WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1572
สตรีที่มาจากทวีปมนุษย์
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ ว่าภายในตระกูลซือถูจะมีเรื่องราวความขัดแย้งอะไรกัน
เพราะนั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา
เรื่องที่เขาสนใจคือวัตถุดิบที่เขาให้ซือถูฮ่าวไปรวบรวม!
แน่นอนว่าวัตถุดิบเหล่านั้นไม่ได้เป็นวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการทำลายอาคมมารของซือถูหังแม้แต่น้อย!
อาคมมารที่กัดกินพลังชีวิตของซือถูหังตอนนี้ เขาอาศัยเพียงพลังวิญญาณก็ทำลายมันได้ไม่ยากในเวลาแค่ไม่กี่วัน!
เหตุผลที่เขาให้รายการวัตถุดิบไปนั้น เพราะเขาคิดใช้ให้ตระกูลซือถูรวบรวมวัตถุดิบ สำหรับซ่อมแซมฟื้นฟูเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเท่านั้น!
นอกจากนี้ต้วนหลิงเทียนยังคิดใช้ตระกูลซือถูให้รวบรวมวัตถุดิบเพื่อใช้ฝึกฝนการจารึกอาคมเซียน!
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้ทะลวงมาถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่แล้ว พลังวิญญาณย่อมยกระดับมาตามติด และมันก็มากพอให้เขาจารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวได้!
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะจารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวได้แล้ว แต่เขาไม่ได้มีวัตถุดิบให้ใช้มากนัก
เช่นนั้นจึงได้แต่อาศัยอำนาจของตระกูลซือถูรวบรวมมาให้!
“ปรมาจารย์ต้วน วัตถุดิบที่ท่านต้องการอยู่นี่แล้ว”
ต้องกล่าวว่าผู้นำตระกูลซือถูอย่างซือถูฮ่าวดำเนินการฉับไวนัก ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งเดือนก็สามารถรวบรวมวัตถุดิบในรายการมาให้เขาครบถ้วน ทั้งหมดถูกเก็บไว้ในแหวนมิติแล้วมอบมาให้ต้วนหลิงเทียน
แน่นอนว่าที่อีกฝ่ายสามารถรวบรวมวัตถุดิบมาได้อย่างราบรื่น เพราะวัตถุดิบที่ต้วนหลิงเทียนหมายเอาไปซ่อมเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ไม่ใช่วัตถุดิบหายากอะไร
วัตถุดิบที่หายากนั้น…อย่าว่าแต่ขุมพลังชั้น 7 อย่างตระกูลซือถูเลย ให้เป็นขุมพลังชั้น 6 ก็ไม่ใช่ว่าจะหาได้!
เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนจึงไม่คิดใช้งานคนเกินกำลัง
“เอาล่ะ หลังจากนี้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ข้าจะมอบคุณชายใหญ่ที่สมบูรณ์พร้อมให้ท่าน”
ต้วนหลิงเทียนแย้มยิ้ม กล่าวออกด้วยความั่นใจ
“ข้าเชื่อมือท่าน ปรมาจารย์ต้วน!”
ซือถูฮ่าวยิ้มร่าออกมาด้วยความยินดี โดยไม่ได้รู้เลยว่ามันหลงกลต้วนหลิงเทียน ที่หลอกให้ไปสรรหาวัตถุดิบมามากมายเสียแล้ว..
แน่นอนว่าถึงแม้มันจะรู้ มันก็ไม่คิดปริปากบ่นแม้ครึ่งคำ!
เพราะสุดท้ายแล้ววินาทีนี้ก็มีเพียงต้วนหลิงเทียนคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วงชิงบุตรชายมันมาจากเงื้อมมือของมัจจุราช!
เดือนต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ไปรักษาอาการของคุณชายใหญ่ทุกๆ 7-8 วัน ส่วนเวลาที่เหลือเขาก็หมกตัวอยู่กับการจารึกอาคมเซียน!
ตลอดเดือนที่ผ่าน ต้วนหลิงเทียนก็สามารถใช้เคล็ดจารึกพิสดารจารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวได้คล่องปร๋อ!
ขณะเดียวกัน อาคมมารแมงมุมหยินที่กัดกินพลังชีวิตซือถูหังก็ถูกขจัดออกไปโดยสมบูรณ์
“ปรมาจารย์ต้วน บุญคุณช่วยชีวิตครั้งนี้ ข้าซือถูหังจักจดจำไว้มิมีลืมเลือน!”
หลังจากที่อาคมมารแมงมุมหยินถูกขจัดไป ไม่นานซือถูหังก็ฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ มันประสานมือคารวะขอบคุณต้วนหลิงเทียนจากใจจริง
“คุณชายใหญ่ซือถูเกรงใจไปแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มอ่อน
และตอนนี้ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็ได้รับยันต์เต๋าระดับ 4 ดาวเป็นรางวัล เป็นยันต์เต๋าเทพเคลื่อนและยันต์เต๋าม่านพลังทอง หากเขาใช้พวกมัน ก็จะสงผลให้ความเร็วและม่านพลังป้องกันของเขาเทียบได้กับขอบเขตเซียน!
ช่วงเวลานี้เอง พอซือถูหังพลันพบว่าต้วนหลิงเทียนพึ่งมาเยือนประเทศฝูเฟิงเป็นครั้งแรก ทั้งไม่คุ้นเคยกับผู้ใดเลย มันจึงเชิญต้วนหลิงเทียนให้อยู่ในตระกูลซือถูทันที
สำหรับการตัดสินใจของซือถูหังครั้งนี้ผู้นำตระกูลเองก็เห็นด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกไม่กี่วันต่อมาพอซือถูหังได้รับทราบว่าต้วนหลิงเทียนที่แท้ยังเป็นถึงปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวอีกด้วย! มันก็ยิ่งบังเกิดความยินดีมากขึ้น ยังถึงกับต้องเร่งรุดไปหาต้วนหลิงเทียนเพื่อขอขมาทันที!
“ปรมาจารย์ต้วน ต้องอภัยอย่างยิ่งที่ข้ามิรู้มาก่อนว่าท่านเป็นถึงปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว…ขออภัยในความเลินเล่อและสะเพร่าของตระกูลซือถูครั้งนี้ด้วย!”
ล้อกันเล่นหรือไร!
ก่อนหน้านี้ในตระกูลซือถูมีปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!
และปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวที่ว่า ก็ดันอยู่ฝ่ายซือถูหมิง!
เป็นเวลาเนิ่นนานแล้วที่ธุรกิจจารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวถูกฝ่ายซือถูหมิงผูกขาดมาโดยตลอด ทำให้ซือถูหมิงมีอำนาจบาตรใหญ่ในตระกูล ไม่ว่ามันทำอะไรแต่ละคนล้วนพร้อมใจกันปิดหูปิดตาข้างหนึ่งเสมอ
เช่นนั้นทันทีที่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว มันจึงเร่งรุดมาหาต้วนหลิงเทียนทันที!
ขณะเดียวกันมันยังให้คำมั่นต่อต้วนหลิงเทียนอีกด้วย ว่าสามารถอยู่ในตระกูลซือถูได้ตราบนานเท่านานตามความพอใจ และตระกูลซือถูจักตอบแทนให้อย่างดีที่สุด!
และการเปิดเผยฐานะปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวออกมา ต้วนหลิงเทียนไม่ได้พลั้งเผลอแต่อย่างใด ยังเป็นการ ‘จงใจ’ ของเขาด้วย
เพราะด้วยสถานะปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว ย่อมทำให้เขาตั้งหลักในตระกูลซือถูได้มั่นคงยิ่งขึ้น!
นอกจากนี้ปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวยังยกระดับคุณค่าในตัวเขาให้สูงขึ้นอย่างมาก
และอย่างที่ต้วนหลิงเทียนคิดเอาไว้ไม่มีผิด ซือถูหังได้กลับมาเขาอีกครั้งในเวลาแค่ไม่กี่วัน เพื่อขอให้เขาจารึกอาคมเซียนระดับ 3 ดาวลงในศาสตราเซียนจำนวนหนึ่ง “ปรมาจารย์ต้วนศาสตราเซียนเหล่านี้ล้วนเป็นสินค้าของตระกูลซือถูเรา…พวกเราจักจัดหาวัตถุดิบมาให้ท่าน แล้วผลกำไรแบ่งปันกันครึ่งครึ่งดีหรือไม่?”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา”
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะรู้ดีว่าต่อให้เขาส่วนต่างกำไรมากกว่านี้ ตระกูลซือถูก็ไม่คัดค้าน แต่เขาไม่คิดเรียกร้องอะไรแบบนั้นออกมา
เขาไม่ได้ขาดหินเซียน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาให้ค่าความสัมพันธ์กับตระกูลซือถูเหนืออื่นใด เช่นนั้นแล้วเขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องราวในอนาคตของเขา อีกทั้งยังได้ใจตระกูลซือถูอีกด้วย
สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่ผลประโยชน์อย่างหินเซียน แต่เป็นผลประโยชน์เรื่องอื่น
“ปรมาจารย์ต้วน ท่าน…”
ได้ยินคำตอบตกลงทันทีของต้วนหลิงเทียน ซือถูหังถึงกับหน้าเหวอไปตาปริบๆ…มันเรียกราคาครึ่งครึ่ง เพราะเผื่อมาให้ต้วนหลิงเทียนทำการต่อรองอะไรไว้แล้ว…
อีกทั้งบิดามันก็ได้กล่าวบอกบรรทัดฐานต่ำสุดที่รับได้คือ 3 ต่อ 7
3 ส่วนเป็นของตระกูลซือถู 7 ส่วนเป็นของต้วนหลิงเทียน
มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะตอบตกลงทันที โดยไม่คิดแม้แต่จะต่อรองอะไรสักคำ!
จังหวะนี้ในใจมันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดขึ้นมา
“เอ่อ…ปรมาจารย์ต้วน ข้าว่าข้าเพิ่มส่วนต่างผลกำไรให้ท่านอีกดีกว่า”
ซือถูหังกล่าวออกด้วยน้ำเสียงขื่นขม
“ไม่ต้องหรอก ข้าไม่ได้ขาดแคลนหินเซียน”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ค่อยเปิดประตูเห็นภูผากล่าวออก “อันที่จริงข้ามีเรื่องคิดขอแรงตระกูลซือถูเสียหน่อย ข้าประสบเหตุจำให้พรัดพรากกับศิษย์พี่และสหายของข้า…ข้าอยากให้ตระกูลซือถูช่วยตามหาเบาะแสว่าศิษย์พี่และสหายของข้าได้มาถึงประเทศฝูเฟิงแล้วหรือไม่..”
“กลับเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้! ปรมาจารย์ต้วน ท่านวาดรูปเหมือนของศิษย์พี่ท่านและสหายมาเถิด ข้าจักเร่งทำสำเนาแล้วให้บิดาส่งคนกระจายตัวกันไปออกค้นหาทันที!”
ซือถูหังกล่าวรับออกมาอย่างไม่อิดออดแม้แต่น้อย
“ลำบากพวกท่านแล้ว อ่าจริงสิ..ศิษย์พี่ของข้ายังเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเหมือนข้า”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ยังกล่าววาจาเสริมหลังบอกเรื่องที่ป๋ายลี่หงเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวออกมา “ศิษย์พี่ของข้าไม่เหมือนข้า…ข้านั้นคุ้นเคยกับการออกเดินทางแสวงหาความแข็งแกร่ง ไม่ช้าก็เร็วสักวันข้าก็ต้องออกจากตระกูลซือถู…ทว่าศิษย์พี่ของข้าอาจยินดีเข้าร่วมกับตระกูลซือถู”
วาจาท้ายประโยคของต้วนหลิงเทียนนั้น ต้วนหลิงเทียนจงใจกล่าวเพิ่มเพื่อเน้นความสำคัญ
หลังได้ยินเรื่องนี้จากปากต้วนหลิงเทียน ลูกตาซือถูหังพลันทอแสงจ้าออกมาทันใด
ผ่านไปสักพักมันพึ่งตระหนักได้ ว่าต้วนหลิงเทียนยังอายุน้อยกว่ามันเสียอีก!
ตัดสินจากความสำเร็จของต้วนหลิงเทียนในวันนี้…เช่นนั้นความสำเร็จในวันหน้าย่อมไร้ขีดจำกัด! น่ากลัวว่าไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ต้องจากไป!!
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันกับบิดาต้องหนักใจอยู่บ้าง
ทว่าความที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา ประหนึ่งแสงอรุณที่สาดส่องมาปัดเป่าหมอกควันสลัวในใจไปหมดสิ้น!
“ขอปรมาจารย์ต้วนโปรดวางใจ! ตราบใดที่ศิษย์พี่ของท่านมาถึงประเทศฝูเฟิงเราแล้ว ตระกูลซือถูของเราย่อมหาคนพบแน่!”
ซือถูหังกล่าวรับประกันออกมา
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…”
เมื่อเห็นว่าซือถูหังคิดจากไป ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาอีกครั้ง
“มีอันใดที่ข้าสามารถช่วยปรมาจารย์ต้วนได้อีก?”
ซือถูหังกล่าวถามออกมาอย่างไม่กล้าละเลย
“ข้าอยากรู้น่ะ..ในประเทศฝูเฟิงมียอดฝีมือที่ติดอันดับในรายนามนภารึเปล่า”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม
“ย่อมมี”
ซือถูหังพยักหน้า “มีคนจากประเทศฝูเฟิงเราทั้งสิ้น 6 คนที่ติดอันดับในรายนามนภา อีกทั้งผู้ที่มีลำดับสูงสุดในรายนามนภายังมีอันดับถึง 11!”
“แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าคนผู้นั้นอยู่ที่ไหน?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาอีกครั้ง
“ข้าเกรงว่าคิดหาตัวคนผู้นั้นคงยากที่จะพบได้ในเวลาอันสั้น…ข้าได้ยินมาว่ายามนี้คนผู้นั้นกำลังปิดด่านเพื่อทะลวงขอบเขตพลัง…ทั้งในฐานะผู้ฝึกตนพเนจรไม่สังกัดฝักฝ่าย จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีผู้ใดทราบว่ามันปิดด่านบ่มเพาะอยู่ที่ใด”
ซือถูหังส่ายหน้า
“ถ้างั้นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 5 คนที่เหลือล่ะ?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาอีกรอบ
“ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 5 คนที่เหลือ เป็นผู้ที่ได้อันดับในรายนามนภาอันดับที่ 23…มิยากที่จะพบเจอตัวนาง เพราะนางเองก็เป็นศิษย์ของขุมพลังชั้น 7 แห่งหนึ่งในประเทศฝูเฟิงเรา…ปรมาจารย์ต้วน ท่านคิดท้าทายนางหรือ?”
ซือถูหังกล่าวถามด้วยความสงสัย
ซือถูหังเองก็ได้รับทราบจากซือถูโฮ่วมาก่อนแล้วว่าพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนมิใช่ชั่ว ยังถึงขั้นร้ายกาจนัก! การถามถึงยอดฝีมือรายนามนภาเช่นนี้ มีความตั้งใจอันใดมันย่อมทราบ!
ท้าทายยอดฝีมือในรายนามนภาที่แข็งแกร่ง หากเอาชนะก็ช่วงชิงอันดับมาเป็นของตัวได้ทันที!
ส่วนยอดฝีมือในรายนามที่พ่ายแพ้ ก็จะถูกลบหายไปจากรายนามนภาทันที!
เหตุผลที่รายนามนภามีกฏว่าผู้แพ้ต้องถูกลบออกจากรายนามไปเลยโดยไม่ใช้การลดหลั่นอันดับนั้น ก็เพื่อป้องกันมิให้เกิดการฮั้วหรือจงใจยอมแพ้อะไรทำนองนั้น
“ใช่”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า เขาเองก็คิดเรื่องท้าทายชิงอันดับในรายนามนภามาสักพักแล้ว เพราะหากเขาติดอันดับในรายนามนภาเขาย่อมสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง และยกระดับฐานะในประเทศฝูเฟิงได้อย่างรวดเร็ว!
นอกจากนี้เขายังจะกลายเป็นที่รู้จักในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนอีกด้วย
ต้วนหลิงเทียนไม่ได้คิดกระทำเพราะอยากอวดอ้างพลังฝีมือ แต่กระทำเพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อการตามหาตัวป๋ายลี่หงและสหายคนอื่น
“ปรมาจารย์ต้วน แม้ข้าจักมิกังขาในพลังฝีมือของท่าน หากแต่การท้าทายอันดับ 23 เลยเช่นนี้กลับเสี่ยงไปอยู่บ้าง เพราะน่ากลัวว่าตอนนี้พลังฝีมือของนาง…สมควรสูงส่งพอที่จะติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของรายนามนภาแล้ว!”
ซือถูหังกล่าวออกมาด้วยความยำเกรง
“เห? ทำไมท่านพูดแบบนั้นล่ะ?”
ต้วนหลิงเทียนเอียงคอโค้งคิ้วด้วยสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมซือถูหังถึงประเมินอันดับที่ 23 ในรายนามนภาสูงขนาดนี้
“สตรีนางนี้กล่าวไปแล้วนางถือได้ว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะระดับตำนานของประเทศฝูเฟิงเราเลยก็ว่าได้…อายุนางยังมิได้มากมายอะไร กระทั่งยังอ่อนวัยกว่าปรมาจารย์ต้วนด้วยซ้ำ! นอกจากนี้ข้ายังทราบมาอีกว่า นางมีต้นกำเนิดอยู่ในทวีปมนุษย์อันไกลห่าง! แต่เหลือเชื่อนัก…นางเป็นสตรีที่มาจากทวีปมนุษย์แท้ๆหากแต่พลังฝีมือของนางกลับก้าวหน้าด้วยความเร็วอัศจรรย์ ใช้เวลาฝึกปรือในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น ก็สามารถยกระดับพลังฝีมือได้อย่างปาฏิหาริย์ ถึงขั้นที่สามารถเอาชนะยอดฝีมืออันที่ 95 ในรายนามนภาลงได้! สุดท้ายเพียงเวลาไม่กี่ปี นางก็มาถึงอันดับที่ 23!”
วาจาท้ายประโยคของซือถูหังอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความยำเกรง “และตอนนี้มันผ่านมาครึ่งปีแล้ว ตั้งแต่วันที่นางได้รับอันดับที่ 23 ในรายนามนภา…”