WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1964
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1964
ตอนที่ 1,964 : ไสหัวออกไปให้พ้นสายตาข้า!
‘ตลอดทางที่ผ่านดูเหมือนจะไม่มีอาวุโสในเขตลงทัณฑ์คอยเฝ้ามองอะไร…แต่ไม่มีทางที่จะไม่มีใครจับตามองอยู่แน่’
มาถึงตรงนี้ต้วนหลิงเทียนก็หันมองไปรอบๆ ค่อยคิดไปกับตัว ‘ผู้เฝ้ามองไม่พ้นต้องซ่อนตัวและคอยจับตาดูอยู่ในที่ลับ’
อาวุโสในเขตลงทัณฑ์นั้นถึงแม้จะเป็นเพียงอาวุโสระดับเพลิงทองแดง
ทว่าง่ายดายนักที่จะซ่อนตัวจากศิษย์ของแท่นบูชาจตุรลักษณ์ เพราะอย่างไรพวกมันก็มีพลังฝึกปรือบรรลุเซียนสวรรค์แล้วทั้งสิ้น
แต่ศิษย์ของแท่นบูชาจตุรลักษณ์อย่างดีก็เป็นได้แค่เซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ! หากเป็นผู้ที่มีพลังฝึกปรือเหนือกว่านั้น ล้วนแทบผ่านการทดสอบประเมินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในไปหมดสิ้น
ดังนั้นต้วนหลิงเทียนค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าศิษย์ในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้ ผู้ที่มีพลังฝีมือกล้าแข็งที่สุดก็สมควรเป็นเพียงยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาชั้นเขี่ยวชาญเท่านั้น
‘ตรงนั้นว่าง ไม่มีคนอยู่…’
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็กวาดตามองจนเจอสายแร่หินเซียนที่ว่าง ไร้ผู้ใดขุดหินเซียนที่มุมหนึ่ง
หลังจากเข้าไปใกล้ๆต้วนหลิงเทียนก็ยกมือขึ้นมาจี้นิ้วต่างกระบี่
ชิ้ง!
ทันใดนั้นดัชนีต่างกระบี่ก็สะบัดออก ซัดรังสีพลังกระบี่ขุมหนึ่งไปยังสายแร่หินเซียน
อย่างไรก็ตามหลังจี้ดัชนีกระบี่ออกไป ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักว่า
สายแร่หินเซียนที่เขาสนใจนั้น หลังถูกรังสีพลังกระบี่ของเขาไปแล้ว แม้มันจะพังทลายลงมาแต่กลับไร้หินเซียนสักก้อน มีเพียงหน้าดินและหินที่ถล่มลงมาเท่านั้น
“อ้าว…แล้วหินเซียนข้าล่ะ ไม่มีเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนอึ้งเล็กน้อยหลังเห็นกองดินที่ถล่มออกมาจากสายแร่หินเซียน
ตอนแรกเขาคิดว่าอาศัยดัชนีกระบี่นี้สมควรขุดหินเซียนออกมาได้หลายก้อนแน่ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าสายแร่หินเซียนที่เขาสัมผัสได้จะมีแต่เปลือก ที่แท้กลับไร้หินเซียนอะไรอยู่
บ้าจริง!
ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ!
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังสบถอยู่ในใจ หลายคนที่เดินตามเขามาก็ถึงกับสองตาลุกวาวทันที
“สายแร่หินเซียนมีหรือมิมีหินเซียนสังเกตได้ง่ายเช่นนั้น…แต่มันยังมิรู้หรือ?”
“นั่นสิ มันไปทุบผนังว่างเปล่าทำอะไร มิใช่แค่แผ่สำนึกเทวะออกไปก็สัมผัสได้ง่ายๆแล้วหรือไร ว่าสายแร่หินเซียนจุดใดสมควรมีหินเซียนอยู่?”
“มือใหม่! มันต้องเป็นผู้ที่มาใหม่แน่!!”
“ดูเหมือนว่าตะกร้าใบใหญ่พิเศษด้านหลังของมันล้วนได้รับมาเพราะโชคจริงๆ! แม้ข้ามิรู้ว่าไฉนอาวุโสถึงปล่อยตะกร้าใบใหญ่พิเศษออกมาผิดเวลา แต่ข้ามั่นใจนักว่ามันเป็นหน้าใหม่แน่!”
“ฮึ่ม! หน้าใหม่ไหนเลยจะคู่ควรกับตะกร้าใหญ่พิเศษ”
…
ขณะเดียวกันกับที่เห็นต้วนหลิงเทียนปล่อยไก่ เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่ติดตามมาก็ส่งเสียงพูดคุยกันสนุกสนาน ทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่าต้วนหลิงเทียนไม่คู่ควรจะใช้ตะกร้าใหญ่พิเศษ!
ครู่ต่อมา สองตาของพวกมันทั้งหมดก็ลุกวาวขึ้นมาด้วยความโลภ!
วูบ!
ในขณะที่ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์เหล่านี้ตัดสินใจจะลงมือนั้นเอง กลับมีร่างหนึ่งพุ่งวาบมาด้วยความเร็วสูง ตัดหน้าคนทั้งหมด!
พริบตาร่างดังกล่าวก็บรรลุถึงเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน
ขณะที่สัมผัสได้ว่ามีคนพุ่งเข้ามาหยุดยืนหน้าเขา ต้วนหลิงเทียนก็ถอยหลังกลับไปไม่กี่ก้าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน มองพินิจผู้ปรากฏตัวอันเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งอย่างสงบ กล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มีอะไรหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนมองชายวัยกลางคนร่างสูงเบื้องหน้าที่ยืนตระหง่านปานหอคอย
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะมีส่วนสูงถึง หนึ่งหมี่แปด (180 ซม.) แต่เขาก็แลดูตัวเล็กจ้อยทันทีเมื่อเทียบกับชายวัยกลางคนผู้นี้ที่แลแล้วสมควรสูงไม่ต่ำกว่า สองหมี่!
“เจ้าพึ่งมาใหม่รึ?”
ชายวัยกลางคนเปิดปากกล่าวถาม เสียงถามไถ่ของมันยังดังยิ่งกว่าระฆังวัด พาลให้ผู้ฟังที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยสะท้านไปทั้งร่าง
และเมื่อชายวัยกลางคนกล่าวถามประโยคนี้ออกมา ศิษย์ทั้งหลายก็เร่งรุดมามุงชมดูเรื่องราวกกันทันที
กระทั่งศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่ขุดหาหินเซียนอยู่ก็หยุดมือ
ผู้ใดก็ตามที่ถูกลงโทษให้มาใช้แรงงานที่เขตลงทัณฑ์ของเหมืองลำดับ 1 แห่งนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องกระทำสิ่งเดิมซ้ำซากจำเจทุกวัน ใจย่อมเบื่อหน่ายหนักหนาแล้ว
ดังนั้นเมื่อคล้ายจะมีคนต่อยตีกัน พวกมันจึงรีบเร่งรุดไปดูเรื่องบันเทิงใจทันที!
เพราะนี่ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่สร้างความบันเทิงใจให้พวกมันได้ภายในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้ อีกทั้งพวกมันก็ไม่ต้องจ่ายราคาอะไรก็สามารถชมดูการแสดงให้เพลินตาได้แล้ว
“มีเรื่องอันใดกันรึ?”
“นั่นมิใช่หนิวคงหรือไร? หรือมีคนหาเรื่องหนิวคง?”
“หืม? เจ้าหนุ่มที่กำลังจ้องหน้าหนิวคงนั่นมันกลับมีตะกร้าใบใหญ่พิเศษ…แต่หน้านี้ข้ากลับไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?”
“เป็นหน้าใหม่หรือไม่? แต่ถึงมันจะมีตะกร้าใบใหญ่พิเศษทว่านับจากเวลาแล้วมันไม่ถูกต้องอยู่บ้าง…หรือตะกร้าใบใหญ่พิเศษที่หลังนั่น…มันจะไปปล้นมาจากผู้อื่นกัน?”
“หากเป็นผู้ที่มีพลังฝีมือเหนือกว่าผู้ครองตะกร้าใบใหญ่พิเศษคนใดคนหนึ่งในบรรดา 89 คนล่ะก็…นั่นหมายความว่าพลังฝีมือหนิวคงย่อมมิอาจเทียบมันได้ เช่นนั้นนี่ไม่ใช่หาเรื่องเจ็บตัวรึไง?”
……
เหล่าศิษย์ที่มาชมดูเริ่มกระซิบกระซาบกันเสียงดังเซ็งแซ่
อย่างไรก็ตามไม่นานพวกมันก็ได้รับทราบข้อมูลจากศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กลุ่มแรก
“เป็นไปได้หรือที่มันจะไม่รู้วิธีใช้สำนึกเทวะสำรวจหาหินเซียนในสายแร่หินเซียน? กลับไปลงมือขุดบริเวณสายแร่หินเซียนที่ว่างเปล่า?”
“ดูเหมือนจักมีแต่หน้าใหม่แล้วจริงๆ ที่กระทำผิดพลาดในเรื่องง่ายๆเช่นนี้”
“มันสมควรเป็นหน้าใหม่แกะกล่องเชียวล่ะ!”
“หากมันเป็นหน้าใหม่จริง เช่นนั้นหมายความว่าตะกร้าใบใหญ่พิเศษของมันโชคดีได้รับแจกมาโดยที่มันมิต้องทำอะไรเลยน่ะสิ! แต่แปลกยิ่ง…นับจากเวลาแล้วตะกร้าใบใหญ่พิเศษไม่สมควรปรากฏขึ้นในช่วงเวลานี้นี่นา?”
“ลืมเรื่องเวลาไปเถอะ…มองจากการกระทำของมันก็รู้ได้แล้วว่ามันสมควรเป็นหน้าใหม่ ไม่แปลกอะไรที่หนิวคงจะเข้าหามันเช่นนั้น ไม่พ้นคิดชิงตะกร้าน้องใหม่เป็นการรับน้องแล้ว!”
“เหอะๆ มาถึงไม่ทันไรก็ต้องมาเจอพี่หนิวเช่นนี้ ท่าทางน้องใหม่ของพวกเราจะโชคร้ายเสียแล้ว…ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้พี่หนิวพึ่งทะลวงถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!”
……
เหล่าศิษย์แท่นบูชาสนทนากันอย่างออกรส และต่างคิดกันว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนถึงคราวซวยแล้ว ได้ตะกร้าขนาดใหญ่พิเศษมายังไม่ทันใช้กลับมีอันต้องถูกชิงไปเสียอย่างนั้น!
“เซียนปฐพีขั้นสูงสุด?”
ได้ยินเสียงระงมจากโดยรอบโดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าชายร่างใหญ่ปานโคถึกเบื้องหน้าเป็นแค่เซียนปฐพีขั้นสูงสุด ต้วนหลิงเทียน ก็รู้สึกสนุกสนานจนแทบจะยิ้มร่าออก
ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่มีด่านพลังเพียงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด คิดชิงตะกร้าโง่ๆนี่ของเขาจริงๆ?
ร่างกายมันอยากปะทะมากหรือไร ถึงได้มาหาเรื่องเขาต้วนหลิงเทียน?
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนยังอดแปลกใจไม่ได้จริงๆ เพราะกลับมีคนคิดช่วงชิงตะกร้าที่สะพายอยู่หลังเขาจริงๆ!
ชิงตะกร้าเนี่ยนะ!
ไม่ใช่แค่ตะกร้าโง่ๆใบหนึ่งรึไร!?
จนถึงตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงไม่ทราบว่าตะกร้าใบใหญ่พิเศษของเขานั้นหายากและพิเศษมากในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้
เขาคิดว่าตะกร้าใบใหญ่หรือใบเล็กก็อยู่ที่ทุกคนจะเลือก กระทั่งสามารถไปเบิกอุปกรณ์ได้ทุกเวลา ไม่ได้คิดว่าไม่ใช่ทุกคนจะได้รับตะกร้าใบใหญ่…
แน่นอนว่าความคิดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียนก็คงอยู่ได้ไม่นาน
เพราะหลังได้ยินบทสนทนาโดยรอบ ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มจับใจความบางอย่างได้
ที่แท้ก่อนที่เขาจะมายังเขตลงทัณฑ์แห่งนี้ ตะกร้าใบใหญ่พิเศษบนหลังเขากลับมีอยู่เพียงแค่ 89 ใบเท่านั้น!
อีกทั้งตะกร้าใบใหญ่พิเศษทั้ง 89 ใบที่ว่า ล้วนแล้วแต่อยู่ในมือของเหล่าศิษย์ที่มีพลังฝึกปรืออย่างต่ำอยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุด โดยมากยังอยู่ในมือของผู้ที่มีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนนภา!
นอกจากนั้นแม้ผู้มาใหม่อาจมีโชคได้รับแจกตะกร้าใบใหญ่ ทว่ากลับมีเวลาปล่อยของที่ค่อนข้างตายตัว
ครั้งนี้ผู้มาใหม่ที่สมควรได้รับตะกร้าใบใหญ่พิเศษนั้น นับจากเวลาแล้วสมควรไม่ปรากฏออกมาตอนนี้!
‘หรืออาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟคนนั้น จะให้อภิสิทธิ์ข้าโดยการมอบตะกร้าใบใหญ่พิเศษนี้มาให้?’
จังหวะนี้พอตระหนักเรื่องราวได้ ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบางๆ
นี่อาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟคนนั้นใช่ดูถูกเขาอยู่หรือไม่?
คิดว่าเขาไม่อาจอาศัยพลังฝีมือส่วนตัวหาตะกร้าใบใหญ่พิเศษนี้มาด้วยตัวเองจริงๆ?
อย่างไรก็ตามพอคิดอีกครั้ง ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงรู้สึกขอบคุณไม่น้อย เพราะจะอย่างไรนี่ก็เป็นสวัสดิการที่อาวุโสคนนั้นตั้งใจมอบให้เขา วันหน้าหากมีโอกาสเขาจะตอบแทนอีกฝ่ายแน่นอน
“เจ้าหูหนวกหรือไร…บิดาถามเจ้าอยู่ ว่าเจ้าใช่ผู้มาใหม่หรือไม่!?”
ด้วยเสียงสนั่นปานระฆังกังวานขึ้นอีกครั้ง ก็ดึงสติต้วนหลิงเทียนที่กำลังครุ่นคิดเรื่อยเปื่อยให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย ค่อยพบว่าตอนนี้หนิวคงเบื้องหน้ากำลังมองเขาด้วยใบหน้าถมึงทึง!
“อ่า ข้าพึ่งมาใหม่วันนี้น่ะ…แล้วไง เจ้ามีปัญหาอะไรเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบเสียงเบา ในวาจาไม่ขาดความไม่แยแส
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่หนิวคงพึ่งบรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดด้วยซ้ำ ต่อให้หนิวคงตอนนี้จะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุด ก็ยังไร้คุณสมบัติทำให้ต้วนหลิงเทียนหวาดกลัว!
“ดี! ดี! ดีมาก…ไอ้หนูเจ้านับว่ากล้าหาญนัก! ตอนแรกข้าคิดว่าหากเจ้ายินยอมมอบตะกร้าใบใหญ่พิเศษให้ข้าอย่างเชื่อฟัง ข้าจักละเว้นเจ้าสักครา!”
ลูกตาของหนิวคงมองต้วนหลิงเทียนด้วยความเยียบเย็น “ทว่าตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว…มิว่าเจ้าจักเต็มใจส่งมอบตะกร้าใบใหญ่พิเศษนั่นให้ข้าหรือไม่ ข้าจักสอนสั่งบทเรียนเรื่องมารยาทที่พึ่งมีต่อรุ่นพี่ให้เจ้า!”
“เจ้าจักได้จดจำเอาไว้ให้ดี…ว่าในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้ หน้าใหม่สมควรเคารพรุ่นพี่อย่างไร!”
หนิวคงกล่าวคำออกมาด้วยอารมณ์ดุร้าย
และทันทีที่มันกล่าวจบกลิ่นอายพลังกล้าแข็งขุมหนึ่งก็แผ่พุ่งออกมาทั่วร่าง พลังเซียนทั่วร่างของมันบัดนี้โคจรใช้ออกเต็มกำลัง!
“อั้ยหยา! พี่หนิวคงโมโหแล้ว!”
“น้องใหม่คนนี้หาญกล้าจริงๆ! ไม่คิดเลยว่าจะกล้ายั่วโทสะพี่หนิว! มันโดนดีแน่!!”
“หนิวคงแต่เดิมก็อารมณ์ร้อนเป็นทุน ตอนนี้ยิ่งมามีโมโหอีก ข้าเกรงว่าเจ้าหนุ่มนั่นคงไม่ได้แค่เจ็บตัวเบาะๆ”
“ข้าหวังว่าพี่หนิวจะยั้งมือไว้บ้าง หาไม่แล้วน้องใหม่ของเราได้นอนติดเตียงไปหลายเดือนแน่…”
……
เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่เฝ้ามองดูเรื่องราวอยู่ อดไม่ได้ที่จะเผยแววตาเห็นใจออกมาขณะมองต้วนหลิงเทียน
“เจ้าเรียกว่าหนิวกง?”
ภายใต้สายตาของทุกคน ต้วนหลิงเทียนพลันมองกล่าวกับหนิวคงด้วยสายตาเยียบเย็น
“ข้าจะให้โอกาสเจ้า…ไสหัวออกไปให้พ้นหน้าข้าภายใน 3 ลมหายใจเสีย!”
“ไม่อย่างงั้นเจ้าก็เตรียมใจรับผลที่ตามมาได้เลย…”
ถึงแม้ว่าเสียงกล่าวคำของต้วนหลิงเทียนจะไม่ได้ดังอะไร หากแต่ก็ดังพอจะเข้าหูทุกคนที่มุงชมจนได้ยินชัดเจน
ทันใดนั้นทุกผู้คนก็กลายเป็นเงียบกริบ…