WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2000
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2000
ตอนที่ 2,000 : เพลงกระบี่ของต้วนหลิงเทียน!
‘หากต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือเพียงเท่านี้ย่อมมิมีทางเอาชนะหยางเหวินได้แน่…ทว่าตอนเอาเกาทัณฑ์คันนี้มาจำนำกับข้า ไฉนมันถึงได้มั่นใจนัก…’
อาวุโสเนี่ยสุ้ยก้มลงมองเกาทัณฑ์ในมือก่อนที่จะมองต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสัย ‘เพราะอันใดถึงได้มั่นใจเช่นนั้น?’
ในขณะที่อาวุโสเนี่ยสุ้ยกำลงจมอยู่ในความคิด ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มลงมือเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เห็นลิงยักษ์ที่ถูกหยางเหวินควบคุมฟาดทุบสังเวียนอย่างเกรี้ยวกราด สองตาต้วนหลิงเทียนก็ทอประกายวูบวาบ บัดนี้ลิงยักษ์ได้สิ้นสภาวะบุกโจมตีแล้ว กระทั่งเมื่อครู่ยังฝืนเคลื่อนไหวด้วยการรีดเค้นเรี่ยวแรงออกมามากผิดปกติ!
เช่นนั้นหมายความว่าตอนนี้มันกำลังอยู่ในช่วงพลังขาดห้วง!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ปีกอีกากระพือวูบ พาลให้มวลอากาศป่วนปั่น เสียงแตกระเบิดดังลั่นติดๆ!
อย่างไรก็ตาม เหล่าศิษย์ชั้นยอดไม่สนใจความปั่นป่วนของอากาศที่เกิดจากปีกอีกาทองคำแม้แต่น้อย พวกมันจับจ้องมองร่างต้วนหลิงเทียนที่พุ่งทะยานออกไปปานจุดระเบิดไม่วางตา
“เซียนอมตะข้ามภพ!”
ภายใต้สายตาของทุกคน ร่างต้วนหลิงเทียนทะยานจนบรรลุถึงลิงยักษ์ในชั่วพริบตา อีกทั้งอยู่ๆร่างก็วูบไหวเป็นเงาเลือนก่อนที่จะมีร่างแยกอวตารเหมือนตัวจริงจนมิอาจแยกปรากฏขึ้นมา 4 ร่าง!
ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!
…
นับรวมตัวจริง ต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 กำลังเสือกกระบี่แทงเข้าใส่ลิงยักษ์อย่างดุร้าย!
กระบี่ทั้ง 5 ที่ทะลวงแทงออกไป ไม่เพียงแต่บรรจุไว้ด้วยพลังอำนาจของเวทย์พลังเซียนอมตะข้ามภพเท่านั้น ยังบรรลุไปด้วยพลังล้ำลึกจากเคล็ด ยอดใจกระบี่ ที่ต้วนหลิงเทียนเข้าใจ
และตอนนี้เมื่อต้วนหลิงเทียนบรรลุถึงขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ ‘กระบี่อยู่ที่ใจ’ แล้ว แน่นอนว่าพลังกระบี่ลึกล้ำที่ฉาบเคลือบเอาไว้ย่อมทรงพลังอำนาจมากยิ่งขึ้น
กระบี่ทั้ง 5 ทะลวงความว่างเปล่าไปเร็วรี่ ด้านลิงยักษ์ก็เริ่มขยับแขนหมายยกหอกขึ้นมาต้านทาน อนิจจาต้วนหลิงเทียนลงมือได้จังหวะเกินไป ทั้งยังรวดเร็วเกินไป! มันไม่อาจต้านรับกระบี่ทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนได้ทัน!!
ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก! ฉึก!
หลุมโลหิต 5 หลุมปรากฏขึ้นตามจุดตายของลิงยักษ์!
“อาศัยแค่ 5 กระบี่คิดจะทำลายลิงยักษ์ของข้างั้นเหรอ? ฝันละเมอ!!”
ไม่น่าเชื่อ แม้ร่างลิงยักษ์จะเต็มไปด้วยหลุมโลหิต หากแต่พลังอำนาจทั้งการเคลื่อนไหวของมันกลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ไม่เพียงเท่านั้นเท่านั้นมันยังสามารถอ้าปากกล่าวคำกับต้วนหลิงเทียนได้อีก!
แน่นอนว่าผู้กล่าวคำที่แท้จริงก็คือหยางเหวิน
“แล้วใครบอกเจ้าว่าข้ามีแค่ 5 กระบี่…”
หยางเหวินกล่าวไม่ทันขาดคำ ต้วนหลิงเทียนพลันแสยะยิ้มกล่าวออก
ด้วยเพราะรอยยิ้มแสยะนี้เองทำให้หยางเหวินชะงักไปครู่หนึ่ง การควบคุมลิงยักษ์ของมันพลันขาดตอน อย่างไรก้ตามมันสามารถดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เริ่มควบคุมลิงยักษ์ให้ตั้งท่าระวังป้องกันทันที
ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!
…
ทันใดนั้นเอง ภายใต้สายตาของผู้ชมอยู่ๆกระบี่ร้อยอาคมเซียนในมือต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องราย ราวกับต้วนหลิงเทียนเก็บกระบี่กลับไป!!
ซัว! ซัว! ซัว! ซัว! ซัว!
…
อย่างไรก็ตามเสียงหวีดหวิวของกระบี่ที่ดังขึ้นในอากาศ ก็บอกให้พวกมันรู้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่ได้เก็บกระบี่
“กระบี่หายไปที่ใดแล้ว!?”
และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงหวีดหวิวของกระบี่ดังขึ้น เหล่าศิษย์ชั้นยอดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายคนอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน โพล่งถามออกมาด้วยความตื่นตระหนก
นั่นเพราะตอนนี้พวกมันได้ยินเสียงหอนของกระบี่ชัดๆ! ทว่าพวกมันกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของกระบี่!!
กระทั่งศิษย์ที่แท้จริงอย่างหลิวอวิ๋นยังอดไม่ได้ที่จะหยีตาลง “น่ากลัวยิ่ง!”
ในบรรดาผู้คนทั้งหมดใต้ชายคาวิหารเป็นตายแห่งนี้ นอกเหนือจากอาวุโสเนี่ยสุ้ย และอาวุโสเพลิงทองแดงอีก 3 คนแล้ว นับว่ามันเป็นผู้ที่มีพลังฝีมือสูงสุด!
เหล่าศิษย์ชั้นยอดได้ยินเพียงเสียงกระบี่หอนแต่ไม่เห็นแม้แต่เงากระบี่ แต่ไม่ใช่ว่าหลิวอวิ๋นจะพลอยมองะไรไม่เห็นไปด้วย!
อย่างไรก็ตามกระทั่งหลิวอวิ๋นเอง ก็ยังเห็นเพียงแค่เงากระบี่เท่านั้น! ความเร็วในการฟันกระบี่ของต้วนหลิงเทียนทำให้มันถึงกับหนาวสะท้านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก!
รวดเร็วเกินไป!
ต่อให้มันลงมือเต็มกำลัง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฟันกระบี่ด้วยความเร็วระดับนั้นได้!!
“เพลงกระบี่อันใดกัน…”
ในขณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเนี่ยสุ้ย หรืออาวุโสเพลิงทองแดงทั้ง 3 ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
อาวุโสเพลิงทองแดงนั้น ในสายตาของพวกมันก็เห็นเรื่องราวไม่ได้ต่างอะไรจากหลิวอวิ๋นเลย เพราะพลังฝีมือของพวกมันกับหลิวอวิ๋นก็ไม่ได้ต่างกันมากมาย
ทว่าสิ่งที่เนี่ยสุ้ยแลเห็นกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ในสายตาของเนี่ยสุ้ย กระบี่ร้อยอาคมเซียนทั้ง 5 ในมือต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ไม่ทราบใช้เพลงกระบี่ผีสางหรือวรยุทธ์วิชาอันใดกันแน่! หากแต่กระบี่ที่ฟันฟาดออกกลับรวดเร็วเกินไป! ฟันฟาดสร้างข่ายพลังกระบี่อันแน่นหนาจู่โจมทำลายไปยังลิงยักษ์ที่หยางเหวินควบคุมอยู่!!
ความเร็วของกระบี่ที่สร้างข่ายพลังกระบี่นี้รวดเร็วเกินไป! รวดเร็วจนเนี่ยสุ้ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงไขสันหลัง!
‘ผู้ฝึกตนที่มีฐานพลังเพียงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด กลับลงมือจู่โจมได้อย่างน่ากลัวขนาดนี้ นี่หากมันบรรลุถึงขอบเขตเซียนนภา หรือเซยีนสวรรค์ได้จะเป็นอย่างไรกัน?’
‘ช่างน่าเสียดายนักที่พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าหนุ่มนี่เป็นแค่รากวิญญาณสีเหลืองเท่าน…หรือฟ้าจักอิจฉาอัจฉริยะจริงๆ?’
คิดถึงจุดนี้ใจเนี่ยสุ้ยอดไม่ได้ที่จะหม่นหมอง แววตายังเผยความเสียดายจับจิต
“บัดซบ!”
ขณะเดียวกันทางด้านหยางเหวินตอนนี้ก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี มันเร่งรีบควบคุมลิงยักษ์ให้ล่าถอยออกมาอย่างร้อนรน!
เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่ยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ไม่อาจแลเห็นข่ายกระบี่สังหารที่ต้วนหลิงเทียนฟันออก แต่หยางเหวินที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์แล้วแม้จะไม่อาจแลเห็นข่ายกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนถักทอ! แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่อาจเห็นพลังอำนาจจากของอาคมเซียนนับร้อยที่ปะทุออกจากกระบี่ร้อยอาคมเซียน!!
ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นมันที่กำลังเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียน เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นตรงหน้า ย่อมให้ทำให้มันแลเห็นชัดกว่าใครทั้งหมดในวิหารเป็นตาย!!
ด้วยเหตุนี้มันจึงรีบควบคุมลิงยักษ์ให้หลบหนีอย่างร้อนรน!
“คิดหนี? สายไปแล้ว!”
ทว่าทันใดนั้นเองเสียงเย็นเยียบของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้น
และต้วนหลิงเทียนกล่าวไม่ทันขาดคำ ข่ายกระบี่ที่เต็มไปด้วยพลังกระบี่รวมทั้งอาคมเซียนนับร้อยที่เปิดใช้งานอย่างพร้อมเพรียงก็บรรลุถึงร่างลิงยักษ์…!
ภาพอันน่าขนลุกปรากฏต่อหน้าต่อตาผู้ชมในฉับพลัน ร่างมหึมาของลิงยักษ์ยามนี้ถูกสับสะบั้นด้วยความเร็วอันน่าพรั่นพรึง! พริบตาก็กระจัดกระจายออกเป็นพันชิ้น!!
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านั้น ร่างลิงยักษ์ที่ถูกสับเป็นพันชิ้นยังคงถูกสับสะบั้นต่อไปไม่หยุดยั้ง! จากพันเป็นหมื่น จากหมื่นเป็นแสน!!
ซูว! ซูว! ซูว!
…
สุดท้ายด้วยข่ายกระบี่ที่ไม่ต่างใดจากแหสังหารอันถี่ยิบ ก็สับสะบั้นร่างลิงยักษ์จนแหลกเป็นเสี่ยงๆ อันตรธานหายไปจากโลกหล้าโดยสมบูรณ์…
ด้วยลิงยักษ์ถูกสับสะบั้นทำลายไปแบบนี้ หยางเหวินที่ควบคุมลิงยักษ์อยู่ไกลๆ ก็ชะงักเซไปวูบหนึ่ง คนคล้ายกัดฟันแน่นหากแต่สุดท้ายก็ไม่อาจฝืนทนได้ไหว จำต้องกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง สีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก!
โอ!
เห็นฉากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะฮือฮาขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ลิงยักษ์ตัวเขื่องที่ศิษย์พี่หยางเหวินสร้างด้วยเวทย์พลัง 3 บุปผารวมหนึ่ง…กลับถูกทำลายไปง่ายดายเช่นนี้?”
“ต้วนหลิงเทียนมันฟันกระบี่อย่างไรกันแน่ ไฉนถึงได้ว่องไวขนาดนี้!? ข้าไม่เห็นแม้แต่เงาของกระบี่ด้วยซ้ำ!!”
“ท่านย่ามันเถอะ…คนเราฟันกระบี่ได้ไวถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
…
หลังจากเสียงอุทานฮือฮาด้วยความตกใจแล้ว เหล่าศิษย์ชั้นยอดก็อดโพล่งคำออกมาด้วยความตื่นตระหนกเสียไม่ได้ เพราะพวกมันไม่ทราบจริงๆ ว่าตั้งแต่ต้นจนจบที่แท้ลิงยักษ์ถูกฟันไปกี่กระบี่กันแน่ ถึงได้แหลกเป็นชิ้นๆจนหายไปแบบนั้น!
ทั้งหมดที่พวกเห็นก็มีเพียงอยู่ดีๆร่างลิงยักษ์แหลกละเอียดเป็นแสนๆชิ้น! สุดท้ายก็สลายหายไปในอากาศไม่เหลือหลอ!!
ราวกับถูกทำลายล้างด้วยพลังไร้สภาพมหาศาล!
“พี่อวิ๋น…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลิวมู่สูดลมหายใจเข้าดังซื่อ มันเองก็มองไม่เห็นเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น
“ต้วนหลิงเทียนคนนั้นไม่ทราบฝึกปรือเพลงกระบี่ผีสางอันใด กระทั่งข้าก็มองไม่ออกว่าที่แท้เป็นเวทย์พลังหรือวรยุทธ์เซียนกันแน่ แต่กระบี่ของมันกลับว่องไวเสียจน…แค่เงากระบี่ข้าก็ยังเห็นไม่ชัด!”
หลิวอวิ๋นกล่าวออกเสียงหนัก
“อะไรนะพี่อวิ๋น!? กระทั่งท่านยังมองไม่ทัน!?”
หลิวมู่ตะลึงแล้ว
หลิวอวิ๋นเป็นลูกพี่ลูกน้องของมัน เช่นนั้นมันย่อมรู้ดีว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเพียงใด
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มันตกใจขนาดนี้
“ศิษย์น้องหลิงเทียน…ดูเหมือนว่าข้ายังคงดูเบาเจ้าไปมากโข!”
หลิวมู่มองต้วนหลิงเทียนที่อยู่ไกลห่างด้วยสายตาซับซ้อน ตอนแรกแม้มันจะมีความมั่นใจในตัวต้วนหลิงเทียน แต่ก็ไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะร้ายกาจถึงขนาดนี้
“ที่เจ้าใช้เป็นเพลงกระบี่อันใด?”
หยางเหวินมองถามต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยสายตาคมกล้า
“เจ้าจะสนใจเพลงกระบี่ของข้าไปทำไม…หยางเหวินหากความสามารถเจ้ามีแค่นั้น ชะตาเจ้าก็ถูกลิขิตให้ตกตายคามือข้า!”
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองหยางเหวินผ่านๆ วาจาเปี่ยมจิตสังหารที่กล่าวออกยังเสียงเย็นชวนให้หนาวสะท้านนัก
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีปัญญาฆ่าข้าได้เพราะเจ้ามีเพลงกระบี่เลิศล้ำเท่านี้น่ะเหรอ? เจ้าคิดว่าข้าหยางเหวินใช้การไม่ได้ถึงเพียงนั้น? ช่างไร้เดียงสานัก!”
ได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน หยางเหวิงเชิดหน้ากล่าวออกด้วยน้ำเสียงดูแคลน “เมื่อครู่ข้าก็แค่อุ่นเครื่องเท่านั้น เดี๋ยวพอข้าลงมือจริงๆ ข้าจักคอยดูว่าเพลงกระบี่นั่นของเจ้าจักมีปัญญาทำอันใดข้าได้หรือไม่!”
สิ้นคำร่างหยางเหวินก็อันตรธานหายไปจากจุดที่มันยืนอยู่ทันที คงมีแต่ภาพติดตาที่เหลือทิ้งไว้ คนไม่ทราบพุ่งไปที่ใดแล้ว!
วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!
…
ร่างหยางเหวินบัดเดี๋ยวหายบัดเดี๋ยวโผล่ปานภูตผี! และทุกครั้งที่มันปรากฏมันก็จะทิ้งภาพติดตาไว้ ก่อนที่คนจะวูบหายไปอีกครั้ง!!
“เงาผีประทับ!”
ทันทีที่เห็นฉากดังกล่าวเหล่าศิษย์ชั้นยอดก็โพล่งคำออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
“เงาผีประทับ! นี่น่ะหรือวรยุทธ์เซียนท่าร่างระดับนภาโดดเด่นที่ศิษย์พี่หยางเหวินแตกฉาน…ได้เห็นร่างเงาที่ศิษย์พี่หยางเหวินทิ้งไว้ชัดเจนขนาดนี้ มิแคล้วศิษย์พี่หยางเหวินต้องบรรลุเงาผีประทับถึงขั้นตอนไร้ตำหนิ!!”
“วรยุทธ์ท่าร่างอันร้ายกาจ! รวดเร็วยิ่งนัก! ทั้งไม่เพียงแต่รวดเร็ว ทุกย่างก้าวหลงเหลือภาพติดตาดั่งเงาพรายไว้ลวงตา ยากที่คู่ต่อสู้จะแยกแยะ!!”
“เห็นว่าศิษย์พี่หยางเหวินเองก็แตกฉานเวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงแล้วด้วย หากใช้พร้อมกับเงาผีประทับที่แตกฉานถึงขั้นตอนไร้ตำหนิเช่นนี้ ในแง่ของความเร็ว ต้วนหลิงเทียนมิมีทางเทียบชั้นกับศิษย์พี่หยางเหวินได้แน่!”
“ใช่! ถึงตอนนั้น ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะใช้เพลงกระบี่ผีสางนั่น ก็มิอาจแตะต้องได้แม้แต่เงาของศิษย์พี่หยางเหวิน!”
“ตราบใดที่ศิษย์พี่หยางเหวินอาศัยเงาผีประทับกับเวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงสู้ถ่วงเวลากับต้วนหลิงเทียนไปอีกสักพัก เมื่อเวทย์พลังสนับสนุนของต้วนหลิงเทียนสิ้นระยะเวลาแสดงผลเมื่อใด ตอนนั้นต้วนหลิงเทียนก็ไม่ต่างใดจากปลาบนเขียง!!”
…
เหล่าศิษย์ชั้นยอดกล่าวกันออกมาด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะเผยเพลงกระบี่ว่องไวจนสับร่างลิงยักษ์จากเวทย์พลัง 3 บุปผารวมหนึ่งของหยางเหวินให้แหลกเป็นชิ้นๆได้ในชั่วพริบตา แต่พวกมันก็รู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนไม่น่าจะตามความเร็วปานภูตผีนี้ของหยางเหวินได้!!
“จัดให้ตามคำขอ!”
ต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ร่างกล่าวออกอย่างพร้อมเพรียง และทันทีที่กล่าวจบคำทั้ง 5 ก็แยกย้ายกันพุ่งเข้าใส่หยางเหวิน!
หากอาศัยเพียงวรยุทธ์ท่าร่างเพียงอย่างเดียว หยางเหวินรู้ดีว่าไม่อาจเทียบความเร็วของต้วนหลิงเทียนได้ นับประสาอะไรกับความเร็วกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกยามผสานกับเคล็ดที่ 3 ของยอดใจกระบี่
เช่นนั้นเพื่อฆ่าต้วนหลิงเทียน หยางเหวินจึงเลือกสำแดงเวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงออกมาทันที!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
……
เวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงที่หยางเหวินเพาะสร้างสำเร็จนั้นเรียกว่า สถิตย์วิญญาณวายุ! ยามเมื่อใช้ออก ร่างประหนึ่งถูกภูตสายลมประทับเข้าสิง พาลให้ร่างกายเคลื่อนไหวฉับไว้ปานสายลม เลือนรางมิอาจจับต้อง!
พริบตาเงาร่างนับร้อยของหยางเหวินก็ปรากฏขึ้นพร่างฟ้าเหนือสังเวียนเป็นตาย
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเห็นร่างทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนแยกย้ายกันพุ่งเข้ามา เงาร่างของหยางเหวินยิ่งมาก็ยิ่งมาก!
ไม่ทันไรเงาร่างหลายร้อยก็ปรากฏ!
และพริบตาต่อมาเงาร่างก็ปรากฏขึ้นนับพัน!!