WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1656
ตอนที่ 1656 : รายนามสุดยอดนักรบคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!
เมื่อเห็นว่าหานเจิ้งเทียนเข้าใจความนัยที่นางจะสื่อ และรับปากว่าจะไม่ผิดสัญญา หานเฉวี่ยไน่ก็รู้สึกโล่งอกไม่น้อย
ถึงแม้นางจะสงสัยว่าทำไมบิดาของนางจึงคิดให้นางออกไปก่อนแล้วจะอยู่กับพี่ใหญ่หลิงเทียน 2 คน แต่เห็นได้ชัดว่าบิดานางอยากได้ความเป็นส่วนตัวและไม่อยากให้นางทราบเรื่องนี้
หลังจากที่หานเฉวี่ยไน่จากไปอย่างเชื่อฟัง สีหน้าหานเจิ้งเทียนก็เผยความเคร่งเครียดจริงจังออกมาทันที
“ลุงหาน…”
ต้วนหลิงเทียนมองหานเจิ้งเทียนด้วยสงสัย ด้วยไม่รู้ว่าเพราะอะไรหานเจิ้งเทียนถึงอยากจะคุยกับเขาตามลำพัง
“เสี่ยวเทียน ทักษะแปลงโฉมของเจ้านับว่าเลิศล้ำหาใดเปรียบนัก…สมควรเป็นทักษะลับแปลงโฉมที่พิเศษอย่างยิ่งใช่หรือไม่?”
หานเจิ้งเทียนมองต้วนหลิงเทียนรด้วยสายตาจริงจัง กล่าวถามออก
“ใช่”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ตอนแรกเขาคิดว่าหานเจิ้งเทียนคิดจะสนทนาเสนอข้อแลกเปลี่ยนเรื่องตราผนึกมารอะไรกับเขาเสียอีก แต่ตอนนี้ดูท่าว่าจะไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว
นอกจากนี้เขายังพบว่าท่าทางหานเจิ้งเทียนจะสนใจทักษะลับแปลงโฉมของเขาไม่น้อย
“ทักษะลับของเจ้าย่อมมีค่านัก…แต่มิทราบว่าเจ้าพอจะถ่ายทอดมันให้ข้าได้หรือไม่?”
หานเจิ้งเทียนมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาจริงจัง เปิดประตูเห็นภูผาถามออก
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนอึ้งไปไปครู่หนึ่งมันก็เร่งกล่าวเสริมออกมา”แน่นอนว่าข้ามิได้ขอให้เจ้าสอนเปล่าๆ…เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนมันกับอะไรเพียงบอกข้ามา ข้าเองก็ไม่ยอมให้เจ้าต้องเสียเปรียบแน่!!”
“ลุงหาน ยังต้องแลกเปลี่ยนอะไรกันอีก ท่านเป็นบิดาของเฉวี่ยไน่ แน่นอนว่าก็เป็นเหมือนผู้อาวุโสคนหนึ่งของข้า ในเมื่อข้าเองก็เป็นแขกมาเยือนท่านถึงที่แต่มิได้มีอะไรติดไม้ติดมือมา เช่นนั้นถือเสียว่าทักษะแปลงโฉมของข้านี้ มอบให้ท่านเป็นของขวัญแรกพบเถอะ…แต่ข้าหวังว่าท่านจะเก็บทักษะลับแปลงโฉมนี้ไว้กับตัวมิถ่ายทอดให้ใคร กล่าวตรงๆคือข้าไม่อนุญาตให้ท่านถ่ายทอดมันให้ใคร ส่วนเฉวี่ยไน่ข้าจะเป็นคนสอนให้นางด้วยตัวเอง”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะกล่าวตอบออกมาตรงๆเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ที่ผู้เฒ่าหั่วถ่ายทอดทักษะลับแปลงโฉมนี้ให้เขา
อีกฝ่ายยังบอกต่อเขาด้วยว่าทักษะลับแปลงโฉมนี้มีค่ามหาศาลแม้กระทั่งในแดนสวรรค์!
ทักษะลับนี้สามารถหลอกลวงได้ทุกคน
แน่นอนว่าในแง่ของรูปลักษณ์เท่านั้น
หากนำไปใช้กับคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ที่สามารถจับสังเกตพฤติกรรมหรือความคุ้นชินบางประการ กระทั่งกลิ่นตัวเฉพาะ ก็ไม่ยากที่จะมองทะลุถึงตัวตนที่แท้จริงได้ แน่นอนว่าหากปลอมเป็นผู้อื่น แล้วเจ้าของหน้าตามาเห็นก็คงจับได้ทันทีเช่นกัน
“เรื่องนี้เจ้ามั่นใจได้เลยเสี่ยวเทียน ข้ายินดีสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า”
พอได้ยินว่าต้วนหลิงเทียนเต็มใจสอนทักษะลับแปลงโฉมที่เลิศล้ำขนาดนี้ให้ง่ายๆ หานเจิ้งเทียนก็รู้สึกยินดีนัก สองตาทอประกายเจิดจ้า เตรียมกรีดนิ้วหลั่งเลือดเพื่อกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าทันที
“ช้าก่อนลุงหาน!”
ทว่าทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียพลันกล่าวหยุดหานเจิ้งเทียนเอาไว้เสียก่อน
“หืม?”
พอเห็นเช่นนี้หานเจิ้งเทียนอดไม่ได้ที่จะชักหน้าบึ้งตึง เพราะคิดว่าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนใจ
“ลุงหานอย่าพึ่งเข้าใจผิด ข้าแค่อยากจะถามท่านก่อน ว่าท่านคิดเอาทักษะแปลงโฉมนี้ไปใช้เพื่ออะไรกันแน่…”
ต้วนหลิงเทียนมองหานเจิ้งเทียนพร้อมกล่าวถามด้วยน้ำเสียงแววตาจริงจัง
หลังได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน หานเจิ้งเทียนก็เงียบไปทันที
“ลุงหาน…ท่านคงไม่คิดจะใช้มันเพื่อลอบสังหารนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องหรอกนะ?”
ต้วนหลิงเทียนหรี่ตาจี้ถามออกมาอีกครั้งทันที
พอได้ยินคำถามนี้ของต้วนหลิงเทียน แม้สีหน้าของหานเจิ้งเทียนจะไม่แปรเปลี่ยน หากแต่หางคิ้วอดไม่ได้ที่จะกระตุกไปอยู่บ้าง…และต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นชัดถนัดตา บ่งบอกให้รู้ว่าเขาเดาถูกจริงๆ
เหตุผลที่หานเจิ้งเทียนอยากได้ทักษะแปลงโฉมของเขา…
พอเห็นสีหน้าแววตาที่แปรเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมของต้วนหลิงเทียน หานเจิ้งเทียนก็รู้ตัวแล้วว่าถูกต้วนหลิงเทียนจับได้
“ข้าไม่อยากให้เฉวี่ยไน่ต้องแต่งกับสารเลวนั่น…ตอนนี้เหลือวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น!”
หานเจิ้งเทียนกล่าวออกมาเสียงเข้ม
วาจาที่หานเจิ้งเทียนกล่าวออกมารอบนี้ เท่ากับยอมรับแล้วว่าคิดใช้ทักษะแปลงโฉมเพื่อเอาไปใช้ฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจริงๆ
“ลุงหานท่านยอมทำเพื่อเฉวี่ยไน่ถึงขนาดนี้ ข้าชื่นชมท่านนัก”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเข้ม สองตาทอประกายเฉียบคมขึ้นมา”แต่ขอข้าถามอะไรท่านสักคำ…ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าหากท่านปลอมตัวไปฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง แล้วคฤหาสน์คลื่นขจีจะรอดพ้นเรื่องนี้ไปได้โดยที่ไม่ถูกพวกมันสงสัยและตอบโต้?”
“หากท่านแน่ใจว่าเมื่อท่านกระทำลงไปแล้ว คฤหาสน์คลื่นขจีจะปลอดภัยไร้เรื่องราว และตัวท่านจะไม่มีอันตรายใดๆตามมาในภายหลัง…ข้ายินดีมอบทักษะแปลงโฉมนี้ให้ท่านทันที! แต่หากท่านไม่อาจมั่นใจได้เต็มสิบส่วนว่าต้องปลอดภัยไร้เรื่องราว ข้าต้องขออภัยท่านไว้ตรงนี้เลย เพราะข้ามิอาจถ่ายทอดมันให้ท่านได้จริงๆ…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวสืบต่อ
เขาไม่ได้หวงทักษะลับแปลงโฉมสักนิด หากต้องถ่ายทอดมันให้หานเจิ้งเทียน
จะอย่างไรหานเจิ้งเทียนก็เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของหานเฉวี่ยไน่ เขาเองก็เห็นเฉวี่ยไน่เหมือนน้องสาวแท้ๆมานานแล้ว เขาย่อมไม่เห็นหานเจิ้งเทียนเป็นคนนอก
หานเจิ้งเทียนพอได้ยินก็ชักสีหน้าเคร่งเครียดสองคิ้วขมวดเป็นปมทันที
มั่นใจเต็ม 10 ส่วน?
แน่นอนว่าไม่อาจ!
ถึงแม้มันจะปลอมแปลงใบหน้าเป็นผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคฤหาสน์คลื่นขจีไปฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง…แต่มันก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจะตัดคฤหาสน์คลื่นขจีออกจากผู้ต้องสงสัย เพราะอีกฝ่ายนั้นโหดเหี้ยมอำมหิตนัก
ฆ่าผิดคนไม่ว่า อย่าพลาดฆ่าคนผิด!!
ในสายตาของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง คฤหาสน์คลื่นขจีก็แค่ขุมพลังชั้น 5 นับว่าไม่ได้เป็นอะไรในสายตาของพวกมัน
การจะทำลายลบทิ้งไป ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
“ไม่…”
เผชิญหน้ากับสองตาคมกล้าที่จี้ถามมาของต้วนหลิงเทียน หานเจิ้งเทียนทำได้แค่กล่าวตอบออกไปด้วยรอยยิ้มขื่นขม
มันไม่คิดจะโกหกเพราะรู้ว่าไม่อาจโกหกชายหนุ่มเบื้องหน้าได้ แม้ชายหนุ่มเบื้องหน้าจะยังถือเป็นรุ่นเยาว์ แต่สายตาอีกฝ่ายกลับคมกล้าให้ความรู้สึกคล้ายจะมองทะลุถึงจิตใจของมันได้อย่างไรอย่างนั้น
“เช่นนั้นข้าต้องขออภัยท่านลุงหานด้วย แต่ข้าไม่อาจถ่ายทอดทักษะลับนี้ให้ท่านได้จริงๆ”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวขออภัยออกมา
“เสี่ยวเทียนข้ารู้ดีว่าทั้งหมดที่เจ้าทำไป เพราะเป็นห่วงข้า…แต่ข้าไร้ทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ”
หานเจิ้งเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงจริงจัง”ตอนนี้ หานซิ่น ที่เป็นดั่งตัวแทนของคฤหาสน์คลื่นขจีได้ตบปากรับคำไปแล้วว่ายินดีจัดงานวิวาห์ระหว่างคฤหาสน์คลื่นขจีกับคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี ด้านคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องก็ได้กำหนดวันแต่งอันเป็นปีหน้าออกมาเรียบร้อย ยังส่งบัตรเชิญไปยังแขกเหรื่อทั่วทุกสารทิศ…เช่นนั้นจึงมีทางเดียวที่จะล่มงานวิวาห์ครั้งนี้ได้…ฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องนั่นทิ้ง!”
“ตอนแรกข้าคิดจะให้ยาโถวน้อยเฉวี่ยไน่หลบหนีไปเสีย…แต่ยาโถวน้อยนั่นเฉลียวฉลาดยิ่ง นางไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ข้า และไม่อยากให้คฤหาสน์คลื่นขจีต้องตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นล่มสลายเพราะมีนางเป็นต้นเหตุ…”
หานเจิ้งเทียนได้แต่ฝืนยิ้มออกมาอย่างขื่นขม
“อันที่จริงข้ายังคิดวิธีบ้าบิ่นอย่างวางยาให้นางตกอยู่ในภาวะไร้สติและลอบพานางหลบหนีไปเสีย…แต่ยาโถวน้อยนางนี้นับว่าฉลาดเฉลียวยิ่ง นางกลับล่วงรู้ว่าข้าอาจใช้วิธีนี้กับนาง จึงลั่นวาจาสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าออกมา ว่าหากข้ากระทำวิธีการทำนองนั้นเพื่อช่วยนางออกไป นางจะไม่ขออยู่อีกต่อไปแม้จะรอดมาได้ก็ตาม…”
วาจาท้ายประโยคหานเจิ้งเทียนเผยความอับจนหนทางออกมาทางสีหน้าแววตา
ลูกสาวของมันปฏิเสธที่จะเชื่อฟังและให้ความร่วมมือ เรื่องนี้ทำให้มันทุกข์ใจนัก
แต่อีกด้านหนึ่งมันก็อดสุขใจเสียไม่ได้ เพราะนี่หมายความว่าลูกสาวตัวน้อยในวันวานที่แสนซุกซนได้เติบโตขึ้นมา จนรู้ผิดชอบชั่วดี กระทั่งเข้าใจคำว่าภาระหน้าที่ๆพึงกระทำแล้ว
ฟังเรื่องที่หานเจิ้งเทียนเล่าออกมา ใจต้วนหลิงเทียนก็อดสะท้านไปเสียไม่ได้
ถึงแม้เขาจะรู้จักกับหานเฉวี่ยไน่มานานปี แต่ในสายตาเขาหานเฉวี่ยไน่เสมือนเด็กสาวตัวน้อยที่ยังไม่เติบโต สดใสร่าเริงและมักซุกซนอยู่เสมอ ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่นางกลับเติบโตและมีความรับผิดชอบถึงขนาดนี้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ่งทุกข์ใจกับเรื่องของหานเฉวี่ยไน่นัก
“คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง…”
ในแววตาต้วนหลิงเทียนเผยเพลิงโทสะขึ้นมากองหนึ่ง ยังคล้ายจะผลาญเผาได้ทุกสิ่ง
“ตอนนี้ข้ายังมีความคิดบางอย่าง…”
หานเจิ้งเทียนมองไปยังต้วนหลิงเทียน ค่อยกล่าว”หลังจากที่ข้าลอบสังหารนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องไปแล้ว ถึงแม้คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจะมีโมโหจนลงมือกับคฤหาสน์คลื่นขจี แต่ยังมีทางให้เฉวี่ยไน่รอดไปได้…นั่นคือให้เจ้าเป็นผู้พานางออกไป กระทำเช่นนี้ย่อมไม่ขัดต่อคำสาบานของนาง ดังนั้นข้าจึงหวังให้เจ้าถ่ายทอดทักษะลับแปลงโฉมนั่นให้ข้า”
“ทำไม่ได้หรอกลุงหาน!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำคัดค้านทันที
ล้อกันเล่นหรือไร!?
เจตนาของหานเจิ้งเทียนคือละทิ้งชีวิตตัวเอง กระทั่งละทิ้งคฤหาสน์คลื่นขจี! จะให้เขารับปากได้อย่างไร!?
หาไม่แล้วในวันหน้าจะให้เขามีไปสู้หน้าหานเฉวี่ยไน่อย่างไร?
“เสี่ยวเทียนเจ้าสมควรรู้ดีว่าทักษะลับปลอมแปลงโฉมของเจ้า ก็เหมือนผักชีโรยหน้าสำหรับข้า…ต่อให้ไม่มีมันแต่ข้าก็ยังคงจะลงมืออยู่ดี!”
หานเจิ้งเทียนส่ายหัวไปมา ใบหน้าแววตาเผยความเด็ดเดี่ยว คล้ายตัดสินใจแน่วแน่ไปแล้ว
“ลุงหาน เรื่องราวมิได้ง่ายดายเช่นนั้นหรอก ท่านอย่าได้วู่วามดีกว่า”
ต้วนหลิงเทียนเผยยิ้มออกมาอย่างขื่นขม
อันที่จริงเมื่อเดือนที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็คิดเหมือนกันว่าการฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องไปเสีย สมควรเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการช่วยหานเฉวี่ยไน่ให้หลุดจากความทรมาณนี้
อย่างไรก็ตามในขณะที่ปิดด่านฝึกฝนเขาก็ตระหนักได้ว่าความคิดนี้มันผิดพลาด
เรื่องที่บิดาของหานเฉวี่ยไน่กระทบกระทั่งกับผู้อาวุโสสูงสุดอย่างหานซิ่นถึงขั้นปะทะกันเลือดตกยางออกนั้น สมควรแพร่ไปภายในคฤหาสน์คลื่นขจีแล้ว! สุดท้ายมิวายต้องล่วงรู้ไปถึงหูคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง! หากไม่เกิดเรื่องกับนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น น่ากลัวคฤหาสน์คลื่นขจีคงหมดสิ้นหนทาง!!
การที่อยู่ดีๆนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องมาถูกฆ่าเอาช่วงเวลานี้… 9 ใน 10 ส่วนทั้งหมดย่อมเดาได้ว่าเป็นฝีมือของหานเจิ้งเทียน!!
เช่นนั้นแล้วไม่เพียงแต่คฤหาสน์คลื่นขจี กระทั่งหานเจิ้งเทียนยังจะต้องแบกรับความพิโรธของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!!
วันนั้นต้วนหลิงเทียนเลยตระหนักได้ทันที ที่ยากไม่ใช่ฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง แต่เป็นการแบกรับผลที่จะตามมาหลังฆ่าอีกฝ่ายแล้วต่างหาก!
“หากมีทางอื่นข้าก็มิได้อยากกระทำเช่นนี้…แต่ตอนนี้มันหลงเหลือเพียงทางเดียวแล้ว”
หานเจิ้งเทียนกล่าว
“ลุงหาน ท่านมั่นใจแล้วหรือว่าไม่มีหนทางอื่นจริงๆ…ร้อยถี่ย่อมมีหนึ่งห่าง ท่านลองทบทวนดู…”
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วกล่าวถามเพิ่มเติม”มิวิธีอื่นใดอีกหรือไม่…ที่จะฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์คลื่นขจี”
“ฆ่านายน้อยฟ้าลิ่วล่องโดยที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคฤหาสน์คลื่นขจี ที่จริงก็พอมีอยู่หนทางหนึ่ง…อนิจจาหนทางนั้นก็เป็นไปมิได้เลยเช่นกัน
หานเจิ้งเทียนส่ายหัวไปมาพร้อมถอนหายใจอย่างสะทกสะท้อน
“หนทางใดหรือลุงหาน ที่ท่านว่าเป็นไปไม่ได้?”
ต้วนหลิงเทียนเร่งกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัยทันที
“หลังจากนี้อีก 1 ปี ภายในคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง จะมีการประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบแห่งคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง ที่จะมีขึ้นทุกๆ 50 ปี…เท่าที่ข้ารู้นายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องก็จะเข้าร่วมการประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบนี้เช่นกัน…มันยังมุ่งหวังจะได้เป็นอันดับ 1 ในรายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง! ทั้งนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องก็จงใจเลือกวันแต่งงานกับเฉวี่ยไน่หลังจากสิ้นสุดการประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบนั่น 1 เดือนพอดี”
หานเจิงเทียนกล่าวเล่าออกมาเสียงเย็นสายตายังดุร้ายปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน
“รายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง? ทุกๆ 50 ปี?”
สำหรับรายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง เป็นอะไรที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ใบหน้าจึงเผยความสงสัยขึ้นมาทันที