WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1927
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1927
ตอนที่ 1,927 : ข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว!
“ตายเสีย!!”
เมื่อเสียงคำรามด้วยอำมหิตของกู่หลังดังก้องออกมา เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับหยุดหายใจอย่างพร้อมเพรียง! สองตาจับจ้องมองชมเรื่องราวเบื้องหน้าอย่างลุ้นระทึก!!
ห่าพลังสังหารที่โถมถันเข้าไปนั้น เป้าหมายของมันก็ร่างชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ลอยร่างอยู่เพียงลำดัง..
มองไกลๆร่างชายหนุ่มคล้ายอ่อนแอบอบบางจนแทบมิอาจต้านลม
“ปีกอีกาทองคำ!”
เมื่อเห็นห่าพลังกระบี่สังหารที่โถมถันเข้ามาด้วยความเร็วเหนือล้ำของกู่หลง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตื่นตัว เร่งกล่าวพึมพำออกมาเสียงเข้มทันที
และทันใดนั้นเองพลังงานทั่วร่างที่ปะทุเดือดพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรงเพราะปฐมเวทย์กลืนกิน ก็ทะลักไหลไปควบรวมก่อเกิดปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งที่กลางหลัง! ปีกคู่นี้มหึมากว่าปีกคู่ก่อนหน้านัก และมองไปคล้ายเปลวเพลิงจะลุกโชติช่วงกว่ากันหลายขุม!!
ทว่าสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมันเกิดขึ้นหลากจากปีกนี้ปรากฏขึ้นต่างหาก!
ปีกมหึมาอันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงดังกล่าว พลันสะบัดกระพือลงมาปานฟ้าผ่า!!
ทันใดนั้นเอง
ฟุ่บ! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ชั่วพริบตาที่ปีกสะบัดลงมา มวลอากาศคล้ายม้วนตลบถูกบีบอัดจนแตกระเบิด! ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นลั่นขึ้นไม่หยุด!!
และในเวลาเดียวกันนั้น ร่างต้วนหลิงเทียนแต่เดิมที่ลอยล่องอยู่ท่ามกลางสายตาของผู้คน ก็พุ่งทะยานเหินร่างออกไปไกลด้วยความเร็วอัศจรรย์ที่เหนือล้ำกว่าก่อนหน้าอย่างทาบไม่ติด! หลีกหลบทุกกระบวนท่าสังหารที่กู่หลงซัดออกพ้นทุกท่า!!
อนิจจาห่าพลังกระบี่ และรังสีพลังสังหารจากการลงมือของกู่หลงที่จู่โจมได้เพียงสายลม ก็มิได้สิ้นไร้พลังสภาวะอะไร! ยังคงพุ่งเข่นฆ่าสังหารไปต่ออย่างไม่หยุดยั้ง!!
และทิศทางที่ห่าพลังสังหารพุ่งไป…ก็มีศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬหลายร้อยคนลอยร่างชมดูเรื่องราวอยู่!!
เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกลุ่มนั้นหน้าเปลี่ยนสีทันที เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าสังหารของกู่หลงกำลังพุ่งจี้เข้าหาตัว! พวกมันเร่งหลบกันจ้าละหวั่น! วงแตกทันควัน!!
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ต้วนหลิงเทียนสามารถพุ่งร่างหลีกหลบได้อย่างหมดจด พลังสภาวะของกระบวนท่าจึงมิได้ถูกลดทอนลงมาแม้แต่น้อย ต่างเข่นฆ่าสังหารมาได้ไวเกินกว่าที่พวกมันจะคิดคาดคำนวณได้!
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
…
และเมื่อห่าพิรุณกระบี่กวาดผ่านไป ก็มีเหล่าศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่พลังฝีมืออ่อนด้อยที่สุด 10 คน ที่หลบไม่ทัน สังเวยชีวิตภายใต้sห่าพลังดังกล่าว
เศษซากร่างทั้งเลือดเนื้ออวัยวะกระจัดกระจายไปทั่วน่านฟ้า พาลให้ทุกสายตาตกตะลึงกันไปเป็นแถบ!
ซูด! ซูด! ซูด! ซูด!
…
เห็นฉากสังหารนองเลือดดังกล่าว เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬหลายคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ แผ่นหลังบางคนถึงกับโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อกาฬเย็นฉ่ำ! ใจรู้สึกโชคดีนักที่ไม่ไปลอยร่างอยู่จุดนั้น!!
“เหอๆ…โชคดีนักที่ข้าเลือกจะย้ายมาอยู่ตรงนี้แต่แรก หาไม่แล้วข้าคงต้องพลอยเป็นคนตายไปด้วย!”
เหล่าศิษย์ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยหลายคน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีในใจ
“เป็นไปมิได้!!”
วินาทีต่อมา เสียงไม่เชื่อหนึ่งก็สนั่นลั่นขึ้นก้องฟ้า!
เป็นเสียงของ กู่หลง เอง!
กู่หลงตอนนี้กำลังมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาไม่เข้าใจ อีกฝ่ายกลับสามารถหลีกหลบกระบวนท่าสังหารทั้งหมดที่มันลงมือเต็มกำลังได้ กระทั่งตอนนี้ยังหลีกหนีไปไกลห่างนัก! แววตาที่ใช้มองปีกเพลิงคู่มหึมาที่อยู่กลางหลังต้วนหลิงเทียนยังฉายความยำเกรงขึ้นมาหลายส่วน!!
หากตอนนี้มันยังไม่รู้อีกล่ะก็ ว่าเวทย์พลังที่ต้วนหลิงเทียนสำแดงออกเมื่อครู่เป็นเวทย์พังระดับสูง เห็นทีชีวิตที่อยู่มาหลายปีคงอยู่อย่างเสียเปล่าไร้ค่าเยี่ยงชีวิตสุนัขแล้ว!
ซูด! ซูด! ซูด! ซูด!
…
เมื่อสายตาของเหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬ เบนมาตกยังร่างต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง เสียงสูดหายใจเข้าพลันระงมขึ้นอีกครา!
ก่อนหน้านี้พวกมันสูดหายใจเฮือก เพราะหวาดผวากับการตกตายของสหายเหล่าศิษย์นับสิบๆ
แต่ตอนนี้ทุกคนอดสูดใจเข้าด้วยความตกใจเสียไม่ได้ เมื่อเห็นเวทย์พลังท่าร่างของต้วนหลิงเทียน!
“ช่างเป็นเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวที่น่ากลัวนัก!”
“ด้วยพลังฝึกปรือเพียงเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ ทว่าเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวรูปปีกไฟนั่น กลับทำให้ต้วนหลิงเทียนสามารถปะทุความเร็วหลบกระบวนท่าสังหารของกู่หลงได้อย่างง่ายดาย…เวทย์พลังนั่นของต้วนหลิงเทียนสมควรเป็นเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงเต็มสิบส่วน! กระทั่งต้วนหลิงเทียนยังต้องแตกฉานถึงขั้นตอนไร้ตำหนิแล้วเป็นแน่ หาไม่แล้วคงไม่รวดเร็วฉับไวถึงเพียงนั้น!!”
“เวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงนี่ เกรงว่ายังเหนือกว่าเวทย์พลังประจำแท่นนกไฟเสียอีก!!”
“ปีกเพลิงที่กำลังลุกไหม้นั่นข้ามองแล้วราวกับมันเป็นปีกของต้วนหลิงเทียนจริงๆ…ทำเอาปีกเพลิงที่เกิดจากเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟมองไปคล้ายปีกไก่ไหม้ไฟไปเลยทีเดียว!!”
“นั่นสิ เวทย์พลังนี้ของต้วนหลิงเทียนนับว่าเหนือกว่าเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟจริงๆ!”
“สมควรเป็นเวทย์พลังชั้นสูงมิผิดแน่ ไม่แปลกที่จะเหนือกว่าเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟ!!”
…
เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬทยอยกันคืนสติมาทีละคนๆ เมื่อรู้สึกตัวทุกคนก็โพล่งคำออกมาด้วยความตกใจ ต่างถูกเวทย์พลังนี้ของต้วนหลิงเทียนสร้างความตกตะลึงให้ครั้งใหญ่แล้วจริงๆ!
นั่นเพราะความเร็วของปีกอีกาทองคำมันรวดเร็วเกินไป!!
“ให้ตายเถอะ! ด้วยเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวนั่น ต้วนหลิงเทียนเหมือนจะรวดเร็วเหนือกว่ากู่หลงเสียอีก…ในการปะทะกันครั้งนี้ ต้วนหลิงเทียนอยู่ในสถานะไร้พ่ายแล้ว!!”
“อยู่ในสถานะไร้พ่ายงั้นหรือ? เจ้าใช่ฝันไปหรือไม่! อย่าได้ลืมว่าที่ต้วนหลิงเทียนสามารถมีพลังระดับเดียวกับยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญได้…เป็นเพราะอาศัยเวทย์พลังหนุนเสริม! และเวทย์พลังหนุนเสริมประจำแท่นบูชามังกรครามเองก็มิอาจคงสภาพไว้ได้นาน หลังจากนั้นระดับพลังในร่างมิเพียงจะถดถอยคืนกลับดังเดิม ไม่แน่ว่าอาจจะตกลงไปด้วยซ้ำ!”
“หากเป็นข้าล่ะก็ ตอนนี้ข้าจะรีบหนีไปให้ไกลจากกู่หลงมากที่สุด เพราะเป็นไปมิได้เลยที่กู่หลงจะติดตามไล่ทัน!”
“อืม! หากผู้แซ่ต้วนยังอยากมีชีวิตรอดเห็นทีก็คงต้องกระทำเช่นนั้นอย่างมิอาจเลี่ยง…”
……
ไม่นานเหล่าศิษย์ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ ก็เห็นพ้องต้องกันว่าต้วนหลิงเทียนน่าจะรีบหนีกู่หลง โดยอาศัยพลังอำนาจของเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวนั่นแน่นอน
กู่หลงเองก็ย่อมตระหนักได้ถึงเรื่องราวที่ว่าด้วยเช่นกัน! และเรื่องนี้ก็ทำให้สีหน้าของมันเปลี่ยนไปทันที!
เพราะหากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง เห็นทีวันนี้มันคงไม่อาจฆ่าต้วนหลิงเทียนได้แล้ว!
ไม่จริงหน่า! ไฉนเป็นเช่นนี้ไปได้!?”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้สีหน้ากู่ชุนที่ลอยร่างอยู่ไกลห่างมันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก! แววตาเผยความไม่เชื่อทั้งไม่ยินยอมพร้อมใจถึงขีดสุด!!
“มันกลับถือครองเวทย์พลังร้ายกาจเช่นนี้ได้อย่างไรตั้งสองสาย…! เห็นกันชัดๆว่ามันก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น!!”
เห็นภาพเรื่องราวเบื้องหน้า กู่ชุนได้แต่คำรามร้องร่ำออกมาด้วยความไม่พอใจ ขณะที่ปากตะโกนปาวๆ ในใจยังรู้สึกอิจฉาจับจิต!
“หรือวันนี้…เรื่องฆ่ามันจะทำไม่ได้แล้วจริงๆ?”
กู่ชุนเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
“รีบหนีงั้นเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่ายอมได้ยินเสียงซุบซิบโดยรอบของเหล่าศิษย์เช่นกัน
ทว่าได้ฟังความพวกนี้เขาอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มเย้ยออกมาบางๆ
เขาน่ะหรือจะรีบหนี?
ถึงแม้ว่าพลังอำนาจที่เพิ่มพูนขึ้นจากปฐมเวทย์กลืนกินจะอยู่ได้ไม่นานมาก แต่ก็ยังนับว่านานเกินพอหากคิดจะใช้ฆ่ากู่หลง!!
‘พรสวรรค์รากวิญญาณสีนำเงินของมัน วันนี้ต้องเป็นของข้า!!’
ต้วนหลิงเทียนมองจ้องกู่หลงเขม็งด้วยสองตาที่ลุกวาวไปด้วยความโลภ!
เพราะสำหรับเขาแล้ว พรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินของกู่หลง คือตัวตัดสินที่จะทำให้พรสวรรค์รากวิญญาณของเขายกระดับไปสู่สีเขียว!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
เสียงแตกระเบิดอากาศดังสนั่นลั่นเป็นชุด บางสิ่งเคลื่อนไหวฉับไวเหนือเสียงพุ่งทะลุฟ้าแหวกอากาศ! เป็นต้วนหลิงเทียนที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรเร่งรุดหลบหนี ทว่าไม่เพียงคนไม่หนี…ยังเป็นฝ่ายจี้เข้าหากู่หลงด้วยความเร็วสูงสุดเสียอย่างนั้น!!
“เฮ่ย! ต้วนหลิงเทียนมันไม่รีบหนีไปรึไง! นั่นยังคิดจะทำบ้าอันใดกันอีก!?”
เห็นฉากดังกล่าวเหล่าศิษย์ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะตะลึง
“ฮึ่ม! สบโอกาสดีๆเช่นนี้กลับไม่เร่งรุดหลบหนี เรียกว่าสวรรค์มีทางไม่ยอมเดิน นรกไร้ประตูยังจะมุดไฟ! นับว่ามันเบื่อชีวิตแล้วจริงๆ! พวกเจ้าเห็นไม่ชัดกันหรือไร? ต้วนหลิงเทียนมันพุ่งเข้าใส่กู่หลงแบบนี้ หมายลงมือเอาคืนกู่หลงชัดๆ ท่าทางจะบังเกิดความคิดฆ่าฟันกู่หลงขึ้นมาแล้ว!!”
“ฆ่ากู่หลง? ความเร็วของต้วนหลิงเทียนยามนี้อาจว่องไวเหนือกว่าก็จริง…แต่นั่นก็เพียงมีเปรียบในแง่ความเร็วเท่านั้น นอกเสียจากต้วนหลิงเทียนนั่น จักมีเวทย์พลังสายจู่โมระดับสูงอันใดอยู่อีก…หาไม่แล้วเกรงว่าคงยากจะฝ่าม่านพลังคลุมกายของกู่หลงได้!”
“มิผิด! หากกู่หลงชำนาญเวทย์พลังสายป้องกันอันใด แม้จะเป็นเพียงเวทย์พลังระดับกลาง ยามเมื่อเปิดใช้ออกด้วยพลังของเซียนปฐพีขั้นสูงสุด อาศัยพลังอำนาจของต้วนหลิงเทียนที่เทียบได้กับยอดฝีมือเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ คงยากที่จะฝ่าการป้องกันดังกล่าวเข้าไประคายผิวกู่หลงได้!!”
“ยังต้องถึงเวทย์พลังสายป้องกันรึไร? อาศัยแค่วรยุทธ์เซียนระดับนภาทั่วไปก็เอาอยู่แล้ว!!”
……
เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกล่าวออกความเห็นกันอีกครั้ง พวกมันยังมองว่าต้วนหลิงเทียนแส่หาเรื่องแล้วจริงๆ!
เพราะจะอย่างไรหลังจากนี้อีกไม่นาน พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนก็จะถดถอยลงมาดังเดิม! กระทั่งอาจจะถูกผลข้างเคียงจนถดถอยลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ!!
ถึงตอนนั้นแล้ว ต้วนหลิงเทียนที่ไร้เวทย์พลังหนุนเสริม ก็ไม่ต่างใดจากปลาบนเขียง ทำได้แค่รอให้กู่หลงแล่สับฆ่าแกงตามใจชอบ!!
“ไม่หนีงั้นเหรอ? หรือมันยังมีเวทย์พลังสายจู่โจมชั้นสูงอยู่อีก?”
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายปรี่เข้าหามันแทน สีหน้ากู่หลงพลันเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด
มันเองก็ไม่ใช่ว่าจะเชี่ยวชาญเวทย์พลังสายป้องกันอะไร!
หากต้วนหลิงเทียนเกิดเชี่ยวชาญเวทย์พลังสายจู่โจมระดับสูงอะไรอีกสักอย่างจริงๆล่ะก็ คราวนี้มันไม่เพียงขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังต้องเสียข้าวสารไปอีกกำมือแน่แล้ว! กระทั่งมิวายได้ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายแน่!!
‘เรื่องพรรค์นั้นเป็นไม่ได้! ด้วยพลังฝึกปรือเท่านี้ของมันทั้งพรสวรรค์แต่กำเนิด เพียงสามารถแตกฉานเวทย์พลังเสริมการเคลื่อนไหวระดับสูงกับเวทย์พลังสายสนับสนุนที่น่าจักเป็นระดับสูงเช่นกันนั่นก็มากเกินไปแล้ว…มันมิมีทางแตกฉานเวทย์พลังสายจู่โจมระดับสูงอีกสายหรอก!”
กู่หลงที่ฉุกคิดได้ถึงจุดนี้ก็ลอบโล่งใจขึ้นมามาก
‘ข้าเพียงแค่ต้องมุ่งเน้นป้องกันตัวไปสักพักหนึ่ง…ตราบใดที่เวทย์พลังหนุนเสริมของมันสิ้นสุดระยะเวลาแสดงผลแล้วล่ะก็…ยามนั้นคิดฆ่ามันก็คงง่ายดายไม่ต่างใดจากบดบี้ยีมด!!’
กู่หลงยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจ
ชั่วพริบตา ร่างต้วนหลิงเทียนก็บรรลุถึงเบื้องหน้ากู่หลง
กู่หลงเองก็มิได้งอมืองอเท้ายืนรอเฉยๆ ถึงแม้รู้ดีว่าการจู่โจมคงมันคงยากจะแตะต้องถูกตัวต้วนหลิงเทียน มันก็ยังคงระเบิดกระบวนท่าจู่โจมสวนกลับไป!
แน่นอนว่าทุกการโจมตีของมันที่ซัดออก ล้วนถูกต้วนหลิงเทียนหลีกหลบได้อย่างง่ายดาย! คนเพียงอาศัยการเคลื่อนไหวแผ่วพริ้วกายขวาซ้ายเอนแอ่นเพียงเล็กน้อย ก็สามารถหลบกระบี่ด้วยระยะห่างเพียงเส้นขนกั้น!
ตอนนี้ระดับพลังในร่างของต้วนหลิงเทียนมันมีอำนาจทัดเทียมกับเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ และเมื่อใช้ขุมพลังทัดเทียมเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญไปขับเคลื่อนเวทย์พลังปีกอีกาทองคำ เช่นนั้นความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกจึงบรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นต้น!!
ด้วยอาศัยความเร็วนี้ สามารถกล่าวได้เต็มปากว่า เขาอยู่ยงคงกระพันใต้ขอบเขตเซียนนภาแล้วจริงๆ!
และเป็นธรรมดาที่ความเร็วดังกล่าว จะบดขยี้ความเร็วของเซียนปฐพีขั้นสูงสุดได้อย่างขาดลอย! กระทั่งสามารถแสดงชั้นเชิงหลีกหลบอย่างเหนือชั้นได้ไม่ยากเย็น!!
วูบ! วูบ! วูบ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!
……
ต้วนหลิงเทียนที่สามารถหลีกหลบกระบวนท่าของกู่หลงได้ไม่ยากเย็น ก็พยายามตวัดกระบี่ฟันสวนออกไปยังจุดบอดกระบวนท่ากู่หลงไม่หยุดยั้ง และกระบี่ที่เขาตวัดฟันออกไปแต่ละกระบี่ก็ล้วนบรรจุพลังอำนาจของเคล็ดความขั้นที่ 2 ของยอดใจกระบี่เอาไว้ พลังทำลายดังกล่าวก็เทียบได้กับวรยุทธ์เซียนระดับนภาดั้งเดิมทั่วๆไป!
อย่างไรก็ตามพลังกระบี่เพียงเท่านี้ ต่อหน้ากู่หลงย่อมไม่คู่ควรกล่าวถึง
ส่วนวรยุทธ์เซียนสายป้องกันที่กู่หลงใช้ออกเพื่อต้านทานรับกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฟันฟาดออกมาไม่หยุดนั้น มันเป็นเพียงวรยุทธ์เซียนสายป้องกันระดับนภาสามัญเท่านั้น และถึงแม้มันจะยังไม่ได้ฝึกปรือจนบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิ ทว่าด้วยอาศัยพลังเซียนของด่านพลังเซียนปฐพีขั้นสูงสุด ม่านพลังีท่เปิดกางคลุมตัวก็สามารถต้านทานกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฟันมาได้ไม่ยากเย็น!!
เห็นเรื่องราวดำเนินไปในลักษณะนี้ ใจของกู่หลงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา!
เพราะตราบใดที่ระยะเวลาแสดงผลของเวทย์พลังสายสนับสนุนที่ต้วนหลิงเทียนเรียกใช้หมดไปล่ะก็…ถึงตอนนั้นมันคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนก็ง่ายดายนัก!!
“ต้วนหลิงเทียน คราวนี้นับว่าเจ้ารนหาที่ตายแล้วจริงๆ…!!”
กู่ชุนที่ลอยล่องอยู่ไกลห่าง บัดนี้บนใบหน้าเริ่มเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอำมหิตแล้ว
“พอทีข้าเบื่อจะเล่นกับเจ้าแล้ว….”
ในขณะที่ทุกคนกำลังเห็นพ้องต้องกันว่า ต้วนหลิงเทียนคงไร้หนทางฆ่ากู่หลงได้แล้วแน่ๆ ต้วนหลิงเทียนพลันเปิดปากกล่าวคำออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยแผ่วเบาราวกระซิบ…หากทว่าเสียงนี้ก็ดังพอให้กู่หลงได้ยิน!
อีกทั้งแม้เสียงกล่าวจะเบาเพียงใด แต่สำหรับกู่หลงแล้วมันกลับสนั่นก้องดังปานฟ้าลั่นในหู!!
ยังทำให้หน้าของมันเปลี่ยนสีไปโดยพลัน!
‘มัน…มันยังซุกซ่อนพลังฝีมือเอาไว้งั้นเหรอ!?’
ใจกู่หลงบังเกิดความคิดดังกล่าวผุดวาบขึ้นมาก่อนอื่นใด!
และพริบตาต่อมา มันก็แลเห็นได้ชัดเจน ว่าอาณาบริเวณรอบกายต้วนหลิงเทียนกินรัศมี 100 หมี่พลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลง ความว่างเริ่มสะเทือน มวลอากาศสั่นไหว ไอพลังพลังควบรวมจับตัวเพาะสร้างสนามพลังขึ้นมาในชั่วพริบตา!!
สนามพลังทรงกลมสีทองผุดโผล่ขึ้นมาในเวลาดั่งละอองไฟวูบวาบ ยังกลืนร่างกู่หลงลงไปในนั้น ปิดกั้นทุกสายตาของผู้คนด้านนอก!!
“แค่เขตแดนเพียงเท่านี้?”
พอได้เห็นเขตแดนหมื่นกระบี่ของต้วนหลิงเทียนควบแน่นก่อเกิดแล้วเสร็จ ความหวั่นกลัวในใจของกู่หลงก็มลายหายไปทันใด ความรู้สึกดูแคลนหวนคืนกลับมาอีกครั้ง…