WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1866
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1866
ตอนที่ 1,866 : เข้าสระชำระมังกร!
ในขณะเดียวกันกู่ลี่ก็ได้รับทราบความเป็นมาของ สัญญา 5 ปี…
ที่แท้ทุกเรื่องราวล้วนมีเหตุผล
ทั้งหมดเริ่มจากต้วนหรูเฟิง บิดาของต้วนหลิงเทียนที่บุกมาอาละวาดในเผ่าพันธุ์มังกรเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพื่อหาความจากตี้จิ่ว…
แต่หัวเด็ดตีนขาดเผ่าพันธุ์มังกรก็ไม่มอบหัวตี้จิ่วให้! สุดท้ายต้วนหรูเฟิงก็หาทางจบปัญหาด้วยการ ทำสัญญานัดหมายประลอง 5 ปี เพื่อชิงสิทธิ์เข้าสระชำระมังกรแทน!!
“คราวนี้เผ่าพันธุ์มังกรกล่าวได้ว่า ‘เสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก’ แล้วจริงๆ…หากเมื่อ 5 ปีที่แล้วมันมอบชีวิตตี้จิ่วให้อาต้วนจัดการ พวกมันคงเสียแค่เพียงตี้จิ่วเท่านั้น! มาวันนี้พวกมันไม่เพียงแต่จะเสียตี้จิ่วแค่คนเดียว…ยังต้องเสียโอกาสเข้าสระชำระมังกรในรอบ 5,000 ปีไปด้วย!!”
(เสียฮูหยินเสียซ้ำขุนศึก หรือ เสียภรรยาไม่พอ ยังเสียไพร่พลทหาร = ชิบหายรัวๆ! เสียซ้ำเสียซ้อน )
จังหวะนี้อดไม่ได้ที่กู่ลี่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง รู้สึกว่าโชคชะตาคนเรานั้นไม่อาจเอาแน่เอานอนได้เลยจริงๆ
มันเชื่อว่าหาก ตี้ชาน ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรสามารถทำนายอนาคตได้ มันคงไม่คิดปกป้องชีวิตตี้จิ่วเมื่อ 5 ปีที่แล้วแน่…
‘สระชำระมังกรที่ว่า สมควรเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มังกร สามารถสร้างความก้าวหน้าให้คนเผ่ามังกรที่เข้าไปราวเดินทางพันลี้ในหนึ่งวัน…เช่นนั้นหลังจากน้องหลิงเทียนเข้าใช้สระชำระมังกรแล้ว ต้องบังเกิดความก้าวหน้าครั้งใหญ่แน่…’
กู่ลี่ลอบคิดในใจ ยังอิจฉาต้วนหลิงเทียนไม่น้อย
แน่นอนว่าใจมันเพียงรู้สึกอิจฉา แต่หาได้มีความริษยาอันใดไม่!
ต้วนหลิงเทียนได้ดีมันย่อมไร้ริษยาอันใด มีก็แต่เพียงความรู้สึกยินดีในใจ!
เมื่อตี้จิ่วตกตายลงไปแล้วเช่นนี้ หมายความว่า ‘สัญญา 5 ปี’ ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ
ในขณะเดียวกันกับที่ขุมพลังกึ่งชั้น 3 อื่นๆทยอยกันกลับไปนั้นเอง นอกเหนือจากตำหนักเมฆาครามแล้ว ก็หลงเหลือแค่เพียงตลาดมืดหยินชานที่ยังไม่จากไปไหน
เพียงเวลาแค่ไม่นานหลังจากที่พวกต้วนหลิงเทียนกลับมาถึงหุบเขาเล็กๆอันเป็นที่พักที่เผ่ามังกรจัดให้ กลุ่ม 3 คนของตลาดมืดหยินชานที่นำมาโดยตู้กูก็กลับมาถึงเช่นกัน พอมาถึงเฝิงปู่อี้กับจงฉีชานก็แยกย้ายกันเข้าบ้านพักที่พวกมันอาศัยอยู่ก่อนหน้าทันนที
เมื่อเห็นว่าคนตลาดมืดหยินชานทั้ง 3 ไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวอะไร พวกต้วนหลิงเทียนก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง
พริบตาหนึ่งวันก็ผ่านพ้น
เช้าวันต่อมาปรากฏร่างในชุดเขียวขึ้นในอากาศเหนือน่านฟ้าหุบเขาเล็กๆแห่งนี้ เมื่อมาถึง ร่างเขียวก็ทักทายด้วยเสียงดังลั่น “จ้าวตำหนักต้วน…ท่านผู้นำเชิญพวกท่านไปพบ!”
เจ้าของร่างในชุดเขียวนี้ไม่ใช่ใครอื่น 1 ในบรรดาผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าพันธุ์มังกร…
มังกรเทพยาดาสีเขียว 5 กรงเล็บ ชิงเหยียน!
ด้วยความที่ตี้จิ่วถูกฆ่าตายไปวันก่อน วันนี้สีหน้าอารมณ์ของมันจึงมิค่อยจะสู้ดีสักเท่าไร…
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอมันได้เห็นหน้าต้วนหลิงเทียน สีหน้าท่าทางของมันเผยความไม่เป็นมิตรออกมาชัดเจน! แววตายังเผยจิตสังหารเย็นเยียบ ราวกับคิดลงมือสังหารต้วนหลิงเทียนให้ตายลงตรงนี้ล้างแค้นให้ตี้จิ่ว!!
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วมันก็ทำได้แค่อดทนกล้ำกลืน…
“อาวุโสชิงเหยียน สระชำระมังกร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มังกรนั้น หากพวกข้าคิดไปชมดูด้วย ไม่ควรมีปัญหาอันใดใช่หรือไม่?”
เมื่อต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆออกมาจากบ้าน ด้านคนของตลาดมืดหยินชานก็ออกมาด้วยเช่นกัน เฝิงปู่อี้ รองผู้นำตลาดมืดหยินชานยังกล่าวถามออกมาทันที
“ไม่มีปัญหาอันใด”
ชิงเหยียนคล้ายจ่ะล่วงรู้แต่แรกแล้วว่าคนของตลาดมืดหยินชานยังไม่ได้จากไปไหน จึงไม่ได้แปลกใจอะไรเมื่อเห็นเฝิงปู่อี้ถามเรื่องนี้ออกมา เพียงพยักหน้าตอบไป
เหตุผลที่มันเห็นด้วยอย่างรวดเร็วนั้น เพราะผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกำชับเรื่องนี้เอาไว้แต่แรกแล้ว
…
หลังจากนั้นภายใต้การนำของชิงเหยียน ต้วนหลิงเทียนก็ได้พบตี้ชานอีกครั้ง และตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาถึงส่วนลึกของรังมังกร เบื้องหน้าเป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง
ทางเข้าสู่หุบเขานั้นแคบนัก หากทว่าเมื่อผ่านพ้นไปแล้วด้านในเสมือนเป็นโลกอีกใบ…
มองไป ณ ส่วนลึกขอบหุบเขา ปรากฏประตูมหึมาลอยล่องอยู่กลางอากาศ ประตูดังกล่าวปิดผนึกแน่นหนา ไม่ทราบว่าเป็นประตูที่นำไปสู่แห่งหนใดกันแน่…
ประตูนี้นับว่าเป็นประตูที่วิจิตรงดงามนัก มันมีบานประตู 2 บาน แต่ละบานมีสลักประตูแตกต่างกัน ด้านซ้ายเป็นรูปทรงกลม ส่วนบานขวาเป็นรูปเสี้ยวจันทร์ แลดูแปลกประหลาดลูกตานัก
ประตูนี้ไม่ทราบทำจากวัตถุลี้ลับอันใดกันแน่ หากแต่แผ่ความรู้สึกกดดันบีบคั้นออกมาประการหนึ่ง ยังคล้ายมีกลิ่นอายโบราณแผ่ซ่านออกมา…พาลให้บรรยากาศโดยรอบกลับกลายเป็นลี้ลับ ราวกับประตูบานนี้มันดำรงอยู่ข้ามกาลเวลามาแสนนาน
“นี่คือประตูที่จักนำไปสู่สระชำระมังกร…”
ด้วยมีผู้อาวุโสทั้งตี้ชานนำมา ทั้งหมดก็เดินมาถึงประตูเข้าสระชำระมังกรในที่สุด และเป็นตี้ชานที่กล่าวออกทำลายความเงียบ แนะนำประตูที่ลอยล่องอยู่ในอากาศเสียงเรียบ
ต้วนหลิงเทียนที่ได้ยินก็หันไปมองสำรวจประตูดังกล่าวทันที
มองไปสักพักก็พบว่าประตูประหลาดนั่นกลับลอยล่องอยู่กลางหาวจริงๆ ซ้ายขวาหน้าหลังไร้สายโซ่อะไรโยงใย อีกทั้งเมื่อพินิจจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ เขาก็สัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่ภาพลวงตาแต่อย่างใด!
ดูเหมือนประตูบานนี้จะถูกฝังไว้ในความว่างเปล่าอย่างแนบแน่นไม่ร่วงหล่น ให้ความรู้สึกลี้ลับสุดหยั่งยากหาใดเทียบ
“สระชำระมังกรอยู่หลังประตูบานนี้งั้นเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนย่อมรู้สึกสนใจกว่าใคร ในใจยังเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเข้าไป เพราะเขาคือคนที่จะเข้าไปในนั้น!
ความไม่รู้ทำให้เขาบังเกิดความอยากรู้อยากเห็น แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้หวาดกลัวด้วยเช่นกัน
สรุปแล้วอารมณ์ของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ เรียกว่าซับซ้อนนัก…
“จ้าวตำหนักน้อย…”
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่สายตาของตี้ชานมาหยุดลงบนร่างต้วนหลิงเทียน มันกล่าวออกมาอย่างใจเย็น “เท่าที่ข้าจำได้ ไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นใดนอกเหนือจากเผ่าพันธุ์มังกรของเราเข้าใช้สระชำระมังกรมาก่อน…เช่นนั้นข้าขอบอกท่านได้คำเดียว…ว่าข้ามิรู้ว่าจะเกิดอันใดขึ้นกับท่านหากเข้าไป”
“เช่นนั้นหากท่านตัดสินใจที่จะเข้าไปด้านในจริงๆ ท่านจักต้องแบกรับผลทั้งหมดที่จะตามมาด้วยตัวท่านเอง…ต่อให้ท่านจะตายอยู่ด้านในนั้น ก็ไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเรา…”
วาจาท้ายประโยคท้ายของตี้ชาน ยามกล่าวน้ำเสียงยังเน้นหนักขึ้นเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามคำพูดนี้ไม่ใช่เพราะมันคิดข่มขู่ต้วนหลิงเทียนแต่อย่างใด มันแค่เลือกจะกล่าวบอกความจริงออกมา
“ผู้นำตี้ชาน…ท่านคิดขู่ให้ข้ากลัวจนไม่กล้าเข้าไปงั้นหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนอึ้งไปไม่น้อยกับคำกล่าวของตี้ชาน พอดึงสติกลับมาได้ค่อยหยีตากล่าวถามออกเสียงเรียบ
“ข้ามิได้คิดข่มขู่ท่าน ข้าเพียงกล่าวบอกตามความสัตย์จริง! จักเกิดอันใดขึ้นกับมนุษย์หากเข้าไปใช้สระชำระมังกร…ข้ามิรู้จริงๆ”
ตี้ชานส่ายหน้าไปมา ค่อยกล่าวตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“แน่นอนว่าหากท่านยืนยันที่จะเข้าไปข้าก็มิคิดขัดขวาง…สุดท้ายแล้ว ‘สัญญา 5 ปี’ ก็เป็นท่านที่มีชัย!”
กล่าวถึง ‘สัญญา 5 ปี’ ขึ้นมาอีกครั้งแบบนี้ ตี้ชานอดไม่ได้ที่จะเผยอาการปวดตับออกมา
มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าตี้จิ่วที่มันยืนกรานรักษาชีวิตไว้เมื่อ 5 ปีก่อน สุดท้ายกลับต้องมาตกตายไปแบบนี้…
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่ตี้จิ่วจะตกตายไปอย่างเดียว กระทั่งเผาพันธุ์มังกรยังเสียโอกาสในการเข้าใช้สระชำระมังกรที่จะเปิดออกทุกๆ 5,000 ปีไปอีกด้วย…
เหตุผลของความสูญเสียครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมัน อีกส่วนหนึ่งกลับเป็นเพราะบุรุษหนุ่มเบื้องหน้า…
บุรุษหนุ่มผู้นี้คือผู้ที่สังหารตี้จิ่ว และเป็นผู้ชนะ ‘สัญญา 5 ปี’
“ในเมื่อมาถึงที่แล้ว ก็ต้องลองเข้าไปดูสักตั้ง!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาตรงๆ หลังได้ยินคำเตือนตี้ชาน
ตี้ชานพยักหน้ารับคำและไม่คิดกล่าวอะไรกับต้วนหลิงเทียนอีก เพียงหันไปมองต้วนหรูเฟิง พูดว่า “จ้าวตำหนักต้วน ท่านนำกุญแจจันทราที่ท่านพกเอาไว้ออกมาเถอะ พวกเราจะเปิดสระชำระมังกรด้วยกัน…นอกจากนี้ข้าขอบอกต่อท่านอีกครั้ง ว่าหากเกิดอันใดขึ้นกับจ้าวตำหนักน้อยด้านใน…ล้วนมิเกี่ยวอันใดกับเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเรา!”
“อะไร? ผู้นำตี้ชานคิดว่าข้าเป็นคนไร้เหตุผลงั้นเหรอ?”
ต้วนหรูเฟิงย้อนถาม
ขณะเดียวกัน เหนือฝ่ามือพลันปรากฏบางสิ่ง มันคือกุญแจจันทราที่ต้วนหรูเฟิงยึดจากตี้ชานเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ส่วนตี้ชานเก็บ กุญแจตะวัน ไว้กับตัว
มีเพียงใช้กุญแจตะวันและกุญแจจันทราพร้อมกันทั้ง 2 ดอกเท่านั้น ถึงจะเปิด ‘ประตู’ ที่จะนำไปสู่สระชำระมังกรได้
‘ร่องลึกทรงกลมกับรู้เสี้ยวจันทร์บริเวณสลักประตูแต่ละบาน เป็นช่องเอาไว้ใส่กุญแจทั้ง 2 นั่นสินะ…’
เมื่อเห็นร่องลึก บนสลักประตูทั้ง 2 บานที่ลอยล่องอยู่กลางอากาศ ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
และปรากฏว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้เดาผิดอะไร
ต้วนหรูเฟิงกับตี้ชานต่างหันหน้าเข้าหาประตู ก่อนที่จะปล่อยกุญแจทั้ง 2 ดอกออกจากมือพร้อมกัน ใช้พลังหยิบยกไร้สภาพควบคุมกุญแจทั้ง 2 ควบคุมกุญแจให้ลอยไปลงร่องดังกล่าว
ทันใดนั้นไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียน กู่ลี่ และกู่มี่เท่านั้น แต่คนทั้ง 3 ของตลาดมืดหยินชานไม่เว้นตูกูก็จับจ้องมองไปยังประตูกลางอากาศตาเขม็ง
และภายใต้สายตาที่จับจ้องมองไปของทุกคน กุญแจตะวันและจันทรา กลับเปล่งพลังลี้ลับไร้สภาพออกมาขุมหนึ่ง ปกคลุมไปทั่วประตู!
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งบานประตูยิ่งมายิ่งส่องแสงสว่างเจิดจ้า มองไปคล้ายตะวันดวงหนึ่งกำลังสาดแสงแรงกล้า พาลให้ทุกคนจำต้องหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว
ครืนนน!!
ทันใดนั้นบังเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้น…
ด้วยเสียงที่ดังขึ้นนี้ แสงสว่างปานดวงตะวันที่สาดส่องออกมาเจิดจ้าจนทุกคนจำต้องหยีตาก็ค่อยๆจางลง ฉากเรื่องราวพลันปรากฏสู่สายตาผู้คนอีกครั้ง บานประตูทั้ง 2 ค่อยๆเปิดออกช้าๆ!
ปึงงงง!!
ไม่นานประตูทั้ง 2 บานก็เปิดอ้าออกสุด!
ทันทีที่ประตูเปิดออกจนสุดทุกผู้คนรวมถึงต้วนหลิงเทียนก็พยายามจ้องมองเข้าไปในประตู ด้วยอยากรู้ว่าจะมีสิ่งใดอยู่ด้านหลังประตูลึกลับบานนี้กันแน่
น่าเสียดาย หลังจากนั้นไม่ทันไรต้วนหลิงเทียนกับทุกคนก็จำต้องเผยความผิดหวังออกมาบนใบหน้า
นั่นเพราะหลังจากที่ประตูเปิดอ้าออกสุด กลับไร้ซึ่งสิ่งใด มีเพียงม่านพลังโปร่งแสงหนึ่งที่เกิดจากพลังลี้ลับบางประการฉาบกั้นเอาไว้เท่านั้น…
ในสายตาของทุกคนม่านพลังโปร่งแสงที่ว่าคล้ายฝ้ากระดาษบางๆพอให้แสงลอดผ่าน เมื่อเพ่งมองไปให้ดีก็เห็นแค่ทิวทัศน์หุบเขาแห่งนี้เท่านั้น
“จากทฤษฎีแล้วสมควรมิมีกำหนดเวลาเข้าใช้สระชำระมังกร…หากถึงเวลาปิดตัว ค่ายกลในสระชำระมังกรจักส่งตัวท่านออกมาเอง”
ตี้ชานมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียน
ในฐานะผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกรแม้มันจะเศร้าเสียใจกับการตายของตี้จิ่วเพียงใด แต่มันก็ทำได้แค่เลิกราปล่อยมือแต่เพียงเท่านี้…
และเมื่อมันเป็นฝ่ายแพ้พ่ายใน ‘สัญญา 5 ปี’ เป็นธรรมดาที่มันจะต้องมอบโอกาสเข้า ‘สระชำระมังกร’ ให้แก่นายน้อยตำหนักเมฆาคราม…
“อืม”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ ในแววตาเผยประกายชื่นชมตี้ชานเล็กน้อย ที่ยังสามารถกล่าวกับเขาอย่างใจเย็นได้แบบนี้
อย่างน้อยๆหลังจากที่เขาลองถามตัวเองดูแล้ว ว่าหากเขาเป็นตี้ชาน ตอนเขาต้องเผชิญหน้ากับคนที่บีบคอ ‘เผ่าพันธุ์มังกร’ ด้วยการสังหารตี้จิ่วมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บตกตายและชิงสิทธิ์เข้าสระชำระมังกรไปแบบนี้ เขาจะยังใจเย็นอยู่ได้แบบนี้หรือไม่…ตอบได้เลยว่าไม่!
“ท่านพ่อ ข้าเข้าไปก่อนนะ”
ต้วนหลิงเทียนหันไปบอกต้วนหรูเฟิง
“ระวังตัวด้วย”
ต้วนหรูเฟิงพยักหน้ารับ พอนึกถึงคำเตือนของตี้ชานก็อดกล่าวออกไปไม่ได้
“ผ่อนคลาย”
ต้วนหรูเฟิงกล่าวเตือนมา ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่พยักหน้ารับคำทั้งกล่าวตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ หลังจากนั้นก็หันไปพยักหน้าให้กู่ลี่กับกู่มี่ ก่อนที่ร่างคนจะแปรเปลี่ยนไปคล้ายอัสนีบาตสายหนึ่ง พุ่งไปยังประตูสู่สระชำระมังกร
และภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน ร่างต้วนหลิงเทียนก็ชนเข้ากับม่านพลังโปร่งแสงที่เกิดขึ้นจากพลังลี้ลับประการหนึ่ง
หลังจากนั้นคนทั้งคนก็คล้ายจะถูกม่านพลังดังกล่าวดูดกลืนเข้าไป หายลับไปต่อหน้าต่อตา
ต้วนหลิงเทียนเข้าสู่ สระชำระมังกรเรียบร้อยแล้ว…
“จ้าวตำหนักต้วน…”
และในขณะนั้นเองผู้นำตลาดมืดหยินชาน ตู้กู ที่ติดตามเข้ามายังหุบเขาทั้งชมดูเรื่องราวอย่างเงียบงันมาตั้งแต่ต้น ก็หันไปมองต้วนหรูเฟิงถามว่า “ท่านปล่อยให้บุตรชายเข้าสู่สระชำระมังกรเช่นนี้…ที่แท้ท่านล่วงรู้ความลับอันใดในสระชำระมังกรมากันแน่?”