WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1943
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1943
ตอนที่ 1,943 : พวกเจ้าสองคน…แส่หาที่ตายเอง!
ก่อนหน้านี้หยวนหงก็บังเกิดความคิดอยากบุกไปแท่นบูชาเต่าทมิฬเพื่อหาเรื่องทุบตีต้วนหลิงเทียน ด้วยคิดล้างแค้นให้ท่านบรรพจารย์ของมัน!
อนิจจาความคิดนี้พึ่งผุดขึ้นไม่ทันไรก็ต้องถูกมันปัดตกไป
มันเป็นศิษย์ของแท่นบูชานกไฟ ไหนเลยจะไปหาเรื่องทุบตีศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬได้ง่ายๆ?
ถึงตอนนั้นเกิดมีศิษย์ยอดฝีมือของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่ไม่พอใจเรื่องคนในแท่นถูกคนนอกแท่นรังแกออกหน้าขึ้นมา ทีนี้ไม่รู้ว่าผู้ใดจะถูกทุบตีแทนแล้ว!
ถึงแม้ว่าบรรพจารย์ของมันจะเป็นถึงอาวุโสหลี่อัน และศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬคงไม่กล้าทำอะไรมันมาก
ทว่าในแท่นบูชาเต่าทมิฬก็มีศิษย์ยอดฝีมืออีกมากมายที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวขึ้นไปกระทั่งรากวิญญาณสีน้ำเงิน และคนเหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์ของเหล่าอาวุโสเพลิงเงินไม่ก็เพลิงทองแดงที่นั่น แต่ละคนย่อมมีความถือดีจองหองในถิ่นตัว เช่นนั้นต่อให้มันจะมีบรรพจารย์เป็นหลี่อัน ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครกล้าลงมือทุบตีมัน!
ด้วยเหตุนี้หยวนหงจึงล้มเลิกความคิดบุกไปหาเรื่องทุบตีต้วนหลิงเทียนที่แท่นบูชาเต่าทมิฬ
“พี่ใหญ่ สหายของต้วนหลิงเทียนเหมือนจะเข้าร่วมแท่นบูชานกไฟของพวกเรา”
ตอนที่มันได้ยินวาจาประโยคนี้ของน้องชาย มันก็รู้สึกเสมือนมีแสงสว่างสาดส่องลงมาจากฟ้าทันที
ตั้งแต่วินาทีนั้น ชีวิตของกู่ลี่จึงถูกลิขิตไว้ให้ต้องพบกับความยากลำบาก…
พี่น้องสกุลหยวนคู่นี้ ขยันมาหาเรื่องกู่ลี่ทุกครั้งที่มีโอกาส 2 วันทุบตี 3 วันทรมาน แต่แน่นอนว่าทั้งคู่ไม่ได้ลงมือร้ายแรงถึงขั้นทำให้กู่ลี่ตกตายหรือพิการอะไร พวกมันเพียงทุบตีกู่ลี่ด้วยวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น…
และจุดประสงค์เพียงหนึ่งเดียวของพวกมันก็คือ…
ให้กู่ลี่หลอกล่อต้วนหลิงเทียนมายังแท่นบูชานกไฟแห่งนี้ให้ได้!
ในสายตาของหยวนหง
ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนมาถึงถิ่นแท่นบูชานกไฟของมันจริง คิดหาเรื่องทุบตีผู้คนก็เป็นอะไรที่ง่ายดายนัก!
โชคไม่ดีที่ไม่ว่าพวกมันจะทุบตีทรมานกู่ลี่มากเพียงใด อีกฝ่ายก็กระดูกแข็งหัวรั้นไม่แม้จะปริปากร่ำร้องเพียงครึ่งคำ แต่ต้นจนจบไม่มีคิดคดทรยศต้วนหลิงเทียนแม้เพียงเสี้ยว!
เรื่องนี้ทำให้พี่น้องสกุลหยวนรู้สึกจนใจไร้หนทางอยู่บ้าง
ด้วยเหตุนี้พอเห็นต้วนหลิงเทียนโผล่หัวมาถึงแท่นบูชานกไฟด้วยตัวเอง พวกมันจึงรู้สึกตื่นเต้นกันนัก!คล้ายสุนัขข้างถนนสองตัวพบพานกระดูกติดเนื้อชิ้นโตให้เติมเต็มซอกฟัน!!
“กู่ลี่รึ? อ้อมันพักอยู่บ้านพักชั้น 3 หลังนั้นน่ะ!”
ตอนนี้ในที่สุดหลังจากต้วนหลิงเทียนตระเวนถามจนคอแห้งในที่สุดฟ้าก็ไม่ละทิ้งคนเพียร เขาได้ค้นพบบ้านพักชั้น 3 ของกู่ลี่เสียที จึงเร่งกล่าวขอบคุณศิษย์แท่นบูชานกไฟคนนั้นจากใจ “ขอบคุณพี่ชายท่านนี้มาก!”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว คู่พี่น้องสกุลหยวนไหนเลยจะไม่สังเกตเห็น และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะเหินร่างไปยังบ้านพักชั้น 3 ของกู่ลี่ หยวนหงพลันกล่าวกับหยวนค่วงออกมา “ดูเหมือนเจ้านั่นมันจะพบบ้านพักของกู่ลี่แล้ว เจ้าไปล่อกู่ลี่ออกมา ส่วนข้าจะจัดการต้วนหลิงเทียนนั่น!”
ทันใดนั้นร่างหยวนหงกับหยวนค่วงก็ทะยานออกไปปานอัสนี มุ่งตรงไปยังทิศทางบ้านพักชั้น 3 ของกู่ลี่เช่นกัน
“หืม?”
ความเคลื่อนไหวของหยวนหงกับหยวนค่วงย่อมดึงดูดความสนใจของต้วนหลิงเทียนเป็นธรรมดา เขาที่กำลังเหินร่างอยู่เมื่อสัมผัสว่ามีคนพุ่งเข้ามาจึงหยุดร่างลงทันที
และไม่ทันที่เขาจะได้รู้ตัวอะไร หยวนหงที่ทะยานมาฉับไวก็ได้ลงมือลอบทำร้ายเขาเข้ามาแล้ว! ฝ่ามือพลังไร้ภาพขุมหนึ่งซัดทะลุอากาศปรี่เข้ามาหาเขาอย่างที่ไม่ทันให้ตั้งตัว!!
ปง!!
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงการลอบทำร้าย ก็เรียกว่าสายเกินไปที่จะหลีกหลบ ที่ทำได้มีเพียงเร่งเร้าโคจรพลังเซียนสุริยันขุมหนึ่งให้ทะลักเชี่ยวผ่านชีพจรเซียน 99 สายดั่งน้ำหลาก ผนึกควบแน่นก่อเกิดเป็นม่านพลังคลุมกายทั่วร่าง ป้องกันพลังฝ่ามือที่ลอบทำร้ายมาของหยวนหง!
เนื่องเพราะหยวนหงเองก็ไม่ได้ลงมือกับต้วนหลิงเทียนสุดแรง และต้วนหลิงเทียนเองก็มีจำนวนชีพจรเซียนเหนือล้ำเกินชาวบ้าน พลังทั่วกายดูดเข้าจ่ายออกคล่องแคล่วฉับไวเหนือจินตนาการผู้คน ม่านพลังที่แม้ก่อเกิดในพริบตาก็สามารถลดทอนพลังทำลายไปได้กว่า 8 ส่วน เหลืองเพียง 2 ส่วนที่ซัดกระแทกเข้าร่าง จึงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่บาดเจ็บเล็กน้อยที่ว่า…ต้วนหลิงเทียนก็ยังต้องรู้สึกแน่นหน้าอกเพราะอวัยวะถายในถูกคลื่นพลังสะเทือนไปอยู่บ้าง!
“เจ้าเป็นใคร ไฉนถึงมาลอบทำร้ายข้า?”
สูดลมหายใจเข้าลึกๆคราหนึ่งร่างต้วนหลิงเทียนที่กระเด็นไปเล็กน้อยก็หยุดค้างกลางหาวอย่างมั่นคง มือยกขึ้นปาดเช็ดโลหิตที่ซึมออกมุมปาก กล่าวถามเสียงเย็น
เขาถามตัวเองดู ก็พบว่าไม่เคยเห็นหน้าค่าตาอีกฝ่ายมาก่อนเลย! เช่นนั้นย่อมมั่นใจว่าไม่เคยมีความบาดหมางกับอีกฝ่าย แล้วไฉนคนผู้นี้ถึงได้ลอบทำร้ายเขาอย่างไร้เหตุผล?
ต้วนหลิงเทียนไม่อาจนึกออกได้จริงๆ
“นั่นศิษย์พี่หยวนหงนี่นา!”
“ไฉนศิษย์พี่หยวนหงถึงได้ลอบซัดเจ้าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬนั่นเล่า? อย่าได้บอกข้าว่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬนั่นมันกล้าล่วงเกินอะไรศิษย์พี่หยวนหง?”
….
หยวนหงลงมือซัดต้วนหลิงเทียนแบบนี้ แน่นอนว่าต้องดึงดูดความสนใจของเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟไม่น้อย
หลังจากนั้นไม่นานเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟก็ทยอยกันออกจากที่พัก เพื่อมาชมดูเรื่องราวทันทีหลังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายด้านนอก
“หยวนหง?”
ได้ยินเสียงสนทนาโดยรอบต้วนหลิงเทียนพลันขมวดคิ้วด้วยสงสัย เพราะเขาไม่เคยได้ยินนามนี้มาก่อนเลย
“น้องหลิงเทียน!”
ทว่าทันใดนั้นเองเสียงคุ้นเคยหนึ่งพลันดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียน ทำให้เขาทั้งประหลาดใจทั้งยินดี
“พี่กู่!”
อย่างไรก็ตามพอหันไปมองต้นเสียง สีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนก็เคร่งขึ้นทันใด สีหน้ายังมืดลงแววตากลายเป็นดุร้าย!
เพราะศิษย์แท่นบูชานกไฟคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะพุ่งไปยังบ้านพักของกู่ลี่เมื่อครู่ ตอนนี้ได้หอบหิ้วกู่ลี่ลอยติดตามมาในอากาศ คล้ายกำลังถือวัตถุสิ่งหนึ่ง
อีกทั้งตอนนี้แก้มสองข้างของกู่ลี่ก็บวมช้ำ ใบหน้ายังชุ่มโชกไปด้วยโลหิต! เห็นชัดว่าพึ่งถูกผู้คนทุบตีทำร้ายมาไม่ผิดแน่!!
“น้องหลิงเทียนเจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า! หยวนหงมันคิดทำร้ายเจ้า! มันเป็นศิษย์หลานของหลี่อัน! ยังเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นแล้ว!!”
กู่ลี่ที่ใบหน้าบวมช้ำทั้งชุ่มโชกไปด้วยโลหิต ตะโกนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
หากมันไม่ได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียนเมื่อครู่ และกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะตกอยู่ในอันตรายโดยไม่รู้ตัว มันคงคิดว่าเป็นหยวนค่วงที่มาหลอกให้มันออกจากบ้านเป็นแน่!
การถูกทุบตีรังแกซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ย่อมทำให้มันรู้ดีว่าควรป้องกันตัวเองอย่างไร
ศิษย์หลานของหลี่อัน?
ครู่ต่อมาความสงสัยดั่งเมฆหมอกทะมึนในใจของต้วนหลิงเทียนก็คล้ายถูกลมบูรพาพัดสลายหายไปสิ้น ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นศิษย์หลานของหลี่อัน เรื่องนี้ก็มีคำอธิบายอันดีแล้ว…
เพี๊ยะ!!
ตอนนี้เองพลันมีเสียงตบหนึ่งดังขึ้นกึกก้องไปในอากาศ เป็นหยวนค่วงที่ใช้พลังไร้สภาพหอบหิ้วกู่ลี่อยู่ข้างๆ ตวัดตบหน้ากู่หลี่ด้วยหลังมือ “ไอ้สวะ! ข้าอนุญาติให้เจ้าพูดได้แล้วหรือ!?”
“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
เห็นฉากนี้สีหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนไปเป็นดุร้ายทันใด พลังเซียนสุริยันโคจรฉับไว ปะทุออกควบรวมก่อเกิดปีกอีกาทองคำ ร่างคนพลันพุ่งตัดฟ้าทะยานเข้าหาหยวนค่วงและกู่ลี่ด้วยความเร็วสูง!
ความเร็วดังกล่าวมองไปดั่งอัสนีบาตฟาดผ่าก็ไม่ปาน!!
“ข้าคิดว่าเป็นเจ้ามากกว่าที่รนหาที่ตาย!!”
ขณะเดียวกัน หยางหงเองก็ปะทุพลังกล้าแกร่งขุมหนึ่ง พุ่งทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนด้วยเช่นกัน!
ด้วยพลังอำนาจของผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนนภาขั้นต้น ความเร็วสูงสุดที่มันปะทุใช้ออกแน่นอนว่าย่อมเหนือกว่าต้วนหลิงเทียนในสภาพนี้ ยังเร็วจนพุ่งแซงไปหยุดขวางต้วนหลิงเทียนเอาไว้ได้
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินอะไร เป็นธรรมดาที่ความเร็วเขาจะยังไม่ว่องไวถึงขั้นเทียบกับเซียนนภาขั้นต้นได้
“ฮ่าๆๆ…ต้วนหลิงเทียน หากคิดช่วยสหายรักกู่ลี่ของเจ้า! เจ้าต้องผ่านพี่ใหญ่ข้าให้ได้เสียก่อน!!”
เห็นฉากเรื่องราวดังกล่าวหยวนค่วงพลันระเบิดเสียงหัวร่อออกมาด้วยความถูกใจทันที
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
……
จากนั้น ต่อหน้าต่อตาของต้วนหลิงเทียน หยวนค่วงพลันสะบัดมือตบหน้ากู่ลี่อีกหลายครั้ง ยิ่งทำให้ใบหน้าที่บวมช้ำของกู่ลี่ยิ่งบวมเพิ่มไปกันใหญ่
ตอนนี้สองตาของกู่ลี่ถลึงโปนแทบจะหลุดออกจากเบ้า ยังฉายชัดถึงความคับแค้นนัก!
อนิจจามันก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนมนุษย์อันเล็กจ้อยเท่านั้น แม้มันจะพยายามเร่งเร้าพลังเซียนในกายมากเพียงใด ก็ไม่วายถูกพลังเซียนขุมหนึ่งสะกดเอาไว้ไม่ให้ใช้ออกได้…
หยวนค่วงอย่างไรก็เป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพี เป็นธรรมดาที่จะสามารถสะกดพลังของกู่ลี่ได้ไม่ยาก!
จังหวะนี้กู่ลี่ที่คับแค้นก็ทำได้เพียงกัดฟันดังกรอดจนกรามแทบแตก!
ตอนนี้มันคับแค้นทั้งเกลียดชังตัวเองนัก! ที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยเกินไป!
ไม่เพียงแต่จะไม่มีปัญญาช่วยศิษย์น้องอย่างต้วนหลิงเทียน กระทั่งยังกลายเป็นภาระของอีกฝ่าย!
เห็นฉากดังกล่าวคราวนี้ต้วนหลิงเทียนไม่พูดอะไรออกมาแม้ครึ่งคำ หากแต่สองตากลับมองหยวนค่วงด้วยความเฉยชาปานมองศพๆหนึ่ง
“เป็นพวกเจ้าบีบคั้นข้าเอง…”
ลำคอต้วนหลิงเทียนสั่นไหวบางเบา เสียงแหบแห้งหนึ่งพลันดังออก
แต่เสียงแหบแห้งนี้กลับเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ ชวนให้ผู้ฝังหนาวสะท้านไม่น้อย เหล่าผู้คนที่ออกมาชมดูเรื่องราวไม่ทราบเพราะอะไรแต่ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บ ขนทั่วร่างยังลุกตั้งชันขึ้นมา!
พร้อมกันนั้นเองจิตสังหารอันน่ากลัวขุมหนึ่งก็ทะลักออกมาตลบไปทั่วร่างต้วนหลิงเทียน ราวกับเป็นจิตฆ่าฟันอันไร้จำกัด!
“ต้วนหลิงเทียน?”
“เจ้านั่นคือต้วนหลิงเทียนงั้นเหรอ!? ต้วนหลิงเทียนแห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬคนนั้น!?”
“ชุดคลุมที่มันสวมใส่อยู่ปักลายเต่าทมิฬ…เช่นนั้นก็มิผิดคนแน่!”
“ข้าได้ยินมาว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ได้ฆ่าศิษย์คนหนึ่งในแท่นบูชาเต่าทมิฬไปเมื่อ 10 วันก่อน…เห็นว่าศิษย์คนนั้นเป็นอัจฉริยะผู้หนึ่งแถมพลังฝึกปรือยังบรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดแล้ว…หากแต่เพราะอีกฝ่ายลงมือก่อน ต้วนหลิงเทียนจึงกล่าวได้ว่าเพียงลงมือป้องกันตัว เลยมิมีความผิดใด!”
“เห็นว่าพลังฝึกปรือของผู้แซ่ต้วน แม้ยังพึ่งบรรลุเซียนถึงปฐพีขั้นต้นเท่านั้น แต่กลับมีพลังทัดเทียมได้กับยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!”
…
หลังจากยืนยันกันได้แล้วว่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเบื้องหน้า ที่แท้คือต้วนหลิงเทียน ผู้คนโดยรอบก็ฮือฮาขึ้นมาทันที
เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟยังจับจ้องมองร่างต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลุกวาว คล้ายผู้ล่าพบพานเหยื่ออันโอชะอย่างไรอย่างนั้น
วันนี้ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงเป็น ‘คนดัง’ ในแท่นบูชาเต่าทมิฬเท่านั้น แต่เขายังเป็น ‘คนดัง’ ของแท่นบูชาทั้ง 4 อีกด้วย!
เช่นนั้นทันทีที่เหล่าศิษย์ของแท่นบูชานกไฟได้รับทราบว่า ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเบื้องหน้าที่แท้คือต้วนหลิงเทียน…
ไม่เพียงแต่ศิษย์ในที่เกิดเหตุจะให้ความสนใจอย่างมาก ตอนนี้ด้วยเสียงฮือฮาดังกล่าว ยังทำให้เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟที่ยังคงปิดประตูไม่แยแสเรื่องราวด้านนอกถึงกับต้องรีบเปิดประตูออกมาชมดูเรื่องราวกันจ้าละหวั่น!
ราวกับต้วนหลิงเทียนมีอำนาจวิเศษสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างไรอย่างนั้น!
“ข้าได้ยินเรื่องที่อาวุโสหลี่อันเป็นบรรพจารย์ของศิษย์พี่หยวนหงมานานแล้ว…ดูจากท่าทางศิษย์พี่หยวนหงตอนนี้ ไม่พ้นคิดสั่งสอนบทเรียนต้วนหลิงเทียนเพื่อบรรพจารย์ของตัวเป็นแน่”
“ศิษย์พี่หยวนหงแม้พึ่งทะลวงถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นได้ไม่นาน แต่อย่างไรต้วนหลิงเทียนก็เพียงมีพลังฝีมือทัดเทียมกับยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเท่านั้น…ข้าเกรงว่าคราวนี้คงถึงคราวเคราะห์ของผู้แซ่ต้วนแล้วล่ะ!”
……
เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟในจุดเกิดเหตุต่างคิดว่าถึงคราวซวยของต้วนหลิงเทียนกันแล้วทั้งสิ้น
แต่ทุกคนคิดกันแบบนี้ก็ไม่แปลกอะไร เพราะข่าวเรื่องต้วนหลิงเทียนเอาชนะศิษย์เก่าของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่มีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นยังไม่ได้แพร่กระจายมาถึงที่นี่ หาไม่แล้วพวกมันคงไม่คิดกันไปแบบนี้
และในแง่ของพลังฝีมือ…จางจี้ผู้นั้นก็เสมือนครึ่งก้าวเซียนนภาขั้นกลางเข้าไปแล้ว! กระทั่งยังสามารถใช้เวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงออกมาได้อย่างช่ำชอง!ซึ่งนี่เป็นอะไรที่ ผู้ฝึกตนที่พึ่งทะลวงถึงขอบเขตเซียนภาขั้นต้นอย่างหยวนหงจะนำไปเทียบได้เลย!
และไม่ใช่แค่เพียงผู้คนโดยรอบเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องต้วนหลิงเทียนเอาชนะจางจี้ได้…หยวนหงเองก็ไม่รู้เช่นกัน!!
หาไม่แล้วต่อให้มันมีความกล้ามากกว่านี้อีกสัก 3 เท่า มันก็ไม่กล้ามีเรื่องกับต้วนหลิงเทียน!
“โฮ่! พวกเราบีบคั้นเจ้ารึ?”
ด้วยความไม่รู้พอได้ยินวาจาเย็นเยียบของต้วนหลิงเทียน หยวนหงจึงรู้สึกขบขันนัก ยังอดไม่ได้ที่จะเย้ยเยาะออกมา หน้าระรื่น “แล้วหากพวกเราบีบคั้นเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือเจ้าคิดอาศัยหนึ่งมือพลิกฟ้าได้?”
“วันนี้ข้าจะบอกเอาไว้ ว่าไม่เพียงแต่พวกเราจะทุบตีกู่ลี่ กระทั่งเจ้าพวกเรายังจะทุบตีให้เละ! หากเจ้าคิดจะตำหนิผู้ใด ก็ตำหนิตัวเองที่มีตาแต่ไร้แววกล้าล่วงเกินท่านบรรพจารย์ของข้าเถอะ!!”
เสียงหมิ่นหยามของหยวนหงยังคงดังออกจากปากไม่หยุด
“เป็นพวกหน้าโง่เจ้า…แส่หาที่ตายเอง!!”
เสียงแหบห้าวดังขึ้นอีกครั้ง
และตอนนี้เอง พลันอุบัติวังวนพลังน่ากลัววังวนหนึ่งขึ้นรอบกายโดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง!พลังวิญญาณฟ้าดินท่ามกลางสวรรค์และโลกจำนวนมหาศาลถูกดูดกลืนเข้าร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูง!!