนี้ลูกตาเฉียนคงก็มีแสงยิงออกมาสว่างจ้า ยังเต็มไปด้วยจิตสังหาร!
ไม่นานนักเรื่องราวในม่านกระจกฉายลักษณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ในม่านกระจก ต้วนหลิงเทียนค่อยๆหันกลับมาเผชิญหน้ากับหลิวฮ่วนอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ครู่ต่อมา หลิวฮ่วนก็ใช้ปราณแท้ก่อลักษณ์ศาสตรา ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ ยังกางเขตแดนทั้งหยิบชักศาสตราเซียนออกมา เห็นชัดว่าเตรียมพร้อมลงมือฆ่าต้วนหลิงเทียนด้วยพลังทั้งหมดแล้ว!
ถึงแม้ภาพที่บันทึกไว้ด้วยม่านกระจกฉายลักษณ์จะไร้เสียง
อย่างไรก็ตามยอดฝีมือบางคนเพียงอ่านปากก็รู้เรื่องราว!
เฉียนคงเองก็เป็นตัวตนที่มีสามารถดังกล่าว
ปากที่ขมุบขมิบกล่าวคำของหลิวฮ่วน ยิ่งมายิ่งทำให้ใบหน้ามันมืดลง
“อาศัยเจ้าน่ะรึฆ่าจ้าวเฟิง? เรื่องไร้สาระดั่งฝันละเมอ!!”
นี่คือวาจาที่หลิวฮ่วนกล่าว
“จะไร้สาระดั่งฝันละเมอหรือไม่ เดี๋ยวเจ้าจะได้รู้เอง!”
นี่คือคำที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออก
และฉากต่อไปก็ทำให้ทั้งสำนักจันทร์จรัสแสงตื่นตระหนกอีกครั้ง
กล่าวให้ชัดทำให้ผู้ที่มองภาพเรื่องราวจากม่านกระจกฉายลักษณ์ตื่นตระหนก
ต่างได้เห็นว่า…แม้จะเผชิญกับพลังสามารถทั้งหมดของหลิวฮ่วน ต้วนหลิงเทียนยังไม่หวั่นกลัว หากแต่เลือกใช้ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ออกมา…จังหวะนี้ทั้งหมดพลันตระหนักได้ทันที ว่าต้วนหลิงเทียนบรรลุสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!!
ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ คือเครื่องหมายการค้าของสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ!
และสิ่งที่ทำให้พวกมันตกใจไปกันใหญ่ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น!
พวกมันเห็นชัดถนัดตา ปราณแท้ก่อลักษณ์ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออก กลับปรากฏเป็นร่างมังกร! เป็นมังกรเทพยาดาจริงๆ!!
มังกรเทพยาดานั้นสำหรับส่วนใหญ่ที่ชมดูอยู่…ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นอะไรที่ดำรงอยู่ในเรื่องเล่าเท่านั้น…
ในที่นี้ผู้ที่เคยเห็นมังกรเทพยาดาตัวจริง มีเพียงกลุ่มของเฟิ่งหวู่เต้ากลุ่มเดียว!
ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับใช้ปราณแท้ก่อลักษณ์ สร้างมังกรเทพยาดาออกมา! อีกทั้งทั่วกายของมังกรเทพยาดานั่นยังเผยไอพลังสีแดงฉานจากปราณโลหิตชัดเจน!
จังหวะนี้ไม่ว่าจะเป็นเจียงเว่ยหรือผู้อาวุโสทั้งหลาย อดไม่ได้ที่จะอิจฉาโชควาสนาของต้วนหลิงเทียนนัก! เพราะต้วนหลิงเทียนกลับได้รับแก่นแท้โลหิตของมังกรเทพยาดามาดูดซับ ก่อนที่จะบรรลุสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ!!
ครู่ต่อมาพวกมันก็ได้เห็น ว่ามังกรเทพยาดาที่สร้างขึ้นจากปราณแท้ของต้วนหลิงเทียน มันบดขยี้กลพลังทั้ง 2 ชนิดของหลิวฮ่วนได้ง่ายดายเพียงใด..
“แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
“มันเป็นมังกรเทพยาดาจริงๆ!”
“มิคิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะสามารถหาแก่นแท้โลหิตของมังกรเทพยาดามาดูดซับได้ นี่มันโชควาสนาอันใดกัน…”
……
เหล่าอาวุโสของสำนักจันทร์จรัสแสงได้แต่อุทานออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“ศิษย์พี่ต้วน นับว่าร้ายกาจท้าทายสวรรค์ยิ่ง!”
“หากไม่ใช่เขาแล้วจักเป็นผู้ใดท้าทายสวรรค์ได้ขนาดนี้! ไม่เพียงแต่ทะลวงถึงสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบในเวลาอันสั้น กลับสามารถสร้างมังกรเทพยาเช่นนั้นจากปราณแท้…ศิษย์พี่ต้วนนับเป็นปาฏิหาริย์ของรุ่นเยาว์ในสำนักจันทร์จรัสแสงเราจริงๆ”
“ข้าไม่รู้ว่าศิษย์พี่ต้วนจะเอาชนะอาวุโสหลิวฮ่วนได้หรือไม่…อย่างไรเสียอาวุโสหลิวฮ่วนก็เป็นสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ ยังมีความสามารถสร้างเขตแดนอันร้ายกาจนั่น”
……
เหล่าศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสง ได้แต่แหงนมองฟ้าด้วยความวาดหวัง
และทันใดนั้นต้วนหลิงเทียน ก็ลงมือไขข้อสงสัยให้พวกมัน
เห็นกันแค่ว่า ต้วนหลิงเทียนเพียงเรียกกระบี่ออกมาเล่มหนึ่ง จากนั้นก็วาดกระบี่จากซ้ายไปขวาอย่างไร้เรื่องราว…ทว่าพลังอำนาจกระบี่…กลับสามารถทำลายเขตแดนซบเซาของหลิวฮ่วนลงได้อย่างง่ายดายนัก!!
และในขณะที่หลิวฮ่วนกำลังตกตะลึง ต้วนหลิงเทียนก็ตวัดกระบี่ซัดคลื่นสะบั้นสายหนึ่ง ตัดแขนหลิวฮ่วนข้างที่ถือศาสตราลงจนขาดด้วนเสมอไหล่!
เป็นเพราะม่านกระจกฉายลักษณ์นั้นบันทึกเรื่องราวในมุมมองของผู้บันทึก ศิษย์สำนักจันทร์จรัสแสงจึงสามารถแลเห็นเรื่องราวทั้งหมดได้ไม่มีตกหล่น แม้ความจริง การลงมือทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะรวดเร็วเกินกว่าที่สายตาของมันจะมองได้ทัน!
“แข็งแกร่งยิ่ง!”
“ร้ายกาจนัก!”
……
ทั่วทั้งสำนักจันทร์จรัสแสง ไม่ว่าศิษย์หรืออาวุโส ตอนนี้ล้วนถูกพลังอันน่ากลัวที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกสร้างความตกตะลึงให้ไม่รู้จบจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนที่เคยบาดหมางกับต้วนหลิงเทียนมาก่อน ตอนนี้ถึงกับขาสั่นกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอด้วยความหวาดกลัว
แน่นอนว่าทั่วกายยังหลั่งเหงื่อเย็นชุ่มโชก หลังเปียกชุ่มไปเป็นแถบ!
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็เห็นต้วนหลิงเทียนเสือกกระบี่แทงออกไปตามอำเภอใจ ยิงรังสีพลังกระบี่สังหารทะลวงกลางใจหลิวฮ่วนจนตายตก…
จังหวะนี้ไม่มีใครเห็นใจที่หลิวฮ่วนตกตายแม้แต่คนเดียว ต่างรู้สึกว่ามันสมควรโดนดีเช่นนี้แล้ว!
เพราะสุดท้ายแล้วเป็นมันที่คิดลอบฆ่าผู้อื่นเขาก่อน…
“ศิษย์พี่ต้วนชำระแค้นให้ท่านอาจารย์สำเร็จแล้ว!!”
ในพื้นที่ฝ่ายนอกของสำนักจันทร์จรัสแสง หลิงอวิ๋น กับฉงหู่ ที่ชมดูเรื่องราวอยู่ถึงกับใจเต้นด้วยความยินดี พวกมันหันมามองสบตากัน และต่างเห็นถึงความยินดีในแววตาอีกฝ่าย
“ฟ้าประทานพรให้สำนักจันทร์จรัสแสงของข้าแล้ว! ฟ้าประทานพรให้สำนักจันทร์จรัสแสงของข้าแล้วจริงๆ!!”
อีกด้านหนึ่ง ตอนนี้เจียงเว่ยเจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงดีใจจนเนื้อเต้น มันรู้สึกท่วมท้นไปด้วยมวลอารมณ์ยินดียากจะกล่าว เหล่าอาวุโสทั้งหลายก็ชักสีหน้าดีใจจนลืมแก่
มองไปยังร่างที่ทำลายซากศพของหลิวฮ่วนอย่างไร้อารมณ์ของต้วนหลิงเทียน พวกมันคล้ายแลเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์ของสำนักจันทร์จรัสแสง!!
เนื่องจากความตื่นเต้นยินดีนี้เอง พวกมันจึงไม่มีใครทันได้สังเกตเลย..ว่าเฉียนคงได้ลอบจากไปอย่างเงียบงันเนิ่นนานแล้ว..