WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1557
ต้วนหลิงเทียนผู้อัปโชค…
ด้วยเหตุนี้เหล่าตัวตนขอบเขตเซียนทั้งหลายไม่เว้นเจียงเว่ย ก็เริ่มหมายตาอยากครอบครองกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนใช้!
พวกมันจึงเร่งติดตามมาทันทีโดยไม่ต้องคิด!
ห่างออกไปด้านหน้า ต้วนหลิงเทียนที่ท่องกระบี่หนีมา ตอนนี้เริ่มเหนื่อยล้าอิดโรยไม่น้อย
กระบี่ที่เขาใช้สังหารเฉียนคงนั้นแลดูเรียบง่าย แต่อันที่จริงเขากลับต้องจ่ายปราณแท้ออกไปถึง 9 ส่วน! และเขาก็ได้ใช้ปราณแท้ที่เหลืออยู่เพื่อสร้างเขตแดนรวมปราณ อันเป็นเขตแดนหมื่นกระบี่ เพื่อหลบหนีออกจากสำนักจันทร์จรัสแสง!!
ด้วยพลังของเขตแดนหมื่นกระบี่ เขาจึงหนีออกมาจากสำนักจันทร์จรัสแสงได้แบบนี้..
ต้องกล่าวเลยว่า หมื่นกระบี่รวมหนึ่งนั้นเหินบินฉับไวนัก!
แต่เพราะมันรวดเร็วขนาดนี้ ก็จำต้องจ่ายปราณแท้ไปรักษาสภาพไม่น้อยเช่นกัน!
หลังจากบินออกมาได้ระยะหนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกว่าปราณแท้ทั่วร่างกำลังจะหมดลง อีกทั้งพลังวิญญาณเขาเองก็แทบจะไม่มีเหลือ เพราะใช้ออกด้วยม่านตาพิสดารไปก่อนหน้านี้…
ปราณแท้ ทั้งพลังวิญญาณเขาตอนนี้ เรียกว่าร่อยหรอเจียนแห้งเหือดเต็มที!
ทำให้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกอาการไม่ค่อยสู้ดีนัก…นี่ไม่ใช่ความเหนื่อยล้าทางกายแต่เป็นทางจิต!
‘ทำไงดีล่ะทีนี้…ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงตามมาใกล้ทันแล้ว หรือต้องลองเจรจากับพวกมันจริงๆ’
หลังจากที่ฆ่าเฉียนคงและเร่งรุดหลบหนีจากมา ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ว่าเหล่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงก็พุ่งร่างไล่ตามเขามาเช่นกัน
ถึงแม้เขาจะฆ่าเฉียนคงได้ในกระบี่เดียว แต่นั่นเป็นเพราะกระบี่นิลสวรรค์ที่สูบกลืนปราณแท้ไป 9 ส่วน!
หากไม่มีกระบี่นิลสวรรค์ แม้ตัวเขาจะทะลวงมาถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้ แต่เกรงว่าคงยากจะเอาชนะตัวตนในขอบเขตเซียนได้ง่ายดาย ไม่ต้องฝันเรื่องฆ่าในกระบี่เดียวแบบนี้เลย
แถมตอนนี้ก็ยากที่เขาจะใช้กระบี่นิลสวรรค์ได้อีก
เพราะต้องจ่ายออกด้วยปราณแท้ถึง 9 ส่วนหากคิดจะรบกับเซียน!
“พวกมันตามมาใกล้ทันแล้ว”
ตอนนี้เองเสียงของผู้เฒ่าหั่วพลันดังออกมาจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ
“อาวุโสหั่ว ท่านว่าข้าทำอย่างไรดี?”
ต้วนหลิงเทียนเผยยิ้มขื่นขม ไม่เพียงแต่กระบี่พลังสีทองใต้ฝ่าเท้ากำลังจางลงทุกขณะราวกับพร้อมจะหายไปได้ทุกเวลา ความเร็วยังตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“เพียงหาสถานที่ๆมิถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อม แล้ววางเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเอาไว้…ขอเพียงพวกมันไม่ลงมือทำลายสภาพแวดล้อมโดยรอบเล่น เจ้าก็สมควรปลอดภัย”
ผู้เฒ่าหั่วคิดก่อนที่จะกล่าวตอบ
ทันทีที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าวออกมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้เจตนาทันที
“น่าจะได้ผล”
เมื่อไร้ทางเลือกอื่นใดแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไร้ลังเลอะไรสืบไป ดิ่งร่างลงมาจากฟ้า หายไปในป่าทึบ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง
“เอานี่ล่ะ!”
ต้วนหลิงเทียนรีดเค้นปราณแท้ที่ยังเหลือออกมา ใช้ออกด้วยพลังหยิบยกไร้สภาพ ยกหินมหึมาให้ลอยขึ้น กอนที่เขาจะซัดพลังอย่างแยบคายขุดหลุมลึกใต้ก้อนหินดังกล่าว และเร่งโยนเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไว้ในก้นหลุมนั่นทันที
และทันทีที่เขาคลายพลังหยิบยกจนหินก้อนใหญ่กำลังร่วงลงมากลับที่เดิม ร่างเขาก็วูบหายไปในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติทันที
ตึง!
เมื้อก้อนหินตกลงมา มันก็ปิดบังหลุมลึกเล็กๆที่ต้วนหลิงเทียนขุดเพื่อซ่อนเจดีย์ไว้อย่างมิดชิด เจดีย์ที่ถูกย่นย่อจนเล็กเท่าเม็ดฝุ่นก็วางแน่นิ่งใต้ก้นหลุม ไร้ลมฝนอันใดแผ้วพาน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากผู้ที่ไล่ตามมาไม่ซัดพลังทำลายไปทั่ว ก็คงยากที่จะทำให้เขาโผล่ออกมาได้
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนวูบร่างเข้าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไป เขาก็มุ่งหน้าไปยังชั้น 3 ทันที หมายนั่งโคจรพลังฟื้นฟูปราณแท้และพลังวิญญาณอย่างเร่งด่วน
สำหรับเขาเรื่องนี้สำคัญนัก
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนขุดหลุมใต้หินใหญ่ และซ่อนตัวในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ไท่หวู่ ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของตลาดมืดหยินชานสาขา 9 พันธมิตรที่ลอยอยู่เหนือฟ้าสูงก็พบเห็นการกระทำนี้เช่นกัน
“คิดซ่อนในหลุมแบบนั้นเลยรึ?”
ไท่หวู่มองไปยังเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่าทึบเบื้องล่างด้วยรอยยิ้มขบขัน
หลังจากนั้นคล้ายมันตระหนักได้ถึงบางสิ่ง จึงปกปิดกลิ่นอาย และลอยขึ้นไปหลบซ่อนตัวในก้อนเมฆต่อทันที
ไท่หวู่เพียงซ่อนตัวได้ไม่ทันไร ก็ปรากฏร่างคนกลุ่มหนึ่งเหินพุ่งมาด้วยความเร็วสูง…
เจียงเว่ยเจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงและยอดฝีมือขอบเขตเซียนมาถึงแล้ว! พวกมันยังหยุดร่างค้างกลางหาวและเริ่มสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบทันที…
“กลิ่นอายพลังของมัน ดูเหมือนจักหายไปแถวๆนี้”
เจียงเว่ยขมวดคิ้ว
“ลองหาดูรอบๆก่อนเถอะ”
ครู่ต่อมาเจียงเว่ยและคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไปทุกสารทิศเพื่อทำการตรวจสอบพื้นที่ด้านล่างอย่างละเอียด
ในฐานะตัวตนที่บรรลุถึงขอบเขตเซียน พวกมันย่อมก่อเกิดสำนึกเทวะแล้ว ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในรัศมีตรวจจับจากสำนึกเทวะของพวกมัน ยากที่จะรอดพ้นไปได้…
เหนือขึ้นไปบนฟ้า สีหน้าไท่หวู่ที่ซ่อนหลังก้อนเมฆก็เริ่มมืดลงทุกขณะ
ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสง กล่าวไปแล้วไม่ว่าหน้าไหนมันก็ไม่กลัว
แต่หากยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงด้านล่างกลุ้มรุมมัน…ฉิบหายแน่!
ดังนั้นมันถึงได้ร้อนใจและเป็นกังวลนัก เพราะกลัวเจียงเว่ยและคนอื่นๆ จะตัดหน้าชิงกระบี่ลึกลับนั่นไปจากต้วนหลิงเทียนก่อนมัน…ตอนนี้มันก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเฝ้าดูอย่างเงียบๆ
‘ไอ้หนูหวังว่าเจ้าจะซ่อนตัวให้ดีและไม่ปล่อยให้พวกมันพบตัวเจ้าง่ายๆ…หาไม่แล้วเจ้านับว่าทำให้ข้าผิดหวังนัก’
ไท่หวู่ลอบกล่าว
มันกล่าวเช่นนี้เห็นชัดว่าอยากให้ต้วนหลิงเทียนรอดพ้นการตรวจจับ
หากต้วนหลิงเทียนมาได้ยินคำของไท่หวู่เขาคงพูดอะไรไม่ออก
ภายใต้สายตาของไท่หวู่ กลุ่มคนของสำนักจันทร์จรัสแสงได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ป่าทึบอย่างละเอียดกว่าครึ่งชั่วยาม หากแต่ก็ไม่มีแววจะพบเจอต้วนหลิงเทียนแต่อย่างไร
เห็นเช่นนี้ไท่หวู่ก็วางใจไม่น้อย
“มิพบเจออันใดเลย”
เจียงเว่ยขมวดคิ้ว “กลิ่นอายพลังของมันหายไปจุดนี้แน่นอน…อย่าได้บอกข้าเชียวว่ามันมุดดินหนีได้”
“บางทีมันอาจมีทักษะอันใดที่สามารถปิดบังกลิ่นอายได้มิดชิด ยากที่พวกเราจักสัมผัส”
หนึ่งในขอบเขตเซียนกล่าวคาด
“อาจเป็นได้”
เรื่องนี้ได้รับการเห็นด้วยจากยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงคนอื่น
“สมควรเป็นเช่นนั้น…หาไม่แล้วคนที่ยังมิได้ทะลวงผ่านขอบเขตเซียน ไหนเลยสามารถรอดพ้นสำนึกเทวะของพวกเราได้”
ในที่สุดเจียงเว่ยและคนอื่นๆ ก็เห็นพ้องต้องกัน
พวกมันจะไปคิดได้อย่างไร ว่าหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเข้าสู่เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติแล้ว ร่องรอยของเขาก็เสมือนสาบสูญไปจากโลกหล้าโดยสมบูรณ์ เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติจะอย่างไรก็เป็นยอดสมบัติสวรรค์ พวกมันไหนเลยจะตรวจพบได้…
“ดูท่าตอนนี้พวกเราได้แต่แยกย้ายกันไปตามหาที่อื่น…”
ไม่นานยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสง รวมถึงเจียงเว่ยก็เลือกที่จะแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง
เมื่อเห็นว่าคนของสำนักจันทร์จรัสแสงเหินร่างไปกันหมดแล้ว ไท่หวู่ก็ไม่คิดจะเผยตัวออกมาแต่อย่างไร
ใบหน้าของมันยังสงบคล้ายกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่าง
และเพียงเวลาชั่วกาน้ำเดือด เจียงเว่ยและขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงก็กลับมารวมตัวกันจุดเดิมอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าพวกมันเพียงกล่าวลวง และจากไปเพื่อล่อหลอกต้วนหลิงเทียนให้ตายใจเท่านั้น
มาตอนนี้พวกมันยืนยันได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้อยู่แถวนี้จริงๆ
คราวนี้พวกมันจึงเริ่มแยกย้ายกันออกไปคนละทิศเพื่อตามหาต้วนหลิงเทียนอย่างจริงจัง
และตอนนี้เองไท่หวู่เลือกที่จะเผยตัวออกมา
“เหอะๆ หากมิใช่เพราะข้าติดตามมันมาอยู่ตลอด ก็คงมิรู้เช่นกันว่ามันหลบซ่อนอยู่ใต้หินโง่ๆนั่น…”
หลังจากที่เผยตัวออกมา ไท่หวู่ก็มองไปยังหินใหญ่ใต้ฝ่าเท้า
ฟังจากคำของมัน เห็นได้ชัดว่ารู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนหลบอยู่ตรงนั้น
“ต้วนหลิงเทียน แม้ข้ามิรู้ว่าเจ้าใช้ทักษะอันใดในการปกปิดกลิ่นอาย แต่วันนี้ต่อหน้าข้าไท่หวู่เจ้าได้แต่โผล่หัวออกมา! ไม่ว่าทักษะของเจ้าจักเลิศล้ำปานใดก็ตาม!!”
หลังจากกล่าวเย้ยหยัน ไท่หวู่ก็ยื่นมือออกมา
ทันใดนั้นเองปราณแท้พลันทะลักออกมาม้วนวนรอบแขน มองไปคล้ายอสรพิษ 2 ตัวกำลังเลื้อยพัน แผ่กลิ่นอายพลังอันร้ายกาจไม่ใช่ชั่ว!
พริบตาต่อมาเมื่อแขนของไท่หวู่วะบัดลง อสรพิษพลังทั้ง 2 ก็พุ่งแหวกฟ้าลงไปยังผืนดินเบื้องล่างด้วยความฉับไว!
ทุกที่ทางที่อสรพิษพลังแหวกผ่าน บังเกิดเป็นเสียงระเบิดดัง ฮึงๆ มวลอากาศยังคล้ายจะสะท้านสะเทือนไปด้วยพลังอำนาจอันน่ากลัว!
เปรี๊ยง!
เปรี๊ยง!!
ไม่นานอสรพิษพลังก็พุ่งตกลงมาถึงพื้น ระเบิดวินาศสันตะโรจนกลายเป็นหลุมลึก!
ถึงแม้ว่าอสรพิษพลังทั้ง 2 จะไม่ได้ซัดลงหินใหญ่อย่างจัง หากแต่ด้วยแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิด ก็ทำให้มิติภายในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติปั่นป่วนทันที!
มิติเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัตินั้น ยังคงไร้เสถียรภาพจนกว่าจะซ่อมแซมชั้นที่ 4 ได้สำเร็จ
เช่นนั้นแล้วต้วนหลิงเทียนที่ซ่อนตัวอยู่ในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติจึงต้องถูกขับออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แถมร่างเขาถูกขับออกมาอย่างแรง กระแทกหินจนกลิ้งกระเด็นไป ทำให้สภาพร่างกายเลอะเทอะมอมแมมนัก!
เนื่องจากปราณแท้ยังไม่ฟื้นฟูมาได้มากมายอะไร ต้วนหลิงเทียนจึงเร่งฟื้นฟูพลังอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้จำต้องมอมแมมเป็นหนูตกท่อเพราะตั้งตัวกับความเปลี่ยนแปลงไม่ทันเช่นนี้…
“ซวยแล้วไง!”
ต้วนหลิงเทียนรู้ตัวได้ทันที ว่างานเข้าเขาแน่แล้ว…
ในตอนแรกที่เขาเลือกจะซ่อนตัวแบบนี้ ก็รับรู้ถึงความเสี่ยงแบบนี้ดี
เขาไม่รู้ว่าผู้ที่ไล่ล่าเขาจะทำลายพื้นที่แบบนี้หรือไม่ หากไม่เขาก็รอดตัวไปแต่หากพวกมันทำเขาก็ช่วยไม่ได้ที่ต้องโผล่ออกมา…
แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องแบกรับความเสี่ยงนี้ไว้
อนิจจาวันนี้ดูท่าเขาจะอับโชคเสียแล้ว
“ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะบ้าพลังทำลายพื้นที่แบบนี้จริงๆ…”
เมื่อตระหนักได้ว่าตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ ต้วนหลิงเทียนก็เลิกคิดอะไรให้วุ่นวาย เพียงแหงนมองร่างที่กำลังโรยตัวลงมาจากฟ้าทันที
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นร่างในชุดคลุมลมดำที่กำลังโรยตัวลงมา เขาก็อดขมวดคิ้วเสียไม่ได้ ‘เจ้านี่ดูไม่เหมือนยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสง…แถมกลิ่นอายพลังนั่นของมันช่างต่างจากคนของสำนักจันทร์จรัสแสงนัก’
ผู้ที่โรยตัวลงมาจากฟ้าแน่นอนว่าย่อมเป็นไท่หวู่
“ต้วนหลิงเทียน”
หลังจากที่ไท่หวู่เผยตัวออกมา มันก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ “นับว่าในน้ำเต้าเจ้ามียาดีซุกว่อนไว้นัก…ถึงสามารถหลอกเฒ่าชราไร้ค่าของสำนักจันทร์จรัสแสงเช่นนี้ได้…แต่น่าเสียดายเจ้ายังคิดตื้นเกินไปหากจะหลอกข้าไท่หวู่”
“เจ้าเป็นใคร?”
ใบหน้าต้วนหลิงเทียนเคร่งขรึมขึ้นทันใด เขาเดาถูกจริงๆ เจ้านี่ไม่ใช่คนของสำนักจันทร์จรัสแสง!
อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายกล้าเรียกขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงว่าเฒ่าชราไร้ค่า ท่าทางมันจะมีพลังฝีมือเหนือกว่าคนของสำนักจันทร์จรัสแสง!
“มิสำคัญว่าข้าเป็นใคร…เจ้าเพียงรู้ไว้ว่าวันนี้เจ้าต้องตายด้วยน้ำมือข้า”
ไท่หวู่กล่าวออกด้วยเสียงเฉยเมย