WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 1999
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1999
ตอนที่ 1,999 : อุ่นเครื่อง!
ซู่มมม!!
ร่างมหึมาปานขุนเขาย่อมๆของลิงยักษ์ถือหอก โจนทะยานเข้ามาฉับไวเหนือเสียง พาลให้มวลอากาศแตกระเบิดส่งเสียงสนั่น! ก่อเกิดคลื่นกระแทกร้ายกาจซัดออกเป็นไปรอบกายไม่หยุดหย่อน!!
บูม! บูม! บูม!
……
ลิงยักษ์ที่โจนทะยานคล้ายไม่พอใจความเร็วแรกเริ่ม สองเท้าเปล่าเปลือยกระทืบย่ำอากาศจนบังเกิดเสียงดังปานจุดระเบิด! เร่งความเร็วในการโจนเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนให้สูงขึ้นไปอีกขั้น!!
ยามเมื่อเสียงดังจากการย่ำเท้าลั่นดั่งขึ้น เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ดูชมเรื่องราวโดยรอบก็หน้าเปลี่ยนสีไปเป็นแถบ! ยิ่งผู้ที่อยู่ใกล้สังเวียนมากที่สุดยังต้องกระอักเลือดออกมา ราวแต่ละก้าวของลิงยักษ์ได้กระทืบย่ำลงกลางอก!!
“มาได้ดี!!”
เผชิญหน้ากับลิงยักษ์ที่โถมถันเข้ามาอย่างดุร้ายเกรี้ยวกราด ต้วนหลิงเทียนหรี่ตาลง ทั่วร่างบังเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว!
แน่นอนว่าในสายตาของเหล่าศิษย์ชั้นยอดและอาวุโสในวิหารเป็นตาย ก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างต้วนหลิงเทียนที่อยู่นอกชุดเสื้อผ้าเท่านั้น!
และตอนนี้ทั้งมือเท้าต้วนหลิงเทียนก็แปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกร!
ตอนแรกทุกคนยังแลเห็นเพียงเกล็ดมังกรผุดโผล่ขึ้นตามแขนคอและใบหน้า แต่ทว่าไม่นานชุดเสื้อศิษย์ชั้นยอดก็มิอาจทนทานพลังดิบเถื่อนอันเกรี้ยวกราดที่ปะทุขึ้นทั่วกายต้วนหลิงเทียนได้ไหว! มันป่นสลายเป็นผงเผยร่างท่อนบนเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยเกล็ดเงาวับทันที!!
ต้วนหลิงเทียนในสายตาของทุกคน ได้แปรเปลี่ยนเป็นนักรบมังกรเรียบร้อย!
ทุกเรื่องราวข้างต้นบังเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเท่านั้น ยังรวดเร็วจนทุกคนไม่อาจตั้งตัวได้ทัน!
ความสนใจของทุกคนหยุดอยู่ที่มือเท้าทั้ง 4 ของต้วนหลิงเทียน…ซึ่งแต่ละข้างมีถึง 9 กรงเล็บ!
9 กรงเล็บทั้ง 4 ข้าง ยังเผยประกายเย็นเยียบคมกล้แทบบาดตา เผยให้รู้ว่ามันแหลมคมถึงเพียงใด!
และด้วยจำนวนกรงเล็บที่มีถึง 9 เช่นนี้ก็บ่งบอกให้ทุกคนได้รู้ชัดถึงเรื่องราวประการหนึ่ง…
นักรบมังกร 9 กรงเล็บ!
“ปีกอีกาทองคำ!”
ในขณะเดียวกัน ร่างต้วนหลิงเทียนที่ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ก็ปรากฏปีกมหึมาคู่หนึ่งที่ลุกท่วมไปด้วยเพลิงไฟงอกเงยขึ้นมาที่แผ่นหลัง! ปีกเพลิงแผ่สยายออกกว้างมองไปไม่ต่างเมฆเพลิง!
วูบ!
นอกจากนั้นมือขวาที่ได้กลายเป็นกรงเล็บมังกรไปแล้วก็ปรากฏกระบี่เล่มหนึ่งกระชับถือไว้!
“สารเลวต้วนหลิงเทียน!!”
พริบตาที่ต้วนหลิงเทียนเรียกกระบี่เล่มนี้ออกมาถือ หยางเหวินที่ยืนอยู่อีกฝั่งของสังเวียนก็คำรามออกมาดังลั่นด้วยโทสะแค้น ในน้ำเสียงยังเปี่ยมล้นไปด้วยความเกลียดชังอันไร้สิ้นสุด!!
เพียงเพราะมันรู้จักกระบี่ในมือของต้วนหลิงเทียนดี!
มันคือกระบี่ร้อยอาคมเซียนที่เคยเป็นอาวุธคู่กายของหยางหวู่!
ทันใดนั้นสองตาหยางเหวินแปรเปลี่ยนเป็นแดงฉาน มือเท้าของมันเริ่มเคลื่อนไหวเร็วรี่!
ลิงยักษ์ที่พุ่งทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มขยับมือเท้าตามหยางเหวิน!
ราวกับตอนนี้หยางเหวินกำลังควบคุมความเคลื่อนไหวของลิงยักษ์ด้วยตัวเอง!
“ตาย!!”
ภายใต้สายตาเฝ้าชมของทุกคน ลิงยักษ์กลับคำรามออกมาด้วยเสียงมนุษย์! ยังเป็นเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้นแสนสาหัส!!
ที่สำคัญฟังจากเสียงแล้ว สมควรเป็นเสียงของหยางเหวินไม่ผิดแน่!
ร่างลิงยักษ์ที่คล้ายมีวิญญาณหยางเหวินสิงสถิตย์พลันทวีความดุร้ายขึ้นหลายส่วน! มันพุ่งจี้เข้าใส่ต้วนหลิงเทียนพร้อมเสือกหอกแทงออกไปอย่างอำมหิต!!
พริบตานั้นเองหอกยาวก็เสมือนได้รับพลังอำนาจของทวยเทพหนุนเสริม ปราณโลหิตทะลักออกมาอย่างน่าสะอิดสะเอียน!
แขนขวาที่จ้วงหอกยังปรากฏมัดกล้ามปูดโปนออกมาราวกับจะปริแตก บอกให้รู้ว่ากระบวนหอกที่แทงออกครานี้ ทรงพลังเพียงใด!
ฟู่มมม!!
พริบตาต่อมาหอกที่จ้วงแทงออกไปด้วยแขนขวามากพลัง ก็คล้ายจะแปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นเส้นสายอัสนีอันฉาบไว้ด้วยปราณโลหิตแดงฉาน! จี้ทะลวงสังหารใส่ร่างต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด!!
ปง! ปง! ปง! ปง!
…
เส้นสายอัสนีที่ฉายไว้ด้วยปราณโลหิตแดงฉานเท่าขาคน ทะลวงแหวกอากาศฉับไวจนบังเกิดเสียงแตกระเบิดปานฟ้าถล่มไม่หยุด!
เห็นฉากอันน่าตื่นตระหนกเบื้องหน้า เหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหมดที่ยังอึ้งกับร่างแปลงมังกรของต้วนหลิงเทียนค่อยดึงสติกลับมา สองตาจับจ้องมองเรื่องราวเบื้องหน้าไม่กระพริบ!
ราวกับพวกมันหวาดกลัวจะพลาดชมเรื่องอันน่าตื่นใจ!
“มาได้ดี!!”
เผชิญหน้ากับหอกอันเขื่องที่ฉาบไว้ด้วยปราณโลหิตขุ่นขลั่ก ซ้ำยังฉับไวปานเส้นสายอัสนีของลิงยักษ์ จิตต่อสู้พลันทะลักออกจากสองตาต้วนหลิงเทียน คนตะโกนดังลั่น กระบี่ร้อยอาคมเซียนในมือกระชับแน่น
เปลวไฟที่ปะทุอยู่บนตัวปีกอีกาทองคำคล้ายจะผนึกแข็งไปชั่ววูบ!
ทันใดนั้นเอง
ปีกอีกาทองคำกลางแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนก็สะบัดกระพืออย่างฉับไว! เพลิงไฟปะทุระเบิดออกไปด้านหลังปานไอพ่น มวลอากาศเบื้องหลังแตกระเบิดเสียงดัง คลื่นกระแทกพุ่งทะลวงทำลายออกไปอย่างน่าเกรงขาม
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…………
เสียงแตกระเบิดของอากาศครั้งนี้นับว่าสนั่นลั่นดังนัก! กระทั่งยังเหนือกว่าเสียงแตกระเบิดของอากาศที่บังเกิดจากความเคลื่อนไหวของลิงยักษ์เสียอีก!!
ซู่มม!!
ผลสะท้อนจากการกระพือปีกอีกาทองคำอย่างฉับไวครานี้ ส่งเสริมให้ร่างต้วนหลิงเทียนพุ่งทะยานออกไปปานลูกไฟดวงเขื่อง! สภาวะน่าเกรงขามประหนึ่งอุกกาบาตมนุษย์กำลังพุ่งถล่มทำลายไปทางลิงยักษ์!!
ความเร็วในการโจนทะยานจ้วงหอกของลิงยักษ์ว่ารวดเร็วแล้ว ทว่าความเร็วในการพุ่งร่างของต้วนหลิงเทียนกลับรวดเร็วกว่า!!
พริบตาร่างต้วนหลิงเทียนที่พุ่งทะยานสวนออกไป ก็เจียนบรรลุถึงรัศมีหอกที่จ้วงแทงออกมาของลิงยักษ์เต็มที!
ทันใดนั้นเองร่างต้วนหลิงเทียนพลันบิดเบี่ยงออกในฉับพลัน คนหลบหลีกปลายหอกที่เปี่ยมพลังทะลวงดุร้าย! พุ่งสวนเข้าไปอย่างหาญกล้า!!
“ไสหัวไป!!”
ลิงยักษ์อ้าปากกว้าคำรามออกมาอย่างดุร้าย เมื่อหอกที่รวมรั้งพลังทั้งหมดจ้วงแทงพลาดมันก็ไม่ตื่นตระหนก ทั่วแขนปรากฏเส้นเลือดปูดโปน เกร็งแน่นพร้อมปะทุพลังออกเต็มที่ เท้าซ้ายกระทืบลงพื้นสังเวียนเป็นตายเสียงดัง พยายามแข็งขืนกระบวนท่าจ้วงแทง แปรเปลี่ยนเป็นฟาดหอกออกข้าง หมายปัดต้วนหลิงเทียนให้ปลิวกระเด็น!!
ต้วนหลิงเทียนจะอย่างไรก็สูงเพียง หนึ่งหมี่แปดเท่านั้น ทว่าหอกเล่มเขื่องยาวถึง 30 หมี่! หากถูกฟาดทุบเข้าเต็มๆ เกรงว่าได้ปลิดปลิวไปไม่เป็นท่าแน่!!
และถึงตอนนั้นต่อให้ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส!!
ปง! ปง! ปง!
ชั่วพริบตาที่หอกเปลี่ยนกระบวน ต้วนหลิงเทียนที่เบี่ยงตัวฉากหลบ สมองคิดเร็วรี่สองตาเผยประกายคมกล้า ลงมือตอบโต้ด้วยวิธีเหนือคาดคิด! ปีกอีกาทองคำสะบัดกระพือปานฟ้าผ่า ส่งร่างให้พุ่งเข้าใสหอกอย่างไร้ครั่นครามราวกับจะเป็นฝ่ายปัดหอกให้กระเด็นแทน!!
เคร๊ง! เคร๊ง! เคร๊ง!!
เสียงปานโลหะกระทบกันดังขึ้น 3 เสียงอย่างพร้อมเพรียง เป็นต้วนหลิงเทียนใช้กรงเล็บทั้ง 3 ข้างยกเว้นข้างที่ถือกระบี่ร้อยอาคมเซียนชิงตะปบลงบนหอกเล่มเขื่องอย่างแรง!!
นี่เป็นการตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์อย่างดุดันทั้งสุ่มเสี่ยงนัก! สามารถช่วงชิงลงมือก่อนที่สภาวะฟาดหอกจะถูกเร่งเร้าถึงจุดสูงสุด ทำให้อานุภาพยังไม่ทันได้กล้าแกร่งอะไร! แต่แน่นอนว่าพลังอานุภาพของหอกที่ถูกเร่งเร้าชั่ววูบก็มิใช่ชั่ว ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนยังสะท้านไปไม่น้อย!!
กระทั่งมีความแข็งแกร่งของร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บ แต่ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนสะท้าน เลือดลมปั่นป่วนไม่น้อย!
“อั๊ค!”
สีหน้าต้วนหลิงเทียนแปรเปลี่ยนเป็นซีดลงเล็กน้อย เลือดกระอักออกปากคำเล็ก หากแต่การลงมือครั้งนี้ก็นับว่าประสบผลสำเร็จ สามารถทำลายสภาวะตบฟาดของหอกได้อย่างแยบคาย! กระทั่งตอนนี้กรงเล็บมังกรยังจิกเข้าหอกเล่มเขื่องไม่ปล่อย!!
“หาที่ตาย!!”
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่หลบกระบวนท่าแทงได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถทำลายกระบวนหอกได้หมดจด แต่ยังมีหน้ากล้าเกาะกุมหอกไว้อย่างไร้ครั่นคร้าม หยางเหวินก็บันดาลโทสะอักโข! ข้อมือลิงยักษ์พลิกฉับไว หมุนหอกเล็กน้อยค่อยระเบิดพลังมหาศาลอีกขุม!
เป็นมันเลือกจะฟาดหอกลงพื้นสังเวียนอย่างดุร้าย! ราวกับจะใช้หอกต่างค้อนทุบทำลายสังเวียนอย่างไรอย่างนั้น!!
ทว่าด้วยความที่หอกได้หมุนไปก่อนหน้า ทำให้ร่างต้วนหลิงเทียนที่แต่เดิมเกาะติดอยู่กับด้านข้างหอกเล่มเขื่อง บัดนี้ได้ย้ายมาอยู่ด้านใต้เรียบร้อย! หากปล่อยไว้สืบไปไม่พ้นหอกต้องฟาดร่างเขาลงกับพื้นเวทีอย่างจังแน่!!
“ปีกอีกาทองคำ!”
ต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าไม่คิดจะอยู่รอรับความตาย ปีกอีกาทองคำสำแดงเดชอีกรอบ สะบัดปะทุพลังปานจุดระเบิด ส่งร่างต้วนหลิงเทียนให้พุ่งออกข้างด้วยความเร็วฉับไวปานฟ้าผ่า!!
และแทบจะทันทีกับที่ร่างต้วนหลิงเทียนพุ่งออกไป หอกก็ฟาดกระแทกลงพื้นสังเวียนอย่างแรง!
เปรี๊ยง!!
เสียงสนั่นลั่นออกสะท้านแก้วหู พื้นสังเวียนถึงกับบังเกิดรอยแตกร้าวเป็นไยแมงมุมแผ่ขยายโยงไยออกไปอย่างน่ากลัว!!
“ท่านย่ามันเถอะ รุนแรงยิ่ง!!”
“ให้ตายเถอะ สังเวียนเป็นตายล้วนทำจากวัสดุพิเศษ! ความแข็งแกร่งของมันนับว่ามิใช่ชั่ว กระทั่งให้เป็นเซียนนภาขั้นสูงุสดลงมือสุดแรงยังมิอาจสร้างได้แม้รอยขีดข่วน! แต่การลงมือของศิษยืพี่หยางเหวินถึงกับทำให้พื้นสังเวียนราวเลยหรือ!?”
“สมแล้วที่ศิษย์พี่หยางเหวินเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน! ช่างทรงพลังนัก!!”
“หอกนั้นฟาดรุนแรงเกินไป หากข้าโดนเข้า ร่างไม่พ้นแหลกเหลวแน่!”
…………
เหล่าศิษย์ชั้นยอดในที่สุดก็มีช่องให้พักหายใจอีกครั้ง พวกมันถึงกับโพล่งออกมาด้วยความตื่นตะลึงหลังได้เห็นพลังทำลายล้างของหอก!
“แต่ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ว่าไปช่างรวดเร็วยิ่ง!”
“ใช่! ไม่คิดเลยว่ากระทั่งระยะกระชั้นชิดเช่นนั้น ยังสามารถหลบออกไปก่อนที่หอกจะฟาดลงพื้นได้ทัน…น่ากลัวว่าความเร็วของมันจะไร้เทียมทานใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์!”
“ข้าเองก็ได้ยินมานานแล้วว่าเวทย์พลังเสริมท่าร่างของต้วนหลิงเทียน ทำให้มันบรรลุความเร็วเหนือล้ำยิ่งกว่าเวทย์พลังเสริมท่าร่างของแท่นบูชานกไฟเสียอีก”
……
ครู่ต่อมาก็มีเหล่าศิษย์ที่ตกใจกับความค่ลองแคล่วว่องไวของต้วนหลิงเทียนไม่น้อย ทั้งความเร็วที่ได้จากเวทย์พลังปีกสีทองนั่นยังมหาศาลเหนือกว่าความเร็วที่จะได้รับจากเวทย์พลังประจำแท่นบูชานกไฟเสียอีก!!
“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ ไม่เบาเลยทีเดียว!”
ตอนนี้กระทั่งหลิวอวิ๋นยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมออกมา
“ไง่ละพี่อวิ๋น ข้าบอกแล้วว่าเจ้านี่มันธรรมดาที่ไหน!!”
หลิวมู่ที่นั่งข้างๆหลิวอวิ๋นได้ทีก็ยักคิ้วกล่าวออกด้วยความสนุกสนาน มันย่อมรู้สึกสมใจไม่น้อยที่ได้เห็นหลิวอวิ๋นแปลกใจ เพราะก่อนหน้าหลิวอวิ๋นไม่ได้ดูดีต้วนหลิงเทียนสักเท่าไหร่
“เจ้าอย่าพึ่งด่วนดีใจไป…”
อย่างไรก็ตามหลิวอวิ๋นประหนึ่งราดรดน้ำเย็นลงหัวหลิวมู่ทันที
“เจ้าไม่เห็นรึไง จนถึงตอนนี้หยางเหวินมันก็แค่ใช้เวทย์พลังจู่โจมขั้นกลางอย่างเดียวเท่านั้น ถึงเวทย์พลังจู่โจมขั้นกลางของมันจะว่าร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของเวทย์พลังขั้นกลางด้วยกัน…แต่เท่าที่ข้ารู้มาหยางเหวินมันยังชำนาญเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวขั้นสูงด้วย! อีกทั้งนี่ก็เป็นมันที่สั่งให้ลิงยักษ์จาก 3 บุปผารวมหนึ่งลงมืออย่างเดียว ตัวมันยังไม่ได้ลงมืออะไรเลย…”
“แม้ตอนนี้เจ้าจะมองว่าลิงยักษ์นั่นมันทำอะไรต้วนหลิงเทียนไม่ได้ แต่หากหยางเหวินลงมือประสานพร้อมใช้เวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงอีกทางเล่า? เรื่องราวจะง่ายดายเช่นนี้อยู่อีกหรือ?”
ได้ยินคำของหลิวอวิ๋น หลิวมู่ที่เชื่อในตัวต้วนหลิงเทียนก่อนหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะชักสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“นอกจากนั้นเจ้าอย่าได้ลืมไป…จะอย่างไรหยางเหวินมันก็เป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่ง การลงมือยิบย่อยเท่านี้ไม่ต่างอะไรจากอุ่นเครื่อง! และที่สำคัญในฐานะลูกชายคนโตของอาวุโส 5 วังอุดรไพศาลเจ้าคิดหรือว่ามันจะมีแค่ท่าสองท่า โดยที่ไม่มีไพ่ตายอันใด…”
“เผลอๆ กระทั่งโอสถต้องห้ามมันก็อาจจะมีติดตัวไว้ด้วยซ้ำ!”
เมื่อไม่นานมานี้หลิวอวิ๋นก็พึ่งได้รับทราบฐานะที่แท้จริงของหยางเหวินจากศิษย์ชั้นยอดที่นั่งข้างๆ
ทำให้มันรู้ว่าหยางเหวินคนนี้ ที่แท้เป็นถึงบุตรชายคนโตของอาวุโส 5 วังอุดรไฟศาล หยางชง!
“โอสถต้องห้าม…!?”
ได้ยินคำพูดของหลิวอวิ๋น สีหน้าหลิวมู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
เพราะหากหยางเหวินที่ตอนนี้เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน มีโอสถต้องห้ามที่ว่า แล้วใช้มันขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่ว่าพลังอำนาจของหยางเหวินจะพุ่งขึ้นไปเทียบได้กับเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยนหรือไง…
หลิวมู่ย่อมตระหนักได้…
หากเป็นโอสถต้องห้ามที่หยางชงมอบไว้ให้หยางเหวินจริงๆ สมควรเพิ่มพูนพลังให้หยางเหวินไม่น้อยแน่!
‘หากต้วนหลิงเทียนไม่มีทีเด็ดอะไรและทำได้แค่นี้ ดูแล้วไม่น่าจะมีหนทางเอาชนะหยางเหวินได้เลย…แต่ทำไมตอนข้าเห็นมันเอาธนูนั่นไปจำนำ รู้สึกเหมือนจะเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจนักล่ะ…’
เมื่อนึกถึงตอนที่ต้วนหลิงเทียนใช้ธนูที่สภาพดูไม่ได้ไปจำนำกับอาวุโสเนี่ยสุ้ยเพื่อเอาคะแนนอุทิศมาลงเดิมพันข้างตัว หลิวมู่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปอย่างไม่เข้าใจ…
‘ที่แท้ต้วนหลิงเทียนไปเอาความมั่นใจมากจากไหนกันแน่?’