WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2053
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2053
ตอนที่ 2,053 : ทำได้แค่นี้?
แต่ทว่าหุ่นเชิดปีศาจฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น อย่างดีก็มีพลังเทียบได้กับผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนนภาเท่านั้น!
เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนขอบเขตพลังเซียนสวรรค์ หุ่นเชิดปีศาจฟ้าย่อมไม่คู่ควรให้กล่าวถึง
ด้วยเหตุนี้ในการประมือกันของเหล่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ ต่อให้จะเป็นผู้ฝึกมารที่ชำนาญวิชาเชิดหุ่น พวกมันก็ไม่คิดจะใช้หุ่นเชิดในการต่อสู้แต่อย่างใด
เพราะต่อให้เป็นหุ่นเชิดปีศาจฟ้า…ก็เป็นได้แค่สิ่งที่คอยถ่วงมือถ่วงเท้ามันเท่านั้น!
อันที่จริงหลี่อันสังเกตเห็นเรื่องหนึ่งแต่แรก
อสูรกายโลหะเบื้องหน้านั้น แม้จะมีไอมารที่บริสุทธิ์และทรงพลังเสียจนไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังทั้งหมดของมันเลย…กระทั่งยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ!
แต่ทว่าหลังจากที่สัมผัสได้ว่าอสูรกายโลหะเบื้องหน้านั้นกลับไร้ซึ่งกลิ่นอายของพลังชีวิตใดๆ…มันก็เลิกหวาดกลัวอีกต่อไป! กระทั่งยังลอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอกลับๆ!!
ทว่าตอนนี้เมื่อเห็นว่าอยู่ๆต้วนหรูเฟิงก็หายไป และอสูรกายโลหะตัวเขื่องก็คล้ายดั่งจะมีชีวิตขึ้นมา มันทราบได้ทันทีว่าคำ ‘รวม’ ที่ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกก่อนหน้า ก็คือการผสานหลอมรวมเข้ากับร่างอสูรายโลหะตัวเขื่องไม่ผิดแน่!
“หุ่นเชิดเซียนปีศาจที่แท้คืออันใด เจ้ารีบกล่าวบอกข้า!”
จังหวะนี้หลี่อันอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความร้อนใจ ยังหันไปมองยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ที่กล่าวออกเมื่อครู่ และเร่งกล่าวจี้ถามออกมาทันที
เผชิญกับคำจี้ถามด้วยความร้อนใจของหลี่อัน ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ที่เป็นคนของหยางชง อาวุโส 5 วังอุดรไพศาลย่อมไม่กล้ารอช้า เร่งกล่าวอธิบายออกมาทันที “ลือกันว่าครั้งสุดท้ายที่หุ่นเชิดเซียนปีศาจปรากฏขึ้น มันอยู่ในยุคโบราณที่เรียกกันว่า…ยุคมนุษย์ปีศาจ!”
“ยุคมนุษย์ปีศาจ!?”
ทันทีที่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ของวังอุดรไพศาลกล่าวเรื่องนี้ออกมา หลี่อันอดไม่ได้ที่จะหยีตา
มันอาจไม่เคยได้ยินเรื่องหุ่นเชิดเซียนปีศาจ
อย่างไรก็ตาม คำยุคมนุษย์ปีศาจไม่ใช่อะไรที่แปลกหูสำหรับมัน! และมันยังทราบดีว่า…ในช่วงเวลานั้นโลกหล้าเสมือนตกอยู่ในห้วงกลียุคก็ไม่ปาน!
ในยุคสมัยนั้น เผ่าพันธุ์ปีศาจได้เคลื่อนทัพออกมาจากแดนเนรเทศ และรุกรานเข้ามายังดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า จนทำให้สายธารโลหิตเจิ่งนองไปทั่วใต้หล้า!
สุดท้ายสุดยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้ผนึกพลังร่วมมือกันขับไล่ปีศาจให้ล่าถอยกลับแดนเนรเทศไปได้สำเร็จ ก่อนที่จะสละชีวิตสร้างผนึกพลังฉาบทับกำแพงมิติเอาไว้ ไม่ให้เผ่าพันธุ์ปีศาจมีโอกาสได้ก่อการอีกไปนับล้านปี…
“มิผิด!”
ได้ยินคำถามยืนยันของหลี่อัน ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์คนนั้นเร่งพยักหน้าตอบคำ ค่อยกล่าวอธิบายสืบต่อออกมา “เรื่องนี้ข้าพบเจอในบันทึกโบราณที่เก่าแก่อย่างยิ่ง ในนั้นกล่าวไว้ว่า…”
“ในยุคมนุษย์ปีศาจนั้น ปีศาจบางตนและแม้กระทั่งผู้ฝึกมารบางคน สามารถใช้ทักษะลับประการหนึ่งที่สามารถอัญเชิญ ‘หุ่นเชิดเซียนปีศาจ’ ออกมาได้!”
“หุ่นเชิดเซียนปีศาจนั้นไม่เหมือนกับ หุ่นเชิดปีศาจมนุษย์ หุ่นเชิดปีศาจปฐพี และหุ่นเชิดปีศาจฟ้า…ที่ปีศาจทั่วไปหรือผู้ฝึกมารสามารถหลอมสร้างขึ้นมาเองได้…และการใช้งานยังมิใช่การควบคุมหุ่นเชิดธรรมดาๆ”
“กล่าวกันว่าหุ่นเชิดเซียนปีศาจนั้น มีแต่ตัวตนอันทรงพลังที่อยู่ในใจกลางแดนเนรเทศ อันเป็นดั่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจเท่านั้นที่สามารถหลอมสร้างมันขึ้นมาได้! และโดยปกติพวกมันจักถูกกักเก็บไว้ในมิติลับของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แดนเนรเทศเพื่อดูดซับไอมาร”
กล่าวถึงจุดนี้ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ที่เล่าเรื่องก็เริ่มชักสีหน้าเคร่งเครียด แววตาเผยความหวาดกลัว
“และหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่อ่อนแอที่สุด ก็เทียบได้กับผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน…ส่วนหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่ร้ายกาจที่สุด…มันก็มีพลังทัดเทียมกับเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน!”
กล่าวถึงจุดนี้ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ก็สูดลมหายใจเข้าลึก สายตามันมองไปยังหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่กลืนร่างต้วนหรูเฟิงหายไปด้วยความหวาดหวั่น กล่าวสืบต่อว่า “นั่นเป็นหุ่นเชิดเซียนปีศาจไม่ผิดแน่! เมื่อครู่จ้าวตำหนักเมฆาครามสมควรใช้ทักษะลับที่สาบสูญไปแล้ว อัญเชิญหุ่นเชิดปีศาจออกมาจากมิติลับของแดนเนรเทศ…กระทั่งหลอมรวมเข้ากับมัน!!”
“ข้ามิคิดเลยว่าหลังจากที่กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานนับตั้งแต่ครั้งยุคมนุษย์ปีศาจ! ยังจะมีผู้ใดที่สามารถล่วงรู้ทักษะลับ อัญเชิญหุ่นเชิดเซียนปีศาจเช่นนี้ กระทั่งผสานหลอมรวมเข้ากับมันได้!!”
“ปกติแล้วหุ่นเชิดเซียนปีศาจแม้ทรงพลังอำนาจ หากแต่ตัวมันเองก็ไร้ซึ่งชีวิตอันใด…หากเชิดหุ่นตามกลวิธีปกติ ย่อมมิมีใดน่ากลัวนัก! ทว่าเมื่อผู้อัญเชิญได้ผสานหลอมรวมเข้ากับหุ่นเชิด…ก็เสมือนหุ่นเชิดเซียนปีศาจนั่นมีชีวิตและสติปัญญาขึ้นมา! เพราะผู้อัญเชิญสามารถควบคุมมันได้มิต่างใดจากแขนขาของตัวเอง!!”
หลังกล่าวออกมารวดเดียวจบ สีหน้าของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์คนนี้ก็เริ่มซีดลง ใบหน้ายังฉายชัดถึงความตึงเครียด “และเมื่อผู้อัญเชิญหลอมรวมเข้ากับหุ่นเชิดเซียนปีศาจแล้วเช่นนี้…ย่อมสามารถสำแดงพลังอำนาจทั้งหมดของหุ่นเชิดเซียนปีศาจออกมาได้!”
ซัว!
แทบจะพร้อมกันกับที่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์กล่าวจบประโยค หน้าหลี่อันเปลี่ยนสีไปทันที เผยความตึงเครียดจริงจังออกมาไม่น้อย
เพราะจากไอมารบริสุทธิ์ที่หุ่นเชิดเซียนปีศาจนั่นแผ่ออกมา หลี่อันรู้ดีว่าอีกฝ่ายเข้มแข็งกว่ามัน!
หุ่นเชิดที่ไร้สติปัญญาเป็นดั่งหุ่นกระบอกให้คนชักใยแม้จะมีพลังเข้มแข็งกว่า แต่ความสามารถทั้งหมดย่อมขึ้นอยู่กับผู้ควบคุม นั่นหมายความว่าหากหาโอกากสฆ่าผู้ควบคุมได้ก็จบ!
แต่ทว่าหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่อยู่เบื้องหน้ากลับไม่ใช่หุ่นเชิดทำนองนั้น ผู้อัญเชิญสามารถผสานรวมร่างเข้าไปได้ นั่นหมายความว่าเสมือนมันได้รับสติปัญญาของต้วนหรูเฟิง และสิ่งนี้ยังไม่ต่างจากต้วนหรูเฟิงได้ร่างกายอันเข้มแข็งของหุ่นเชิดและพลังของหุ่นเชิดมาทั้งหมด!!
ซึ่งนั่นไม่ใช่ข่าวดีสำหรับหลี่อันเลย!
“หุ่นเชิดเซียนปีศาจ?”
คนของตำหนักเมฆาครามไม่เว้น หรงหยวน ถงจ้ง พอได้ยินคำของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ของวังอุดรไพศาล ในที่สุดก็ได้รับทราบว่า หุ่นเชิดเซียนปีศาจ คืออะไร!
“ดูเหมือนสีหน้าของหลี่อันจักเปลี่ยนไปไม่น้อย…”
“ท่าทางหุ่นเชิดเซียนปีศาจของท่านจ้าวตำหนักจะทรงพลังมากพอคุกคามมันได้…หาไม่แล้วมันคงไม่หน้าดำคร่ำเครียดเช่นนั้น”
“มิผิด”
……
ไม่เพียงแต่หรงหยวนกับถงจ้ง เหล่าองครักษ์เกราะทมิฬทั้งหลายก็เข้าใจเรื่องราวแล้วเช่นกัน จังหวะนี้สีหน้าพวกมันอดไม่ได้ที่จะเผยความตื่นเต้นยินดีออกมา
ดูเหมือนพวกมันจะมีหนทางรอดชีวิตสายหนึ่งแล้ว!
หากพวกมันมีโอกาสรอดชีวิต พวกมันย่อมยินดีที่จะมีชีวิตอยู่!
จะมากจะน้อยทุกคนล้วนหวาดกลัวความตายทั้งสิ้น!
เรื่องนี้ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น
ทว่าในใจพวกมัน…มีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง! เมื่อต้องตายเพื่อสิ่งนั้นพวกมันก็ยินดีใช้ชีวิตเพื่อปกป้องอย่างไม่ขลาดเขลา
“หลี่อัน เจ้ากล้าสู้กับข้าหรือไม่?”
ทันใดนั้นเองเสียงของต้วนหรูเฟิงพลันดังขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้ไม่เพียงแต่เสียง บรรยากาศโดยรอบยังปั่นป่วนไปด้วยคลื่นพลังมหาศาลราวกับบังเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง!
ชั่วพริบตา ความสนใจของทุกคนก็ถูกเสียงของต้วนหรูเฟิงดึงดูดไปทันที
และต้นเสียงที่ดึงดูดความสนใจของทุกผู้คนก็คือ อสูรกายโลหะสีมืดตัวเขื่อง…หุ่นเชิดเซียนปีศาจที่ตอนนี้มีต้วนหรูเฟิงผสานหลอมรวมเข้าไปแล้ว!!
ตอนนี้ไม่เพียงเนินเขาย่อมจะเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ทั่วร่างยังปรากฏไอมารดำสนิทปะทุออกมาลุกโชนไปทั่ว!
ไอมารนี้ช่างบริสุทธิ์นัก! ไม่ใช่อะไรที่ผู้ฝึกมารของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าทั้งปวงจะเทียบเทียมได้!!
มีเพียงแต่เผ่าพันธุ์ปีศาจที่แท้จริงในแดนเนรเทศเท่านั้นที่จะมีไอมารบริสุทธิ์ได้ถึงเพียงนี้!!
หุ่นเชิดปีศาจที่ถูกอัญเชิญมาจากมิติลับในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนเนรเทศ แน่นอนว่าไอมารที่บรรจุไว้ในร่างหุ่นเชิดย่อมบริสุทธิ์ถึงขีดสุด! ยังบริสุทธิ์ถึงขั้นเทียบได้กับไอมารของปีศาจที่แท้จริง!!
และในตอนนี้ต้วนหรูเฟิงที่ผสานรวมเข้ากับหุ่นเชิดเซียนปีศาจจนไม่ต่างอะไรจากปีศาจที่แท้จริง ก็ได้ท้าสู้กับหลี่อัน!
ทันทีที่คำกล่าวท้าสู้ของต้วนหรูเฟิงดังออกมา ไม่เพียงแต่ผู้คนจากตำหนักเมฆาครามเท่านั้น กระทั่งยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์อันเป็นกองกำลังส่วนตัวของหยางชงอาวุโส 5 วังอุดรไพศาลที่ถูกสั่งให้มาติดตามหลี่อัน ยังหันไปมองหลี่อันเป็นสายตาเดียวกัน
พวกมันล้วนสงสัย
หลี่อันจะกล้ารับคำท้าหรือไม่!
“เหอะ!”
โดนต้วนหรูเฟิงกล่าวท้าออกมาซึ่งๆหน้าเช่นนี้ แม้ใจจะหวาดกลัว แต่ไหนเลยหลี่อันจะเต็มใจเผยความอ่อนแอออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายได้? มันแค่นเสียงสบถเย็นคำหนึ่ง ค่อยกล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงดูแคลน “ต้วนหรูเฟิง พลังฝีมือของเจ้ายังห่างชั้นกับข้าหลายขุมนัก…”
“ต่อให้เจ้าจักอัญเชิญหุ่นเชิดเซียนปีศาจอะไรนี่มาจากแดนเนรเทศมันก็เท่านั้น เพราะในสายตาข้าหลี่อัน เจ้าก็มิต่างใดจากเศษสวะ! ชะตาชั่วชีวิตของเจ้าถูกลิขิตไว้แล้วว่ามิมีวันเทียบข้าได้!!”
“เศษสวะเช่นเจ้าหาญกล้าท้าข้าหลี่อัน ไฉนข้าหลี่อันจึงไม่กล้า!?”
หลังเพียงหลี่อันปรามาสต้วนหรูเฟิงไม่ต่างจากขยะทั้งดูแคลนหยันหยามเล็กน้อย หลี่อันก็กล่าวรับคำท้าออกมาตรงๆ
สู้!
สิ้นคำกล่าวของหลี่อัน บรรยากาศโดยรอบพลันระอุร้อนขึ้นมาทันใด ทุกผู้คนล้วนปั่นป่วนฮือฮาขึ้นไม่น้อย
แต่แน่นอนว่าในขณะที่อารมณ์ของทุกผู้คนถูกสภาวะเรื่องราวเร่งเร้าให้พุ่งพล่าน แต่สายตาของทั้งหมดก็ยังจับจ้องมองไปยังหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่มีต้วนหรูเฟิงผสานร่างควบคุมกับหลี่อันไม่วางตา
ตอนนี้พวกมันเป็นได้แค่ ‘ผู้ชม’ เท่านั้น!
ซู่มมม!!
ทันใดนั้นดั่งอัสนีวาบลั่น หลี่อันพลันลงมือจู่โจมอย่างไร้ซึ่งสัญญาณแจ้งเตือนใดๆ! ร่างคนคล้ายแปรเปลี่ยนไปเป็นเส้นสายอัสนี ฟาดจี้เข้าใส่ร่างหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่ต้วนหรูเฟิงควบคุมอยู่ทันที!!
หลี่อันปะทุพลังออกอย่างเกรี้ยวกราด ใช้ออกด้วยวรยุทธ์ท่าร่างผสานเวทย์พลังเสริมท่าร่างเต็มกำลัง ปานมันจะรีบไปเกิดใหม่อย่างไรอย่างนั้น!!
ขณะเดียวกันมวลพลังมหาศาลของขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 ก็ถูกเร่งเร้าออกมาเต็มพิกัด! พาลให้บรรยากาศแปรเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง คลื่นลมแรงกวาดซัดจนเหล่าผู้ชมถึงกับต้องกระเด็นกระดอนลอยละลิ่วไปเป็นแถบ!!
หลี่อันเมื่อต้องเผชิญหน้ากับต้วนหรูเฟิงที่ผสานรวมร่างเข้ากับหุ่นเชิดเซียนปีศาจ มันไม่อาจประมาทใดๆ เพราะไอมารที่ทะลักทะลายออกมาจากร่างเขื่อง…มหาศาลและทรงพลังยิ่งกว่าพลังชั่วชีวิตของมันเล็กน้อย! เช่นนั้นมันจึงคิดลงมือช่วงชิงความได้เปรียบตั้งแต่เริ่ม!!
หลังจากนั้นภายใต้สายตาของยอดฝีมือไม่กี่คนที่แลเห็น ร่างหลี่อันก็ปะทะเข้ากับร่างมหึมาของหุ่นเชิดเซียนปีศาจที่มีต้วนหรูเฟิงควบคุมทันที!!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
……
แผ่นฟ้าคล้ายมีประกายแสงวูบวาบไปมา อากาศแตกระเบิดออกไม่หยุด คลื่นพลังปะทุระเบิดจากทางนั้นทีทางนี้ที!
คนตำหนักเมฆาครามไม่อาจแลเห็นสิ่งใดได้เลย มีก็แต่เพียงเสียงระเบิดสนั่นก้องฟ้าดังสะท้านในหู พร้อมคลื่นพลังสะท้อนที่เคี่ยวกรำพวกมันแทบปางตายจากฟ้าสูง!!
ทว่าในสายตาของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ที่ติดตามมากับหลี่อัน พวกมันยังพอเห็นได้รางๆ ว่าตอนนี้หลี่อันกับต้วนหลิงเทียนกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด
ช่วงแรกคล้ายหลี่อันจะมีเปรียบเล็กน้อย เพราะความเคลื่อนไหวของหุ่นเชิดเซียนปีศาจแลดูเก้ๆกังๆชอบกล
ผ่านไปไม่กี่สิบลมหายใจทั้งคู่เริ่มกลับมาตีโต้สูสี กระบวนท่าวรยุทธ์ทั้งเวทย์พลังเริ่มปะทุออกพร่างฟ้า! ไอพลังด้านหนึ่งย้อมฟ้าให้สว่างไสว อีกด้านหนึ่งกลับเปลี่ยนกลางวันให้มืดมิดดั่งกลางคืน!!
ทว่ายิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าใด กระแสการต่อสู้กลับเริ่มแปรเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ…หลี่อันเริ่มตกเป็นรอง!
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่พลังของหลี่อันสาบสูญขาดพร่องจนพลังรบถดถอยแต่อย่างใด ทว่าความสามารถในการควบคุมหุ่นเชิดเซียนปีศาจของต้วนหรูเฟิงดีขึ้นเรื่อยๆ! จนตอนนี้เสมือนคนคุ้นชินกับการคุมคุมบังคับร่างเขื่องของหุ่นเชิดเซียนปีศาจแล้ว!!
กลับกัน พลังของหลี่อันแต่ไหนแต่ไรก็ด้อยกว่าพลังของหุ่นเชิดเซียนปีศาจอยู่แล้ว!
ปงงงงง!!
เสียงสนั่นลั่นดังขึ้นคราหนึ่ง เป็นหุ่นเชิดเซียนปีศาจตัวเขื่องหมุนตัวหลบกระบวนท่าสังหารลี่อันได้อย่างแยบคาย อาศัยจังหวะที่สภาวะจู่โจมของหลี่อันบรรลุถึงขีดสุดมิอาจย้อนคืน ฉกฉวยช่องว่างที่เปิดออกยิงหมัดซัดเข้ากลางอกหลี่อันอย่างจัง!
สิ้นเสียงสนั่นลั่นดัง
ร่างหลี่อันที่ถูกซัดก็ปลิดปลิวกระเด็นออกไปดั่งดาวหาง! มันพยายามเร่งพลังเร้าอยู่นาน ค่อยขืนร่างให้หยุดลงกลางฟ้าไกลห่างได้อีกครั้ง!!
“อาวุโสเพลิงเงินของลัทธิบูชาไฟ…ทำได้เท่านี้หรือ?”
ร่างเขื่องค้างในท่ายิงหมัดพักหนึ่กก่อนจะคืนกลับ พร้อมกันนั้นเสียงไร้แยแสของต้วนหรูเฟิงที่ควบคุมหุ่นเชิดเซียนปีศาจไม่ดังไม่เบาพลันกังวาลออกมาให้ทุกคนได้ยิน ยังเต็มไปด้วยความดูถูกหยามเหยียดนัก!
ได้ยินวาจาปรามาสของต้วนหรูเฟิง หลี่อันที่พึ่งหยุดร่างกินโอสถรักษา ถึงกับต้องกระอักโลหิตออกมาคำใหญ่!
ในสายโลหิตที่ร่วงแตกเบ่งบานเป็นบุปผากลางหาว ยังแลเห็นโอสถเม็ดหนึ่งร่วงตกลงมาด้วย…
แน่นอนว่าการกระอักโลหิตถึงขั้นสำลักโอสถออกมาไม่ใช่แค่เพราะวาจาดูแคลนของต้วนหรูเฟิง แต่เพราะพลังหมัดก่อนหน้าของหุ่นเชิดเซียนปีศาจมันร้ายกาจเกินไป!
มันที่พยายามกล้ำกลืนฝืนทนไว้ไม่ให้กระอักโลหิตออกมา ด้วยไม่อยากอับอายมากไปกว่านี้ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว
“ต้วนหรูเฟิง! เจ้าอย่าได้ใจให้มันมากเกินไปนัก! หากเจ้าที่ควบคุมหุ่นเชิดเซียนปีศาจนั่นได้มีพลังเพียงเท่านี้จริงๆ…วันนี้ไม่เพียงแต่ข้าจะทำลายหุ่นเชิดเซียนปีศาจบัดซบนั่น ข้ายังจะสับร่างเจ้าให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น! ต่อให้เสียเจ้าไปสักคนข้าก็ไม่กลัวจะหาคนในครอบครัวต้วนหลิงเทียนคนอื่นเพื่อไปบีบคั้นมันไม่ได้!!”
หลี่อันถลึงตามองหุ่นเชิดตัวเขื่องด้วยแววตาอำมหิต พยายามกล่าวออกเสียงเรียบ
แม้จะพยายามกล่าวออกเสียงเรียบแล้ว แต่ในวาจาไม่ขาดจิตสังหารแม้แต่น้อย
ขวับ!
ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด หากแต่ในมือของหลี่อันพลันปรากฏดาบประหลาดเล่มหนึ่ง…
ใบดาบทั้งใบเป็นสีแดงฉานราวกับมันชโลมย้อมไปด้วยโลหิต บริเวณท้ายที่จับสลักไว้ด้วยหัวมังกรเสมือนมีชีวิต กลิ่นอายพลังคมกล้าลี้ลับจากตัวดาบ ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามทั้งมีพลังอำนาจครอบงำไม่น้อย
ดาบอสุรา!
ไพ่ตายที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่หลี่อันมีอยู่ในตอนนี้!