WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1663
ตอนที่ 1663 : ไม่จำเป็นเสียหน่อย?
ไม่นานหลังจากที่นายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องออกเดินทางเพื่อฝึกฝนบ่มเพาะ มันก็ได้ยินข่าวลือที่แพร่มาจากแดนไกล เป็นข่าวของผู้ครอบครองตราผนึกมาร ต้วนหลิงเทียน!
“ตราผนึกมาร 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียนที่ติดอันดับในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ สามารถสะกดปราบมารร้ายได้ทั่วหล้า…ปรากฏขึ้นอีกครั้งในภูมิภาคเบื้องล่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้?”
ฉีจิ้งขมวดคิ้วยู่ย่น ใบหน้าอัปลักษณ์ปั้นยากไม่น้อย
หากเป็นก่อนหน้าที่มันไม่ได้ฝึกมารกลืนหยิน พอได้ยินข่าวตราผนึกมาร ในใจย่อมบังเกิดความโลภไม่น้อยเช่นกัน
ทว่าตอนนี้หลังฝึกมารกลืนหยิน มันก็คือผู้ฝึกมารคนหนึ่ง ทำให้หวาดกลัวตราผนึกมารจับใจ!
“ต่อให้ข้าทะลวงถึงเซียนขัดเกลาขั้นเชี่ยวชาญ…แต่ข้าก็สู้ผู้มีตราผนึกมารด่านพลังเซียนดั้งเดิมขั้นต้นไม่ได้!”
ฉีจิ้งพึมพำกับตัว ยิ่งมาหน้ายิ่งเบี้ยว
“ขอนายน้อยอย่าได้กังวลใจไปเลยขอรับ ตราผนึกมารนั่นเห็นว่าผู้ครอบครองยังมีพลังฝึกปรือแค่สู่เซียน จึงมิอาจเป็นภัยคุกคามให้แก่นายน้อยได้ อีกทั้งตราผนึกมารก็มีเพียงชิ้นเดียว ผู้ที่มีตราผนึกมารก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูของนายน้อยเสียหน่อย?”
ชายหนุ่มหลังค่อมที่ติดตามฉีจิ้งอยู่ด้านหลัง พอได้ยินคำบ่นพึมพำด้วยความกังวลของผู้เป็นนาย มันก็เข้าใจว่านายน้อยของมันกังวลเรื่องอะไร พลันกล่าวแสดงความคิดเห็นออกมา
หลังจากได้ยินคำของชายหนุ่มหลังค่อม สองตาของฉีจิ้งก็ทอแสงสว่างวาบขึ้นมาทันที
“จริงด้วย! เจ้ากล่าวถูกต้อง…นับประสาอะไรกับผู้ครองตราผนึกมารยังเป็นสู่เซียน ตอให้มันเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียน ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นศัตรูกับข้าเสียหน่อย! มันจะมามีเรื่องกับข้าทำอะไร!!”
ดั่งคำที่ว่า ‘คนเล่นงุนงง คนดูหูตาสว่าง’ ฉีจิ้งพอได้รับคำกล่าวเตือนจากชายหนุ่มหลังค่อม ก็กลับมามีสติแจ่มใสอีกครั้ง
“จะว่าไป คนที่เรียกว่าต้วนหลิงเทียนนั่นก็นับว่ามีโชคนัก ถึงขั้นพบยอดศาสตราเซียนในตำนานอย่างตราผนึกมารเช่นนี้ได้”
ชายหนุ่มหลังค่อมแลดูอิจฉาไม่น้อย
“แล้วอย่างไรเล่า ครอบครองตราผนึกมารเช่นนี้ น่ากลัวอีกไม่นานยอดฝีมือทั่วดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจะได้ออกล่าตัวมันให้ควั่ก เช่นนั้นมันไม่ซ่อนตัวก็ต้องตาย…ถึงไม่ซ่อน แต่ก็ยากที่มันจะใช้ตราผนึกมารได้อย่างเปิดเผย”
ฉีจิ้งกล่าวค่อนแคะออกมา
อย่างไรก็ตามในน้ำเสียงก็แฝงความอิจฉาไม่น้อย
โชควาสนาของคนที่เรียกว่าต้วนหลิงเทียน นับว่าทำให้มันอิจฉาแทบตายแล้วจริงๆ ยังกลายเป็นความเกลียดชังในระดับหนึ่ง
หากแต่ฉีจิ้งคงไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าต้วนหลิงเทียนที่ว่า ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกับมัน แต่ยังรอนแรมเดินทางมาถึงเขตอิทธิพลหลัก เพื่อฆ่ามันในการประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบเป็นที่เรียบร้อย!
ในขณะที่ฉีจิ้งกับข้ารับใช้ลอบลักพาตัวสตรีมาบ่มเพาะ ด้านต้วนหลิงเทียนก็กำลังฝึกฝนบ่มเพาะอยู่บนชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติอย่างหนัก
เมื่อเวลาผ่านไป ปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่างเขาก็ยิ่งมีเสถียรภาพ อีกทั้งยังเริ่มใช้ออกได้ดั่งใจคิด!
อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนไม่ได้หยุดบ่มเพาะพลัง
เขายังบ่มเพาะพลังหมายทะลวงขั้นอื่นๆของเซียนดั้งเดิม!
ตอนนี้เป้าหมายของเขาก็คือทะลวงให้ถึงเซียนดั้งเดิมขั้นกลาง กระทั่งเซียนดั้งเดิมขั้นเชี่ยวชาญก่อนที่การประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบจะเริ่มต้นขึ้น!
เพื่อให้มีพลังสามารถฆ่านายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องตามสัญญาที่ให้ไว้กับหานเจิ้งเทียน บิดาของหานเฉวี่ยไน่ได้สำเร็จ! และเขาต้องฆ่ามันให้ได้ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม!!
‘หากใช้กระบี่นิลสวรรค์ ด้วยพลังฝึกปรือของข้าตอนนี้คิดฆ่าฉีจิ้งย่อมเป็นอะไรที่ง่ายดายนัก…น่าเสียดายในการประลองไม่ให้ใช้ศาสตราเซียนหรือความช่วยเหลือจากภายนอกอื่นใด เช่นนั้นข้าต้องยกระดับพลังฝึกปรือให้มากที่สุด เพื่อที่จะฆ่ามันให้ตายได้แน่ๆ!’
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด ในใจต้วนหลิงเทียนพลันมีแรงกระตุ้นในการบ่มเพาะพุ่งขึ้นราวจะทะลุฟ้า
แรงกระตุ้นนี้บางทีก็ดี บางครั้งก็ไม่ดี
อย่างไรก็ตามสำหรับต้วนหลิงเทียนตอนนี้ แรงกระตุ้นอันฮึกเหิมก็เรียกว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษ
ไม่ใช่อื่นใด หานเฉวี่ยไน่นั้น เป็นดั่งน้องสาวแท้ๆในสายตาของเขา ต่อให้ไม่มีคำสัญญากับหานเจิ้งเทียนบิดาของนาง เขาก็จะทำให้ได้ ต่อให้มันจะยากประหนึ่งบีนใดมีดขึ้นสวรรค์ก็ตาม!
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะ เตรียมสู้ศึกประลอง ด้านต้วนหรูเฟิงที่อยู่ในตำหนักเมฆาครามเหนือฟ้าไกลห่าง ก็ยากที่จะสงบใจลงได้
มันคาดเดาถึงตัวตนผู้มีพระคุณมามากมายหลายครั้งหลายครา แต่ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะเป็นลูกชายของตัวเองแบบนี้
กระทั่งต้วนหรูเฟิงเป็นจ้าวตำหนักเมฆาครามแล้ว ก็อดที่จะตกใจในเรื่องนี้ไม่ได้!
อย่างไรก็ตามพอคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของลูกชายตัวเอง ในใจก็บังเกิดความกังวลทั้งเป็นห่วงขึ้นมาจับจิต แทบอดรอส่งคนไปตามหาต้วนหลิงเทียนและพากลับมาที่ตำหนักเมฆาครามไม่ไหวแล้ว…เพราะมีแต่กระทำเช่นนั้น มันถึงจะวางใจได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่บังเกิดความคิดนี้ขึ้นในหัว ภาพผู้เฒ่าพยากรณ์ก็จะลอยขึ้นมาทันที
ตามที่ผู้เฒ่าพยากรณ์บอกไว้ มันไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเส้นทางการเติบโตของต้วนหลิงเทียน หากมันเข้าไปวุ่นวายก้าวก่ายอาจเกิดผลกระทบอันยากคาดเดาในวันหน้า และนั่นจะส่งผลกระทบต่ออนาคตชั่วชีวิตของบุตรชายมัน!
ด้วยความสามารถอันลึกล้ำของผู้เฒ่าพยากรณ์ มันย่อมเชื่อถืออีกฝ่ายหมดใจ ไม่คลางแคลง!
หากไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าพยากรณ์มาย้ำเตือนมันด้วยตัวเอง น่ากลัวป่านนี้มันคงส่งคนออกไปตามหาลูกชายเนิ่นนานแล้ว
“เทียนเอ๋อความยากลำบากด่านนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถฟันฝ่าไปได้…ข้ายังเฝ้ารอให้เจ้าเอาชนะตี้จิ่ว มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ เพื่อชิงสิทธิ์ในการเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มังกร…สระชำระมังกรนั่น!”
ต้วนหรูเฟิงพึมพำออกมาเบาๆ
ในขณะที่กล่าวพึมพำ หว่างคิ้วยังเผยให้เห็นถึงความกังวลยากวางใจ
ในโลกนี้การเดินทางร้อยแปดพันลี้ของลูกน้อยนับว่ามากไปด้วยอันตรายนัก ไม่เพียงแต่ทำให้บิดากังวล มารดาย่อมกังวลแทบตาย!
ด้วยเหตุนี้ต้วนหรูเฟิงจึงไม่คิดบอกลี่หรัวแม้แต่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะทันทีที่ลี่หรัวรู้นางคงทนเป็นห่วงไม่ไหว จะอย่างไรอีกฝ่ายก็ใจอ่อนกว่ามันมากมายนัก
และไม่เพียงแต่ไม่บอกลี่หรัว มันยังไม่คิดจะบอกลี่เฟยด้วยเช่นกัน
ถึงขั้นที่มันถ่ายทอดคำสั่งไปยังตำหนักเมฆาครามอย่างลับๆ ว่าให้คอยปิดกั้นข่าวของตราผนึกมารและต้วนหลิงเทียนเอาไว้ ป้องกันไม่ให้ลี่หรัวและลี่เฟยล่วงรู้เรื่องนี้ และนั่นคงเป็นการดีที่สุด
บางเรื่องก็ไม่ควรรู้
เพราะไม่รู้ยังดีเสียกว่า
อย่างไรก็ตามตำหนักเมฆาครามปิดข่าวและไม่ทำอะไร แต่ไม่ใช่ใช่ว่าทางตลาดมืดหยินชานจะไม่ทำอะไรด้วย
ด้วยคำสั่งจากสาขาหลักของตลาดมืดหยินชาน ทำให้ตลาดมืดหยินชานทุกสาขาวุ่นวายกันเป็นการใหญ่!
ล่าตัวต้วนหลิงเทียนมาให้จงได้! ไม่ว่าจะต้องจ่ายออกด้วยราคาเท่าไหร่ก็ตาม!!
หากจะกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตลาดมืดหยินชานต้องการตัวต้วนหลิงเทียนเพราะเป็นบุตรชายของฝ่ายศัตรูล่ะก็ ตอนนี้ด้วยตราผนึกมารที่อยู่ในความครอบครอง ตลาดมืดหยินชางจึงต้องการล่าตัวต้วนหลิงเทียนเพราะตราผนึกมารนั่น!