WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1821
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1821
ตอนที่ 1,821 : เจ้าคือต้วนหลิงเทียนงั้นเรอะ!?
‘ตู้กูเหนือ…หรูเฟิงใต้…ให้ตายเถอะ! ข้าควรคิดได้ตั้งนานแล้ว!!’
พอได้รับคำยืนยันจากปากของกู่ลี่ ต้วนหลิงเทียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกฟอด หลังจากนั้นค่อยสงบจิตสงบใจลงได้
ที่แท้บิดาไม่เอาไหนของเขากลับเป็นถึงจ้าวตำหนักเมฆาคราม!
‘ให้มันได้ยังงี้สิ…น่าเหลือเชื่อชะมัด!’
ถึงแม้จะยืนยันได้แล้ว แต่ต้วนหลิงเทียนยังรู้สึกอึ้งทึ่งอยู่บ้าง!
บิดาไม่เอาไหนของเขาเนี่ยนะ จ้าวตำหนักเมฆาคราม!
ตำหนักเมฆาครามคืออะไร?!
1 ใน 2 ยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคเบื้องล่าง!!
ถึงแม้จะเป็นขุมพลังกึ่งชั้น 3 เช่นกันแต่กลับมีพลังอำนาจสยบปราบได้ทุกขุมพลังกึ่งชั้น 3 แทบทั้งหมด! เป็นขุมกำลังเดียวที่มีพลังอำนาจทัดทานกับตลาดมืดหยินชานได้!
และว่ากันว่ามีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้ตำหนักเมฆาครามสามารถงัดข้อกับตลาดมืดหยินชานได้…พลังฝีมือส่วนตัวของจ้าวตำหนักเมฆาคราม!
และจ้าวตำหนักเมฆาครามนั่น กลับเป็นบิดาไม่เอาไหนของเขา ต้วนหรูเฟิง!
หากไม่มีเงื่อนไขอื่นๆ ถึงแม้จะได้ยินว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามเรียกว่าต้วนหรูเฟิง ต้วนหลิงเทียนก็ยากที่จะโยงจ้าวตำหนักในตำนานนั่นกับบิดาไม่เอาไหนที่ปล่อยให้ลูกเมียลำบากอยู่ 20 กว่าปีได้…เพราะโลกนี้ผู้ที่ชื่อแซ่ซ้ำกันมีเยอะแยะมากมายนัก!
เรื่องบังเอิญเป็นเรื่องปกติ!
ทว่าตอนนี้เรื่องราวกลับต่างออกไป เพราะไม่เพียงแต่ชื่อจะเหมือนบิดาไม่เอาไหนแล้ว จ้าวตำหนักเมฆาครามยังมี จุดร่วม กับบิดาไม่เอาไหนของเขาอีกหลายข้อ
มาจากทวีปมนุษย์เช่นเดียวกัน!
ไม่กี่ปีที่แล้วพาครอบครัวจากทวีปมนุษย์มาอยู่ที่ตำหนักเมฆาคราม!
ผงาดขึ้นมามีชื่อเสียงในเวลาแค่ 2 ทศวรรษ!
บังเอิญชื่อเหมือนเรื่องหนึ่งยังพอว่า แต่หากเหมือนกัน 2 จุด กระทั่ง 3 จุดเล่า?
ยังจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อีกหรือ!
ดังนั้นหลังจากได้รับทราบข้อมูลของจ้าวตำหนักเมฆาครามเพิ่มเติมจากกู่ลี่ ต้วนหลิงเทียนก็มั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าจ้าวตำหนักเมฆาคราม ต้วนหรูเฟิง เป็นบิดาไม่เอาไหนของเขาแน่นอน!
‘ที่แท้ท่านพ่อเป็นจ้าวตำหนักเมฆาคราม…ถ้างั้นเรื่องในกาลก่อนก็มีเหตุผล’
พอยืนยันได้ว่าบิดาไม่เอาไหนคือจ้าวตำหนักเมฆาคราม ต้วนหลิงเทียนก็นึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต และพบว่าทุกอย่างลงตัวพอดี
‘กล่าวได้ว่า…หยกบันทึกเสียงในกล่องประหลาดนั่น คือจุดนัดพบที่จะทำให้ข้าไปเจอคนของท่านพ่องั้นสินะ?’
ต้วนหลิงเทียนจดจำเรื่องนี้ได้ดี หยกบันทึกเสียงนั่นมันบิ่นแตกไป เพราะเขาคิดเปิดกล่องด้วยการใช้กำลัง จึงทำให้ข้อความขาดหาย
ด้วยเหตุนั้นทำให้เขาต้องเดินทางท่องดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเพียงลำพัง ใต่เต้าจากชายแดนด้วยความพยายามอย่างหนัก
‘ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฉวี่ยไน่บอกว่าท่านพ่อไม่ธรรมดา…ไม่ธรรมดาจริงๆ’
พอนึกถึงเรื่องที่หานเฉวี่ยไน่กล่าวบอก ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
จ้าวตำหนักเมฆาคราม!
1 ใน 2 สุดยอดฝีมือที่ทรงพลังเหนือสุดในภูมิภาคเบื้องล่าง
ในภูมิภาคเบื้องล่างแห่งนี้ นอกจากผู้สังเกตการณ์ ที่ถูกส่งมาโดยขุมพลังชั้น 1 แล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้นำตลาดมืดหยินชาน ตู้กูเหนือ กับจ้าวตำหนักเมฆาคราม หรูเฟิงใต้ ร้ายกาจที่สุด…
‘หากหยกบันทึกเสียงที่พ่อทิ้งไว้ให้ข้าไม่เสียหาย…หมายความว่าป่านนี้ข้าคงอยู่ที่ตำหนักเมฆาคราม ได้เป็นจ้าวตำหนักน้อยอย่างสบายใจแล้วสิ?’
จังหวะนี้เองต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยมวลอารมณ์ซับซ้อน
ที่แท้บิดาไม่เอาไหนที่เขาหมายตามหาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ากลับเป็นจ้าวตำหนักเมฆาคราม
หากเขารู้แต่แรกเขาคงไม่เถลไถลไปไหนมากมาย…
‘อย่างไรเสียแม้การเดินทางของข้าจะพบเจอเรื่องราวยากลำบากมากมาย…แต่ผลที่ได้ก็ดีไม่น้อย ได้เจอศิษย์พี่ป๋าย พี่กู่ หากข้าไปตำหนักเมฆาครามแต่แรกข้าคงพลาดเรื่องราวเหล่านี้’
คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกว่าที่เหนื่อยมาตลอดมันคุ้มค่าแล้ว
‘และหากข้าไปตำหนักเมฆาครามเลย ข้าคงไม่ได้มาที่ตำหนักฟ้าลี้ลับ และหากไม่ได้มาที่ตำหนักฟ้าลี้ลับ ข้ายังจะได้เข้าแดนลับเซียนของตำหนักฟ้าลี้ลับอีกเหรอ…เช่นนั้นก็ไม่มีทางได้รับมรดกเวทย์พลัง ปฐมเวทย์กลืนกิน นั่นมาได้เลย’
ในแดนลับเซียนของตำหนักฟ้าลี้ลับ ต้วนหลิงเทียนได้รับสืบทอดเวทย์พลังระดับสูงมาถึง 2 ชนิด เวทย์พลังสายกระบี่จู่โจมอย่าง ‘เซียนอมตะข้ามภพ’ นั้น นับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อย!
แต่ปฐมเวทย์กลืนกินนั่น กลับต่างออกไป!
กระทั่งแดนลับเซียนของตำหนักเมฆาครามก็ไม่มีเวทย์พลังระดับนี้!!
โดยทั่วไปแล้วการที่หยกบันทึกเสียงบิ่นแตกเสียหายไป กลับเป็นเรื่องดีสำหรับต้วนหลิงเทียน
สิ่งที่เสียไปมีเพียงโอกาสที่จะได้เจอครอบครัวในเวลาอันสั้นเท่านั้น
แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ เวทย์พลังล้ำค่า 2 ชนิด และสหายอันดี!
‘แต่ถ้าข้าไปตำหนักเมฆาครามแต่แรกและกลายเป็นจ้าวตำหนักน้อย ข้าสามารถพาเค่อเอ๋อกับเสี่ยวเฟยเอ๋อมาที่ตำหนักเมฆาครามได้ทันที! หากเป็นแบบนั้นพวกนางก็ไม่ต้องตกระกำลำบากอะไรด้วยน้ำมือของมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บอย่างตี้จิ่วนั่น! นอกจากนั้นต่อให้พี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อมาพบ นางก็ไม่น่าจะนำเค่อเอ๋อไปภายใต้ความคุ้มครองของตำหนักเมฆาคราม!’
คิดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะดิ่งลง
“น้องหลิงเทียน เจ้าเป็นอะไรไป มีเรื่องใดหรือไม่?”
เมื่อเห็นสีหน้าต้วนหลิงเทียนบัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้าย กู่ลี่อดเป็นห่วงไม่ได้ เร่งถามออกมาทันที
“ข้าสบายดีพี่กู่”
ต้วนหลิงเทียนกลับมารู้สึกตัวหลังได้ยินเสียงถามไถ่ของกู่ลี่
เขารู้ดีแก่ใจว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว คิดไปตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์!
ได้อย่างเสียอย่าง…ชีวิตคนเราก็ไม่ใช่ว่ามันเป็นแบบนี้ตลอดหรือ?
“น้องหลิงเทียนเจ้าบอกว่าสบายดี…แต่ไฉนหลังจากที่เจ้าได้ยินนามของจ้าวตำหนักเมฆาครามแล้ว อารมณ์ของเจ้าแลดูตื่นเต้นนักเล่า เรื่องนี้บอกข้าได้หรือไม่?”
กู่ลี่ถาม
หลังจากถามจบ มันก็กล่าวเพิ่มเติม “แน่นอนว่าหากเจ้าไม่สะดวกก็ถือเสียว่าข้าไม่เคยถาม”
“พี่กู่ ถึงแม้พวกเราจะพึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ท่านนับว่าเป็นสหายที่ดี ข้าเชื่อใจท่าน…เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรที่ไม่สะดวกจะพูด”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว “ที่ข้าตื่นเต้นไปหลังได้ยินเรื่องของจ้าวตำหนกเมฆาคราม เพราะอีกฝ่ายนั้นนามเหมือนกับบิดาข้า…”
“โอ้? นามบิดาเจ้ากับจ้าวตำหนักเมฆาครามเหมือนกันงั้นหรือ?”
กู่ลี่โพล่งกล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “ไม่คิดเลยว่าโลกนี้กลับมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้…อย่างไรก็ตามแม้นามของบิดาเจ้ากับจ้าวตำหนักเมฆาครามจะเหมือนกัน แต่ไฉนเจ้าถึงได้ตื่นเต้นนักเล่าน้องหลิงเทียน?”
กู่ลี่กล่าวถามสืบต่อ เพราะท่าทางตื่นเต้นก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียนมันแลดูเกินไปอยู่บ้าง
ชื่อเหมือน?
ได้ยินคำของกู่ลี่ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมา ค่อยกลาวต่อ “ท่านพ่อกับข้าก็มาจากทวีปมนุษย์…”
“อะไร!?”
ได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน ลุกตากู่ลี่หดเล็กลงทันใด เผยความตื่นตระหนกให้เห็น “น้องหลิงเทียนเจ้า…ที่แท้กลับมาจากทวีปมนุษย์งั้นหรือ…ผู้ที่มาจากทวีปมนุษย์ใช่เป็นสัตว์ประหลาดเหมือนพวกเจ้าหมดหรือไม่ จ้าวตำหนักเมฆาครามก็คนนึงแล้ว ยังมีเจ้าอีก…”
“ไหนจะยังบิดาเจ้า…เจ้าร้ายกาจขนาดนี้ บิดาของเจ้าก็ไม่ควรอ่อนแอใช่หรือไม่?”
ฟังจากคำถามของกู่ลี่ ดูเหมือนมันจะยังไม่ได้เชื่อมโยงจ้าวตำหนักเมฆาครามกับบิดาของต้วนหลิงเทียนเข้าด้วยกัน
มันคิดแค่ว่าต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวบอก ต้นกำเนิด ว่าทั้งพ่อทั้งลูกล้วนมาจากทวีปมนุษย์แค่นั้น
“พี่กู่…จ้าวตำหนักเมฆาครามคือบิดาของข้า”
เมื่อเห็นว่ากู่ลี่นั้นความรู้สึกช้านัก ต้วนหลิงเทียนก็เลือกจะกล่าวบอกไปตรงๆ
เปรี๊ยง!
วาจาตรงๆนี้ของต้วนหลิงเทียน พอดังในหูของกู่ลี่ยังสนั่นปานอัสนียามแล้ง พาลให้กู่ลี่ตะลึงงันไปอย่างสมบูรณ์
จ้าวตำหนักเมฆาคราม…เป็นบิดาของศิษย์น้องหลิงเทียน?
“เป็นไปได้อย่างไร!?”
สุดท้ายกู่ลี่มองมาที่ต้วนหลิงเทียน พร้อมกล่าวถามด้วยท่าทางไม่เข้าใจ “หากเจ้าเป็นบุตรชายของจ้าวตำหนักเมฆาคราม เจ้าก็คือจ้าวตำหนักน้อย…แล้วจ้าวตำหนักน้อยเช่นเจ้าจะมาตำหนักฟ้าลี้ลับของเราทำอะไร?”
“ยัง…ไม่สิ! เจ้าเรียกว่าหลิงเทียน หากแต่แซ่ของจ้าวตำหนักเมฆาครามคือต้วน…ต้วน…หลิงเทียน…ต้วนหลิงเทียน! เจ้า…เจ้าคงไม่ใช่คนที่ถือครองตราผนึกมารและโด่งดังขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีที่แล้วหรอกนะ?”
“ไม่สิ! ข้าเห็นภาพคนที่ถือครองตราผนึกมารแล้ว เจ้าแลดูไม่คล้ายคนๆนั้นสักนิด…ไม่สิ! ทักษะแปลงโฉมของเจ้า….ลี่เฟิง ที่ปรากฏตัวในเขตอิทธิพลคฤหาสน์ฟ้าลี้ลับกลับไม่มีใครมองออก ทั้งหมดเพราะทักษะแปลงโฉมของเจ้า! เจ้า…เจ้าคงไม่ใช่ต้วนหลิงเทียนตัวจริงหรอกนะ?!”
ยิ่งกล่าวกู่ลี่ก็ยิ่งอื้ออึง พูดเองเออเองไปพักใหญ่ค่อยถามออกมาด้วยสีหน้าแตกตื่น
“ถูกแล้วพี่กู่ ข้าคือต้วนหลิงเทียน…แล้วก็เป็นบุตรชายของจ้าวตำหนักเมฆาครามด้วย!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบ ใบหน้าก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปทันที กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มเคลื่อนไหวอย่างอัศจรรย์ พริบตาก็หวนคืนสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิม!
“เป็นเจ้าจริงๆ!”
กู่ลี่อดไม่ได้ที่จะถลึงตามองใบหน้าของต้วนหลิงเทียน
เพราะรูปร่างหน้าตาของคนที่อยู่เบื้องหน้ามันตอนนี้เหมือนคนในรูปวาดเปี๊ยบ!
และคนในรูปนั่นก็คือ ต้วนหลิงเทียน ผู้ที่มีโชคได้ครอบครองตราผนึกมาร 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียน!
“พอข่าวเรื่องตราผนึกมารแพร่ออกมาได้พักหนึ่ง เจ้าก็คล้ายจะหายตัวไปจากโลกหล้าอย่างไร้ร่องรอย ข้าหลงคิดว่าเจ้าถูกใครฆ่าตายไปแล้วเสียอีก…ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะปลอมตัวเป็นลี่เฟิงไปก่อความวุ่นวายในเขตอิทธิพลคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง…สุดท้ายยังปลอมเป็นหลิงเทียนมาเข้าร่วมตำหนักฟ้าลี้ลับ!”
กู่ลี่ถอนหายใจออกมาค่อยเผยยิ้มขมขื่น มันไม่คิดเลยว่าศิษย์น้องของมันคนนี้คือผู้โชคดีที่ได้รับตราผนึกมารไปครอง
“แต่นี่เจ้ามาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับข้า หรือเจ้าไม่กลัวหรือว่าเจ้าจะไม่ได้ออกจากตำหนักฟ้าลี้ลับ?”
สีหน้ากู่ลี่เผยความจริงจังออกมา
“พี่กู่จะขายข้ารึไง?”
เผชิญกับสีหน้าจริงจังของกู่ลี่ ต้วนหลิงเทียนเพียงถามกลับด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีวัน”
กู่ลี่ก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นค่อยเผยยิ้ม แน่นอนว่ามันไม่ใช่คนประเภทที่จะทรยศสหายได้ลง!
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมียอดศาสตราเซียนในครอบครอง 1 ชิ้น ให้มีสิบชิ้นร้อยชิ้นมันก็ไม่มีวันขายต้วนหลิงเทียน
“ตะ…แต่ว่า น้องหลิงเทียน เจ้าเป็นนายน้อยของจ้าวตำหนักเมฆาครามจริงๆหรือ!?”
ไม่นานรอยยิ้มบนใบหน้าของกุ่ลี่ก็หายไปกลายเป็นจริงจัง มองถามต้วนหลิงเทียนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
“ใช่”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ายืนยัน