WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1828
ตอนที่ 1,828 : คนที่อยู่เหนือความคาดหมาย…
“ไม่! เป็นไปไม่ได้!!”
“ใต้หล้าไหนเลยมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้! หลิงเทียนมันจักเป็นต้วนหลิงเทียนคนนั้นได้อย่างไร!?”
……
จ้าวจี้ยากจะทำใจรับความเป็นจริงเรื่องนี้!
นั่นเพราะหากหลิงเทียนเบื้องหน้าคือต้วนหลิงเทียนคนนั้นจริง เช่นนั้นีท่อีกฝ่ายหยิบออกมาก็คือตราผนึกมาร 1 ใน 10 ยอดศาสตราเซียน ดาวข่มของผู้ฝึกมารทั่วหล้า!
และด้วยพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนที่บรรลุขอบเขตอริยะเซียนแล้ว นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายสามารถฆ่าได้กระทั่งผู้ฝึกมารขอบเขตเซียนมนุษย์ขั้นสูงสุด!
ตัวมันเป็นแค่เซียนมนุษย์ขั้นต้นเท่านั้น…
จังหวะนี้จ้าวจี้อยากให้มันกำลังถูกหลอก อยากให้ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำลวงขู่ข่มของหลิงเทียน และในมือนั่นมันไม่ใช่ตราผนึกมารในตำนานแต่เป็นป้ายศิลาโง่ๆอันใดสักอย่าง..
“มันจบแล้ว…”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองจ้าวจี้ด้วยสายตาเฉยเมย คร้านจะกล่าววาจาอะไรกับมันสืบไป
วู้ม!
ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนสะบัดมือคราหนึ่ง ปราณสุริยันแรกกำเนิดหลั่งไหลถ่ายทอดลงสู่ตราผนึกมาร
ครู่ต่อมาตราผนึกมารก็สั่นระรัวอย่างแรง
ไอพลังดั่งม่านหมอกสีดำเริ่มแผ่ซ่านออกมาปกคลุมไปทั่ว
สุดท้ายยังปรากฏอัสนีสีดำแล่นวาบแปลบปลาบ แลดูทรงพลังอำนาจนัก!
เมื่อกลิ่นอายพลังของมันเริ่มกำจายออกมา ตอนนี้ต่อให้ไม่ใช่ผู้ฝึกมารก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นเกรงไอพลังลี้ลับน่ากลัวดังกล่าวจนตัวสั่น!
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนจ่ายพลังลงสู่ตราผนึกมารจนตัวป้ายศิลามุมแหว่งเปล่งพลังอำนาจลี้ลับน่ากลัว ร่างจ้าวจี้ก็ถึงกับสะท้านไปทันใด! เพราะมันสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายพลังร้ายกาจขุมหนึ่งเพ่งเล็งจดจ่อมาที่มัน!!
ต่อหน้ากลิ่นอายพลังนี้ มันไม่อาจแข็งขืนต้านทานอันใดได้เลย!
นอกจากนี้ภายใต้การเพ่งเล็งของกลิ่นอายพลังลี้ลับดังกล่าว จ้าวจี้ตระหนักได้ทันใดว่าปราณมารทั่วกายคล้ายกลับกลายเป็นแสงไฟอิดโรยของตะเกียงที่น้ำมันเจียนหมด! ถึงกับต้องโคจรเร่งเร้าขึ้นมาประคองสภาวะยกใหญ่!!
“ไม่…!!”
จ้าวจี้หวาดกลัวจับขั้วหัวใจแล้วจริงๆ!
จังหวะนี้มันมั่นใจได้เต็มสิบส่วน ว่าป้ายศิลาน่ามุมแหว่งในมือต้วนหลิงเทียนนั่น…คือตราผนึกมารในตำนานไม่ผิดแน่!
หากไม่ใช่ตราผนึกมารไหนเลยมีพลังอำนาจครอบงำมันขนาดนี้
และตัวตนที่แท้จริงของหลิงเทียนก็คือ ต้วนหลิงเทียนจริงๆ!
“ต้วนหลิงเทียนข้าผิดไปแล้ว! ทั้งหมดข้าผิดไปแล้ว!! ข้าไม่ควรหยิ่งยะโสถือดี! ไม่ควรใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงรังแกผู้อื่น เจ้าตีข้าก็สมควรแล้ว ตบหน้าข้าเช่นนั้นล้วนสมควรแล้ว! นอกจากนั้นเรื่องที่เจ้าเตะข้าออกจากแดนลับเซียน ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพราะข้ามันอ่อนด้อยเอง!!”
“วันนี้ขอเพียงเจ้าเมตตาละเว้นชีวิตข้า ข้าสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยตัวตนของเจ้า ข้าจะลืมเรื่องราวบาดหมางทั้งหมดระหว่างเราให้หมดสิ้น! ไม่คิดแค้นตอแยอันใดเจ้าอีก! ข้าจะสาบาน! ข้าจะกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าตอนนี้เลย!!”
“ปล่อยข้าไปเถอะ…ข้าขอร้องเจ้าแล้ว!!”
ต่อหน้าตราผนึกมารในมือต้วนหลิงเทียนที่สามารถทำลายมันได้ตลอดเวลา จ้าวจี้ได้แต่คุกเข่าลงทั้งวิงวอนร้องขอความเมตตา ไม่สนหน้าตาศักดิ์ศรีอะไรสืบไป!
เพราะหากมันไม่อ้อนวอนร้องขอ ต้วนหลิงเทียนเพียงเขวี้ยงตราผนึกมารนั่นมา มันตายอนาถแน่!!
เผชิญหน้ากับความตายที่กล้ำกรายเข้ามา จ้าวจี้ที่ให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด ไม่หลงเหลือความคิดอื่นไหนนอกจาก ต้องรอด! สิ่งอื่นใดนั้นไม่สำคัญกับมันอีกต่อไป!!
ตอนนี้ต่อให้จ้าวจี้ถูกต้วนหลิงเทียนสั่งให้ไปฆ่าบิดาและปู่มันเสีย มันก็ยินดีกระทำไม่อิดออด!!
ภายใต้พลังอำนาจของตราผนึกมาร เคล็ดวิชารวมวิญญาณที่มันฝึกฝนมาก็กลายเป็นไร้ประโยชน์!
เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับการจู่โจมของตราผนึกมาร วิญญาณของผู้ฝึกมารจะถูกดูดไปสะกดทำลายในตราผนึกมาร!!
อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับการร้องขอชีวิตของจ้าวจี้ ต้วนหลิงเทียนไม่ได้กล่าววาจาใดสักคำ ยังเขวี้ยงตราผนึกมารในมือออกมาอย่างไร้แยแส
บูมมม!!
ทันทีที่ตราผนึกมารหลุดออกจากมือ มันก็ระเบิดพลังน่ากลัวจนมวลอากาศแตกระเบิดออกไปเป็นวง ก่อนที่จะพุ่งทะยานออกไปปานกระสุนปืนใหญ่ คลื่นลมแรงม้วนตลบซัดกวาดออกไปทั่วทิศ!
ปงงงงง!!
เสียงสนั่นปานอัสนีผ่าลั่นดังก้องไปทั่วแผ่นฟ้า ตราผนึกมารแหวกอากาศฉับไว พริบตาก็บรรลุถึงเบื้องหน้าจ้าวจี้!!
‘ไม่!!’
ต่อหน้าตราผนึกมาร จ้าวจี้ทำได้แค่ร่ำร้องในใจอย่างสิ้นหวังเท่านั้น
ด้านต้วนหลิงเทียนหลังเขวี้ยงตราผนึกมารออกไปแล้ว ก็ชมมองเรื่องราวด้วยสายตาดูแคลน
ในสายตาของเขาคิดฆ่าจ้าวจี้ที่เป็นผู้ฝึกมารไปแล้ว เขาลำบากเพียงจ่ายปราณสุริยันแรกกำเนิดเพียงเล็กน้อยลงตราผนึกมารเท่านั้น
และจ้าวจี้นั่น มันต้องตายแน่นอน!
ซู่มมม!!
อย่างไรก็ตาม เมื่อตราผนึกมารอยู่ห่างจากจ้าวจี้ไม่กี่ก้าว พลันมีเสียงหนึ่งดังก้องมาจากฟากฟ้า
และพร้อมกันกับเสียงที่ดังขึ้นมานี้ กลิ่นอายพลังอันสุดไพศาลหนึ่งก็ตลบคลุ้งไปในบรรยากาศ เป็นกลิ่นอายพลังจากปราณมารเสียด้วย!
“ใคร!?”
ได้ยินเสียงดังสนั่นจากฟ้า ทั้งสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังอันน่ากลัว ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้าเรียกกระบี่นิลสวรรค์ออกมาถือเอาไว้ทันที หน้าเงยขึ้นฟ้า สองตาจับจ้องมองไปอย่างระวัง!
เสียงดังสนั่นเมื่อครู่เกิดจากการระเบิดของพลัง และมันมาจากทิศทางนั้น!
คลื่นพลังดังกล่าวไม่เพียงแต่ทรงพลัง หากแต่ปริมาณปราณมารที่แผ่ออกยังเหนือล้ำยิ่งกว่าจ้าวจี้เสียอีก บ่งบอกให้รู้ว่าผู้มาคือผู้ฝึกมารอันทรงพลัง!!
วู้ม!!
ห่างออกไปเล็กน้อย ตราผนึกมารที่ตอนนี้พุ่งไปจนอยู่ห่างจากร่างจ้าวจี้ไม่กี่สิบก้าว อยู่ๆ ก็หยุดลงคล้ายมันสังเกตเห็นบางสิ่ง ป้ายศิลาลอยคว้างท่ามกลางอากาศว่างเปล่าหน้าจ้าวจี้ อย่างแน่นิน่งไร้พลังสภาวะอันใด
อย่างไรก็ตามหลังจากหยุดลงไปครู่หนึ่ง มันก็ไม่ได้เปลี่นเป้าหมายอะไร ยังคงเพ่งเล็งไปที่จ้าวจี้ และเริ่มพุ่งเข้าใส่จ้าวจี้เหมือนเดิม
และในชั่วพริบตาที่ตราผนึกมารเริ่มพุ่งเข้าใสจ้าวจี้นั้นเอง พลันมีร่างบางหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของต้วนหลิงเทียนรวดเร็วดั่งฟ้าผ่า!
ร่างดังกล่าวยังพุ่งจี้ลงมากหาเขาด้วยความเร็วสูงล้ำ เปี่ยมล้นไปด้วยเจตนาคุกคามอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นนาง!!”
ร่างบางที่อยู่ๆก็โผล่มาปรากฏตัวในสายตาของต้วนหลิงเทียนนั้น เมื่อเข้ามาใกล้…รูปร่างหน้าตาของนางก็เผยให้ต้วนหลิงเทียนเห็นชัดเจน!
และต้วนหลิงเทียนก็คิดไม่ฝันเลยจริงๆว่าจะมาเจอนางที่นี่ได้!
ถึงแม้หน้าตาของนางจะแปรเปลี่ยนไปบ้างเพราะผ่านมาหลายปี แต่ต้วนหลิงเทียนก็จดจำนางได้อย่างแม่นยำ!
สตรีนางนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘คุณหนูรอง’ สันดารเสีย ที่ต้วนหลิงเทียนเคยเจอแถวๆพื้นที่เก้าพันธมิตร โอวหยางหลัว จากตระกูลโอวหยางแห่งเมืองหานเหอ!
และเป็นเพราะบุตรไม่รักดีของสกุลโอวหยาง…สุดท้ายตระกูลโอวหยางก็มีความบาดหมางกับเขา กระทั่งพวกมันยังกล้าอ้างชื่อตลาดมืดหยินชาน
สุดท้ายหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินข่าวเรื่องตระกูลโอวหยางได้ถูกทำลายจนราบคาบ
ตอนแรกเขาก็คิดว่าคุณหนูรองตระกูลโอวหยางคงถูกฆ่าล้างไปด้วยแล้ว ทว่าไม่เพียงแต่นางจะยังไม่ตาย แต่นางกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง!!
ที่สำคัญหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี พลังฝีมือของโอวหยางหลัวดูเหมือนจะก้าวข้ามเขาไปแล้ว!
ไม่ใช่…
ไม่เพียงแต่จะก้าวข้ามเขา นางกระทั่งยังร้ายกาจกว่าจ้าวจี้!!
ต้องทราบด้วยว่าย้อนกลับไปตอนนั้น โอวหยางหลัวยังเป็นตัวตนที่อ่อนแอในสายตาเขา!
‘โอวหยางหลัว…นางไปเจอกับอะไรมากันแน่! ไม่กี่ปีที่แล้วพลังฝึกปรือของนางยังไม่เท่าข้า แต่วันนี้ไม่เพียงจะเหนือกว่าข้า ยังทะลวงถึงเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญ!!’
ในห้วงเวลาชั่วพริบตาดุจละอองไฟวาบ ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดอะไรไปมากมาย
“ต้วนหลิงเทียน! เจ้าฆ่าพี่ชายของข้า ทั้งยังทำให้ตระกูลโอวหยางของข้าถูกทำลาย…วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าล้างแค้นให้ท่านพี่และสกุลโอวหยาง!!”
ตอนนี้เองแก้วหูต้วนหลิงเทียนถึงกับสะท้านสะเทือนไปทันใด เสียงแหลมด้วยอาฆาตดังขึ้น เป็นเสียงของโอวหยางหลัว!
ด้วยนางมาได้รวดเร็วเกินไป ต้วนหลิงเทียนจึงแทบไม่ทันได้ตอบสนองอะไรมาก ร่างโอวหยางหลัวก็เจียนบรรลุถึงตรงหน้าแล้ว สองตานางยังแดงฉานดั่งยักษ์มาร จิตฆ่าฟันอำมหิตแทบจะพุ่งทะลุลูกตา!
ทั่วร่างบางยังอัดแน่นไปด้วยพลังอันน่ากลัว ปราณมารคลุ้งกลิ่นกระหายเลือดหนาแน่น! สร้างแรงกดดันให้ต้วนหลิงเทียนใหญ่หลวงนัก!!
‘นางเป็นผู้ฝึกมารเช่นกัน!’
ต้วนหลิงเทียนชักหน้าเครียดเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
วู้มม!!
คล้ายตระหนักได้ถึงอันตรายของผู้เป็นนาย ตราผนึกมารที่อยู่ห่างจากร่างจ้าวจี้เพียงคืบพลันหยุดลงอีกครั้ง ก่อนที่จะละทิ้งจ้าวจี้ พุ่งย้อนกลับมาด้วยความเร็วปานฟ้าผ่า!!
“ตาย!!”
หากทว่าก่อนที่ตราผนึกมารจะทันได้มาถึง โอวหยางหลัวกลับบรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนแล้ว ในมือปรากฏกระบี่สั้นเล่มหนึ่ง ใบกระบี่อัดแน่นไปด้วยปราณมารอำมหิต รังสีพลังแผ่พุ่งออกมาปานจะแยกฟ้า ตวัดมาด้วยพลังชั่วชีวิตหมายสับสะพายแล่งร่างต้วนหลิงเทียน!
ในแววตาของโอวหยางหลัวท่วมท้นไปด้วยความเกลียดชังคับแค้นนัก ราวกับในสายตาของนางโลกหล้าไม่มีสิ่งใดอีกแล้วนอกจากต้วนหลิงเทียน! กระทั่งไม่แยแสตราผนึกมารที่เปลี่ยนทิศทางเป็นพุ่งเข้ามา!!
เห็นได้ชัดว่านางต้องการฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตาย ต่อให้นางต้องตายก็ตามที!!
ในสายตาของนาง หากไม่ใช่เพราะต้วนหลิงเทียน ตระกูลโอวหยางของนางคงไม่พินาศ พี่ชายของนางคงไม่ต้องถูกส่งไปยังสถานที่น่ากลัวนั่น และสุดท้ายยังเป็นสถานที่ตายของพี่ชายนาง!!
ตัวนางที่ติดตามไป…ก็ทันได้เห็นวาระสุดท้ายของพี่ชายกับตา! วันนั้นนางรู้สึกเสมือนทุกอย่างในชีวิตสูญสิ้นไม่มีเหลือ! นางเลือกจะลงลึกไปยังหุบยมโลก และไม่ว่าบททดสอบทั้งความทุกข์ทรมานใดๆ ล้วนถูกแรงแค้นของสตรีบอบบางนางหนึ่งทำลายสิ้น! ความทุกข์ทรมานที่กระทั่งบุรุษนับพันหมื่นในตระกูลไม่อาจทานต้าน นางกลับทนรับมันได้! สุดท้ายนางก็บรรลุถึงใจกลางที่ลึกที่สุดของหุบยมโลกและได้รับสืบทอดมรดกของผู้ฝึกมารอันน่าพรั่นพรึง!!
และมรดกของผู้ฝึกมารที่ซุกซ่อนอยู่ณ ส่วนลึกของใจกลางหุบยมโลกนั้น…ก็เป็นมรดกที่ตกทอดมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์! ทำให้นางสามารถก้าวหน้าด้วยความเร็วอัศจรรย์ ในเวลาเพียงไม่กี่ปี!!
จนวันนี้ นางก็ทะลวงถึงเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญแล้ว!
หากเทียบกับจ้าวจี้ พลังฝึกปรือนางยังเหนือกว่าถึง 2 ขีดขั้น!
ขณะที่โอวหยางหลัวจู่โจมสังหารเข้ามา ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกกดดันอย่างหนัก!
แรงกดดันนั่นยังบีบคั้นจนเขาหายใจแทบไม่ออก
และสุดท้ายก็เป็นนางที่ลงมือก่อน… แม้ตราผนึกมารจะรวดเร็ว แต่ระยะทางก็ห่างเกินไป!
เช่นนั้นเกรงว่าตราผนึกมารคงไม่อาจไปช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนได้ทันเวลา!
อย่างน้อยๆ ก็ไปไม่ทันกระบี่สั้นของนาง!
‘กระบี่นิลสวรรค์ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!!’
ก่อนที่โอวหยางหลัวลงมือจู่โจมมาด้วยพลังอำนาจน่าพรั่นพรึงขอบเขตเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญ ต้วนหลิงเทียนก็ตื่นตัวรอรับมือเอาไว้ตั้งแต่ได้ยินเสียงจากฟ้า
ทำให้ปราณสุริยันแรกกำเนิดต่างไหลผ่านชีพจรเซียนทั้ง 99 สายมายังช่องพลังพร้อมใช้งานแต่แรก!
และเมื่อเห็นว่าโอวหยางหลัวลงมือเข้ามา ต้วนหลิงเทียนก็ปะทุปราณทั้งหมด ถ่ายทอดลงกระบี่นิลสวรรค์เตรียมต้านทานรับมือทันที!
และด้วยเพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความเป็นตาย ผิดพลาดเพียงนิดคงยากรอดชีวิตไปได้
ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงใช้ออกด้วยปราณสุริยันแรกกำเนิดทั้งหมด ผนึกแน่นลงกระบี่นิลสวรรค์เผยพลังอานุภาพกระบี่สวรรค์เต็มกำลัง!!
ทันทีที่ปราณสุริยันแรกกำเนิดทั่วร่างต้วนหลิงเทียนถ่ายทอดลงสู่กระบี่นิลสวรรค์ ตัวกระบี่พลันเรืองแสงสว่างจ้าออกมาทันใด หลังจากนั้นกลิ่นอายพลังคมกล้าน่าพรั่นพรึงก็ทะลักออก!
แสงพลังสีทองหนึ่งเริ่มเรื่องรองรอบๆตัวกระบี่!
วู้มมมม! ฟั่บ!!
ดูดกลืนปราณสุริยันแรกกำเนิดที่ต้วนหลิงเทียนจ่ายไปหมดสิ้น กระบี่นิลสวรรค์ส่งเสียงกู่ร้องขับขาน! ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้าม่านตาพิสดารเปิดใช้เต็มกำลัง อ่านวิถีกระบี่สั้นในมือโอวหยางหลัว ก่อนจะตวัดกระบี่นิลสวรรค์ออกไปไวดั่งฟ้าผ่า!!