WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1946
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1946
ตอนที่ 1,946 : การเปลี่ยนแปลง…รากวิญญาณสีน้ำเงิน!
“ข้าไม่เพียงแต่จะกล้าฆ่าพี่ชายเจ้าเท่านั้น…ยังกล้าฆ่าเจ้าด้วย!”
หลังฆ่าหยวนหงแล้ว ต้วนหลิงเทียนพลันปรายตาไปมองหยวนค่วงด้วยแววตาเย็นเยียบ จิตสังหารอำมหิตแสนยะเยือกเรืองวาบออกจากลูกตา พาลให้หยวนค่วงถึงกับหวาดผวาจนขวัญหนีดีฝ่อ!
กระทั่งตอนนี้หยวนค่วงยังพบว่าร่างของมันกลับสั่นสะท้านไปอย่างไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนพลันสะบัดมือคราหนึ่ง ก็เขวี้ยงร่างหยวนหงออกไปทางหยวนค่วงราวหมูหมาเข้า ทำให้มันที่กำลังหวาดกลัวอยู่ถูกดึงความสนใจจนลืมกลัวไปชั่วขณะ ร่างทะยานรุดออกไปคว้าศพไร้ชีวิตของพี่ชายทันที
‘หนี!’
เมื่อคว้าร่างไร้วิญญาณของพี่ชายเอาไว้ได้แล้ว มันพลันนึกถึงวาจาก่อนหน้าของต้วนหลิงเทียนได้ออก จังหวะนี้หยวนค่วงไม่กล้าอยู่ต่อปากต่อคำอะไรอีก เพียงลอบตัดสินในใจหมายพาร่างพี่ชายเหินหนีไปให้เร็วที่สุด!
วู้มมม!!
อย่างไรก็ตามในขณะที่หยวนค่วงคิดจะนำร่างไร้วิญญาณของพี่ชายหลบหนีไปนั้น พลันอุบัติสนามพลังขุมหนึ่งแผ่พุ่งออกจากร่างต้วนหลิงเทียนกินรัศมีร้อยหมี่! ม่านแสงสีทองบังตาปรากฏขึ้นอีกคราปิดกั้นทัศนวิศัยของผู้คนให้มิอาจแลเห็นภายใน!!
ด้วยเขตแดนหมื่นกระบี่แผลงอานุภาพออกเช่นนี้ หยวนค่วงที่หอบหิ้วศพหยวนหงย่อมถูกม่านทองกลืนกินไปต่อหน้าต่อตาเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟ ไม่มีใครสามารถมองเห็นเรื่องราวภายในได้อย่างชัดเจนอีกต่อไป
“ว่าอะไรนะ…เมื่อครู่ต้วนหลิงเทียนบอกจะฆ่าหยวนค่วงด้วยงั้นรึ!?”
“ฆ่าหยวนหงไปคนยังไม่พอใจ…นี่ยังจะฆ่าหยวนค่วงด้วย?”
“ดูเหมือนตอนนี้ต้วนหลิงเทียนคิด ‘ปล่อยมือจากหม้อแตก’ เสียแล้ว…มันรู้ว่าอย่างไรการฆ่าหยวนหงก็ต้องโทษถึงตาย เช่นนั้นจึงมินำพาอันใดอีกต่อไป…คิดฆ่าหยวนค่วงด้วยอีกคน!”
(ปล่อยมือจากหม้อแตก = ทำอะไรกับสิ่งตรงหน้าไม่ได้แล้ว จำต้องยอมรับชะตากรรม / มาจากหม้อที่แตกแม้จะใช้มือพยายามปะติดปะต่อเพียงใด ก็ยากจะกลับคืนดังเดิม ทำได้ก็แค่ปลอบใจตัวเองเท่านั้น เช่นนั้นมีเพียงปล่อยมือออกเสีย และยอมรับว่ามันแตกไปแล้ว )
“พี่น้องสกุลหยวนนับว่าโชคร้ายแล้วจริงๆ ที่เจอคนที่ ‘ไร้ปราณี’ กับชีวิตตัวเช่นนี้…พวกมันถึงคราวชะตาขาดแล้วล่ะ”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ช่างอำมหิตต่อตัวยิ่ง!”
…
เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟเริ่มซุบซิบกันเกี่ยวกับต้วนหลิงเทียน หากแต่น้ำเสียงครานี้คล้ายจะเบาลงไปโดยไม่รู้ตัว
ต้วนหลิงเทียนช่างเป็นคนโหดเหี้ยมนัก!
พวกมันล้วนเห็นพ้องต้องกันถึงเรื่องนี้
“ศิษย์พี่กู่ ข้าจะส่งท่านออกไปก่อน”
หลังจากควบรวมพลังสร้างเขตแดนหมื่นกระบี่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่รีบฆ่าหยวนค่วงแต่อย่างใด หันไปมองกล่าวกับกู่ลี่อย่างเป็นทางการ
หลังจากกล่าวบอกกู่ลี่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เปล่งพลังเซียนสุริยันไร้สภาพออกมาขุมหนึ่งอย่างฉับไว ไม่ทันที่กู่ลี่จะทันได้ตั้งตัวอะไร คนก็ถูกมวลพลังหอบหิ้วพาร่างพุ่งออกจากเขตแดนหมื่นกระบี่เสียแล้ว!
ครู่ต่อมาร่างกู่ลี่ที่พุ่งพ้นเขตแดนหมื่นกระบี่ก็เผยสู่สายตาเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟอีกครั้ง และนับว่าดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
“เป็นเจ้าคนแซ่กู่นั่น!”
“ที่ต้วนหลิงเทียนลงมืออย่างไร้ปราณีเช่นนี้ 9 ใน 10ส่วนล้วนมีมันเป็นต้นเหตุแน่ เพราะสมควรเป็นการล้างแค้นให้มันคนเดียว…ตอนนี้ข้าอยากรู้ยิ่งว่ามันมีสัมพันธ์อันใดกับต้วนหลิงเทียนกันแน่?”
……
เมื่อไม่อาจแลเห็นอะไรภายในเขตแดนหมื่นกระบี่ เช่นนั้นเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟจึงหันไปให้ความสนใจกับกู่ลี่ที่พึ่งพุ่งออกมาแทน
“เมื่อครู่หากข้าได้ยินมิผิด…เหมือนต้วนหลิงเทียนจะเรียกหามันว่า ‘ศิษย์พี่กู่’ นะ”
“ศิษย์พี่กู่หรือ? จริงสิข้าจำได้แล้วว่าตอนแรกที่ต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟ…ก่อนมันถูกเลือกไปยังแท่นบูชาเต่าทมิฬและข้าถูกเลือกมาแท่นบูชานกไฟแห่งนี้…เหมือนข้างกายมันจะมีสหายอยู่สองคน หนึ่งในนั้นเป็นกู่ลี่ผู้นี้นี่ล่ะ!”
“เพราะเหตุนี้นี่เอง…เช่นนั้นหมายความว่าเจ้านั่นมันสนิทกับต้วนหลิงเทียนตั้งแต่ก่อนเข้าลัทธิบูชาไฟแล้วสิ”
“ยังไม่ชัดเจนกันหรือไร หากไร้สัมพันธ์กันมาก่อนไหนเลยจะเรียกหาว่าศิษย์พี่กู่เช่นนี้”
“9 ใน 10 ส่วนทั้งคู่สมควรเป็นศิษย์ร่วมสำนักฝักฝ่ายเดียวกันมาก่อนเข้าลัทธิบูชาไฟ…เช่นนั้นก็มิน่าแปลกใจเลยว่าไฉนต้วนหลิงเทียนถึงมีโทสะนัก ถึงขั้นกล้าฆ่าหยวนหงจนไม่คิดถึงตัวเอง!”
…………
เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟฮือฮากันขึ้นมาอีกครั้ง ฟังจากวาจาน้ำเสียงแล้ว คล้ายมันไม่เห็นด้วยเลยที่ต้วนหลิงเทียนจะมาฆ่าหยวนหงเพราะเรื่องเท่านี้
ในสายตาของพวกมัน
ต้วนหลิงเทียนทำแบบนี้ยังต่างอะไรกับรนหาที่?
หากละเมิด ‘กฏ’ ห้ามเข่นฆ่าศิษย์สหายร่วมนิกายหรือทำให้พิการอันใดล่ะก็…โทษตายสถานเดียว!
“น้องหลิงเทียน!”
อย่างไรก็ตามกู่ลี่ที่ถูกต้วนหลิงเทียนผลักไสออกจากเขตแดนไม่ทันได้แยแสอะไรเสียงซุบซิบนินทาของผู้คนโดยรอบ มันร้องเรียกหาศิษย์น้องออกมาด้วยสองตาระริก
เพราะฟังจากสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับหยวนค่วงเมื่อครู่ ไม่พ้นต้วนหลิงเทียนต้องฆ่าหยวนค่วงต่อแน่! การผลักไสมันออกจากเขตแดนเช่นนี้มิแคล้วเพราะมิอยากให้มันติดร่างแหข้อหาฆ่าคนไปด้วย!!
เพราะตอนนี้หยวนค่วงอยู่ในเขตแดนของต้วนหลิงเทียน หากมันอยู่ในเขตแดนด้วยอีกคน ไหนเลยจะรอดพ้นข้อหาสมรู้ร่วมคิดฆ่าคนได้? ถึงยามนั้นเกรงว่าต่อให้มันโดดลงแม้น้ำฮวงโหหมายล้างตัว ก็ยากจะล้างคำครหาได้หมด…
ภายในเขตแดนหมื่นกระบี่นั้น…ต้วนหลิงเทียนค่อยๆย่ำเหยียบอากาศเดินไปหาหยวนค่วงทีละก้าวๆ
ตึง! ตึง! ตึง!
……
ทุกย่างก้าวที่ต้วนหลิงเทียนย่ำเข้าหา คล้ายหินใหญ่กระแทกกระทั้นเข้ากลางอกหยวนค่วงอย่างแรง พาลให้ใบหน้ามันซีดลงจนไร้สีเลือด ขณะเดียวกันลมหายใจก็ถี่รัวขึ้นมา หัวใจพลอยเต้นเร็วรี่ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“จะ…เจ้าจักทำอันใด…นั่นเจ้าคิดจะทำอะไร!?”
เผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนที่ย่ำอากาศเข้ามา หยวนค่วงได้แต่กอดศพพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว
“ทำอะไร? แน่นอนว่าฆ่าเจ้า…”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเบาไม่แยแส คล้ายพูดถึงเรื่องราวไม่สลักสำคัญ
“ไม่! เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้! หากเจ้าฆ่าข้าย่อมละเมิดกฏ! คราวนี้ลัทธิบูชาไฟไม่มีทางละเว้นเจ้าแน่!!”
ม่านตาหยวนค่วงหดเล็กลง หน้ามันเสียไปไม่เป็นท่า นอกจากนั้นยามกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเสียงยังสั่นเครือนัก!
“ข้าก็ฆ่าพี่ชายเจ้าไปคนแล้วไง หรือนั่นยังไม่ใช่ละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟ?”
ได้ยินวาจาอกสั่นขวัญแขวนด้วยความหวาดกลัวของหยวนค่วง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มแสยะกล่าวเย้ยออก “จะ 1 หรือ 2 ฆ่าคนก็คือฆ่าคนฆ่าพวกเจ้าพี่น้องทั้งคู่แล้วมันจะต่างกันตรงไหน?”
เปรี๊ยง!!
ได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียน สีหน้าหยวนค่วงแต่เดิมที่ไร้เลือดฝาดบัดนี้เริ่มซีดเผือดหาสีสันไม่เจอด้วยรับทราบดีว่าตอนนี้มันกำลังมีปัญหาหนักแล้ว…
และในช่วงเวลาแห่งความเป็นตายหยวนค่วงที่หน้าซีดเสียขวัญ ในที่สุดก็เลือกจะคุกเข่ากลางอากาศ ทั้งคลานเข่าไปหาต้วนหลิงเทียนอย่างน่าสมเพช
“ศะ…ศิษย์พี่หลิงเทียน! ได้โปรดยกโทษให้ข้าเถอะ…ข้ายินดีไปขอขมาศิษย์พี่กู่ลี่อย่างดี ขอเพียงแต่ศิษย์พี่หลิงเทียนเมตตาละเว้นชีวิตข้าสักครั้ง ต่อให้ศิษย์พี่กู่ลี่จะทุบตีข้ากลับอย่างไรข้าจักมิตอบโต้แม้แต่น้อย…ข้ายังหนุ่มแน่นยังมิได้ใช้ชีวิตอันใดข้ามิอยากตาย! ข้ายังมิอยากตาย!!”
“ศิษย์พี่หลิงเทียน ขอเพียงท่านเมตตาละเว้นปล่อยข้าไปสักครั้ง ข้ายินดีสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าข้าจักเป็นพยานให้ท่าน! ทั้งหมดเป็นเพราะพี่ชายของข้าคิดลงมือฆ่าท่านก่อน ที่ท่านฆ่าพี่ข้าก็เพียงป้องกันตัวเท่านั้น! พี่ข้าตกตายย่อมเป็นเรื่องสมควร ตราบใดที่ข้าเป็นพยานให้ท่าน ก็ถือว่าท่านมิได้ละเมิดกฏลัทธิอันใด!!”
เพื่อความอยู่รอดของตัวเองแล้ว…หยวนค่วงไม่ลังเลที่จะขายพี่ชายที่ศพยังอุ่นๆแม้แต่น้อย
มีเรื่องสำคัญหนึ่งที่จำเป็นต้องรู้ไว้ก่อน แต่ต้นจนจบด้วยกริ่งเกรงกฏฆ่าคนของลัทธิบูชาไฟ การลงมือของหยวนหงจึงไร้จิตสังหาร เพราะมันไม่ได้คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนเลยสักครั้ง…
เพียงแค่อยากทุบตีต้วนหลิงเทียนให้เละถึงขั้นตายเสียดีกว่าอยู่เท่านั้น!
ได้ยินคำพูดของหยวนค่วง แววตาของต้วนหลิงเทียนพลันฉายความรังเกียจสะอิดสะเอียนออกชัดเจน
ตอนที่หยวนหงมันลงมือจู่โจมใส่เขาก่อนหน้าแม้การลงมือจะไร้เมตตาแต่ก็ไม่มีจิตสังหารเคลือบแฝง เขาเองก็เห็นชัดว่าหยวนหงไม่ได้คิดฆ่าเขา…
แต่แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่าที่หยวนหงไม่ได้คิดฆ่าเขาไม่ใช่เพราะมันใจดีมีเมตตาอะไร มันก็แค่หวาดกลัวกฏของลัทธิบูชาไฟเท่านั้น
อย่างไรเสียกฏลัทธิบูชาไฟก็ตราไว้ชัดว่าห้ามมิให้ฆ่าศิษย์ร่วมลัทธิ!
อย่างไรก็ตามการที่หยวนหงหวาดกลัวกฏของลัทธิบูชาไฟ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้วนหลิงเทียนจะหวาดกลัวกฏของลัทธิบูชาไฟเหมือนมัน!
เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นสภาพกู่ลี่ถูกทำร้ายอย่างไร ยังถูกหยวนค่วงตบทำให้อับอายขายหน้าอย่างไร เขาก็ตัดสินโทษตายให้พวกมันพี่น้องทันที!
และตอนนี้หยวนหงก็ตกตายไปแล้ว เหลือแค่เพียงส่งหยวนค่วงไปตามทางเท่านั้น…
“ทุกการกระทำย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย…เรื่องนี้ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น!”
เมื่อเห็นว่าหยวนค่วงผู้นี้เพื่อความอยู่รอดของตัวกระทั่งพี่ชายแท้ๆยังขายได้ ต้วนหลิงเทียนก็คร้านเสวนาไร้สาระกับมันสืบไป และก่อนที่หยวนค่วงจะทันได้กล่าวคำอะไรสืบต่อ มือพลันตวัดจี้ดัชนีกระบี่ออกไปฉับไว ฆ่าหยวนค่วงทันที!
รวบรัดหมดจดนัก!
กระทั่งหยวนหงที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นยังตายตกคามือต้วนหลิงเทียน หยวนหงที่เป็นเพียงขอบเขตเซียนปฐพีไหนเลยจะต้านทานต้วนหลิงเทียนได้
“ผู้เฒ่าหั่ว!”
หลังฆ่าสองพี่น้องสกุลหยวนแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เร่งติดต่อผู้เฒ่าหั่วในเจดีย์ทันที
เขาต้องการให้ผู้เฒ่าหั่วช่วยชักนำสำนึกเทวะของเขาไปยังรากวิญญาณของพวกมัน เพื่อระบุตำแหน่งที่แน่ชัดของพรสวรรค์รากวิญญาณพวกมัน!
เขาคิดกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของสองพี่น้องสกุลหยวน!
เดิมทีเขาก็อยากยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของตัวเองอยู่เป็นทุน! คราวนี้เรียกว่าสองพี่น้องสกุลหยวนมันรนหาที่ตายโดยการมาขวางทางปืนเขาเอง!!
แต่แน่นอนว่าการที่ต้วนหลิงเทียนตัดสินใจฆ่าพี่น้องสกุลหยวนแต่แรกนั้น ไม่ใช่เพราะอยากสูบกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมัน เพียงแค่เขาทนไม่ได้ที่เห็นกู่ลี่ถูกพวกมันรังแกเท่านั้น…
สำหรับความคิดสูบกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมัน พึ่งจะมาเกิดขึ้นภายหลังในขณะที่เขาประมือกับหยวนหงเท่านั้น…
เขาจึงไม่ลังเลที่จะเสี่ยงต่อการละเมิด ‘กฏ’ ของลัทธิบูชาไฟภายใต้สายตาของทุกคน และฆ่าหยวนหงอย่างอำมหิต
ไหนๆก็ฆ่าหยวนหงไปแล้ว เขาจึงคิดฆ่าหยวนค่วงมันอีกคน!
“พรสวรรค์รากวิญญาณของมันเป็นสีเขียวเข้ม”
สำนึกเทวะของผู้เฒ่าหั่วชักจูงสำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนล่วงล้ำเข้าสู่ส่วนลึกดวงจิตของหยวนหงทันที ยังกล่าวบอกต้วนหลิงเทียนให้รู้ชัดว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของอีกฝ่ายเป็นสีเขียวเข้ม!
พรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวเข้มแน่นอนว่าเป็นของดีสำหรับต้วนหลิงเทียนตอนนี้นัก!
“เหมือนกับพรสวรรค์รากวิญญาณของข้าตอนนี้หรือ!?”
ได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
หากพรสวรรค์รากวิญญาณของหยวนหงมันอ่อนด้อยเกินไป ต้วนหลิงเทียนก็ไม่แน่ใจว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาจะยกระดับพัฒนาไปเป็นพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินได้หรือไม่ หลังจากสูบกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของมันไปแล้ว…
มาตอนนี้พอได้ยินวาจาดังกล่าวของผู้เฒ่าหั่ว เขาย่อมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น!
“นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์รากวิญญาณของหยวนค่วงอยู่อีก…”
นอกจากนั้นตอนนี้ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงกำลังจะกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของหยวนหงเท่านั้น เขายังจะได้กลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของหยวนค่วงอีกด้วย!
หลังจากนั้นไม่นานนัก ต้วนหลิงเทียนก็สามารถกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวเข้มของหยวนหงได้สำเร็จ!
“ตอนนี้พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินอ่อนแล้ว…ขอแสดงความยินดีด้วย”
เสียงที่ดังขึ้นรอบนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกยินดีปรีดานัก!
รากวิญญาณสีน้ำเงิน!
พรสวรรค์รากวิญญาณของเขายกระดับพัฒนาแล้ว!มันไม่ใช่สีเขียวเข้มอีกต่อไป!!
“ให้ตาย…ตอนนี้ความไวต่อสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินข้ากลับมากกว่าก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า!”
หลังได้ฟังคำผู้เฒ่าหั่วต้วนหลิงเทียนก็รีบจับสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบก่อนอื่นใด เขาพบว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณฟ้าดินมากกว่าเดิมถึงสองเท่า ย่อมหมายความว่าเขาสามารถดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเข้าร่างได้มากกว่าเดิมถึงสองเท่า!!
สำหรับต้วนหลิงเทียน นี่คือการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ!
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกยินดีทั้งพึงพอใจอย่างมาก!