WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1589
ตอนที่ 1,589 : หานจิ้นเหนียน ชะตาขาด
“ท่าน…ท่านเป็นใคร?”
ได้ยินคำถามของชายชราผ่ายผอมในชุดคลุมสีเทา ลี่เฟยมองถามอีกฝ่ายกลับไปทันที ยังคล้ายจะลืมเลือนการคงอยู่หานจิ้นเหนียนไปเสียสิ้น…
“แม่นางน้อย เจ้าอย่าได้ดิ้นรนให้เหนื่อยเลย…หากมีผู้ใดอยู่ด้านหลังพี่จริง มีหรือพี่จักมิรู้ได้?”
หานจิ้นเหนียนหัวเราะร่า มันยิ่งเดินเข้ามาใกล้ลี่เฟยมากขึ้นเรื่อยๆ ในแววตาเผยเจตนาอุบาทว์ออกมาชัดเจน
“กับอีกแค่สู่เซียนตัวกระจ้อย คิดว่าจักมีปัญญาสัมผัสถึงข้าได้งั้นหรือ?”
ทันใดนั้นเสียงแหบห้าวของชายชราพลันดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้สีหน้าหานจิ้นเหนียนเปลี่ยนไปอย่างร้ายแรง พริบตานี้มันก็ทราบได้ทันทีว่าลี่เฟยไม่ได้เสแสร้งหลอกล่ออย่างโง่งม หากแต่มีคนอยู่ด้านหลังของมันจริงๆ!!
แต่ก่อนที่มันจะหันกลับไป พลันมีร่างชราวูบผ่านมันไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของมัน
เป็นชายชราผ่ายผอมเนื้อติดกระดูกมาในชุดคลุมลมสีเทา มือข้างหนึ่งถือไว้ด้วยไม้เท้าประหลาดที่ไม่ทราบทำมาจากวัสดุอะไร หยุดยืนอยู่ข้างๆเปลหลังเล็กด้านข้างลี่เฟย ทอดตามองลงไปยังทารกในเปล
ใบหน้าทารกน้อยตุ้ยนุ้ยจ้ำม่ำน่ารักน่าชังนัก
ชายชรายังพบว่าหว่างคิ้วทารกน้อยละม้ายคล้ายจ้าวตำหนักของมันหลายส่วน!
จังหวะนี้มันย่อมตระหนักได้ทันทีว่านี่คือลูกน้อยของลี่เฟยกับนายน้อยของมันเป็นแน่ “ลูกของท่านจ้าวตำหนักน้อย! สวรรค์! หากท่านจาวตำหนักรู้ว่ามีหลานแล้ว มิรู้ท่านจักมีความสุขถึงเพียงใดกัน!!”
ยามมองไปยังทารกในเปลแววตาสีหน้าเย็นชาแต่เดิม พลันกลายเป็นยิ้มร่าแฝงไปด้วยความอ่อนโยนทันที
แน่นอนว่ารอยยิ้มของมันน่าเกลียดนัก ราวกับกำลังร่ำไห้อย่างไรอย่างนั้น
กู่มี่ค่อยๆโค้งตัวก้มลงอุ้มทารกน้อยออกมาอย่างเบามือ ด้วยกลัวว่าจะทำให้ทารกน้อยรู้สึกอึดอัดหรือตื่นขึ้นมา เช่นนั้นการกระทำจึงอ่อนโยนคล้ายโอบอุ้มสมบัติล้ำค่า
“ท่าน…”
ใบหน้าลี่เฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นชายชราแปลกหน้าก้มลงอุ้มลูกน้อยของนาง ทว่าเมื่อเห็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังทั้งอ่อนโยนเป็นที่สุด นางก็ไม่ได้กล่าวขัเอะไรออกมา
นางย่อมเห็นชัดว่าชายชราไม่ได้มีเจตนาร้าย
อย่างไรก็ตามนางยังคงสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าชายชราล่วงรู้นามของนางกับบุรุษของนางได้อย่างไร แถมยังวาจาเมื่อครู่…
“เฮ่ย! นี่เจ้ามิใช่คนของคฤหาสน์คลื่นขจีของข้านี่นา! เจ้าเข้ามาได้อย่างไร!?”
ตอนนี้เองหานจิ้นเหนียนที่ได้สติ ก็เร่งมองตรวจสอบชายชราอย่างระวัง “ไอ้แก่ ข้าไม่สนว่าเจ้าจักเป็นผู้ใดมาจากไหน แต่จักเป็นดีเสียกว่าหากเจ้ารู้ว่าอะไรมันดีต่อตัว! ปู่ของข้าคืออาวุโสสูงสุดของคฤหาสน์คลื่นขจี หากเจ้า…”
“หนวกหู!”
เสียงอวดโอ่ของหานจิ้นเหนียนนับว่ารบกวนทารกน้อยในอ้อมอกกู่มี่ไม่น้อย ทำให้รอยยิ้มบนหน้ากู่มีพลันชะงักค้างทันใด แม้จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หากแต่บรรยากาศในห้องคล้ายจะเย็นเยียบลงไปทันตา!
พริบตาต่อมารอบกายหานจิ้นเหนียนก็ปรากฏเถาวัลย์ไม้แห้งมากมายเสียบทะลวงออกมาจากความว่างเปล่า!
ยามเมื่อเถาวัลย์แห้งทะลวงออกมาจากความว่าง มันก็เปล่งกลิ่นอายคมกล้าน่าหวั่นหวาด! และไม่ทันที่หานจิ้นเหนียนจะกล่าววาจาได้จบคำ ร่างมันก็ถูกเสียบทะลวงจนปุพรุน!!
ทันทีที่เถาวัลย์แห้งทะลวงเข้าร่างหานจิ้นเหนียน พวกมันก็ดั่งอสรพิษมีชีวิตเลื้อย ชอนไชไปทั่วร่างกายหานจิ้นเหนียน!
บ้างกะทะลวงดวงใจ บ้างก็ทะลุออกเอว บ้างก็เสียบทะลวงสมองจนผุดโผล่ออกมาจากศีรษะลูกตา!
โดยรวมแล้วฉากดังกล่าวเป็นอะไรที่น่าสยดสยองนัก!
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นฉากสังหารอำมหิต หากแต่ไร้ซึ่งโลหิตหลั่งไหลออกมาแม้แต่หยาดหยด ราวกับผู้ลงมือกลัวกลิ่นคาวคลุ้งจะสร้างความรำคาญให้ทารกน้อย…
แน่นอนว่าแม้ฉากนี้จะน่ากลัวแต่ลี่เฟยก็ไม่ยี่หระแม้แต่น้อย เพราะนางเห็นฉากอำมหิตและความตายอันน่าสยดสยองมาแล้วมากมายตอนหายนะบนเกาะป้านเยว่
กระทั่งพอเห็นหานจิ้นเหนียนตายตก นางยังอดดีใจขึ้นมาเสียไม่ได้
เพราะนางเตรียมระเบิดตัวเองให้แหลกแต่แรก! คิดยอมตายแต่ไม่ยอมให้เดียรัจฉานย่ำยีอยู่แล้ว!!
วินาทีนั้นนางยังรู้สึกปวดร้าวในใจ ด้วยไม่อยากจากต้วนหลิงเทียน และทารกน้อยของนาง
“นายหญิงน้อยโปรดตามข้ามา…ท่านจ้าวตำหนักกำลังรอพวกเราอยู่ด้านนอก”
กู่มี่ที่อุ้มลูกของลี่เฟยอย่างเบามือกล่าวบอกลี่เฟยเสียงอ่อน
“ท่าน…ท่านเรียกหาข้าว่านายหญิงน้อย?”
ทว่าพอลี่เฟยได้ยินวาจาเรียกหาของกู่มี่ นางก็อึ้งไปไม่น้อย
“คู่หมั้นของท่านคือจ้าวตำหนักน้อยของข้า…เช่นนั้นท่านก็ต้องเป็นนายหญิงน้อยของข้า”
ไม่มีเวลาให้ลี่เฟยตอบคำอะไร พลันมีพลังไร้สภาพอันอ่อนโยนขุมหนึ่งแผ่ออกมาปกคลุมทั่วร่างนางเอาไว้ หอบหิ้วนำพาร่างลี่เฟยให้พุ่งออกจากคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานในพริบตา
ในขณะที่ถูกนำตัวออกมาลี่เฟยยังงุนงงไม่หาย
บุรุษของนางไปเป็นจ้าวตำหนักน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ไม่นานภายใต้การนำพาของกู่มี่ ลี่เฟยก็ได้พบต้วนหรูเฟิง
เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนเบื้องหน้ามีเค้าโครงใบหน้าทั้งหว่างคิ้วละม้ายคล้ายบุรุษของนางมากกว่า 7 ส่วน..ไม่ต้องให้อีกฝ่ายกล่าวบอกลี่เฟยก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร!
เพราะนางเคยได้ยินบุรุษของนางกล่าวถึงชายผู้นี้มาก่อน
“ท่าน…พ่อ?”
ลี่เฟยมองต้วนหรูเฟิงด้วยความตกใจ กล่าวออกเสียงสั่น
ทว่าหลังจากที่กล่าวเรียกหาอีกฝ่ายว่าท่านพ่อแล้ว ใบหน้าของนางอดไม่ได้ที่จะขึ้นสีแดงเรื่อขึ้นมา
“เจ้าคือเฟยเอ๋อหรือ…อาช่างงดงามน่าดูเหมือนดั่งที่หรัวเอ๋อกล่าวไว้มิมีผิด…หืม?! ทะ…ทารกน้อยนี่!!”
เมื่อต้วนหรูเฟิงเห็นใบหน้าของลี่เฟย สองตาก็สว่างจ้าอดไม่ได้ที่จะลอบยกนิ้วโป้งให้ลูกชายในใจ นับว่าสายตาอีกฝ่ายนั้นยอดเยี่ยมเหมือนบิดาเช่นมันไม่มีผิด! ทว่าทันใดนั้นเองสายตาต้วนหรูเฟิงพลันเหลือบไปเห็นทารกน้อยในอ้อมแขนกู่มี่ และเพียงมองปราดเดียวก็แลเห็นหว่างคิ้วดวงตาที่ละม้ายคล้ายต้วนหลิงเทียน 5-6 ส่วน ยิ่งไปกว่านั้นยังนับว่าคล้ายตัวมันเองเช่นกัน
“นี่คือลูกของข้ากับเขา”
ลี่เฟยกล่าวออกมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“ว่าอะไร!!”
ถึงแม้ใจจะลอบคาดเดาไว้แล้ว แต่พอได้ฟังวาจายืนยันจากลี่เฟย ต้วนหรูเฟิงก็เต็มไปด้วยความยินดี ในใจบังเกิดความรู้สึกปิติถึงที่สุด เร่งฉกทารกน้อยในอ้อมแขนกู่มี่มาอย่างเบามือทันที
ยังอุ้มไวราวกับเป็นสิ่งล้ำค่าที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดแตะ
พอได้อุ้มทารกน้อยไว้ในอก และได้เห็นดวงตากลมใสของทารกน้อยที่จ้องกลับมา ต้วนหรูเฟิงพลันฉีกยิ้มกว้างแทบถึงใบหู!
มันเป็นปู่คนแล้ว!
ไม่ทราบเมื่อไหร่ดวงตาต้วนหรูเฟิงพลันรื้นขึ้นมาเล็กน้อย!
“ท่านพ่อ…”
ตอนนี้ลี่เฟยพลันนึกถึงพลังฝีมือของชายชราที่พานางเหินออกมาจากตระกูลหาน อีกทั้งยังนึกถึงวาจาที่อีกฝ่ายเรียกบุรุษของนางว่า จ้าวตำหนักน้อย กระทั่งจ้าวตำหนัก…นางจึงมองต้วนหรูเฟิงกับกู่มี่ด้วยความสงสัยทันที
เท่าที่นางรู้มาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ ผู้ที่ถูกเรียกหาว่าจ้าวตำหนัก ล้วนเป็นผู้นำของขุมพลังที่มีลำดับชั้นสูงกว่าคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานเสียอีก!
อย่างไรก็ตามตอนนี้จิตใจของต้วนหรูเฟิงยังคงจดจ่ออยู่ที่ทารกน้อยในอก ไม่ทันได้สนใจคำของลี่เฟยแม้แต่น้อย
เป็นกู่มี่ที่อยู่ข้างๆ กล่าวไขข้อของใจให้นางทันที “นายหญิงน้อย นี่คือท่านจ้าวตำหนัก ของตำหนักเมฆาคราม…ตำหนักเมฆาครามนับเป็นขุมพลังระดับแนวหน้าในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ยังเป็นขุมพลังที่คฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหานมิอาจเทียบได้ เพราะตำหนักเมฆาครามของพวกเราคือ ขุมพลังกึ่งชั้น 3”
ขุมพลังกึ่งชั้น 3!
ร่างลี่เฟยอดไม่ได้ที่จะสะท้านไปทันใดเมื่อได้ยินวาจานี้ของกู่มี่
ในระหว่างที่นางอยู่ในคฤหาสน์คลื่นขจีของสกุลหาน ด้วยความว่างไม่มีอะไรทำมากมาย นางก็ได้หาความรู้ทั่วไปผ่านการอ่านบันทึกเรื่องราวต่างๆในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า
ในความรู้ดังกล่าว มีพูดถึงเรื่อง ขุมพลังกึ่งชั้น 3 เอาไว้
ถึงแม้ว่าขุมพลังกึ่งชั้น 3 นี้ กล่าวไปแล้วยังคงเป็นเพียงขุมพลังชั้น 4 หากแต่พลังอำนาจกลับเหนือชั้นกว่าขุมพลังชั้น 4 ไปไกล จึงเรียกหาว่าขุมพลังกึ่งชั้น 3
ขุมพลังกึ่งชั้น 3 ในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋านั้น นับว่าเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งและมีอำนาจมากที่สุดแล้ว
ในบันทึกที่ลี่เฟยอ่าน ย่อมมีเรื่องราวของดินแดนเทพยุทธ์ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ภูมิภาคเอาไว้ด้วยเช่นกัน
และภูมิภาคเบื้องบนนั้น ก็ไม่ค่อยลงมาวุ่นวายเรื่องในภูมิภาคเบื้องล่าง และไม่คิดจะมาช่วงชิงอำนาจอะไร
มาตอนนี้พอนางได้รับทราบว่าบิดาของบุรุษที่นางรักกลับเป็นถึงจ้าวตำหนักเมฆาคราม ที่เป็นขุมพลังกึ่งชั้น 3 อันเปรียบได้กับมหาอำนาจสูงสุดของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเบื้องล่าง จะไม่ให้นางไม่ตกใจอย่างไรไหว?
“ท่านพ่อ!”
หลังจากที่รับทราบฐานะของต้วนหรูเฟิงแล้ว ลี่เฟยเร่งทรุดตัวลงคุกเข่ากลางอากาศทันที
“เฟยเอ๋อ ลูกทำอะไร?”
เมื่อเห็นภาพนี้หน้าต้วนหรูเฟิงเปลี่ยนไปทันที
“ท่านพ่อ! น้องหญิงเค่อเอ๋อหายตัวไป ข้าขอร้องให้ท่านพ่อช่วยตามหานางด้วย!”
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด ตอนนี้หยาดน้ำตาพลันไหลออกมาจากสองตาของลี่เฟย
ในตอนที่เกาะป้านเย่วเกิดเรื่องนางหนีออกมาอย่างรีบร้อนจึงพลัดพรากกับเค่อเอ๋อ สุดท้ายนางก็มาถึงคฤหาสน์คลื่นขจีสกุลหาน
อย่างไรก็ตามด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยของนาง จึงไม่อาจย้อนกลับไปตามหาเค่อเอ๋อได้…
และเพราะนาง หานเฉวี่ยไน่รวมถึงเจ้าตัวเล็กทั้ง 3 จึงต้องคอยปกป้องนางเอาไว้ไม่อาจจากไปไหน จนหลังจากที่นางคลอดบุตรและอาการแข็งแรงดีแล้ว หานเฉวี่ยไน่จึงวางใจและพาเจ้าตัวเล็กออกไปยังเกาะป้านเยว่ อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังไม่ได้กลับมา
“พวกเจ้าช่างห่วงใยในกันและกันเหมือนกันนัก…”
หลังจากที่ต้วนหรูเฟิงได้ยินคำวิงวอนของลี่เฟย ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยกมือเปล่งพลังไร้สภาพประคองร่างลี่เฟยให้ลุกขึ้น “เฟยเอ๋ออย่าได้กังวลใจไป เค่อเอ๋อปลอดภัยดี…”
“น้องหญิงเค่อเอ๋อปลอดภัยดีจริงๆหรือ?”
หลังได้ยินคำของต้วนหรูเฟิง สองตาลี่เฟยเป็นประกายขึ้นมาทันที
“เป็นเรื่องจริง”
ต้วนหรูเฟิงพยักหน้า ก่อนที่จะกล่าวบอกนางถึงเรื่องที่ได้ย้อนกลับไปเจอหยกบันทึกเสียงที่ต้วนหลิงเทียนฝากไว้ในทวีปเมฆาล่อง นอกจากนี้ยังเล่าเรื่องราวในหยกบันทึกเสียงให้ลี่เฟยฟัง “ถึงแม้สตรีนางนั้นจะนำตัวนางไปยังลัทธิบูชาไฟ…แต่ข้าคิดว่านางมิควรทำอันตรายใดๆเค่อเอ๋อ เพราะนางอ้างว่าเป็นพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อ”
“ข้ามิเคยได้ยินเค่อเอ๋อกล่าวถึงเรื่องที่นางมีพี่สาวฝาแฝดมาก่อนเลย…”
พอได้ยินเรื่องนี้ ลี่เฟยเองก็แปลกใจเช่นกัน
“บางทีกระทั่งตัวเค่อเอ๋อเองก็ยังไม่รู้”
ต้วนหรูเฟิงระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน ก่อนที่จะเปิดเผยเรื่องราวออกมาทุกสิ่ง รวมถึงเรื่องที่เค่อเอ๋ออาจจะเป็น ธิดาเทพ แห่งลัทธิบูชาไฟ…
“ท่านพ่อ ท่านมิอาจไปช่วยน้องหญิงเค่อเอ๋อที่ลัทธิบูชาไฟได้หรือ?”
ลี่เฟนกล่าวถาม
“ลัทธิบูชาไฟ แม้จะเป็นภูมิภาคตอนบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ยังถือเป็นขุมพลังชั้นสูงที่ทรงพลังเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจ! ดินแดนเทพยุทธืเซียนเต๋ามีทั้งสิ้น 3 ลัทธิ 9 ขุมพลัง! ลัทธิบูชาไฟเป็นหนึ่งใน 3 ลัทธิ…สำหรับ 9 ขุมพลัง นั่นก็หมายถึงขุมพลังชั้น 1 ถึง 9 ที่มีอยู่ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าทั้งหมดไม่ว่าจะภูมิภาคเบื้องบนหรือเบื้องล่าง…ในภูมิภาคเบื้องบนจักมีแค่ขุมพลังชั้น 1 ขุมพลังกึ่งชั้น 1 ขุมพลังชั้น 2 ขุมพลังกึ่งชั้น 2 และก็ขุมพลังชั้น 3…”
“อย่างไรก็ตาม กระทั่งขุมพลังชั้น 1 ในภูมิภาคตอนบนยังห่างไกลจากการจะเทียบกับลัทธิบูชาไฟ…ตำหนักเมฆาครามของข้า เป็นเพียงขุมพลังกึ่งชั้น 3 ในภูมิภาคเบื้องล่างเท่านั้น…”
ในวาจาของต้วนหรูเฟิง เผยให้เห็นถึงความอับจนไม่น้อย…
หากลัทธิบูชาไฟเป็นขุมพลังในภูมิภาคเบื้องล่าง ป่านนี้มันคงบุกไปชิงตัวเค่อเอ๋อมานานแล้ว เพราะไม่มีที่แห่งใดในภูมิภาคเบื้องล่างนี้ที่ต้วนหรูเฟิงไม่อาจไป!
“ลัทธิบูชาไฟ…กลับทรงอำนาจถึงเพียงนี้? ไฉนน้องหญิงเค่อเอ๋อไปเกี่ยวข้องกับขุมพลังน่ากลัวและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้? แล้วนางจะเป็นไรหรือไม่ แล้วลูกน้อยในท้องนางเล่าจะเป็นอย่างไร?”
ใบหน้าสะคราญโฉมของลี่เฟยเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“อะไรนะ!? เค่อเอ๋อก็ตั้งครรภ์ด้วยหรือ!?”
คำที่ลี่เฟยพึมพำด้วยความกังวลนั้น ต้วนหรูเฟิงย่อมได้ยินชัดเจน สร้างความตกตะลึงให้มันนัก!