WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1888
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1888
ตอนที่ 1,888 : แผนของผู้เฒ่าหั่ว!
เรื่องที่สมุนไพรวิญญาณและโอสถวิญญาณในสวนสมุนไพรนั้นไม่ธรรมดา เป็นอะไรที่ต้วนหลิงเทียนค้นพบมานานแล้ว
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้าทำตามเสียงของหัวใจไปขโมยสมุนไพรวิญญาณรวมถึงโอสถวิญญาณพวกนั้น!
นั่นเพราะเจ้าของสวนสมุนไพรสมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์!
ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะมัวมาสนใจคอยจับตามองสวนสมุนไพรตลอดเวลา แต่ด้วยพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสัมผัสได้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายจ้องมองอยู่หรือไม่ได้จับตากันแน่…
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้คิดขโมยสมุนไพรวิญญาณทั้งโอสถวิญญาณในสวนสมุนไพรย่อมไม่ต่างอะไรจากเล่นกับไฟ!
ไม่ถูกจับได้ก็โชคดีไป…
แต่ถ้าถูกจับได้ขึ้นมา ให้เขามี 10 ชีวิตก็ไม่พอตาย!
กระทั่งยังจะลากกู่ลี่กับจูลู่ฉีให้พลอยซวยไปด้วย!
“ประโยชน์ที่อาจจะได้รับจากชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเจ้าเองก็รู้ดีอยู่แล้ว…เจ้าไม่สนใจหรือ?”
เสียงของผู้เฒ่าหั่วดังขึ้นมาอีกครั้ง
หากบอกว่าก่อนหน้าผู้เฒ่าหั่วเพียงกล่าวยั่วๆต้วนหลิงเทียนเล่นๆล่ะก็ คราวนี้เรียกว่ายั่วต้วนหลิงเทียนจริงจังแล้ว!
ได้ยินวาจายั่วยุของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มขื่นขม ส่งเสียงกล่าวตอบว่า “ผู้เฒ่าหั่ว ผลประโยชน์ที่ชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลงจะมอบให้แน่นอนว่าทำให้ข้าสนใจอย่างมาก…ข้ายังอยากซ่อมชั้น 4 มากเสียจนเก็บเอาไปฝันด้วยซ้ำ! แต่สมุนไพรวิญญาณกับโอสถวิญญาณพวกนี้ข้าแตะต้องไม่ได้จริงๆ”
วาจาท้ายประโยคของต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความอับจนหนทาง
“เพราะอันใด?”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวถาม
ต้วนหลิงเทียนได้แต่กล่าวความขับข้องใจออกไปให้ผู้เฒ่าหั่วฟังแต่แรก “ถึงแม้ข้าจะยังไม่เคยเจอเจ้าของสวนสมุนไพรนี้ แต่จากกลวิธีลงมือของมันก่อนหน้า 9 ใน 10 ส่วนมันสมควรเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์! ด้วยพลังฝีมือของมันถึงสอดแนมจับตาดูพวกเราอยู่ พวกเราก็ไม่อาจรู้ได้…”
“ถึงแม้มันจะไม่ได้จับตาดูพวกเราอยู่ตลอดเวลา แต่ใครจะไปรู้ว่าข้าจะลงมือตอนที่มันไม่ได้จับตาดูอยู่หรือไม่…หากข้าพลาดไม่เพียงแต่ข้าจะตาย พี่กู่กับจูลู่ฉียังต้องมาตายเพราะข้าอีกด้วย”
“นอกจากนี้ต่อให้ข้าสามารถขโมยสมุนไพรทั้งโอสถวิญญาณพวกนี้ไปได้จริง และมันไม่อาจรู้ตัวได้ช่วงหนึ่ง…ทว่าหลังจากมันรู้ตัวเล่า? แถมพอมันไม่เห็นของแล้วมันจะไม่สงสัยข้ากับพวกพี่กู่หรือ?”
กล่าวถึงวาจาประโยคท้ายต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา
“ปัญหาที่เจ้าว่ามา คิดแก้ไขก็หาได้ยากเย็นไม่”
เมื่อเสียงกล่าวของต้วนหลิงเทียนดังจบคำ เสียงของผู้เฒ่าหั่วก็ดังขึ้นต่ออีกครั้ง “เจ้าสามารถกระทำเช่นนี้ได้…”
หลังจากนั้นผู้เฒ่าหั่วก็บอกเล่า ‘แผนการ’ ที่คิดไว้ให้ต้วนหลิงเทียนฟัง
หลังจากได้ฟังแผนของผู้เฒ่าหั่ว ลูกตาต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหดหยีลง ยังกล่าวถามออกมาเสียงเครียด “ผู้เฒ่าหั่ว…นี่จักไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยหรือ หากมันไม่หลงกลไม่เพียงแต่ข้ากับพี่กู่และจูลู่ฉีจะไม่อาจหนีพ้น…แต่มันอาจบันดาลโทสะ ลงมือฆ่าพวกเราระบายอารมณ์…”
“ผ่อนคลาย…แผนนี้มันต้องหลงกลแน่ เชื่อข้า”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวออกด้วยความมั่นใจ
เมื่อรออยู่นานแต่ต้วนหลิงเทียนยังไม่ตอบสนองอะไร ผู้เฒ่าหั่วก็รู้ดีว่าต้วนหลิงเทียนยังลังเลสองจิตสองใจ “เจ้าลองคิดดูเถอะ…โอกาสนี้หาได้ยากเย็นนัก วันหน้าคิดค้นหาวัตถุดิบซ่อมแซมชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้รวดเร็วเช่นนี้เกรงว่าคงมิมีแล้ว…”
“และหากแผนนี้ประสบความสำเร็จเจ้าไม่เพียงแต่จะได้รับสมุนไพรวิญญาณทั้งโอสถวิญญาณทั้งหมดในสวนสมุนไพรนี่ เจ้ากับสหายก็จักสามารถหลบหนีไปจากที่นี่ได้! หรือเจ้าคิดจะอยู่ที่นี่กับสหายจนครบ 10 ปี? เจ้ากับสหายอาจรอได้ แต่ภรรยากับลูกเจ้าที่ถูกจองจำอยู่ในหอคุมกฏลัทธิบูชาไฟเล่า…สามารถรอได้หรือไม่?”
วาจาท้ายประโยคของผู้เฒ่าหั่วเต็มไปด้วยความล่อลวง นับว่าสร้างผลกระทบต่อจิตใจต้วนหลิงเทียนนัก
ต้วนหลิงเทียนเคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผู้เฒ่าหั่วฟังแล้ว ผู้เฒ่าหั่วจึงรู้สถานการณ์ดี
“ผู้เฒ่าหั่ว ข้าเชื่อใจท่าน!”
ในขณะที่ใจกำลังร้อนรุ่มอยู่นั้น ต้วนหลิงเทียนก็ครุ่นคิดไตร่ตรองเร็วรี่ สุดท้ายจึงได้กัดฟันกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่ คิดดำเนินตามแผนการของผู้เฒ่าหั่ว ขโมยสมุนไพรและโอสถวิญญาณในสวนสมุนไพรนี่ให้เหี้ยน!
ยังจะใช้เรื่องนี้ในการหลบหนีออกจากเงื้อมมือของตัวตนที่น่าจะอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ด้วย!
โชคเป็นของผู้กล้า!!
เมื่อรวมกับความช่วยเหลือของผู้เฒ่าหั่วแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกว่าโอกาสประสบผลสำเร็จมันสูงมากทีเดียว
ส่วนเรื่องที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าวว่าไม่มีทางผิดพลาดนั้น บอกตรงๆเขาไม่แน่ใจสักเท่าไร
เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครล่วงรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น บางทีอาจจะเกิดปัญหาเอาวินาทีสุดท้ายก็ได้
“แต่ว่า…ผู้เฒ่าหั่ว ข้าเชื่อท่าน…ไม่ได้หมายความว่าพี่กู่กับจูลู่ฉีจะเห็นดีด้วยกับแผนนี้! และเพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวพันถึงชีวิตของพวกเรา เช่นนั้นทุกคนคงไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอีกครั้ง
“ตราบใดที่เจ้ามีความมั่นใจ ข้าเชื่อว่าพวกนั้นก็ไม่คิดปฏิเสธ”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวออก เห็นชัดว่ามันเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนทำได้
“ข้าไม่อาจรับปากท่านได้…แต่ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
ผู้เฒ่าหั่วมั่นใจในตัวต้วนหลิงเทียน แต่ไม่ใช่ว่าต้วนหลิงเทียนจะมีความมั่นใจในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่นนั้นจึงไม่กล้ายืนยันกับผู้เฒ่าหั่ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนต้องประหลาดใจก็คือ ทันทีที่เขาบอกแผนของผู้เฒ่าหั่วให้ทั้งคู่ฟัง ทั้งคู่กลับตอบรับทันที!
“ตราบใดที่เจ้ามั่นใจว่าสามารถจับสัมผัสได้ว่ามันเฝ้ามองพวกเราอยู่หรือไม่…ข้าเชื่อว่าแผนนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงนัก”
จูลู่ฉีกล่าว
“ข้าเองก็คิดว่าเป็นไปได้สูงยิ่ง”
กู่ลี่ยังกล่าวเห็นด้วยอีกคน
“ไม่มีแผนใดไร้ข้อผิดพลาด…ถึงแม้พวกท่านจะเห็นว่าแผนนี้มีโอกาสสูง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ข้อผิดพลาด พวกท่านต้องคิดให้ดี”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวย้ำ
“ข้าคิดดีแล้ว…แทนที่จะถูกขังอยู่ที่นี่นับ 10 ปี ข้าสู้เสี่ยงกระทำตามแผนเจ้าดีกว่า! และตราบใดที่เจ้าจับสัมผัสได้จริงๆว่ามันกำลังมองพวกเราอยู่หรือไม่ โอกาสที่แผนนี้จักสำเร็จช่างสูงนัก!”
จูลู่ฉีกล่าวออกอีกครั้ง
“ถูกแล้ว! หากให้ข้ากู่ลี่ติดแหง็กอยู่ที่นี่ 10 ปี ข้ายินดีเสี่ยง!!”
กู่ลี่ก็ยินดีเสี่ยงเหมือนจูลู่ฉี
“เช่นนั้นในเมื่อทุกคนเห็นด้วยแล้ว…พวกเราเริ่มดำเนินแผนการนั่นพรุ่งนี้เลยเป็นไง?”
เมื่อเห็นว่ากู่ลี่และจูลู่ฉียังคงเห็นด้วยแม้เขาจะกล่าวย้ำเตือน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดกล่าวไรให้มากความอีก บอกวันเวลาทันที
“ได้”
“เยี่ยม”
กู่ลี่กับจูลู่ฉีพยักหน้ารับกล่าวตอบออกมาพร้อมเพรียง
นอกจากนั้นลึกลงไปในแววตาของพวกมันยังเผยความตื่นเต้นประการหนึ่ง คล้ายตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ
ในคืนนั้น ต้วนหลิงเทียนก็หารือเรื่องแผนการกับผู้เฒ่าหั่วอย่างละเอียดอีกครั้ง
“แผนวันพรุ่งไม่อาจผิดพลาดได้เด็ดขาด!”
ต้วนหลิงเทียนหารือกับผู้เฒ่าหั่วจนถึงเที่ยงคืน พรุ่งนี้เขาจะกระทำให้ดีที่สุดและไม่ให้มีข้อผิดพลาดอะไรเด็ดขาด
ไม่นานม่านรัตติกาลก็ถูกชักขึ้น แสงแรกของวันสาดส่องขับไล่ความมืดมิด
“สำนึกเทวะของมันหายไปแล้ว! เริ่มทำตามแผนได้!!”
ต้วนหลิงเทียน ที่กำลังรดน้ำต้นสมุนไพรในสวนตามหน้าที่ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงหนึ่งส่งตรงถึงหู
เป็นเสียงของผู้เฒ่าหั่ว!
“ลงมือได้!”
เมื่อได้ยินเสียงของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็รีบส่งเสียงไปหากู่ลี่กับจูลู่ฉีที่กำลังรดน้ำแปลงสมุนไพรข้างๆทันที
ครู่ต่อมาพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ประหนึ่งแปรเปลี่ยนไปเป็นสายลมหอบใหญ่ พุ่งพัดหายไปในแปลงสมุนไพรอย่างฉับไว!
ผุบ! ผุบ! ผุบ!
…
ราวกับพายุใต้ฝุ่นโหมกระหน่ำแปลงสมุนไพรก็ไม่ปาน เหล่าสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายถูกถอนรากถอนโคนติดดินไปเป็นกระจุกด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ
เรียกว่ายามทั้ง 3 พุ่งผ่านที่ใด ประหนึ่งห่าฝูงตั๊กแตนร้ายหิวโซกวาดข้าวและพืชผลจนเหี้ยน!
เมื่อเก็บสมุนไพรได้จำนวนหนึ่งแล้ว จูลู่ฉีกับกู่ลี่จะซัด ‘สินสงคราม’ มาทางต้วนหลิงเทียน
นี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวบอก
เนื่องจากต้วนหลิงเทียนมีวิธีซ่อนสมุนไพรและโอสถวิญญาณเหล่านี้โดยที่ไม่อาจตรวจพบ…เจดีย์หลงหลิง 7 สมบัติ!
แน่นอนว่าตอนอธิบายแผนให้กูลี่กับจูลู่ฉีฟัง เขาไม่ได้กล่าวถึงเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ
เพียงแค่กล่าวว่าเขามีวิธีซ่อนสมุนไพรวิญญาณและโอสถวิญญาณทั้งหลายโดยที่เจ้าของสวนไม่อาจค้นเจอได้เท่านั้น
และนี้คือขั้นตอนแรกของแผน
หากไม่อาจผ่านขั้นตอนแรกนี้ไปได้ เกรงว่าแผนทั้งหมดคงล่มไม่เป็นท่า
อาศัยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนและพวกทั้ง 3 แม้แปลงสมุนไพรวิญญาณนี้จะกว้างใหญ่ แต่เวลาพึ่งผ่านไปราว 1 ก้านธูป สมุนไพรและโอสถวิญญาณทั้งหมดก็ถูกกวาดจนเหี้ยนไม่มีเหลือ!
“ท่านผู้อาวุโส แย่แล้ว! เกิดเรื่องแล้ว สมุนไพรกับโอสถวิญญาณถูกขโมยไปหมดสิ้นแล้ว!!”
ต้วนหลิงเทียนกับกู่ลี่และจูลู่ฉีที่จัดการกับสมุนไพรเรียบร้อย ทั้งดำเนินการบางอย่างเสร็จสิ้นหันมาสบตากันคราหนึ่งก็เป็นกู่ลี่ที่ตะโกนโวยวายออกมาเสียงดังลั่น ในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอย่างสมจริงราวกับมันคือนักแสดงมือเอก
เสียงตะโกนของกู่ลี่แต่เดิมก็ดังเป็นทุน พอมาผนึกไปด้วยปราณแรกกำเนิดขอบเขตเซียนมนุษย์ จึงทำให้เสียงก้องกระจายไปทั่ว ย่อมทำให้เจ้าของสวนสมุนไพรได้ยินทันที
และตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนกับพวกทั้ง 3 ก็ได้แลเห็นเจ้าของสวนสมุนไพรแห่งนี้เป็นครั้งแรก
เจ้าของสวนสมุนไพรเป็นชายชราที่แลดูธรรมดา ทว่าบุคลิกคล้ายนักปราชญ์ผู้คงแก่เรียนอยู่บ้าง อีกฝ่ายเหินมาหยุดลอยค้างบนเหนือฟ้าไกลตา
อย่างไรก็ตามสีหน้าแววตาของมันไม่ค่อยสู้ดีนัก ขมวดคิ้วมองสวนสมุนไพรที่โล่งโจ้งด้วยควาตะลึงลาน ใบหน้ายังเริ่มแดงก่ำร่างยังสั่นสะท้านขึ้นมาเห็นได้ชัดว่ามีโมโหนัก!
“ท่านผู้อาวุโส เจ้านั่นมันหนีไปทางทิศใต้!”
“หากท่านไม่รีบไล่ตามไป ข้าเกรงว่าจะสายเกินการณ์!”
……
ต้วนหลิงเทียน กู่ลี่ และจูลู่ฉีมองกล่าวกับเจ้าของสวนสมุนไพรด้วยความร้อนใจ
และตอนนี้สารรูปของทุกคนก็แลดูสกปรกมอมแมมทั้งบาดเจ็บไม่น้อย คล้ายพึ่งถูกเล่นงานมา! แน่นอนว่าเป็นทั้งหมดจงใจทำให้ตัวเองแลดูบาดเจ็บ และไปคลุกฝุ่นดินด้วยตัวเอง
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ชายชราเจ้าของสวนก็มองไปยังต้วนหลิงเทียนและทั้ง 3 ตาเขม็ง
“สลายพันธะถือครองแล้วส่งแหวนพื้นที่ของพวกเจ้ามาเสีย!”
แม้จะได้ยินคำเร่งเร้าให้รีบตามคนร้ายของพวกต้วนหลิงเทียน แต่ชายชราหาได้รีบร้อนแต่อย่างใด เพียงกล่าวออกเสียงแข็งให้ทั้ง 3 ส่งมอบแหวนพื้นที่ออกมา
อย่างไรก็ตามวาจายามกล่าวยังแลดูรีบร้อนไม่น้อย เห็นได้ชัดว่ามันเองก็ร้อนใจเช่นกันหลังได้ฟังคำเร่งรัด
ในเมื่อมันกังวลแล้วไฉนถึงต้องร้องขอแหวนพื้นที่ของพวกต้วนหลิงเทียนน่ะหรือ?
แน่นอนว่าก่อนมันจะรีบมุ่งหน้าลงใต้เพื่อตามคนร้าย มันต้องตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าในแหวนพื้นที่ของพวกต้วนหลิงเทียนไม่มีสมุนไพรเก็บอยู่!
พอได้ยินคำของชายชรา พวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตามภายใต้สายตาที่มองมาปานมีดโกนเย็นเยียบของชายชรา ทั้ง 3 จึงได้แต่ยกเลิกพันธะครองแหวนและส่งแหวนพื้นที่ทั้งหมดที่มีให้ชายชราไปทันที
หลังจากได้ของแล้ว ชายชราก็ไม่วายแผ่สำนึกเทวะกวาดตรวจไปทั่วร่างของพวกต้วนหลิงเทียน กระทั่งยังตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด
เมื่อยืนยันได้แล้วว่าทั้ง 3 ไม่ได้ซุกซ่อนอุปกรณ์พื้นที่อื่นใด และไม่ได้นำอุปกรณ์พื้นที่เก็บสมุนไพรไปฝังแอบไว้ในบริเวณนี้ มันก็เริ่มตรวจสอบแหวนพื้นที่ๆได้รับมาทันที
หลังพบว่าในแหวนของทั้ง 3 ก็ไม่มีสมุนไพรและโอสถวิญญาณของพวกมันอยู่เลย สีหน้าของชายชราก็มืดดำราวจะคั้นได้เป็นน้ำหมึกทันที
“ฮึ่ม!”
พ่นลมสบถออกมาอย่างเย็นชาคราหนึ่ง ชายชราก็โยนแหวนพื้นที่คืนให้พวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ก่อนที่จะเหินร่างมุ่งหน้าลงใต้ไปด้วยความเร็วสูงสุด
ชั่วพริบตา ชายชราก็หายลับไปจากสายตาของพวกต้วนหลิงเทียน
อย่างไรก็ตามร่างชายชราที่วูบหายไปจากสายตาทุกคน กลับไปปรากฏตัวในมุมมืดแห่งหนึ่งและจับจ้องมองไปยังพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 ด้วยสายตาเยียบเย็น…!