WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1898
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1898
ตอนที่ 1,898 : ความกดดัน!
ไม่นานสายตาทุกคนก็เบนไปตกยังร่างของต้วนหลิงเทียนอย่างไม่รู้ตัว…
ชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ ที่ทุกคนไม่มีใครดูดีว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตมาจากการลงมือของหยางหวู่ผู้บรรลุเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญได้ ทว่าสุดท้ายกลับเป็นฝ่ายพลิกชะตาในห้วงเวลาสุดท้าย! อีกทั้งไม่เพียงรับมือหยางหวู่ได้…กระทั่งฆ่าหยางหวู่ทิ้งง่ายดายราวสุนัขตัวหนึ่ง!
เรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปในฉับพลันเช่นนี้ ทำให้พวกมันตกตะลึงจนอึ้งค้างไปอยู่นาน
เพราะก่อนหน้านี้พวกมันแทบจะเห็นพ้องต้องกันไปแล้ว ว่าเจ้าหนุ่มชุดม่วงนี้ต้องถูกหยางหวู่ฆ่าตายแน่!
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้สมควรรู้ทักษะลับอันใดบางอย่างที่สามารถปกปิดพลังฝึกปรือได้เป็นแน่!”
ไม่ทราบว่าใครเป็นคนกล่าวขึ้นมาคนแรก
“ไม่ผิดแน่! สมควรเป็นเช่นนั้น!!”
และวาจาของมันก็เป็นที่เห็นชอบของผู้คนไม่น้อย
ถึงแม้พวกมันจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีทักษะลับอะไรสามารถปกปิดพลังฝึกปรือได้ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ แต่พวกมันเชื่อว่า ‘ใต้หล้าฟ้ากว้างใหญ่’ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังได้เห็นความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนสำแดงออกมา ทำให้พวกมันแทบจะมั่นใจเต็มสิบส่วนว่าทักษะลับพรรค์นั้นต้องมีอยู่จริง!
ล้อกันเล่นหรือไร!
จากที่พวกมันใช้ทักษะวิญญาณลี้ลับสืบค้นพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียน ก็พบว่าเพียงอยู่ในขอบเขตอริยะเซียนขั้นสูงสุดเท่านั้น!
ทว่าพวกมันก็เห็นกับตา ว่าผู้ฝึกตนอริยะเซียนขั้นสูงสุดที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตายนั่น กลับรับมือเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญได้อย่างไม่อยากเย็น!
ที่สำคัญการรับมือที่ว่ายังเป็นการคว้าจับ ‘กระบี่ร้อยอาคมเซียน’ ที่ถูกเซียนมนุษย์ขั้นเชี่ยวชาญเปิดใช้งานเต็มกำลังได้อยู่หมัด! สุดท้ายก็กุมชะตาชีวิตอีกฝ่ายเอาไว้ได้อย่างไม่เหนื่อยแรง…!!
เรื่องพรรค์นี้ใช่อะไรที่อริยะเซียนขั้นสูงสุดจะกระทำได้หรือ?
“ก่อนหน้าที่หยางหวู่จะลงมือมันก็ร่อแร่จนยืนไม่ไหวแท้ๆ แถมไอพลังก็อ่อนโทรมเต็มที…แต่หลังจากที่หยางหวู่พุ่งเข้าใส่ ข้าเห็นว่ามันลงมือกระทำบางอย่าง…เหมือนจะกลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินรอบกาย…”
“ใช่ๆ ข้าเองก็เห็น…ตอนนั้นอยู่ๆก็มีวังวนผุดโผล่ขึ้นรอบกายเจ้านั่น แถมพลังวิญญาณฟ้าดินในรัศมีวังวนประหลาดนั่น ยังถูกสูบกลืนเข้าร่างมันไปด้วยความเร็วสูง! ต้องเป็นต้วนหลิงเทียนลงมือดูดพลังพวกนั้นแน่!”
“มิผิด เป็นเพราะวังวนที่ดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินเข้าร่าง ทำให้พลังปราณในร่างของต้วนหลิงเทียนพุ่งสูงขึ้นไปหลายส่วน! กระทั่งทำให้มันที่บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นสามารถรับมือหยางหวู่ได้…นอกจากนี้วังวนนั่นยังทำลายเขตแดนของหยางหวู่อีก!!”
“วิธีการน่ากลัวเช่นนี้สมควรเป็นเวทย์พลังแน่ๆ! ยิ่งไปกว่านั้นน่ากลัวจะมิใช่เวทย์พลังทั่วไป…กระทั่งอาจเป็นได้ว่ามันคือเวทย์พลังระดับสูง!!”
…
ผู้คนเริ่มระเบิดคำสนทนากันจ้าละหวั่น หัวข้อย่อมไม่พ้นเรื่องการลงมือพลิกเกมของต้วนหลิงเทียน
“นอกจากนั้นพวกเจ้าเห็นหรือไม่ เหมือนสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนใช้รับกระบี่ร้อยอาคมจะเป็นศาสตราเซียนประเภทกรงเล็บ”
“ข้าเห็นรางๆเท่านั้น…แต่ศาสตราเซียนประหลาดนั่นช่างร้ายกาจนัก กระบี่ร้อยอาคมเซียนของหยางหวู่กลับมิอาจทำอะไรได้เลย!”
…
หลายคนเริ่มสนใจเกี่ยวกับกรงเล็บมังกรของต้วนหลิงเทียน
แน่นอนว่าพวกมันไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนคือนักรบมังกรที่สามารถแปลงกายและคืนสภาพได้ดั่งใจนึก เพียงคิดว่าเขาเรียกใช้ศาสตราเซียนประเภทกรงเล็บและเก็บกลับไปทันทีหลังบรรลุผลแล้วก็เท่านั้น
“นักรบมังกร?”
หากจะมีใครเห็นว่าต้วนหลิงเทียนแปลงเป็นนักรบมังกรจริงๆ ก็เห็นทีจะมีแต่เถิงชานกับหลี่อัน
พวกมันคืออาวุโสเพลิงเงินของลัทธิบูชาไฟ อีกทั้งยังเป็นตัวตนที่อยู่ใน 200 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน! พลังฝีมือย่อมไม่ใช่ชนชั้นต่ำทราม สายตาแน่นอนว่าย่อมแหลมคมกว่าคนธรรมดา!!
ถึงแม้มือของต้วนหลิงเทียนจะแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกรไม่นาน แต่พวกมันก็ยังพอสังเกตได้ว่าเป็นกรงเล็บมังกร! ส่วนเรื่องที่จะมีกี่กรงเล็บพวกมันเองก็เห็นไม่ชัด!!
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะต้วนหลิงเทียนเร่งคืนสภาพกรงเล็บมังกรอย่างรวดเร็ว พวกมันจึงไม่ทันได้ให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตามพวกมันยังพอกล่าวชี้ชัดได้
ต้วนหลิงเทียนมีพรสวรรค์มังกรแปลง!
“ไม่คิดเลยว่าสหายน้อยผู้นี้จะเป็นนักรบมังกร…”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนฆ่าหยางหวู่ และได้รับชัยชนะในการประลองเป็นตายครั้งนี้ เถิงชาน ย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา ถึงแม้จะแปลกใจเล็กน้อยเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนเป็นนักรบมังกรก็ตาม “ดูเหมือนว่าเจ้าหนูนี่จะมีความสัมพันธ์บางอย่างเกี่ยวข้องกับมังกรเทพยาดา 7 กรงเล็บของเผ่ามังกร…”
ด้วยเพราะไม่เห็นจำนวนกรงเล็บของต้วนหลิงเทียน เถิงชานจึงคิดไปเองว่าต้วนหลิงเทียนเป็นนักรบมังกร 7 กรงเล็บ
หากมันรู้ว่าต้วนหลิงเทียนเป็น ‘นักรบมังกร 9 กรงเล็บ’ คงได้แปลกใจหนักกว่านี้
‘สารเลวน้อยน่าตาย! เจ้าจะเป็นนักรบมังกรแล้วอย่างไร ใช่ว่าชีวิตข้าหลี่อันจะไม่เคยฆ่านักรบมังกรเสียหน่อย คอยดูกันไปเถอะ!’
หลี่อันที่มองต้วนหลิงเทียนยิ่งมาแววตายิ่งเยียบเย็น ยากจะปิดซ่อนเจตนาฆ่าฟันเอาไว้ได้
“ขอบคุณอาวุโสเถิงชาน ที่ช่วยควบคุมการประลองเป็นตายให้ดำเนินไปอย่างยุติธรรม”
หลังฆ่าหยางหวู่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็แหงนมองขึ้นไปบนฟ้าก่อนอื่นใด เร่งกล่าวขอบคุณเถิงชานออกมา
“มิต้องขอบใจข้าหรอก ในฐานะอาวุโสของลัทธิบูชาไฟ นี่คือหน้าที่ของข้า!”
เถิงชานส่ายหัวไปมา
หลังจากนั้นเรื่องไม่เป็นเรื่องก็จบลง…
แน่นอนว่าแค่ดูเหมือนจะจบลงเฉยๆ…
อันที่จริงเรื่องนี้ การตายของหยางหวู่เสมือนเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น…!
ฆ่าหยางหวู่แบบนี้ นับว่าต้วนหลิงเทียนทำให้ใครหลายคนขุ่นเคืองแล้ว
ก่อนอื่นเลยที่เห็นได้ชัดก็คืออาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬ หลี่อัน!
คนที่สองก็คือ อาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาล…หยางชง!
ถึงแม้อาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาล เมื่อเปรียบเทียบกับอาวุโสเพลิงเงิน มองปราดแรกอาจจะดูว่ามีฐานะด้อยกว่า
อย่างไรก็ตามในฐานะอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาลอาจจะไม่ได้สูงส่งเหนือฐานะของหลี่อัน แต่พลังฝีมือน่ากลัวว่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่อัน
หาไม่แล้วคงไม่เป็นเพื่อนสนิทกัน!
เพราะคงไม่พ้นทั้งคู่มีพลังฝีมือพอๆกัน และลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกันจึงสามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้ ดั่งคำกาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์
นอกจากนี้ หยางชง ในฐานะอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาล นับกันในโลกภายนอกแล้ว เกรงว่าอิทธิพลของมันเผลอๆจะไม่ต่ำไปกว่าหลี่อัน! เพราะหากจะมองภาพรวม ในลัทธิบูชาไฟมีอาวุโสเพลิงเงินเยอะแยะนัก จัดว่าเป็นชนชั้นธรรมดาในลัทธิบูชาไฟก็ว่าได้…
หลี่อันเป็นแค่ 1 ใน 5 อาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬ ซึ่งนับว่าเป็นแค่ฝ่ายนอกของลัทธิบูชาไฟเท่านั้น
แค่ในบรรดาอาวุโสเพลิงเงินทั้ง 5 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ หลี่อันแข็งแกร่งที่สุด!
‘ไม่คิดเลยว่าข้าพึ่งขึ้นมาภูมิภาคเบื้องบนไม่ทันไร ก็มีเรื่องหมางใจกับยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ถึง 2 คนซะแล้ว…’
ผลของการกระทำที่จะติดตามมาในภายหลังคืออะไร ต้วนหลิงเทียนรู้ตัวดีตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ลงมือฆ่าหยางหวู่
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาก็ยังคงฆ่าหยางหวู่!
หากขลาดเขลากริ่งเกรงอิทธิพลก็ไม่ใช่เขา ต้วนหลิงเทียน แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้เขาจะรู้ดีแก่ใจว่าการลงมือฆ่าหยางหวู่แบบนี้หลี่อันจะไม่มีวันละเว้นเขา…แต่ต่อให้ไม่ฆ่าหยางหวู่มันก็ไม่มีทางละเว้นเขาอยู่ดี! และที่สำคัญยังไงบิดาหยางหวู่ก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปอยู่แล้ว เช่นนั้นยังจะสนอะไรเรื่องแตกหักกับหลี่อัน?
สำหรับเขาแล้วจะมีเรื่องกับยอดฝีมือเซียนสวรรค์เพิ่มมาอีกสักคนจะนับเป็นอะไรไป!
‘หึ แรงกดดันจากยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 2 คนนับว่ามีไม่น้อย นานมากแล้วที่ไม่ได้รู้สึกเสมือนเดินอยู่ปากเหว ห่กผิดพลาดเพียงก้าวก็ร่วงตกลงไปตายแบบนี้…มาลัทธิบูชาไฟไม่ทันไรก็เจอซะแล้ว’
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่กลัวเรื่องล่วงเกิน 2 ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ แต่อันที่จริงเขาก็รู้สึกกดดันไม่น้อย
‘อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้เฒ่าหั่วกำลังเร่งมือซ่อมชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติอยู่…ตราบใดที่ชั้น 4 ฟื้นฟูสมบูรณ์ ข้าไม่เพียงแต่จะมีสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะอันประเสริฐ ยังจะมีที่ไว้หลบซ่อนตัวอีกด้วย!’
พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็ตื่นเต้นไม่น้อย
จนถึงวันนี้เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ยังพึ่งฟื้นฟูได้ถึงชั้น 3 เท่านั้น…
ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะของชั้น 3 เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติจะถือว่าดี แต่หากเทียบกับสภาพแวดล้อมของภูมิภาคเบื้องบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแล้วกลับด้อยกว่ามาก!
ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวก็คงเหลือแต่กาลเวลาที่ไหลภายใน มันช้ากว่าภายนอก 5 เท่า
ภายใน 5 วัน ภายนอกพึ่งผ่านพ้นเพียงวันหนึ่งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติซ่อมเสร็จ ไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะจะดีขึ้น อัตราการไหลเวียนของเวลาจะช้าลงอีก…จากที่ผู้เฒ่าหั่วเคยเกริ่นเอาไว้ กาลเวลาภายในชั้น 4 ของเจดีย์จะไหลช้ากว่าโลกภายนอกถึง 8 เท่า!
ภายในเจดีย์ผ่านพ้นไป 8 วัน ภายนอกพึ่งผ่านไป 1 วันเท่านั้น!!
อาศัยเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะหาวัตถุดิบซ่อมเจดีย์แล้ว
นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้วนหลิงเทียนตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่มากที่สุด
จากที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าว ตราบใดที่ชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้รับการซ่อมแซมจนฟื้นฟูดังเดิม ห้วงมิติภายในเจดีย์จะมีความเสถียรภาพสามารถซ่อนตัวอยู่ภายในเจดีย์ได้ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวภายนอกจะรุนแรงเพียงใดก็ตาม ภายในจะไม่ได้รับผลกระทบเลย!
ไม่เหมือนกับตลอดเวลาที่ผ่านมา เพียงแค่ลมพัดก็ดุจใบหญ้าปลิดปลิว…
‘หากชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติซ่อมแซมจนฟื้นฟูดังเดิม วันหน้าต่อให้ข้าเจอคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจเอาชนะได้ก็ไม่มีปัญหา! เพียงซ่อนตัวอยู่ในเจดีย์ แล้วย่นย่อเจดีย์ให้เล็กเสียยิ่งกว่าธุลีคลี ดูซิใครมันจะหาข้าเจอ!!’
พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งทวีความฮึกเหิมมากขึ้น
หากเป็นภาษาในโลกเก่าของเขาก็เสมือนเขามีโปรแกรมโกงไว้ช่วยชีวิต! กระทั่งยังสามารถใช้ช่วยชีวิตได้ไม่จำกัดครั้ง!!
(แปลถึงตรงนี้ หน้าพี่ประมุขหลินฟ่านลอยมาทันที พี่แกชอบหลบในเตา ตอนเกรียนจัดๆยังแง้มฝาชักนิ้วกลางใส่…)
ที่แท่นบูชาเต่าทมิฬตอนนี้ก็มีผู้คนทยอยกันมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อต้วนหลิงเทียนกลับไปอยู่ข้างกูลี่กับจูลู่ฉี ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายสลายตัว ไม่นานก็ละความสนใจจากพวกเขาไปสนใจเรื่องของตัวเอง
แน่นอนว่าทุกคนที่มาวันนี้ก็ยังไม่ลืมเลือนจุดประสงค์หลัก!
เข้าร่วมการประเมินของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ รวมถึงแท่นบูชาเต่าทมิฬ มุ่งมั่นที่จะเข้าสู่ลัทธิบูชาไฟ และกลายเป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟให้จงได้!
คนส่วนใหญ่ที่แห่แหนกันมาในวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนในภูมิภาคตะวันตก นั่นเพราะพวกมันล้วนศรัทธาและเชื่อถือในลัทธิบูชาไฟหมดใจ! กระทั่งยังมีความฝันจะเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิบูชาไฟมาแต่เล็กแต่น้อย!!
สำหรับพวกมันแล้ว นี่คือเกียรติยศ! ยังเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตที่ไม่มีอะไรเทียบได้!!
“น้องหลิงเทียน ไอแก่ที่คอยตามหลังหยางหวู่นั่นแจมันรีบร้อนกลับไปแล้ว…ดูท่าไม่พ้นกลับไปวังอุดรไพศาลอะไรนั่น เพื่อรายงานเรื่องราวแน่…”
กู่ลี่ที่มองแผ่นหลังชราที่กำลังจะหายลับไปในเส้นขอบฟ้าช้าๆ ก็กล่าวเตือนต้วนหลิงเทียนเสียงเข้ม
“ปล่อยมันไปเถอะ”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ จะอย่างไรชายชราคนนั้นก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภา ด้วยสภาพร่างกายของเขาตอนนี้ต่อให้คิดจะหยุดอีกฝ่ายเอาไว้ก็เกรงว่าคงทำไม่ได้…
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เขาดันทุรังจนสามารถตามไปฆ่ามันได้จริงๆ แต่ในวันนี้พยานที่เห็นเขาฆ่าหยางหวู่ไม่ทราบมีกี่พัน สุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องแพร่ไปถึงหูวงอุดรไพศาลอยู่ดี…
ยิ่งเวลาผ่านไปผู้คนก็ทยอยกันมารวมตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และบัดนี้ก็เวลาก็ล่วงเลยมาถึงยามเที่ยงแล้ว
หลังจากแนวเทือกเขาใหญ่โต ก็เป็นพื้นที่ของแท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งสิ้น ตอนนี้มีกลุ่มคนมากมายเหินบินรวมตัวกันอยู่เหนือน่านฟ้าพื้นที่ดังกล่าวอย่างเนืองแน่น มองจากไกลๆคล้ายเป็นเมฆดำทะมึนก้อนหนึ่ง แทบจะแผ่ขยายปกคลุมเมืองเล็กๆได้ไม่ยาก
และตอนนี้ทุกสายตาของคนทั้งหมด ก็แหงนขึ้นไปมองยังฟ้าสูงอย่างจดจ่อ
ปรากฏร่าง 8 ร่างเหินลอยอยู่ที่นั่น
ในบรรดาร่างทั้ง 8 ร่างนั้นมีชายชรา หญิงชรา ชายวัยกลางคน กระทั่งชายหนุ่มหญิงสาว…
เถิงชานกับหลี่อันก็รวมอยู่ในนั้นด้วย…