WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1597
ตอนที่ 1,597 : เข้าสู่รายนามนภา!
‘มันไม่ควรมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้…จะอย่างไรดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าก็กว้างใหญ่ไพศาลนัก เรื่องมหัศจรรย์มีแทบทุกประเภท แม้ผู้สืบทอดของหมอกพิรุณคนที่แล้วจะชำนาญเขตแดนหมื่นกระบี่ แต่ก็มิมีผู้ใดล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วเขตแดนดังกล่าวเป็นอย่างไร…’
ไม่นานสื่ออวิ๋นก็กล่าวปลอบใจตัวเอง ‘สมควรเป็นเรื่องบังเอิญ ที่นามของเขตแดนเหมือนกัน’
มาถึงจุดนี้ใจสื่ออวิ๋นก็หวนคืนสู่ความสงบ
‘อย่างไรเสียแม้มันจักมิใช่ผู้สืบทอดหมอกพิรุณแต่พลังฝีมือช่างร้ายกาจอย่างหาได้ยากนัก อายุสมควรไม่ได้มากกว่าเทียนหวู่เท่าไหร่ แต่กลับมีพลังสามารถบดขยี้เทียนหวู่ได้ขนาดนี้แล้ว’
ลูกตาสื่ออวิ๋นยิ่งมายิ่งทอประกายจ้า ยังคิดรับต้วนหลิงเทียนเป็นศิษย์นิกายผ่านสายสัมพันธ์กับเทียนหวู่!
หากนางได้รับศิษย์ทั้ง 2 อย่างเฟิ่งเทียนหวู่และต้วนหลิงเทียนล่ะก็ ความสำเร็จในภายภาคหน้าของนิกายอัคคีล่องลอยคงไร้จำกัดแล้ว!
เฟิ่งเทียนหวู่คือผู้สืบทอดหงส์ฟ้าจรัสแสง เช่นนั้นอนาคตของนางจึงไม่อาจหยุดอยู่ที่นิกายอัคคีล่องลอยได้
สำหรับต้วนหลิงเทียนนั้น ถึงแม้พรสวรรค์จะสูงมากและพลังฝีมือตอนนี้ก็เหนือกว่าเฟิ่งเทียนหวู่ แต่นางไม่คิดว่าหลังจากนี้ไปต้วนหลิงเทียนจะเทียบกับเฟิ่งเทียนหวู่ได้…เพราะยิ่งมาเคล็ดบำเพ็ญจิตหงส์ฟ้าจรัสแสงยิ่งทรงอานุภาพ นางมั่นใจในตัวเฟิ่งเทียนหวู่นัก
ด้วยเหตุนี้นางจึงคิดดึงตัวต้วนหลิงเทียนมาเข้าร่วมนิกายอัคคีล่องลอย ชุบเลี้ยงให้กลายเป็นประมุขนิกายคนต่อไป
“น่าเสียดาย…ในเมื่อเขตแดนแม่นางเฟิ่งถูกทำลายเช่นนี้ ก็ไร้หนทางแล้ว เฮ่อ…”
หลายคนเริ่มส่ายหัวและถอนหายใจออกมา
สายตาต่างๆที่หันไปจับจ้องมองต้วนหลิงเทียนตอนนี้ฉายความซับซ้อนไม่น้อย
พวกมันล้วนคิดว่าต้วนหลิงเทียนคงไม่มีทางสู้แม่นางเฟิ่งได้ หากแต่ความจริงเสมือนมือหนาตบฟาดใบหน้าพวกมันดังฉาด!
ถึงแม้หลายคนยังข้องใจและคิดว่าแม่นางเฟิ่งอาจจะออมมือให้ต้วนหลิงเทียน หากแต่ด้วยความที่ขอบเขตเซียนทั้งหลายต่างกล่าวกันว่าแม่นางเฟิ่งลงมือสุดตัวแล้ว พวกมันจึงไม่อาจกล่าวอะไรได้อีก…หลังจากทั้งหมดแล้วพวกมันก็แค่สงสัย…สายตาพวกมันจะสู้ตัวตนในขอบเขตเซียนได้หรือ?
“นอกเหนือจากเขตแดน ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของแม่นางเฟิ่งก็ทรงพลังยิ่ง..ฮึ่ม! หากต้วนหลิงเทียนมิใช้เขตแดน ย่อมไม่มีวันเอาชนะแม่นางเฟิ่งได้!”
“วาจานี้ของเจ้าไม่กล่าวเกินไปหน่อยหรือ…เขตแดนก็เป็นพลังฝีมือย่อยของต้วนหลิงเทียน ไฉนมันถึงมิอาจใช้ได้ นอกจากนี้มันก็มิได้ห้ามแม่นางเฟิ่งมิให้ใช้เขตแดนแต่แรก เพียงแค่เลือกใช้เขตแดนทำลายเขตแดนของนางก็เท่านั้น”
“นั่นสิ! นอกจากจะเป็นผู้ฝึกตนที่ต่ำกว่าขอบเขตสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ หาไม่แล้วผู้ใดจะหวังพึ่งปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์?”
“เจ้าจะกล่าวว่าหากทั้งคู่อยู่ในขอบเขตสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ มันมิใช่คู่มือของแม่นางเฟิ่งว่างั้น?”
……
ผู้ชมต่างซุบซิบสนทนากันวุ่นวาย ยามนี้ในวาจายังเริ่มกล่าวกันไปในทางหากต้วนหลิงเทียนไม่ใช้เขตแดนก็ไม่ใช่คู่มือแม่นางเฟิ่ง
เพราะสำหรับพวกมัน ในด้านอื่นๆต้วนหลิงเทียนไม่น่าจะเทียบแม่นางเฟิ่งได้
คำกล่าวของพวกมัน พอต้วนหลิงเทียนได้ยินก็ได้แต่ลอบขำในใจ และภายใต้สายตาของผู้คน เขาก็สลายเขตแดนหมื่นกระบี่ไปเสีย
เพียงห้วงคิด กระบี่พลังมีสภาพเสมือนจริงนับหมื่นเล่ม ที่ปรากฏในอาณาบริเวณรัศมี 100 หมี่โดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ก็หายไปในพริบตา ทำให้ทุกคนไม่เว้นเฟิ่งเทีนยหวู่แปลกใจไม่น้อย
“ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นกลับเลิกใช้เขตแดนจริงๆ?”
ลูกตาหลายคนเบิกโพลงออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“ดูเหมือนมันจักได้ยินพวกเรา”
“ก็เห็นกันอยู่ชัดๆว่าได้ยิน”
“มันคิดทำอันใดกัน? หรือจะสู้กับแม่นางเฟิ่งต่อโดยไร้เขตแดน”
“หากเป็นเช่นนั้น มันก็รนหาที่ตายแล้ว!”
……
ผู้คนทั้งหลายเริ่มฮือฮากันอีกครั้ง สายตาที่มองต้วนหลิงเทียนยังคล้ายมองตัวโง่งม เพราะสำหรับพวกมันมีแต่ตัวโง่งมเท่านั้นที่กระทำแบบนี้
เห็นได้ชัดว่าชัยชนะอยู่ในมือ แต่กลับเลือกจะหาเรื่องโดยละทิ้งจุดแข็ง!
ห่างออกไปไม่ไกล ซือถูหัง กับซือถูโฮ่วก็ประหลาดใจกับการสลายเขตแดนของต้วนหลิงเทียนเช่นกัน
ถึงแม้ว่าพวกมันจะรู้แต่แรกว่าพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนร้ายกาจมากพอจะติดอันดับในรายนามนภา แต่ต่างก็ไม่คิดกันเลยว่าเขตแดนของต้วนหลิงเทียนจะทรงพลังเสียจนบดขยี้เขตแดนแม่นางเฟิ่งได้ง่ายดาย
ต้องทราบด้วยว่าแม่นางเฟิ่งมิใช่ครึ่งก้าวเซียนธรรมดาๆ!
แม้ตอนนี้นางยังอยู่ในอันดับที่ 23 ของรายนามนภา แต่พลังฝีมืออันแข็งแกร่งที่ทุกคนได้ประจักษ์ ต่างเห็นชัดว่าตอนนี้นางสามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกของรายนามนภาได้แน่นอน!
แต่กระนั้นนางก็เสียเปรียบต่อหน้าต้วนหลิงเทียน และดูเหมือนจะแพ้พ่ายเป็นที่แน่นอนแล้ว!
อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนจะไล่บี้และเอาชนะแม่นางเฟิ่งในคราวเดียว ต้วนหลิงเทียนกลับกระทำเรื่องเหนือคาดพวกมันอีกครั้ง!
เสียงกระซิบสนทนาของผู้ชม ทั้งคู่ก็ได้ยินเช่นกัน
แต่พวกมันคิดว่าไร้สาระนัก!
เขตแดนก็คือส่วนหนึ่งของพลังฝีมือ หากเขตแดนแข็งแกร่งก็บ่งบอกให้รู้ว่าพลังฝีมือผู้ใช้ย่อมแข็งแกร่ง!
ที่พวกมันทั้งคู่คิดไม่ถึงก็คือ เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนคล้ายจะกังวลกับเสียงนกกาของผู้ชม กลับสลายเขตแดนหมื่นกระบี่ไปแบบนั้น
“พี่ใหญ่ต้วน มิจำเป็นต้องสู้ต่อแล้ว”
เฟิ่งเทียนหวู่เป็นฝ่ายริเริ่มกล่าวบอกต้วนหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนที่ได้ฟัง ก็นิ่งคิดไปครู่หนึ่งค่อยพยักหน้า
อันที่จริงที่เขาสลายเขตแดนหมื่นกระบี่นั้น เพราะคิดทดสอบพลังความแข็งแกร่งของปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของเฟิ่งเทียนหวู่ ว่ามันจะสู้กับมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บของเขาได้หรือไม่เท่านั้น…
เขา ต้วนหลิงเทียน กระทำตามความสนใจของตัวเอง ไม่เคยนำพาวาจาผายลมของใคร!
หากแต่ตอนนี้พอได้ยินคำของเฟิ่งเทียนหวู่เขาก็เริ่มสงบลง จึงได้คิดว่าหากจะวัดพลังของปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของเฟิ่งเทียนหวู่จริง ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกระทำตอนนี้…
“การประลองในวันนี้ ท่านต้วน แขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถู มีชัยเหนือ แม่นางเฟิง แห่งนิกายอัคคีล่องลอย! เช่นนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านต้วน จะกลายเป็นผู้ที่อยู่ในรายนามนภาอันดับที่ 23 ส่วนแม่นางเฟิ่งจะถูกลบออกจากรายนามนภา!”
ตอนนี้เองประมุขนิกายสื่ออวิ๋นพลันประกาศผลการประลองออกมา เมื่อเห็นว่าเรื่องราวคงไม่มีอะไรแล้ว
สำหรับผลลัพธ์ดังกล่าวหลายคนยังรู้สึกยากจะเชื่ออยู่บ้าง
อนิจจาความจริงตั้งอยู่ตรงหน้า พวกมันจะไปทำอะไรได้
ไม่ว่าจะอะไรยังไงก็ตาม วันนี้ผลลัพธ์การประลองก็ออกมาแล้ว ทั้งหลายได้แต่ชักสีหน้าแววตาซับซ้อน
พวกมันมาที่นี่เพราะอยากรู้ ก้นบึ้ง ของท่านต้วนแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถู
และตอนนี้พวกมันก็ได้รับทราบถึงความแข็งแกร่งของผู้อื่นแล้ว
หากเป็นเพียงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือเทียบได้กับครึ่งก้าวเซียน ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรกับขุมพลังอื่นๆมากนัก
แต่อารมณ์ของพวกมันกลายเป็นสลับซับซ้อน เพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับเฟิ่งเทียนหวู่
ในประเทศฝูเฟิง มีใครบ้างไม่ทราบฐานะแม่นางเฟิ่งของนิกายอัคคีล่องลอย?
เรียกว่าแม่นางเฟิ่งผู้นี้มีอำนาจอยู่ในมือ สามารถเป็นตัวแทนอาจารย์ของนางอย่างประมุขสื่ออวิ๋นได้!
กล่าวได้ว่าเฟิ่งเทียนหวู่เพียงคนเดียว ก็สามารถเป็นตัวแทนของทั้งนิกายอัคคีล่องลอย!
นั่นหมายความว่าหลังจากนี้เส้นกันระหว่างตระกูลซือถูกับนิกายอัคคีล่องลอยจะถูกทำลายลง กลับกลายเป็นชิดใกล้สนิทกันมากยิ่งขึ้น!
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับพวกมันเลย!
ตอนนี้ในเมื่อการประลองก็สิ้นสุดลงแล้ว คนจากขุมพลังอื่นๆก็เริ่มทยอยกันเดินทางจากไป หลังอำลาประมุขสื่ออวิ๋นของนิกายอัคคีล่องลอยเรียบร้อย
แม้แต่ของเขตเซียนของนิกายคงเฉิน อย่างชายชราไป๋หยินก็ออกจากพื้นที่ลานประลอง เพื่อย้อนกลับไปรับตัวนายน้อยนิกายคงเฉินกลับนิกาย ในระหว่างเดินทางกลับสีหน้าของมันก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่ามันกลับเป็นผู้ชนะ…อย่างไรเสียมิว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ต้องตาย!”
ในระหว่างเดินทางกลับฟ่งเหินกล่าวคำเหล่านี้ออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในวาจาเผยให้เห็นว่ามันแค้นต้วนหลิงเทียนเข้ากระดูกดำ “หากมันไม่ตายข้าไม่มีวันกินอิ่มนอนหลับ!”
“นายน้อย…หากทำได้ท่านควรลืมความแค้นระหว่างท่านกับแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูผู้นี้ไปเสีย…”
สุดท้ายไป๋หยินก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา
“ทำไมเล่า!?”
ได้ยินคำของชายราไป๋หยิน สีหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ทันที “มันทำร้ายข้าถึงขนาดนี้ แต่ท่านยังบอกให้ข้าลืม? นั่นเป็นไปไม่ได้!”
“นายน้อยข้ารู้ดีว่าท่านแทบทนรอฆ่ามันให้ตายไร้ที่ฝังไม่ไหว…แต่ท่านสมควรรู้ไว้ว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ตระกูลซือถูที่สนับสนุนมัน แม้แต่เฟิ่งเทียนหวู่ ก็มิอาจนิ่งดูดาย!”
ชายชราไป๋หยินกล่าวออกด้วยใบหน้าขื่นขม
“เฟิ่งเทียนหวู่??”
ฟ่งเหินขมวดคิ้ว ด้วยมันไม่เคยได้ยินนามนี้มาก่อน
“เฟิ่งเทียนหวู่ก็คือนามเต็มของแม่นางเฟิ่ง”
ชายชราถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“แม่นางเฟิ่งไฉนไปเกี่ยวกับตัวบัดซบของตระกูลซือถูนั่นได้? นอกจากนี้มิใช่มันเอาชนะนางแล้วชิงอันดับในรายนามนภามาหรือไร ข้ามั่นใจว่านางสมควรเกลียดมัน เป็นไปได้อย่างไรจะหันไปสนับสนุนมัน?!”
แม้ฟ่งเหินจะรู้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีชัยในวันนี้ แต่มันก็ไม่ได้ทราบรายละเอียดแต่อย่างใด
เพราะรายละเอียดของเรื่องราว ชายชรายังไม่มีเวลากล่าวบอกมัน
“นายน้อยเรื่องนี้ท่านอาจยังไม่ทราบ…”
ชายชราถอนหายใจออกมาอีกเฮือกหนึ่ง ค่อยกล่าวเรื่องราวทั้งหมดออกมา
รวมถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนกับเฟิ่งเทียนหวู่ไม่เพียงแต่จะรู้จักกันธรรมดา ยังคล้ายจะเป็นคนรักกันอีกด้วย!
“อะไร!? ต้วนหลิงเทียนกับแม่นางเฟิ่งของนิกายอัคคีล่องลอยกลับมีสัมพันธ์เช่นนั้น!?”
หลังได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมด สีหน้าฟ่งเหินก็ถมึงทึงนัก เส้นเลือดขอดผุดโผล่บนขมับ ใบหน้ายิ่งกลายเป็นดุร้าย “มันจะไปมีสัมพันธ์กับแม่นางเฟิ่งเช่นนั้นได้อย่างไรกัน! ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!!”
ฟ่งเหินคำรามออกมาด้วยความคับแค้น หากแต่ร่างยังเดี้ยงไม่อาจลุกมาฮึดฮัดฟัดเหวี่ยงอะไรได้
ถึงแม้มันจะอวดดี แต่ก็มิใช่ตัวโง่งม
หากจะถามว่ารุ่นเยาว์คนใดในประเทศฝูเฟิงที่มันไม่กล้ามีเรื่องด้วย ก็ไม่ต้องคิดอะไรเลย มันตอบได้ทันทีว่าคือแม่นางเฟิ่งแห่งนิกายอัคคีล่องลอย!
ในประเทศฝูเฟิงยังมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าแม่นางเฟิ่งมีสิทธิ์มีเสียงไม่ต่างใดจากประมุขนิกายอัคคีอย่างสื่ออวิ๋น?
ด้วยพลังฝีมืออันน่ากลัวของสื่ออวิ๋น กระทั่งรุ่นเยาว์จากตระกูลราชวงศ์ ยังไม่กล้าโอหังต่อหน้าแม่นางเฟิ่งด้วยซ้ำ!