WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1996
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1996
ตอนที่ 1,996 : เกาทัณฑ์ดับตะวันที่ถูกลืมไปเนิ่นนาน…
“ไม่เป็นไรหรอก”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา เขาเองก็เห็นได้ชัดว่าหลิวอวิ๋นไม่ได้คิดร้ายอะไร
“หนึ่งแสนคะแนนสะสม…”
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงเรื่องที่หลิวอวิ๋นลงเดิมพันข้างเขาถึง 100,000 คะแนนสะสม สองตายังอดไม่ได้ที่จะหดหยีลง ทว่ามาทันไรสองตาที่หดหยีกลับเบิกกว้างขึ้นมาพร้อมประกายเจิดจ้า ราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ออก!
“พี่หลิวมู่ท่านไปนั่งกับศิษย์พี่หลิวอวิ๋นก่อนเถอะ…ข้าต้องรีบไปพบอาวุโสเนี่ยสุ้ยก่อน!”
ต้วนรีบกล่าวกับหลิวมู่ด้วยรอยยิ้ม กล่าวจบก็ไม่รอให้หลิวมู่ตอบสนองอะไร เร่งเหินร่างมุ่งหน้าไปหาอาวุโสเนี่ยสุ้ย ที่กำลังจะไปประจำการที่แท่นสูงข้างสังเวียนเป็นตาย
“เจ้ามีอะไรหรือ?”
อยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็เหินร่างมาขวางแบบนี้ อาวุโสเนี่ยสุ้ยก็อดไม่ได้ที่จะมองถามด้วยความสงสัย
ขณะเดียวกันหลิวมู่รวมทั้งศิษย์ชั้นยอดทุกคนก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจเช่นกัน “ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงไปหาอาวุโสเนี่ยสุ้ยอีก ทั้งๆที่ใกล้จะถึงเวลาเริ่มการประลองเป็นตายแล้ว?”
เนื่องเพราะนี่ก็จวนเจียนครบกำหนดเวลาเริ่มการประลองเป็นตายเต็มทีแล้ว แต่ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงไม่ขึ้นไปรอบนสังเวียน กลับเหินร่างไปขวางอาวุโสเนี่ยสุ้ยที่กำลังจะขึ้นไปประจำตำแหน่งบนแท่นผู้คุมสังเวียนเสียอย่างนั้น
“อาวุโสเนี่ยสุ้ย!”
ภายใต้สายตาจับจ้องมองด้วยความสงสัยของทุกผู้คน ต้วนหลิงเทียนพลันยกมือขวาขึ้นมา ก่อนที่จะปรากฏเกาทัณฑ์ร้ายๆคันหนึ่งซึ่งตัวเกาทัณฑ์คล้ายถูกไฟหลอมจนละลายแถมมีหลุม 10 หลุมเบี้ยวๆขึ้นมา มองแล้วคล้ายจะพังแหล่มิพังแหล่อยู่รอมร่อ!!
สิ่งเดียวที่ทำให้เกาทัณฑ์คันนี้แลดูดี ก็คือสายเกาทัณฑ์ที่ส่องแสงเรืองๆคล้ายเป็นของดี
แต่ทว่าในบรรดาสายตาดูแคลนทั้งหมด กลับเป็นเนี่ยสุ้ยที่สองตาลุกวาวขึ้นมา คล้ายสัมผัสได้ว่าเกาทัณฑ์บุโรทั่งเบื้องหน้าไม่ธรรมดา!!
นั่นเพราะคนอื่นล้วนอยู่ห่างไกล จึงมิอาจพินิจตัวเกาทัณฑ์ได้ชัด…
ทำให้ทุกคนทำหน้าเบ้ตั้งแต่แรกเห็นทันที ที่ต้วนหลิงเทียนหยิบมันออกมา
“ต้วนหลิงเทียนคิดทำอะไรกันแน่ ไฉนหยิบเกาทัณฑ์เส็งเคร็งนั่นออกมาตอนนี้?”
“ไม่รู้เหมือนกัน อย่าบอกข้านะว่ามันคิดใช้เกาทัณฑ์บุโรทั่งนั่นติดสินบนอาวุโสเนี่ยสุ้ย เพื่อให้รอดพ้นจากการประลองเป็นตายวันนี้?”
“เหอะๆ…ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องธนูขยะนั่นไม่มีทางอยู่ในสายตาของอาวุโสเนี่ยสุ้ยด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นสิ่งของเลิศล้ำปานใด คนอย่างอาวุโสเนี่ยสุ้ยก็ไม่มีทางรับสินบนจนล้มเลิกการประลองเป็นตายเด็ดขาด…เมื่อสัญญาประลองเป็นตายลงนามเรียบร้อย เท่ากับมีผลบังคับใช้! วันนี้ต้องมีคนตาย!!”
…
เหล่าศิษย์ชั้นยอดระเบิดคำสนทนากันออกมาอย่างฮือฮา ฟังจากน้ำเสียงทั้งวาจาเห็นได้ชัดว่ามันดูแคลนรังเกียจเกาทัณฑ์ทั้งการกระทำของต้วนหลิงเทียนไม่น้อย
ขณะเดียวกัน ทางด้านต้วนหลิงเทียนก็มองกล่าวกับเนี่ยสุ้ยด้วยสายตาจริงจัง “อาวุโสเนี่ยสุ้ย…ข้าขอจำนำเกาทัณฑ์นี้กับท่านได้หรือไม่…เพราะข้าต้องการคะแนนสะสมจำนวนหนึ่ง”
“หากการประลองเป็นตายวันนี้เป็นข้าที่มอดม้วยเกาทัณฑ์คันนี้ก็จะเป็นของท่าน แต่ถ้าข้ารอดมาได้ข้าจะไถ่มันคืนจากท่านพร้อมดอกเบี้ยด้วยคะแนนสะสม 2 เท่า!”
กล่าวจบ ต้วนหลิงเทียนก็ยื่นเกาทัณฑ์ไปไว้เบื้องหน้าอาวุโสเนี่ยสุ้ย
เกาทัณฑ์บุโรทั่งที่แลดูร้ายเกินจะมองในมือต้วนหลิงเทียนคันนี้…ก็ไม่ใช่อะไรนอกจาก เกาทัณฑ์ดับตะวัน!
เกาทัณฑ์ดับตะวันในสภาพสมบูรณ์นั้น คือยอดศาสตราสวรรค์ที่ทรงอิทธิฤทธิ์นัก!
อย่างไรก็ตามตอนมันตกมาถึงมือของต้วนหลิงเทียนไม่เพียงเม็ดพลังทั้ง 10 จะสาบสูญ กระทั่งสายเกาทัณฑ์ยังไม่มี…
อย่างไรก็ตามเมื่อต้วนหลิงเทียนใช้ ‘เส้นเอ็นมังกร’ ของมังกรมาร 5 กรงเล็บเป็นสายเกาทัณฑ์ อานุภาพของเกาทัณฑ์คั้นนี้ก็ทรงพลังไม่ใช่ชั่ว!!
ต่อมาเป็นเพราะต้วนหลิงเทียนได้รับเคล็ดบำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่ขั้นสูงสุดอย่าง ‘ยอดใจกระบี่’ มาครอง เขาจึงหวนกลับมาใช้กระบี่เป็นอาวุธหลักอีกครั้ง สุดท้ายก็เก็บเกาทัณฑ์ดับตะวันคันนี้เข้ากรุ กระทั่งไม่ได้หยิบมันออกมาใช้อีกเลย…
หากไม่มีหลิวอวิ๋นที่ทุ่มแทงเดิมพันข้างเขา 100,000 คะแนนสะสมจนดึงราคาต่อรองของเขาล่ะก็ เขาคงไม่คิดเอาเกาทัณฑ์ดับตะวันออกมาจำนำแบบนี้
(หลิวอวิ๋นแทงเพิ่มแสน นั่นหมายความว่าต้วนหลิงเทียนที่แทงแค่ 100 จะได้ส่วนแบ่งน้อยลงกว่าเดิม)
ตอนนี้เขาเลยคิดจำนำเกาทัณฑ์ดับตะวันกับอาวุโสเนี่ยสุ้ย เพื่อให้ได้รับคะแนนสะสมบางส่วน หมายเอาไปลงเดิมพันข้างตัวเอง และเมื่อการประลองเป็นตายจบลง เขาค่อยไปไถ่มันกลับคืน
เขาเชื่อว่าด้วยพลังฝีมือของอาวุโสเนี่ยสุ้ย สายตาย่อมไม่ฝ้าฟาง ไหนเลยจะมองความไม่ธรรมดาของเกาทัณฑ์ดับตะวันไม่ออก!
“ดูเหมือนว่าเจ้าจักมีความมั่นใจในตัวเองไม่น้อย…”
เนี่ยสุ้ยมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้าเกาทัณฑ์ดับตะวันมาถือไว้ และเมื่อได้หยิบมามองใกล้ๆ สองตาเนี่ยสุ้ยถึงกับทอประกายเจิดจ้า!
แว่บแรกที่มันเห็นเกาทัณฑ์คันนี้ มันก็ตระหนักได้ว่าสายเกาทัณฑ์ไม่ธรรมดา!
แต่ทว่าพอได้ถือจับเกาทัณฑ์คันนี้จริงๆ ทำให้มันทราบว่าที่ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริงหาใช้สายเกาทัณฑ์ไม่..แต่เป็นตัวคันธนูเอง!!
“ก็ไม่ใช่ว่าข้ามีความมั่นใจอะไรในตัวเองนักหรอก…แต่ถ้าข้าเกิดตายไปขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างของข้าก็ไม่ได้เป็นของข้าอีกต่อไป และแทนที่จะปล่อยให้มันเสียไปเปล่าๆ ไม่สู้เอาออกมาจำนำเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ข้าอีกทางดีกว่าหรือ?”
ได้ยินคำของเนี่ยสุ้ย ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบออกไปเสียงเรียบ
“ฮ่าๆๆ!!”
ตอนนี้เอง เสียงหัวเราะหนึ่งพลันดังขึ้นมาก้องวิหารเป็นตาย
เป็นหยางเหวินที่อยู่บนสังเวียนเป็นตายมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาดูแคลนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ต้วนหลิงเทียนฟังจากที่เจ้าพูด…หมายความว่าธนูบุโรทั่งนี่เป็นของมีค่าที่สุดในมือเจ้า? อย่างอาวุโสเนี่ยสุ่ยมีหรือจะชายตาแลมองธนูห่วยๆนี่ของเจ้า!!”
ตอนนี้เหล่าศิษย์ชั้นยอดรอบๆก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสมเพชเช่นกัน
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้อยากได้คะแนนสะสมไม่ว่า แต่มันกลับเอาของพรรค์นี้ออกมาจริง? คิดจำนำเกาทัณฑ์โง่ๆนั่นกับอาวุโสเนี่ยสุ้ยเพื่อคะแนนสะสม…สมองมันยังดีอยู่หรือไม่?”
“เกาทัณฑ์ร้ายๆนั่นอย่าว่าแต่จำนำเลย กระทั่งให้ข้าเปล่าๆข้ายังต้องคิดแล้วคิดอีก…”
“ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้านัก! กลับหยิบเอาเกาทัณฑ์บุโรทั่งนั่นมาจำนำกับอาวุโสเนี่ยสุ้ย!”
…
เหล่าศิษย์ชั้นยอดกล่าวปรามาสต้วนหลิงเทียนออกมาไม่ขาดปาก สายตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนตอนนี้ยังเต็มไปด้วยความสมเพช ปานมองคนคิดจับหมาป่ามือเปล่า
ยิ่งไปกว่านั้นกล้าจำนำของพรรค์นั้นกับใครไม่กล้า! ดัไปจำนำกับอาวุโสเนี่ยสุ้ย!!
หรือคิดว่าอาวุโสเนี่ยสุ้ยดวงตามืดบอดแล้วจริงๆ?
ตอนนี้กระทั่งหลิวอวิ๋น หลิวมู่ ซุนเต่อ และกวนซิ่ว ก็อดไม่ได้ที่จะหน้านิ่วคิ้วขมวด
พวกมันเองก็ไม่เห็นเลยว่าเกาทัณฑ์คันนี้จะมีอะไรพิเศษ!
อย่างไรก็ตามครู่ต่อมาเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของ ‘เนี่ยสุ้ย’ อาวุโสคุมวิหารเป็นตาย ก็ทำให้ศิษย์ชั้นยอดทั้งหมด รวมถึง 4 คนก่อนหน้าถึงกับอื้ออึง
“เจ้า….เจ้าคิดจำนำเกาทัณฑ์คันนี้กับข้าจริงหรือ?!”
ในสายตาของเหล่าศิษย์ชั้นยอด เนี่ยสุ้ยที่ถือเกาทัณฑ์บุโรทั่งในมือ ไม่เพียงไม่โมโหอะไรต้วนหลิงเทียน แต่สีหน้าอาการยังแลดูตื่นๆ เผยให้เห็นชัดว่าคนตื่นเต้นไม่น้อย!
เหตุผลที่เนี้ยสุ้ยตื่นเต้นขึ้นมาจนเสียอาการไม่ใช่เพราะใดอื่น แต่เพราะมันค้นพบความไม่ธรรมดาของเกาทัณฑ์คันนี้!
เกาทัณฑ์คันนี้มันลองกะประมาณคร่าวๆแล้ว อานุภาพสมควรไม่ต้อยต่ำไปกว่าศาสตราร้อยอาคมเซียนเลย!
แน่นอนว่าหากมันเป็นเกาทัณฑ์ร้อยอาคมเซียนที่สภาพไม่ค่อยดีแต่แรกเนี่ยสุ้ยคงไม่คิดจะชายตามอง กระทั่งให้เป็นศาสตราร้อยอาคมเซียนที่สมบูรณ์มันก็ไม่แยแส!
แต่ที่เนี่ยสุ้ยจำต้องให้ความสำคัญกับเกาทัณฑ์คันนี้เพราะ…มันพบเพียงอาคมเซียนระดับต่ำเพียงไม่กี่อาคมเท่านั้นที่จารึกไว้! เกาทัณฑ์คันนี้ยังไม่แม้แต่จะเป็นศาสตรา 10 อาคมเซียนด้วยซ้ำ แต่อานุภาพทัดเทียมกับศาสตรา 100 อาคมเซียนแล้ว!?!
‘ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเกาทัณฑ์ ต่อให้จารึกอาคมเซียนลงไปสักร้อยไม่สิสักพันก็มิมีปัญหา!’
เนี่ยกุ้ยได้ทดลองอะไรบางอย่างไปแล้ว
เมื่อครู่ถึงแม้มันจะกระตุ้นพลังเซียนต้นกำเนิดในร่าง ทว่ามันกลับไม่อาจแม้แต่จะงอตัวเกาทัณฑ์ได้สักเล็กน้อย! ทำให้มันตระหนักได้ทันทีว่าวัตถุดิบที่ใช้หลอมสร้างเกาทัณฑ์คันนี้สมควรหายากและมีคุณค่ามหาศาลขนาดไหน!!
‘แม้จะสลักอาคมเซียนลงไปแค่ร้อยอาคมจนเป็นศาสตราร้อยอาคมเซียน ทว่าอานุภาพของมันสมควรเหนือล้ำยิ่งกว่าศาสตราพันอาคมเซียนส่วนใหญ่เป็นแน่! เช่นนั้นถ้าจารึกลงไปสักพันอาคมเซียนเล่า…’
เรื่องนี้เนี่ยสุ้ยมั่นใจสิบส่วนเต็ม!
และตอนนี้มันลองรั้งสายเกาทัณฑ์ดูมันก็พบว่าสายเกาทัณฑ์เองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน!
ต้องทราบด้วยว่าสายเกาทัณฑ์นี้ เป็นต้วนหลิงเทียนใช้เอ็นของมังกรมาร 5 กรงเล็บมาทำ! ถึงจะสลักจารึกอาคมเซียนระดับต่ำไว้ไม่กี่อาคม แต่พลังอำนาจของมันก็ยังเหนือกว่าศาสตรา 10 เซียนทั่วไปมากโข กระทั่งยังเกือบเทียบได้กับศาสตรา 100 อาคมเซียนด้วยซ้ำ!
แต่ที่ทำให้อานุภาพของเกาทัณฑ์คันนี้ไม่ด้อยไปกว่าศาสตรา 100 อาคมเซียนจริงๆ ก็ล้วนอยู่ที่ตัวคันธนูทั้งสิ้น!
“อาวุโสเนี่ยสุ้ย เป็นอย่างไรบ้าง เกาทัณฑ์คันนี้ไม่เลวเลยใช่หรือไม่ ข้าได้มันมาจากสถานที่สืบทอดมรดกของมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ…หากไม่ใช่เพราะการประลองเป็นตาย ข้าคงไม่เอามันออกมาจำนำง่ายๆ”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออก
“ไม่เพียงไม่เลว ยังดียิ่ง!”
แต่เดิมเนี่ยสุ้ยก็ตื่นเต้นไม่น้อยอยู่แล้ว พอมาได้ยินต้วนหลิงเทียนกล่าวว่าสิ่งนี้อยู่ในมรดกของมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บ เนี่ยสุ้ยก็ตระหนักได้ถึงความเลิศล้ำของมันทันที รีบกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นทันที “เจ้าว่ามา เจ้าอยากได้กี่คะแนนสะสม?!”
“ซัก 200,000 คะแนนสะสมก็น่าจะพอแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนกกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะเดียวกันมือซ้ายก็สะบัดเรียกบัตรผลึกแก้วส่งไปให้อาวุโสเนี่ยสุ้ย
เนี่ยสุ้ยไม่รอช้า มือสะบัดหยิบบัตรผลึกแก้วออกมาแตะบัตรของต้วนหลิงเทียนทันที โอนไวนัก! พริบตาบัตรผลึกแก้วของต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏตัวเลขคะแนนสะสม 200,000 คะแนนเด่นหรา เนี่ยสุ้ยค่อยกล่าวออกมาด้วยสองตาเป็นกระกาย “แม้จักไม่ดีต่อเจ้า แต่ตอนนี้ข้าอดกล่าวไม่ได้ว่าข้าอยากให้เจ้าเป็นฝ่ายตกตายในการประลองครั้งนี้นัก…เช่นนั้นเกาทัณฑ์คันนี้จักได้เป็นของข้า”
เนี่ยสุ้ยที่จ่ายออกไป 200,000 คะแนนสะสมนั้นไร้ซึ่งความลังเลแม้แต่น้อย เพราะมันรู้ดีว่าเกาทัณฑ์ในมือ มีค่ายิ่งกว่าศาสตราพันอาคมเซียนเสียอีก!
ในลัทธิบูชาไฟ ปกติแล้วคิดครอบครองศาสตราพันอาคมเซียนธรรมดาๆสักชิ้น หากไม่มีล้านคะแนนสะสมก็อย่าได้หวัง ทว่าศาสตราระดับนั้นล้วนมีแต่อุปสงค์ หากแต่ไร้ซึ่งอุปทาน!
ศาสตราพันอาคมเซียนนั้น แม้จะเป็นปรมาจารย์เซียนจารึกที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ต้องใช้ความพยายามไม่น้อยกว่าจะทำการสลักจารึกอาคมเซียนนับพันลงไปได้สำเร็จ
ธุรกรรมระหว่างเนี่ยสุ้ยกับต้วนหลิงเทียนจบลงในเวลาอันสั้น
โอ!
จนเมื่อต้วนหลิงเทียนได้รับคะแนนสะสมมาจากอาวุโสเนี่ยสุ้ยเรียบร้อยแล้ว ผู้คนในวิหารเป็นตายถึงค่อยรู้สึกตัว กระทั่งอาวุโสเพลิงทองแดงเองก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกกับเรื่องราวดังกล่าว
“สะ…สองแสนคะแนนสะสม”
“ล้อกันเล่นรึเปล่า…เกาทัณฑ์บุโรทั่งนั่น กลับมีราคาสูงถึง 200,000 คะแนนสะสมเชียวหรือ!?”
“เกาทัณฑ์บุโรทั่ง? เจ้ากล้าเรียกสมบัติที่มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเหลือทิ้งไว้ว่าเกาทัณฑ์บุโรทั่งงั้นเรอะ!? น่าขันนัก!!”
“มิน่าแปลกใจเลยว่าไฉนอาวุโสเนี่ยสุ้ยถึงได้แลดูตื่นเต้นนักยามพินิจเกาทัณฑ์คันนั้นตอนแรก มิพ้นอาวุโสเนี่ยสุ้ยย่อมแลเห็นถึงความไม่ธรรมดาของเกาทัณฑ์ที่มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บเหลือทิ้งไว้แต่แรก”
“หึ! มังกรเทพยดา 9 กรงเล็บทิ้งยอดศาสตราไว้ให้มัน…แต่มันกลับไม่ใช้ในการประลองเป็นตายดันเลือกเอามาจำนำเช่นนี้! ผีพนันเข้าสิงโดยแท้!!”
…
วาจาของต้วนหลิงเทียน ศิษย์ชั้นยอดในที่นี้อาจไม่เชื่อ
ทว่าพวกมันล้วนเชื่อในสายตาของอาวุโสเนี่ยสุ้ย!
“จากนี้ไป ทางเราจักไม่รับเดิมพันใดๆอีกแล้ว!”
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนไปลงเดิมพันข้างตัวเองด้วยคะแนนสะสม 200,000 คะแนนแล้วเสร็จ อาวุโสเพลิงทองแดงที่เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว มันก็ประกาศปิดรับเดิมพันออกมาทันที
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์ชั้นยอดทุกคนก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวขึ้นมาอีกระดับ
เพราะพวกมันรู้ดีว่า ‘เหตุการณ์สำคัญ’ ของวันนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!