WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1891
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1891
ตอนที่ 1,891 : ฆ่าพวกมันให้หมด!
ความเชื่อของลัทธิบูชาไฟนั้นก็คือ ‘เปลวไฟ’ เป็นสิ่งที่มนุษย์ชาติจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัย…
และในดินแดนทางภูมิภาคตะวันตกของภูมิภาคเบื้องบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ ลัทธิบูชาไฟ เสมือนศาสนาที่ทุกผู้คนยึดถือ…
บูชาไฟ คือความเชื่อของพวกมัน!
ลัทธิบูชาไฟจะรับสมัครศิษย์เลิศล้ำจากโลกภายนอก และเรื่องนี้เสมือนเป็นประเพณีของภูมิภาคตะวันตกไปแล้ว
ทุกครั้งที่ลัทธิบูชาไฟรับศิษย์เลิศล้ำ ภาคตะวันตกก็จะกล้ายเป็นคึกครื้นขึ้นมา เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะมีชีวิตชีวามากที่สุด
เพราะเมื่อถึงวันนั้น ผู้ฝึกยุทธ์และผู้ฝึกเต๋าแม้กระทั่งผู้ฝึกมาร ที่มั่นใจในพลังฝีมือของตัวเองจากทั่วทุกสารทิศของภูมิภาคตะวันตกก็จะมารวมตัวกันที่ แท่นบูชาจตุรลักษณ์ ของลัทธิบูชาไฟ เพื่อหวังเป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟให้จงได้!
ในสายตาของทุกคน การได้เป็นศิษย์ของลัทิบูชาไฟคือเกียรติยศอันหาได้ยากอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่สมัครเป็นศิษย์สาวกจะได้รับสถานะศิษย์ของลัทธิบูชาไฟ
มีเพียงผู้ที่ผ่านการประเมินคัดเลือกจากลัทธิบูชาไฟเท่านั้น…ถึงจะกลายเป็นศิษย์ของลัทธิ์บูชาไฟได้!
และการประเมินคัดเลือกศิษย์ของลัทธิบูชาไฟก็โหดร้ายนัก ทุกๆ 3 ปีล้วนมีคนตกตายไม่น้อย…
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนอีกมากมายที่เข้าร่วมการประเมินคัดเลือกศิษย์สาวก ราวกับพวกมันไม่หวั่นหวาดความตาย!
“ไม่เข้าถ้ำเสือก็ยากจะได้ลูกเสือ…คนในภาคตะวันตกช่างงมงายนัก!”
เหนือเขาสูงลูกหนึ่ง มองผู้คนมากมายแห่กันขึ้นเขาเบื้องหน้า กู่ลี่ อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา ด้วยสายตาสั่นไหว
“ตลอดเดือนที่ผ่านมาหรือเจ้าไม่เห็นบรรยากาศของผู้คนในภาคตะวันตกนี่เล่า? กว่า 7 ส่วนล้วนมองลัทธิบูชาไฟเป็นดั่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและศูนย์รวมศรัทธาของพวกมัน…ไม่เชื่อเจ้าลองไปกล่าววาจาเมื่อครู่กับคนที่นับถือลัทธิบูชาไฟดูเถอะ เผลอๆมันจะสู้ตายกับเจ้า…”
จูลู่ฉีส่ายหัวไปมา หลังผ่านไปหนึ่งเดือนมันก็คุ้นเคยกับเรื่องราวพวกนี้ดี
“ทำเป็นพูดรับสมัครศิษย์เลิศล้ำอันใด…ก็แค่จะหาศิษย์เข้าร่วมแท่นบูชาลักษณ์ต่างๆ ในจตุรลักษณ์นั่น สุดท้ายหากคิดเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟและกลายเป็นศิษย์ที่แท้จริง ก็ยังต้องพึ่งพาพลังฝีมือของตัวเองทั้งสิ้น!”
กู่ลี่กล่าวสืบต่อด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่
ลัทธิบูชาไฟนั้นเสืมอนแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน
หนึ่งในนั้นก็คือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ของลัทธิบูชาไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อันมีสายแร่หินเซียนระดับกึ่งสวรรค์ล้อมรอบ ทำให้พลังวิญญาณฟ้าดินหนาแน่นบริบูรณ์ตลอดทั้งปี นับเป็นสถานที่ๆมีสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การบ่มเพาะดีที่สุดของลัทธิบูชาไฟ
และถึงแม้จะกวาดตามองทั่วทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ยังถือว่าเป็น 1 ในสถานที่บ่มเพาะระดับต้นๆ!
ในลัทธิบูชาไฟนั้น ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถเข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้
หากคิดจะเข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์จำเป็นต้องมีใบรับรอง ที่แท่นบูชาจตุรลักษณ์ของลัทธิบูชาไฟออกให้เสียก่อน
และผู้ที่จะได้ใบรับรองอันเป็นดั่งบัตรผ่านเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น หากไม่ใช่ชนชั้นอัจฉริยะพลังฝีมือกล้าแข็งสูงส่ง ก็ต้องเป็นปรมาจารย์จารึกเซียน ปรมาจารย์เซียนหลอม หรือกระทั่งปรมาจารย์ยันเต๋าระดับสูงๆ…
เช่นเดียวกันกับราชาเม็ดยา ซุนยิง ที่คิดกักขังหน่วงเหนี่ยวต้วนหลิงเทียนกับพวกให้เป็นคนสวน 10 ปีหากมันคิดเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟ ไม่เพียงแต่มันจะได้ใบรับรองจากแท่นบูชาจตุรลักษณ์ทันที เผลอๆยังได้รับการต้อนรับอย่างงามจากจ้าวลัทธิบูชาไฟด้วยซ้ำ!
แม้พลังฝีมือของซุนยิงจะไม่นับเป็นตัวอะไรต่อหน้าจ้าวลัทธิบูชาไฟ ผู้ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายนามยอดเซียน
หากแต่อาศัยความสำเร็จในเต๋าแห่งการปรุงยาและศาสตร์ทางการแพทย์ของมัน ก็มากพอจะให้จ้าวลัทธิบูชาไฟให้ความนับถือแล้ว
ในประวัติศาสต์ของลัทธิบูชาไฟมีศิษย์มากมายหลายคนที่ตลอดชั่วชีวิตไม่ได้รับ ใบรับรอง อันเป็นดั่งบัตรผ่านและใบอนุญาตให้เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าพวกมันจะประสบความสำเร็จจนกลายเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ก็ตาม
จากจุดนี้ย่อมเห็นได้ชัด ว่าใบรับรอง ของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ล้ำค่าปานใด
“แท่นบูชาจตุรลักษณ์งั้นเหรอ…พวกท่านอยากไปแท่นบูชาอันใดกัน?”
ต้วนหลิงเทียนที่ลอยร่างระหว่างกู่ลี่กับจูลู่ฉีกล่าวถาม ขณะมองไปยังภาพคนขึ้นเขาเบื้องหน้า
กู่ลี่กับจูลู่ฉีได้ยินคำถามก็หันมองหน้ากันเอง สุดท้ายก็ส่ายหัวออกมา
“น้องหลิงเทียนเจ้าตัดสินใจเถอะ”
กู่ลี่กล่าวกับต้วนหลิงเทียนว่า “ข้าเองก็ไม่รู้จักมักคุ้นอะไรกับลัทธิบูชาไฟ ข้าไม่รู้ว่าแท่นบูชาอันใดมันดีหรือไม่ดี แล้วควรเลือกอันใด”
“ข้าเองก็เช่นกัน”
จูลู่ฉีก็กล่าวตอบออกมาตามกู่ลี่
“เหอะๆ ข้าเองก็ใช่ว่าจะรู้จักมักคุ้นลัทธิบูชาไฟอะไรมากมาย…”
ต้วนหลิงเทียนถึงกับยิ้มแหยๆออกมา เมื่อได้ยินว่าทั้งคู่ให้เขาตัดสินใจอีกแล้ว
ภายใต้สายตาคาดหวังจากกู่ลี่และจูลู่ฉี ต้วนหลิงเทียนที่อดแอบเซ็งไปไม่ได้ สุดท้ายก็จำต้องตัดสินใจ “งั้นเลือกเอามั่วๆสักอันแล้วกัน…แท่นบูชามังกรครามเป็นอย่างไร?”
แท่นบูชามังกรคราม?
1 ใน 4 แท่นบูชาจตุรลักษณ์!
นอกจากแท่นบูชาแล้วก็ยังมี แท่นบูชาหงส์เพลิง แท่นบูชาพยัคฆ์ขาว และแท่นบูชาเต่าทมิฬ!
“ได้”
“ข้าไม่คัดค้าน”
ได้ยินการตัดสินใจของต้วนหลิงเทียน ทั้งสองคนก็พยักหน้าเห็นชอบทันที
สำหรับพวกมันแล้ว ไม่ว่าจะแท่นบูชาใดก็เหมือนๆกัน เพราะสุดท้ายหากผ่านการคัดเลือก ก็ได้เป็นศิษย์ฝ่ายนอกของลัทธิบูชาไฟคือๆกัน…
“ถ้างั้นก็เอาตามนี้! ไปแท่นบูชามังกรครามกัน!!”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
เหตุผลที่เขาเลือกแท่นบูชามังกรครามนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่น เพราะชีวิตเขามีความเกี่ยวพันกับคำว่า มังกร ไม่น้อย
นอกเหนือจากในโลกเก่าที่เขาจากมาในชีวิตที่แล้วจะถูกเรียกว่าลูกหลานของมังกรแล้ว มาในชีวิตนี้เขาก็ได้พรสวรรค์มังกรแปลงจนสามารถกลายร่างเป็นนักรบมังกรได้!
ชะตากรรมของเขาคล้ายพัวพันกับมังกรอย่างไรไม่ทราบ!
เช่นนั้นเขาจึงเลือกแท่นบูชามังกรคราม!
“เหอะ! ล้วนเป็นตัวบ้านนอกทั้ง 3!!”
แทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ เสียงสบทด้วยความดูแคลนพลันดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียนกับพวกชัดเจน ฟังแล้วยังคล้ายจะจงใจด่าว่าพวกเขาเป็นพิเศษ!
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
หน้าของกู่ลี่เปลี่ยนไปทันใด ยังหันไปมองที่ต้นเสียงพร้อมกล่าวถามออกไปด้วยโทสะทันที
จูลู่ฉีหันไปมองตาม
ต้วนหลิงเทียนเพียงโค้งคิ้วขึ้นด้วยสงสัย ก่อนจะหันไปมองเช่นกัน
เห็นเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังเชิดหน้ามองมาที่พวกเขาด้วยสายตาดูแคลน ทำราวกับมันเป็นจ้าวผู้อยู่เหนือกำลังเหลือบมองข้าทาส
ชายหนุ่มผู้นี้รูปร่างผอมไร้มัดกล้ามหน้าตาแลดูธรรมดาไม่โดดเด่น หากแต่หว่างคิ้วกลับแผ่พุ่งความเย่อหยิ่งออกมาเต็มที่ ชุดเครื่องแต่งกายแลดูก็รู้ว่าเป็นผ้าเนื้อดีมีระดับ ยังค่อนข้างสำอางค์ไม่น้อย
ด้านหลังของมันมีชายชราติดตามมาด้วย 1 คน
ชายชราเพียงยืนนิ่งสงบ 2 มือไพร่หลังเอาไว้ มองไกลๆไม่ต่างใดจากคนแก่ธรรมดาๆคนหนึ่ง
แต่ต้วนหลิงเทียนรับทราบได้ทันทีว่าคนแก่นี้ไม่ใช่ผู้ชราธรรมดา กระทั่งพลังฝีมือสมควรไม่ใช่ชนชั้นอ่อนด้อยแน่แท้! หาไม่แล้วคงยากที่ตัวเขาจะมองพลังฝีมือของอีกฝ่ายไม่ออกแบบนี้!
“ข้าพูดว่าอะไร?”
ชายหนุ่มในชุดสำอางค์มองกู่ลี่ด้วยสายตาเย้ยหยัน “เจ้าหูหนวกหรืออย่างไร เมื่อครู่ถึงไม่ได้ยินข้าเรียกหาพวกเจ้าว่า 3 ตัวบ้านนอก? ข้าล่ะสงสัยนักว่าตัวบ้านนอกเช่นพวกเจ้ามาทำอันใดที่นี่? พวกเจ้าคิดว่าอาศัยน้ำหน้าอย่างพวกเจ้าจะมีปัญญาเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟได้?”
“หากข้าเป็นพวกเจ้า ป่านนี้ข้าม้วนเสื่อกลับบ้านไปเนิ่นนานแล้ว ไม่คิดอยู่รั้งรอจนเป็นตัวโง่ง่มให้ผู้อื่นหัวร่อหรอก!”
วาจาถล่มด่าทั้งแดกดันของชายหนุ่มเรียกว่ากล่าวเย้ยหยันกู่ลี่และคนอื่นๆออกมาซึ่งๆหน้า
สีหน้าต้วนหลิงเทียนยังเริ่มมืดลง
หน้าจูลู่ฉีเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เป็นเจ้าหาเรื่องเจ็บตัวเอง!!”
กู่ลี่หนักกว่าใครเพื่อน! เพราะไม่เพียงใบหน้าเต็มไปด้วยโทสะ ยังพุ่งร่างไปฉับไวปานสายฟ้าหมายลงมือทุบตีผู้คนทันที!!
ซัวว!!
พลังฝึกปรือขอบเขตเซียนมนุษย์ขั้นกลางปะทุออกมาทันใด คลื่นพลังแผ่พุ่งกำจายออกจากทั่วร่างกดดันในบรรยากาศ สายลมม้วนตลบกวาดออกไปโดยรอบ!
“อาศัยพลังฝีมืออ่อนด้อยเพียงเท่านี้ หาญกล้ากำแหงต่อหน้าข้านายน้อย?”
เผชิญหน้ากับกู่ลี่ที่ปะทุพลังโจนทะยานเข้ามาปานนกเหยี่ยว ชายหนุ่มในชุดสำอางค์แสยะยิ้มดูแคลน เพียงยกมือขึ้นโบกปัดออกไปส่งๆ
ปงงง!!
เสียงสนั่นดังก้องลั่นขึ้นมา มวลพลังจากการโบกปัดมือของชายหนุ่มปะทะเข้ากับคลื่นพลังที่กู่ลี่ตบฟาดออกอย่างจัง และผลการปะทะก็เผยให้เห็นผู้แพ้ผู้ชนะทันที
กู่ลี่ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตะลึง ก่อนร่างจะปลิดปลิวกระเด็นออกไปด้วยไม่อาจทำลายพลังของอีกฝ่ายได้ มวลพลังที่ว่าซัดกระแทกเข้าร่างของมันอย่างจัง!
กลับกัน ชายหนุ่มในชุดสำอางค์เพียงเสื้อผ้ากระพือปลิดปลิวเล็กน้อย ครู่ต่อมาก็สงบลง ไร้เรื่องราว
“อั๊คค!!”
กู่ลี่ที่ปลิวละลิ่วออกมาถึงกระอักโลหิตออกเป็นสาย ยังดีที่ยังไม่ล้มคะมำหงายหลังอันใด สามารถลงมายืนหยัดอยู่บนพื้นได้ แม้ร่างจะสั่นระริกก็ตามที
ทว่ามองไปยังชายหนุ่มในชุดสำอางค์อีกครั้ง แววตากู่ลี่อดไม่ได้ที่จะเผยถึงความหวาดกลัวออกมา
มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพลังฝีมือของชายหนุ่มที่ไม่ต่างอะไรจาก ‘นายน้อยบ้านรวยสันดารเสีย’ ผู้นี้จะสูงกว่ามัน กระทั่งสูงกว่ามันมากจนยากจะเทียบได้!
ใจของกู่ลี่คล้ายถูกแหลนกระซวกอย่างแรง
‘นี่น่ะหรือภูมิภาคเบื้องบน…กับอีแค่นายน้อยบ้านรวยสันดารเสียคนหนึ่ง หรือข้ายังไม่อาจเทียบได้จริงๆ?’
จังหวะนี้ในใจของกู่ลี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขื่นขมยากกล้ำกลืน
ยังบังเกิดความสงสัยขึ้นมา
หรือการตัดสินใจมายังภูมิภาคเบื้องบนจะผิดตั้งแต่แรก?
“หาที่ตาย!”
เมื่อเห็นกู่ลี่บาดเจ็บสีหน้าจูลู่ฉีก็มืดดำลงทันใด ร่างยังขยับออกไปดั่งสายลม!
วูบ!
ฝ่ามือตบฟาดไปยังนายน้อยบ้านรวยนิสัยเสียนั่นทันที!
จูลู่ฉีนับเป็นชนชั้นยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นกลางแล้ว
เช่นนั้นความเร็วในการพุ่งร่างออกไป ก็ไม่ใช่อะไรที่ความเร็วของกู่ลี่เมื่อครู่จะเทียบได้เลย!
กระทั่งชายหนุ่มเย่อหยิ่งในชุดสำอางค์หรูหราก็อดไม่ได้ที่จะหน้าเปลี่ยนสี เพราะมันรู้ดีว่าคิดหลบก็หลบไม่ทันแล้ว!
‘ถล่มมารดามัน! เซียนปฐพี!!’
ชั่วพริบตาดั่งฟ้าแลบลั่น ใจของชายหนุ่มพลันตระหนักได้ถึงเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามแม้ใบหน้าของมันจะเปลี่ยนสีไปไม่น้อย หากแต่ในแววตาก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวอะไร
ดูเหมือนกับมันมีอะไรให้พึ่งพิง
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันที ‘ความมั่นใจของมันมาจากชายชราด้านหลังคนนั้น?’
“ฮึ่ม!”
ในขณะที่เห็นกันอยู่ชัดๆว่าฝ่ามือของจูลู่ฉีเจียนจะตบฟาดเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มอยู่รอมร่อเต็มทีพลันมีคลื่นเสียงไร้สภาพหนึ่งดังพุ่งออกมารวดเร็ว!
ถึงแม้จะยังอยู่ห่างไกล หากแต่จูลู่ฉีกลับสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล สีหน้ายังเปลี่ยนไปอย่างมาก!
“ระวัง! ถอยมา!!”
ห้วงเวลาคับขันนี้หน้าต้วนหลิงเทียนก็เปลี่ยนสีไปเช่นกัน
เพราะเขาพบว่าชายชราที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มนั่น ลงมือหนักไม่น้อย!
เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าคลื่นพลังที่ปะทุออกมาพร้อมเสียงสบทนั่น มันไม่ใช่อะไรที่จูลู่ฉีจะต้านทานรับได้อย่างปลอดภัย จึงเร่งกล่าวเตือนออกไปทันที
อนิจจาแม้เขาจะกล่าวเตือนออกไปแทบจะพร้อมกับที่ชายชราลงมือ แต่ก็ยังสายเกินไป
ปงงง!!
แม้ไม่ทราบว่าชายชราลงมืออย่างไร หากแต่ฝ่ามือที่คิดตบฟาดไปยังใบหน้าของชายหนุ่มของจูลู่ฉีก็ถึงกับกระเด็นออกไปทันที
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเสียงดังสนั่นลั่นออกมาจากร่างของจูลู่ฉี คนยังกระเด็นปลิดปลิวไปคล้ายลูกเกาทัณฑ์พ้นคันศร โลหิตกระอักออกปากเป็นสายตีวงโค้งวาบหนึ่ง ค่อยแตกกระจายกลายเป็นละอองบุบผา คนปลิวกระเด็นไปล้มลงตรงหน้ากูลี่…
“นะ ภา….ยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภา”
จูลู่ฉีที่ถูกซัดจนปลิวกระเด็นไป ไม่เพียงแต่หน้าจะถอดสี…ในแววตายังอดเผยความตกตะลึงออกมาไม่ได้!
ไม่ทันรู้ตัวมันก็ถูกซัดทำร้ายจนบาดเจ็บขนาดนี้แล้ว…เกรงว่าต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดก็ทำไม่ได้!
ดังนั้นก็หลงเหลือความเป็นไปได้ประการเดียวเท่านั้น
ผู้ที่ลงมือทำร้ายมันเป็นตัวตนขอบเขตเซียนนภา!
ยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภา!
จังหวะนี้หน้ากู่ลี่ก็ถอดสีไปทันที หน้าต้วนหลิงเทียนเองก็เปลี่ยนสีไปเช่นกัน
“อันใด พวกตัวบ้านนอกเจ้ากลัวแล้วหรือ?”
เห็นหน้าต้วนหลิงเทียนกับทุกคนเปลี่ยนสีไปแบบนี้ ชายหนุ่มในชุดหรูหราเผยแววตาเยียดหยามกล่าวคำเสียดสีออกมาคราหนึ่ง ก่อนที่แววตาของมันะกลายเป็นเย็นลงกล่าวสั่งออกเสียงเหี้ยม
“ผู้เฒ่าเติ้ง ฆ่าพวกมันให้หมด!!”