WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2026
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2026
ตอนที่ 2,026 : พรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียน!
เจอกกับทีท่าหยามหมิ่นของต่งหลิน ต้วนหลิงเทียนเพียงเหลือบมองมันอย่างไม่แยแสiรอบหนึ่ง ค่อยหันไปมองอาวุโสเพลิงทองแดงประจำโต๊ะรับรอง
เหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายได้แต่อื้ออึง ด้วยไม่ทราบไฉนตอนนี้ต้วนหลิงเทียนถึงได้ละความสนใจจากต่งหลินไปมองอาวุโสดังกล่าว…
ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย ต้วนหลิงเทียนก็กล่าวถามออกมาเสียงเรียบ
“อาวุโส ท่านสมควรมีลูกแก้ววิญญาณที่เอาไว้ทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณติดตัวไว้บ้างใช่หรือไม่?”
ผู้คนที่ชมดูเรื่องราวอยู่ถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะถามหาลูกแก้ววิญญาณที่เอาไว้ทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณแบบนี้
จังหวะนี้ไม่ว่าใครต่างก็เงียบไปทันที
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ค่อยมีเสียงอื้ออึงดังขึ้นอีกครั้ง
“ต้วนหลิงเทียนถามอาวุโสเรื่องลูกแก้ววิญญาณทำอะไร? หรือมันคิดจะทำการทดสอบ…และเปิดเผยรากวิญญาณของตัวเองให้ผู้คนรับทราบกัน?”
“สมควรเป็นเช่นนั้น”
“แต่พรสวรรค์รากกวิญญาณของมันก็ไม่ใช่ว่ามีแค่รากวิญญาณสีเหลืองหรือยังไง…ตอนที่ทดสอบเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟมันก็ทดสอบไปแล้วถึงสองครั้ง ทว่าผลก็ออกมาเป็นสีเหลืองเหมือนเดิม!”
“หรือมันคิดว่าครั้งนี้รากวิญญาณมันจะเปลี่ยนสี?”
“เรื่องเหลวไหลพรรค์นั้นมันมีอยู่ด้วยหรือ?”
……
ฟังจากบทสนทนาของเหล่าศิษย์ชั้นยอด การกระทำของต้วนหลิงเทียนคราวนี้นับว่าไร้สาระเกินไปแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ!!”
กระทั่งต่งหลินยังอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังร่า มันมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตารังเกียจกล่าวล้อออกมาด้วยน้ำเสียงปรามาส “ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดว่าอะไรๆมันจะเปลี่ยนไปหลังจากพลังฝีมือเจ้าสูงขึ้นหรือไง? หรือเจ้าคิดว่ารากวิญญาณผู้คนสามารถเปลี่ยนสีได้จริงๆ?”
เฉินเผิงที่อยู่ด้านหลังเองก็แสยะยิ้มดูแคลนออกมา มันรู้สึกว่าครั้งนี้ต้วนหลิงเทียนช่างโง่เขลานัก แส่หาเรื่องให้อับอายขายขี้หน้าตัวเองอย่างแท้จริง!
“อาวุโส ไม่ทราบท่านมีหรือไม่?”
อย่างไรก็ตามแม้จะถูกต่งหลินหัวเราะเยาะ ต้วนหลิงเทียนคล้ายไม่ได้สนใจใยดีอะไรมันแม้แต่น้อย ยังคงมองถามอาวุโสเพลิงทองแดงที่คล้ายกำลังงุนงงไม่น้อยออกมาอีกครั้ง
ได้ยินเสียงถามซ้ำ อาวุโสเพลิงทองแดงที่โต๊ะรับรองค่อยคืนสติ แม้ไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนคิดทำอะไร แต่ก็สะบัดมือเรียกลูกแก้วลูกหนึ่งออกมาทันที
ย่อมเป็นลูกแก้ววิญญาณ ที่เอาไว้ใช้ทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณ!
“ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณจริงๆ…แต่เรื่องนี้ยังจำเป็นด้วยหรือ?”
แม้มือจะยื่นส่งลูกแก้ววิญญาณไปให้ต้วนหลิงเทียน แต่อาวุโสเพลิงทองแดงก็อดถามออกมาไม่ได้
ในสายตาของมัน
พรสวรรค์รากวิญญาณนั้นติดตัวผู้คนมาตั้งแต่กำเนิด แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปรับปรุงมัน
แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะปรับปรุงยกระดับมัน
ในตำนานกล่าวไว้หากมียอดฝีมือที่สามารถขึ้นสู่สวรรค์ได้สำเร็จ และตัวตนดังกล่าวยินยอมช่วยเหลือก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากคิดยกระดับรากวิญญาณ
ทว่านั่นก็มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ไม่เคยมีบันทึกเอาไว้เลยว่ามียอดฝีมือท่านใดที่สามารถขึ้นสู่แดนสวรรค์ได้สำเร็จแล้ว จะหวนย้อนกลับมาช่วยเหลือยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณให้ผู้ใด
ถึงแม้เรื่องนี้อาจทำได้ในความคิด แต่ความเป็นจริงไม่อาจทำได้…!
“จำเป็นต้องทดสอบดูใหม่ด้วยหรือ?”
ไม่เพียงแต่อาวุโสเพลิงทองแดงเท่านั้นที่รู้สึกแบบนี้ เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วเองก็คิดไม่ต่างกัน
“เจ้าต้วนหลิงเทียนนั่น มันเสียสติไปแล้วหรือไง?”
“ข้าล่ะไร้คำจะกล่าวจริงๆ…นี่มันคิดว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้งั้นหรือ?”
“ฮึ่ม! มันอยากทดสอบนักก็ให้มันทดสอบไปเถอะ…อย่างไรก็ตามทุกผู้คนในลัทธิบูชาไฟรู้กันดี ว่ารากวิญญาณของมันก็เป็นแค่รากวิญญาณสีเหลืองเท่านั้น! แม้ใจมันจะไม่ยินยอมเพียงไรแต่มันไม่ก็อาจปฏิเสธความจริงเรื่องนี้ได้หรอก!!”
….
เหล่าศิษย์ชั้นยอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ รู้สึกว่าการกระทำของต้วนหลิงเทียนครั้งนี้มันเกินจำเป็นอยู่บ้าง
ด้านต้วนหลิงเทียนแน่นอนว่าไม่ได้แยสายตาคนอื่นแม้แต่นิดเดียว
หลังเอื้อมมือไปรับลูกแก้ววิญญาณที่อาวุโสเพลิงทองแดงยื่นส่งมาแล้ว เขากลับไม่ได้รีบใช้มันทดสอบแต่อย่างใด กลับถือมันไว้เฉยๆแล้วเดินเข้าไปหาต่งหลิน
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนกำลังก้าวเข้ามาใกล้มันเรื่อยๆจนห่างแค่ไม่ถึง 3 ก้าว หน้าต่งหลินเปลี่ยนสีทันที ยังบังเกิดความหวาดกลัวจนเผลอก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
ถึงแม้มันจะพึ่งกลับมาจากการเดินทางเมื่อ 2-3 วันก่อน แต่มันก็ได้ยินข่าวลือเรื่องวีรกรรมของต้วนหลิงเทียนมาแล้ว!
ยังรู้ด้วยว่า พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนยังร้ายกาจถึงขั้นสามารถสยบ เวินเยี่ยน อันดับ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงได้อย่างราบคาบ!
มันลองถามตัวเองดู ก็ตอบได้ชัดเต็มปาก…ว่าไม่ใช่คู่มือเวินเยี่ยนแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันเผลอก้าวถอยไปอย่างไม่รู้ตัว มันก็พบว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้คิดจะทำอะไรมัน เพียงแค่เดินมาหยุดเบื้องหน้ามันเท่านั้น ใบหน้าของมันก็เปลี่ยนไปมาระหว่างเขียวขาวทันที
เพราะตอนนี้มันตระหนักได้ถึงสายตาจากผู้คนโดยรอบ ทั้งหมดราวกับจะเย้ยหยันหัวเราะเยาะมันอยู่อย่างไรอย่างนั้น!
เรื่องนี้ทำให้มันทั้งมีโมโหทั้งอับอายนัก!
“จึกๆๆ…ดูเหมือนที่แท้อาวุโสต่งหลินก็หวาดกลัวต้วนหลิงเทียนอยู่มิใช่น้อย!”
“เหอะๆ จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร แม้พลังฝีมืออาวุโสต่งหลินจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่อาจเทียบชั้นกับเวินเยี่ยนได้เลย…ทว่าต้วนหลิงเทียนนั่นกลับมีพลังฝีมือเหนือกว่าเวินเยี่ยนหลายขุม ย่อมหมายความว่าคิดทุบตีอาวุโสต่งหลินก็ถือเป็นเรื่องราวอันง่ายดายนัก!”
“แต่ก็นะ…อย่างไรมันก็เป็นถึงอาวุโสเพลิงทองแดงของหอคุมกฏคนหนึ่ง ปกติเห็นวางท่าถือดีว่าตัวสูงส่งเหนือผู้ใด…แต่มาวันนี้มันกลับผงะถอยหนีศิษย์ที่แท้จริงคนหนึ่งราวหนูกลัวแมว ภาพลักษณ์สูงส่งที่มันเพียรสร้างมา จากนี้คงไม่มีเหลือแล้วล่ะ!”
“ใช่! ข้ารู้สึกว่าตอนนี้หน้ามันจากในกาลก่อนที่มักเชิดหยิ่งหัวสูง คล้ายจะก้มต่ำลงหลายส่วนยามอยู่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียน”
….
เมื่อเห็นว่าต่งหลินหวาดผวาถึงขั้นก้าวถอยหนี หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเดินเข้าหา เหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบคุยกันอย่างสนุกสนาน
ทว่าแม้เสียงกระซิบของพวกมันจะแผ่วเบา แต่ในที่นี้ยังมีใครโสตประสาทรับฟังไม่ดี?
ต่งหลินที่ได้ยินคำซุบซิบเหล่านี้ มันโมโหจนแทบกระอัก!
อย่างไรก็ตามมันเลือกจะสาดเทโทสะไปลงที่ต้วนหลิงเทียน เร่งหันไปมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบทันที “ต้วนหลิงเทียน นี่เจ้าคิดจะทำอะไร!?”
“ข้าคิดจะทำอะไร? หืม? อย่าบอกนะว่า…อาวุโสต่งหลินกลัวถูกข้าฆ่าต่อหน้าเหล่าศิษย์?”
ต้วนหลิงเทียนแค่นยิ้มรังเกียจกล่าวออกด้วยน้ำเสียงดูถูก “หากอาวุโสต่งหลินคิดเช่นนั้นจริงๆเกรงว่าท่านต้องผิดหวังแล้ว…เพราะในสายตาของข้า ราคาชีวิตของข้ามากกว่าท่านหลายนัก”
“จะให้ข้าแลกชีวิตกับท่านน่ะหรือ? ขอโทษทีแต่ข้าต้วนหลิงเทียนยังไม่โง่เขลาสิ้นคิดถึงขั้นนั้น ขออาวุโสต่งหลินอย่าได้คิดเหลวไหลแล้ว”
ฟังจากคำของต้วนหลิงเทียน เผยให้เห็นชัดว่าคุณค่าของต่งหลินนั้นมันต่ำชั้นกว่าและไม่อาจเทียบตัวเขาได้เลย
ได้ยินวาจาเหล่านี้สีหน้าต่งหลินพลันเปลี่ยนสีกลับกลายเป็นเขียวขาวอีกครั้งด้วยโทสะ
หากกจะกล่าวว่าที่ตอนแรกต่งหลินจงใจขัดขาต้วนหลิงเทียนเพราะเฉินเผิงล่ะก็
ตอนนี้ต่งหลินนับว่าชิงชังต้วนหลิงเทียนสุดใจ ยังถือว่าอีกฝ่ายเป็นตัวบัดซบที่ต้องฆ่าให้ตายให้ได้!
ต่งหลิ่นนั้นไม่ว่าจะอย่างไรมันก็เป็นถึงบุตรชายของรองจ้าวหอคุมกฏแห่งลัทธิบูชาไฟ กระทั่งศิษย์ที่แท้จริงที่ติด 3 อันดับแรกในทำเนียบยอดฝีมือ ยังไม่กล้าดูหมิ่นมันต่อหน้าสาธารณชนเหมือนต้วนหลิงเทียน!
“อาวุโสต่งหลิน ดูให้ดี”
ในขณะที่ต่งหลินชักสีหน้าอัปลักษณ์ปั้นยาก ต้วนหลิงเทียนแค่นคำกล่าวเสียงเย็นคำหนึ่ง ค่อยยกกลูกแก้ววิญญาณขึ้นมาอยู่ในระดับสายาตอีกฝ่าย
ขณะเดียวกันพลังเซียนสุริยันในร่างเขาก็ถูกถ่ายทอดลงไปยังลูกแก้ววิญญาณอย่างเหมาะเจาะ
หลังจากผ่านไปอีก 10 ลมหายใจ ลูกแก้ววิญญาณจะเผยให้เห็นถึงพรสวรรค์รากวิญญาณของเขา
“เฮอะ! พรสวรรค์รากวิญญาณของเจ้าจะอย่างไรก็เป็นแค่รากวิญญาณสีเหลือง เรื่องนี้เป็นความจริงที่รู้กันทั่วลัทธิบูชาไฟ…ต่อให้เจ้าไม่ต้องทดสอบข้าก็เดาได้ว่าผลกการทดสอบจะเป็นอะไร!”
ทันใดนั้นความดูแคลนหยามหยันพลันฉายออกบนใบหน้าอัปลักษณ์ของต่งหลินชัด มันยังเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยะโสหันมองไปทางอื่น ราวกับคร้านชมดูผลการทดสอบให้เสียสายตา
อย่างไรก็ตามด้านเฉินเผิงแม้จะมองต้วนหลิงเทียนด้วยความดูแคลนเช่นกัน ทว่าสองตาของมันกลับเบนไปจับจ้องมองลูกแก้ววิญญาณในมือต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มแสยะ
สำหรับอาวุโสเพลิงทองแดงกับเหล่าศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่ว ต่างเลือกที่จะมองลูกแก้ววิญญาณในมือต้วนหลิงเทียนด้วยความสนใจ
ถึงแม้ว่าพวกมันจะพอคาดเดาผลลัพธ์การทดสอบได้เพราะรู้อยู่แล้ว แต่พวกมันก็ถูกลูกแก้ววิญญาณในมือต้วนหลิงเทียนดึงดูดความสนใจไปอย่างไม่ทันรู้ตัว
เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน
1 ลมหายใจผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ทันไร 2 ลมหายใจก็ผ่านพ้น
แล้วก็ผ่านไป 3 ลมหายใจ
……
10 ลมหายใจสำหรับคนในวังชินหั่วก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น
และหลังจากผ่านไปครบ 10 ลมหายใจ ลูกแก้ววิญญาณในมือของต้วนหลิงเทียนก็เริ่มปรากฏแสงสว่างบางเบาเรืองรองขึ้นมา
ไม่นานมันก็สว่างไสวขึ้นปานดวงตะวัน!
สุดท้ายลูกแก้ววิญญาณในมือของต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏสีสันสดใสสาดส่องออกมา!
“นิ…นี่”
ในวังชินหั่วนอกจากต่งหลินที่เชิดหน้าหันไปทางอื่นอย่างหยิ่งยะโส ทุกผู้คนไม่เวินเฉินเผิงถึงกับตกตะลึงอึ้งค้าง!
หลายคนยังยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างแรงด้วยคิดว่ามองผิดไป
บางคนถึงกับบิดหยิกต้นขาของตัวเองอย่างเลื่อนลอย จนเมื่อความเจ็บปวดแล่นพล่านจี๊ดไปถึงสมองจึงค่อยตระหนักกันได้ว่า…พวกมันไม่ได้ฝัน!
“ไม่จริง…เป็นไปไม่ได้! เรื่องพรรค์นี้มันเป็นไปไม่ได้!!”
ไม่นานเสียงตกใจทั้งไม่ยอมรับก็ดังขึ้นลั่นวังชินหั่ว และเป็นเสียงของเฉินเผิงที่ยืนอยู่ด้านหลังต่งหลิน
เฉินเผิงเบิกตากว้างชมมองลูกแก้ววิญญาณในมือต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ยังกล่าวปฏิเสธความจริงออกมาอย่างไม่ยอมรับ
อนิจจาความจริงกลับตั้งอยู่ตรงหน้า และแสงนั่นก็คล้ายจะตอกย้ำทิ่มแทงนัยน์ตาของมันอยู่เนืองๆว่า…
ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้!
ตอนแรกต่งหลินก็เชิดหน้าหันมองไปทางอื่นด้วยความหยิ่งยะโสถือดี คล้ายไม่อยากเหลือบแลผลการทดสอบรากวิญญาณกระจอกๆของต้วนหลิงเทียนให้เสียสายตา แต่ทว่าแม้มันจะวางท่าเพียงใด แต่มันก็ยังสนใจผลการตรวจสอบของต้วนหลิงเทียนอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้ว่ามันจะมั่นใจเต็มร้อยว่าผลการทดสอบรากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนต้องเป็นรากวิญญาณสีเหลือง แต่ใจมันก็เผลอจดจ่ออยู่กับผลการทดสอบของต้วนหลิงเทียนอย่างไม่รู้ตัว
ทว่าเมื่อผ่านไปครบ 10 ลมหายใจ กลับไร้เสียงเย้ยเยาะของผู้คนตามที่มันคาดไว้
จังหวะนี้มันอดไม่ได้ที่จะตกใจ กระทั่งยังตระหนักได้เบาๆว่าท่าทางเรื่องราวจะผิดท่าแล้ว…
ต่อมาพอได้ยินเสียงตื่นตระหนกตกใจของเฉินเผิง ต่งหลินก็หน้าเสียทันใด ถึงกับต้องเร่งหันกลับมามองลูกแก้ววิญญาณในมือของต้วนหลิงเทียนทันที
และตอนนี้ลูกแก้ววิญญาณในมือของต้วนหลิงเทียน ก็กำลังสาดแสงสีน้ำเงินออกมาสว่างไสวไปทั่ว!
ราวกับมันจะประกาศให้ทุกผู้คนได้รับทราบ ว่าผลการทดสอบคือรากวิญญาณสีน้ำเงิน!
บ่งบอกให้ทุกคนรู้ชัดว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนไม่ใช่รากวิญญาณสีเหลือง! แต่เป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน!!
“ปะ…เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
เห็นแสงสีน้ำเงินสว่างโร่ออกมาจากลูกแก้ววิญญาณ สองตาต่งหลินถึงกับเบิกโพลงราวเห็นผี!