WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1733
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1733
ตอนที่ 1,733 : สถานการณ์ของเค่อเอ๋อ
เด็กหญิงตัวน้อยๆนางนี้แลแล้วสมควรมีอายุราวๆ 2 ขวบปีเท่านั้น แก้มอมชมพูตุ้ยนุ้ยของนางช่างน่ารักน่าชังนัก มือน้อยๆกลมป้อมยื่นส่งภาพวาดออกไปให้สตรีงามด้วยสายตาใสแป๋วราวกับรอรับการชมเชย
สตรีดังกล่าวเอื้อมมือไปรับรูปวาดมา และเมื่อแลเห็นรูปดังกล่าวหยาดน้ำตาก็ไหลรินออกมาทันใด “เหมือนมาก…ซือหลิงเก่งที่สุด รูปนี้เหมือนพ่อมากกว่าที่แม่วาดเสียอีก”
“ท่านแม่ ท่านร้องไห้ทำไม? ท่านป้าบอกซือหลิงว่าคนที่ร้องไห้ล้วนเป็นคนอ่อนแอ! ซือหลิงไม่อ่อนแอท่านแม่ก็ไม่อ่อนแอ!”
เด็กหญิงตัวน้อยกล่าววาจาออกมาเจื้อยแจ้วฉะฉาน นางยังเขย่งร่างเต็มที่ หมายใช้มือตุ้ยนุ้ยของนางปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลรินลงมารดแก้มสตรีงาม
“อื้อ…แม่กับซือหลิงไม่ใช่คนอ่อนแอ”
สตรีเลอโฉมพลันพยักหน้ายิ้มกล่าว ก่อนที่จะดึงร่างเด็กหญิงตัวน้อยเข้ามาโอบกอดเอาไว้เนิ่นนาน
นางเงยหน้าขึ้นเชื่องช้า แหงนมองไปยังสุดฟ้าห่างไกล ใจคิดรำพัน ‘นายน้อยเจ้าคะ…นี่คือลูกสาวของพวกเรา นางเรียกว่าต้วนซือหลิง! ข้าเชื่อว่านายน้อยต้องมีความสุขแน่หากท่านเห็นว่านางเฉลียวฉลาดเพียงใด’
สตรีนางนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเค่อเอ๋อเอง
หลังจากที่ถูกพาตัวมาภูมิภาคเบื้องบน เค่อเอ๋อก็ถูกพี่สาวฝาแฝดของนางพามาจนถึงลัทธิบูชาไฟ
และนี่คือที่อยู่ของพี่สาวฝาแฝดเค่อเอ๋อ น้อยคนนักที่จะแวะเวียนผ่านมา อันที่จริงแล้วปกติก็ไม่มีใครผ่านมาเยือนสักคน…
ตั้งแต่ที่เค่อเอ๋อมาถึงที่นี่นางก็อาศัยอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลย
เรียกว่าตั้งแต่มาถึงจนกระทั่งนางคลอดบุตรในท้องแล้ว ผู้ที่มาเยือนบ้านหลังนี้นอกจากพี่สาวฝาแฝดของนาง ก็มีเพียง สื่อเอ๋อ สัตว์เซียนทรงพลังที่ติดตามรับใช้พี่สาวฝาแฝดของนางเท่านั้น…
ด้วยระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเค่อเอ๋อก็มั่นใจได้ว่าพี่สาวของนางไม่น่าจะคิดร้ายกับนาง นอกจากนี้อีกฝ่ายคล้ายพยายามปกป้องนาง แต่เพราะด้วยเหตุอันใดนางก็มิอาจทราบได้…
อย่างไรก็ตามเค่อเอ๋อไม่อาจคิดออกได้จริงๆ ว่าไฉนเมื่อมาถึงแล้วพี่สาวของนางจึงให้นางรั้งอยู่ที่นี่ตลอดเวลา ไม่เคยพานางไปพบพานครอบครัวของนางตามที่เคยกล่าวบอกเอาไว้เลย?
นางเองก็เฝ้าถามพี่สาวหลายครั้งหลายคา แต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า ‘ยังไม่ถึงเวลา’ เท่านั้น…
หากนางต้องอยู่ที่นี่คนเดียวน่ากลัวว่าคงต้องเบื่อหน่ายและเหงาตายเป็นแน่ นับว่าโชคดีนักที่นางยังมีลูกสาวตัวน้อยคอยปลอบประโลมคลายเศร้า…
ลูกสาวคนนี้ก็เป็นลูกสาวของนางกับต้วนหลิงเทียน
เนื่องจากความคิดถึงนายน้อยผู้เป็นชายคนรัก นางจึงตั้งชื่อบุตรีว่า ต้วนซือหลิง ซึ่งหมายความว่าคำนึงหาต้วนหลิงเทียน
“ท่านแม่แล้วเมื่อใดพวกเราจะได้เจอท่านพ่อหรือ?”
ต้วนซือหลิงกระพริบสองตากลมใสมองถามเค่อเอ๋อ
“อีกมินาน อีกมินานแล้ว…”
ถึงแม้เค่อเอ๋อก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นางจะได้เห็นหน้าชายคนรักอีกครั้ง แต่นางก็กล่าวตอบบุตรีออกไปอย่างมั่นใจ คล้ายนางกำลังจะกล่าวย้ำเตือนให้ความหวังตัวเองไปในตัว
หลังจากถามตอบทั้งละเล่นกันอยู่ไม่นาน เด็กหญิงตัวน้อยก็เริ่มเหนื่อยและง่วงหงาวหาวนอน
หลังจากที่กล่อมซือหลิงจนหลับไปแล้ว เค่อเอ๋อก็ตรงไปหาพี่สาวฝาแฝดของนาง เปิดประตูเห็นภูผากล่าวถาม “ท่านพยายามทำอะไรกันแน่ ท่านพาข้ามาจากภูมิภาคเบื้องล่างกว่า 2 ปีแล้ว แต่ท่านมิเคยอนุญาตให้ข้าออกไปไหน หรือพบเจอผู้ใดเลย…! ข้าต้องเสียเวลาไปสองปีโดยเปล่าประโยชน์เพราะท่าน ยามนี้ข้าอยากกลับภูมิภาคเบื้องล่างไปหาคนรักของข้าแล้ว!!”
“หาคนรักของเจ้า?”
ได้ยินวาจาถามไถ่ของเค่อเอ๋อ สตรีที่มีรูปโฉมเหมือนกันกับเค่อเอ๋อยังกับแกะ พลันขมวดคิ้วกล่าวออก “เค่อเอ๋อ…หรือเจ้าคิดว่าข้าอยากขังเจ้าไว้ที่นี่?”
“แล้วมิใช่รึไร?”
ใบหน้าเค่อเอ๋อคล้ายจะฉาบคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง “หากวันนั้นท่านไม่พาข้ามาป่านนี้ข้ากับซือหลิงคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับบิดาของนางทุกวัน ไหนเลยต้องพรัดพรากแยกจากเช่นนี้! อีกทั้งวันที่ท่านพาข้ามา ท่านกล่าวบอกดิบดีว่าจะพาข้ามาเจอครอบครัว…”
“แต่ทุกวันนี้มิว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ข้ากล่าวถาม ท่านก็เอาแต่บอกว่า ยังไม่ถึงเวลาๆ…ข้าอยากรู้นักว่าไอเวลาที่ท่านว่า ที่แท้ใช่มันจะมีวันมาถึงหรือไม่?!”
คิ้วเค่อเอ๋อขมวดเป็นปม ตะคอกถามเสียงเย็นห้วน แลดูนางมีโมโหนัก!
“ถามท่าน! ไฉนท่านต้องเข้ามายุ่งกับชีวิตของข้าด้วย! มาแยกข้ากับชายคนรักเช่นนี้เพราะอะไร ปากท่านกล่าวปาวๆว่าเป็นพี่สาวฝาแฝดของข้า หรือที่แท้ท่านแค่ไม่อยากเห็นข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุข!?”
เค่อเอ๋อกล่าวถามออกไปเสียงแข็งด้วยความน้อยใจสงสัยระคนโมโห เรียกว่าตอนนี้อารมณ์ของนางยุ่งเหยิงนัก
เรียกว่าตอนนี้เค่อเอ๋อคล้ายกำลังระบายอารมณ์ที่อัดอั้นออกมา 2 ปี! พาลให้พี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อตะลึงงันไปไม่น้อย เพราะเค่อเอ๋อในวันนี้กลับแลดูเย็นชาดุร้ายนัก!!
นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่าน้องสาวที่แลดูอ่อนโยนของนาง จะกลายเป็นดุร้ายเช่นนี้ขึ้นมาได้?!
“น้องหญิงเค่อเอ๋อ เรื่องราวมิได้เป็นอย่างที่เจ้าคิด…”
ตอนนี้เองดรุณีน้อยในชุดสีม่วงที่ยืนฟังเร่าองราวอยู่ข้างๆ ไม่อาจทนไหวเร่งกล่าวออกมา “พี่สาวเพียงแค่…”
“ช่างเถอะสื่อเอ๋อ…ข้าจะอธิบายเรื่องนี้ให้นางฟังเอง นี่ก็ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะเปิดเผยเรื่องราวบางอย่างออกมา เพราะนางเองก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ และหากนางยังคิดจะกลับไปภูมิภาคเบื้องล่างหลังได้ฟังคำอธิบายของข้าอีก ข้าก็ไม่คิดจะหยุดนาง นอกจากนั้นข้ายังจะพานางกลับไปส่งด้านล่างด้วยตัวเอง…”
พี่สาวของเค่อเอ๋อพลันกล่าวขัดคำสื่อเอ๋อ ค่อยกล่าวออกมารวดเดียวจบ
หลังได้ยินวาจาที่นางกล่าว ใจของเค่อเอ๋อพลันรู้สึกบีบรัดคัดตรึงขึ้นมาทันที…หรือพี่สาวของนางต้องทนเก็บงำเรื่องราวสำคัญเอาไว้จริงๆ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เค่อเอ๋ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อย
นางเป็นสตรีที่อ่อนโยนใจดี หาไม่แล้วนางคงไม่อดทนนิ่งเงียบมากว่า 2 ปี จนกระทั่งวันนี้เพราะบุตรของนางกล่าวถามหาบิดา นางจึงรวบรวมความกล้ามาถามพี่สาวของนางเช่นนี้…
ทว่าตอนนี้ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่ได้เป็นอย่างที่นางคาดเอาไว้เสียแล้ว…
“น้องข้า…หลังจากที่ข้ากับเจ้าถือกำเนิดมาได้ไม่นาน พวกเราก็ถูกผู้คนระดับสูงมากมายของลัทธิบูชาไฟให้ความสนใจ ทว่าเป็นเจ้าที่โดดเด่นกว่ากระทั่งผู้คนเหล่านั้นยกเจ้าให้เป็นธิดาเทพแห่งลัทธิบูชาไฟ…ส่วนข้าแม้ไม่ถึงกับถูกให้ความสำคัญเช่นเจ้า แต่ข้าก็ได้ถูกท่านอาจารย์ยอมรับเป็นศิษย์ส่วนตัว และทุกคืนวันข้าก็ขยันบ่มเพาะฝึกฝนอย่างหนักจนมีวันนี้…”
พี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อกล่าวออก
“ธิดาเทพ?”
เค่อเอ๋อขมวดคิ้ว นางไม่รู้ว่าการเป็นธิดาเทพของลัทธิบูชาไฟหมายความว่าอะไร…
นอกจากนี้นางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไฉนนางถูกกำหนดให้เป็นธิดาเทพแล้ว แต่กลับมิอาจอยู่บนภูมิภาคเบื้องบนแห่งนี้ได้ แถมไม่เพียงแต่นางจะอยู่ภูมิภาคเบื้องล่าง กระทั่งยังต้องไปอยู่ในหมู่บ้านที่เล็กที่สุดในทวีปมนุษย์
“ธิดาเทพของลัทธิบูชาไฟ คือสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ลัทธิบูชาไฟจะทำการคัดเลือกธิดาเทพทุกๆ 100 ปี…หลังเกิดเรื่องบางประการจนต้องส่งเจ้าหลบหนีออกไปยามนั้น…ตัวข้าที่ไม่อาจแทนที่เจ้าและเป็นธิดาเทพคนใหม่แทนเจ้าได้เพราะเจ้าได้ผ่านพิธีกรรมทั้ง ‘ตีตรา’ ไว้แล้ว…ทำให้หลังจากที่เจ้าหายตัวไป ลัทธิบูชาไฟถึงกับปั่นป่วนครั้งใหญ่ ต่างส่งกำลังคนออกไปตามหาเจ้าทั่วแดนดิน”
“เป็นธรรมดาที่พวกมันจะทุ่มกำลังตามหาเจ้าที่ภูมิภาคเบื้องบนก่อน แต่หลังผ่านไปหลายปีมิพบเจอเจ้า พวกมันก็เริ่มเบนเข็มลงไปตามหาเจ้าที่ภูมิภาคเบื้องล่าง…เพราะทั้งหมดฉุกคิดได้ว่าเมื่อมิพบเจอร่องรอยของเจ้าที่นี่ มีโอกาสเช่นกันที่เจ้าจะถูกพาไปซ่อนที่ภูมิภาคเบื้องล่าง…”
“ยามนั้นยังมีคำสั่งถ่ายทอดลงมาจากเบื้องบนว่าเจ้าจะต้องถูกนำตัวกลับมาให้จงได้ และต้องกลับมารับโทษทัณฑ์ตามกฏของลัทธิ! ที่สำคัญในกฏยังระบุเอาไว้ว่าธิดาเทพที่สูญเสียพรหมจรรย์นั้นต้องถูกประหารชีวิต! ข้าที่ร้อนใจเป็นห่วงเจ้าจึงลอบลงไปตามหาเจ้าที่ภูมิภาคเบื้องล่าง…”
“ในที่สุดข้าก็พบเบาะแสเจ้า กระทั่งหาเจ้าเจอ”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ใบหน้าของพี่สาวฝาแฝดเค่อเอ๋อพลันเผยความยินดีมีความสุขออกมา
ธิดาเทพ?
พรหมจรรย์?
โทษประหารชีวิต?
ใบหน้าของเค่อเอ๋อคล้ายจะมีชั้นน้ำแข็งฉาบเคลือบขึ้นมาอีกชั้นทันที “ตั้งแต่ที่ข้าจำความได้ข้าก็อยู่มาโดยไร้ความทรงจำอันใดเกี่ยวกับที่นี่…ต่อให้ข้าจะเป็นธิดาเทพของลัทธิบูชาไฟ แต่นั่นก็มิใช่ความต้องการของข้า เพราะข้าไม่เคยรู้ว่าตัวเองเป็นใคร เช่นนั้นไฉนเรื่องที่ข้าเสียพรหมจรรย์อะไรนั่นถึงทำให้ข้าต้องตายด้วย! นี่พวกมันมีสิทธิ์อะไรมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของข้า?!”
“ที่เจ้ากล่าวมามันก็ถูก…แต่กฏของที่นี่เป็นอะไรที่โหดเหี้ยมเด็ดขาดนัก เหล่าผู้เฒ่าคุมกฏทั้งหลายมิสนใจหรอกว่าเจ้าจะเป็นอะไรยังไง…หาไม่แล้วข้าคงไม่ลอบลงไปตามหาเจ้า และคงไม่สวดภาวนาต่อสวรรค์อยู่บ่อยครั้งว่าขออย่าให้เจ้ามีบุรุษอันใด และเจ้ายังคงครองพรหมจรรย์อยู่…”
พี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อระบายลมหายใจออกมาอย่างอ่อนล้า “อย่างไรก็ตามเมื่อข้าพบว่ากลิ่นอายของเจ้าติดอยู่บนร่างบุรุษผู้นั้น ใจข้าก็สังหรณ์มิค่อยสู้ดี…สุดท้ายเรื่องร้ายที่ข้าสังหรณ์ใจไว้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ไม่เพียงแต่เจ้าจะสูญเสียพรหมจรรย์ เจ้ากระทั่งตั้งครรภ์ลูกเขา…”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงหูกลุ่มคนที่กำลังตามล่าตัวเจ้าจักเกิดอันใดขึ้น? ไม่เพียงแต่เจ้าจะถูกประหาร บุตรีในท้องของเจ้าก็ต้องตาย! กระทั่งชายคนรักของเจ้าก็ต้องถูกทัณฑ์อัคคีวินาศทรมานจนตาย กระทั่งยังจะประหารครอบครัวเขาทั้ง 9 ชั่วโคตร เพราะลัทธิบูชาไฟถือว่าชายผู้นั้นได้ลบหลู่ลัทธิบูชาไฟอย่างร้ายแรง!!”
พี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อตะเบ็งเสียงกล่าว
ใบหน้าของเค่อเอ๋อซีดเซียวลงทันใด
นางไม่รู้เลยว่าฐานะในอดีตของนางจะซับซ้อนขนาดนี้ กระทั่งเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยในชีวิตของชายคนรัก
แม้ก่อนหน้านี้นางจะไม่รู้เลยว่าลัทธิบูชาไฟคืออะไร ทว่าตลอดระยะ 2 ปีที่ผ่านนางก็ได้รับทราบเรื่องราวของภูมิภาคเบื้องบนและลัทธิบูชาไฟจากสื่อเอ๋อ ที่ปกติติดตามอยู่ข้างกายพี่สาวของนาง…
ทำให้นางรู้ว่าลัทธิบูชาไฟคือ 1 ใน 3 ยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคเบื้องบน!
หากลัทธิบูชาไฟกำหนดให้ชายคนรักของนางต้องตาย ก็ไม่มีใครในโลกหล้ากล้าช่วยให้เขามีชีวิตรอด!
“ที่ข้าพาเจ้ากลับมาเช่นนี้เพราะกลัวเจ้าจะถูกพวกมันพบตัว…ตอนแรกข้าคิดจะพาเจ้าไปซ่อนที่อื่น แต่ข้าคิดได้ว่า ที่ๆอันตรายที่สุด ย่อมเป็นที่ๆปลอดภัยที่สุด ข้าจึงพาเจ้ากลับมาลัทธิบูชาไฟ”
พี่สาวเค่อเอ๋อกล่าวสืบต่อ “แม้ข้าจะเกลียดชายคนรักตัวดีนั่นของเจ้าเพียงใดแต่ไหนเลยข้าจะใจร้ายคิดทำอะไรเจ้ากับลูกได้…หากซือหลิงเป็นเพียงบุตรีของมันคนเดียว ข้าไม่มีทางไว้ชีวิตนาง แต่ปัญหาคือนางเป็นบุตรีของเจ้าเป็นหลานสาวของข้า…จะให้ข้าทำร้ายนางลงคอได้อย่างไร?”
“สำหรับเรื่องที่จะพาเจ้าไปหาเจ้าหมอนั่นให้ครอบครัวได้พร้อมหน้าพร้อมตา ก็ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยคิด…แต่ที่ลัทธิบูชาไฟแห่งนี้หน้าต่างมีหูประตูมีช่องข้าไม่กล้าพาเจ้าเคลื่อนไหวโดยไม่มั่นใจ เพราะหากเรื่องนี้แดงขึ้นมา เจ้ากับซือหลิงคงยากจะมีชีวิตรอดไปได้”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้พี่สาวของเค่อเอ๋อพลันระบายลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า ในฐานะที่นางเป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟ นางย่อมรู้ดีว่าลัทธิบูชาไฟทำอะไรได้บ้าง
ใบหน้าเค่อเอ๋อที่ซีดลงยิ่งมาก็ยิ่งไร้สีเลือด
นางไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะร้ายแรงขนาดนี้
“พี่หญิง ข้าขอโทษ…”
มาตอนนี้ในที่สุดนางก็เข้าใจเรื่องราว และรู้ว่าเข้าใจพี่สาวของนางผิดมาตลอด…
ตั้งแต่ต้นจนจบพี่สาวของนางล้วนทำเพื่อนางทั้งสิ้น…