WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2071
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2071
ตอนที่ 2,071 : หญิงงามเป็นบ่อเกิดหายนะ!
คนของตระกูลตงฟางทั้ง 3 รวมถึงตงฟางฉู่ ย่อมไม่อาจอยู่สู้หน้าผู้คนเร่งรุดออกจากเหลา เดินทางกลับตระกูลฉู่ทันที
และเมื่อพวกมันกลับมาถึงตระกูลฉู่สิ่งแรกที่กระทำก็คือเข้าพบประมุข!
ประมุขตระกูลตงฟาง ตงฟางเฉียน!
“ท่านพ่อ!”
เมื่อพบตงฟางเฉียน ตงฟางฉู่ที่กำลังโมโห ก็กล่าวออกเสียงหนัก “ท่านพ่อ! ชิวมู่ชิง คุณหนูใหญ่สกุลชิวครานี้นับว่านางล้ำเส้นพวกเราแล้ว!!”
“หืม? เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
เมื่อเห็นท่าทางเกรี้ยวกราดดุร้ายของลูกชาย หน้าตงฟางเฉียนจมลงทันใด ขมวดคิ้วกล่าวถาม
ราวๆชั่วกาน้ำเดือดที่แล้ว ลูกชายของมันเข้ามาหาพร้อมร้องขอมือดีสกุลตงฟางไป 2 คน ซึ่งก็คืออาวุโสชราชุดเทาทั้ง 2 ที่ติดตามอยู่ข้างกายตงฟางฉู่ไปเมื่อครู่ และต่างบรรลุถึงเซียนนภาขั้นสูงสุด!
(ชั่วกาน้ำเดือด น่าจะราวๆ 20-25 นาที)
ทว่ามันไม่คิดเลยว่าลูกมันพาคนไปได้ไม่ทันไร กลับย้อนกลับมาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดขนาดนี้
แล้วที่ว่าชิวมู่ชิงของสกุลชิวล้ำเส้นเล่า ล้ำเส้นอันใดกันแน่?
“ท่านพ่อตอนแรกข้าคิดพาอาวุโสทั้ง 2 ไปสั่งสอนไอ้หนูที่มันทำข้าเสียหน้าที่เหลาอาหาร…แต่ไม่คิดเลยว่าพอพวกข้ากลับไปถึงที่เหลา ไอ้หนูนั่นกับชิวมู่ชิงก็หายหัวไปแล้วทั้งคู่”
กล่าวถึงจุดนีสีหน้าตงฟางฉู่ก็บิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก “แล้วท่านพ่อรู้หรือไม่ว่าเกิดอันใดขึ้น…เจ้านั่นมันถูกชิวมู่ชิงจูงมือออกจากเหลาอาหาร! อีกทั้งข้ายังได้ยินมาว่านางถึงกับกล้าพามันกลับตระกูลชิว ทั้งยังพาเข้าเรือนส่วนตัวของนางอีก!!”
“และเท่าที่ข้ารู้มา…แต่ไหนแต่ไรเรือนส่วนตัวของนางกระทั่งสหายที่เป็นสตรียังมิเคยได้เข้าไปเหยียบ! สารเลวนั่นเป็นคนแรกที่ได้เข้าพัก!!”
กล่าวถึงประโยคนี้สีหน้าของตงฟางฉู่ก็แดงขึ้นด้วยความโกรธ!
และจากวาจาเผยให้รู้ว่าตงฟางฉู่รู้จักชิวมู่ชิงดีขนาดไหน
และที่มันโกรธก็เพราะเรื่องนี้นี่เอง!
ชิวมู่ชิงนั้น เป็นสตรีที่ตัวมันยึดถือว่าเป็น ผู้หญิง ของมันมานานแล้ว ทว่าตอนนี้นางในใจกลับเป็นฝ่ายริเริ่มจูงมือบุรุษก่อน! กระทั่งยังพาบุรุษคนนั้นกลับเรือนส่วนตัวของนางที่มันไม่มีแม้แต่โอกาสเฉียดกราย!!
พอคิดถึงเรื่องนี้ ตงฟางฉู่ก็โมโหจนแทบบ้า!
“ว่าอะไร!?”
ได้ยินคำของตงฟางฉู่ สีหน้าตงฟางเฉียนก็มืดดำลงทันใด ลูกตาฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟัน “ชิวมูชิงนั่น…กล้าทำถึงขนาดนี้เชียวรึ!?”
“ท่านประมุข!”
ขณะเดียวกันอาวุโสตระกุลตงฟางที่พึ่งกลับมาพร้อมตงฟางฉู่ก็กล่าวออกด้วยโทสะ “ชิวมู่ชิงผู้นี้ไร้ยางอายเกินไป! ตระกูลชิวก็ไร้ยางอายเกินไป! ในเมืองคงหมิงของเรา ยังมีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าชิวมู่ชิงจะเป็นสะใภ้ตระกูลตงฟางของพวกเรา…การกระทำของชิวมู่ชิงวันนี้ นับว่าหยามหน้าตระกูลตงฟางเราให้อัปยศนัก!!”
“ถูกแล้วท่านประมุข!”
อาวุโสตระกูลตงฟางอีกคนที่พึ่งมาถึงก็กล่าวออกด้วยโทสะเช่นกัน “หากวันนี้ตระกูลตงฟางของพวกเราไม่จัดการเรื่องราวให้ดี…วันหน้าเกรงว่าตระกูลตงฟางเราคงยากจะเชิดหน้าชูตาอยู่ในเมืองคงหมิงได้อีก! ถึงตอนนั้นยังจะให้ผู้คนไม่มองพวกเราสกุลตงฟางเป็นตัวตลกชวนหัวได้อีกหรือ!?”
“อืม! เรื่องนี้พวกเราต้องจัดการให้ดี!”
สองตาตงฟางเฉียนเผยประกายเยียบเย็น เรื่องนี้มันย่อมเห็นด้วย จึงเอ่ยถามอาวุโสทั้ง 2 ออกไปเสียงหนักทันที “แล้วมิทราบอาวุโสทั้ง 2 ท่านคิดเห็นว่าพวกเราควรจัดการเรื่องราวอย่างใด?”
“เรียนท่านประมุข ข้าเสนอให้ท่านระดมคนไปหาความเรื่องการกระทำของชิวมู่ชิงที่ตระกูลชิวเป็นการส่วนตัว…พวกเราต้องให้นางและตระกูลชิวมอบคำอธิบายที่ดีแก่เรา!!”
อาวุโสคนหนึ่งกล่าว “นอกจากนั้นพวกเรายังต้องให้ชิวมู่ชิงและตระกูลชิวส่งตัวชายหนุ่มชุดม่วงนั่นกับชิวมู่ชิงออกมาเสีย! เพื่อที่พวกเราจักได้สำเร็จโทษมันกล้าทำร้ายคุณชายรอง อีกทั้งพวกเรายังต้องถอนหมั้น! ล้มเลิกงานวิวาห์ระหว่างคุณชายรองกับชิวมู่ชิงไปเสีย!!”
“ข้าเห็นด้วย!”
อาวุโสตระกูลตงฟางอีกคนพยักหน้ารับคำเสียงเข้ม “ตอนนี้เรื่องงามหน้าที่ชิวมู่ชิงกระทำ กำลังจักแพร่ไปทั่วทั้งเมืองคงหมิง…หากตระกูลตงฟางของพวกเรายังเห็นด้วยกับการวิวาห์ครั้งนี้ ไหนเลยยังไม่ทำให้พวกเรากลายเป็นตัวตลกของผู้คนทั้งเมืองอีก!”
“เช่นนั้นงานวิวาห์ครั้งนี้ต้องล้มเลิก! และพวกเราตระกูลตงฟางต้องเป็นฝ่ายถอนหมั้นนังหญิงแพศยานั่น!!”
“อีกทั้งตระกูลตงฟางของพวกเราต้องประกาศให้ผู้คนทั้งเมืองคงหมิงรับทราบ…ว่าเป็นตระกูลตงฟางของพวกเราไม่ต้องการรับสะใภ้เช่นชิวมู่ชิง! มิใช่ชิวมู่ชิงไม่ยินดีแต่งเข้าตระกูลตงฟางของพวกเรา!!”
อาวุโสของตระกูลตงฟางกล่าวออกมายืดยาว แต่ทุกวาจาถ้อยคำล้วนเด็ดขาดเอาเรื่องนัก
“อืม! เรื่องนี้ข้าจักเป็นผู้นำคนไปหาความที่ตระกูลชิวด้วยตัวเอง! หาไม่แล้ว ผู้คนยังไม่คิดว่าตระกูลตงฟางของพวกเราไร้ผู้ใดแล้วหรอกหรือ?!
ตงฟางเฉียนกล่าวออกเสียงเหี้ยม “นอกจากนั้นเรื่องถอนหมั้นก็สมควรยิ่ง! ข้ายังเห็นสมควรว่าต้องประกาศให้รู้กันทั่วเมือง! ว่าพวกเราตระกูลตงฟางไม่ยินยอมรับสตรีแพศยาเช่นนี้เป็นสะใภ้!!”
“สำหรับเรื่องที่จักบีบให้ตระกูลชิวส่งตัวเจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่นออกมามิน่าจักใช่เรื่องยากอันใด…แต่หากจะให้พวกมันส่งตัวชิวมู่ชิงให้พวกเราด้วยเกรงว่าคงไม่ง่าย…จะอย่างไรนังนั่นมันก็เป็นแก้วตาดวงใจของประมุขตระกูลชิว ชิวอ้านผิง!”
กล่าวถึงจุดนี้คิ้วของตงฟางเฉียนก็ขมวดย่นเป็นปม
“ท่านพ่อ! ไฉนท่านไม่เรียกร้องให้ตระกูลชิวส่งตัวชิวมู่ชิงให้พวกเราด้วยเล่า!?”
ทันใดนั้นเองตงฟางฉู่ที่เงียบฟังมาสักพักก็เร่งเปิดปากกล่าวท้วงออกมา
ยามมันเปิดปากกล่าวท้วง แววตาของมันยังเต็มไปด้วยความหื่นกระหายมากราคะ ด้วยมันกำลังคิดอยู่พอดีว่าหากได้ตัวชิวมู่ชิงมาจัดการที่ตระกูลฟางมันจะทำอย่างไร กระทั่งจะทับร่างแล้วถล่มนางท่าใดให้คนต้องร้องขอชีวิต!!
มันย่อมอยากครอบครองร่างกายของสตรีที่มันฝันถึงมานาน!
แม้เรื่องแต่งงานกับนางจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปก็ตามที!
“ฉู่เอ๋อพ่อเข้าใจว่าตอนนี้เจ้าคิดอย่างไร…ทว่าเรื่องที่จะให้ตระกูลชิวส่งตัวชิวมู่ชิงมานั้น ข้าดูแล้วมันเป็นไปมิได้เลย…”
ตงฟางเฉียนกล่าวตอบตงฟางฉู่
“คุณชายรอง ท่านประมุขกล่าวถูกแล้ว”
ตอนนี้เองอาวุโสคนหนึ่งที่กล่าวเสนอออกไปตอนแรกด้วยความโมโห พอได้ฟังเรื่องราวและสงบใจลงแล้วก็กล่าวออกด้วยความเห็นด้วย พร้อมแจงเรื่องราวออกมาอย่างละเอียด “คุณชายรองก็ทราบดี ว่าชิวมู่ชิงเป็นบุตรสาวคนเดียวของชิวอ้านผิง มันกระทั่งเพื่อบุตรีคนนี้แล้ว…ต่อให้สละชีวิตยังกระทำได้! เช่นนั้นเรื่องที่จักให้มันส่งตัวชิวมู่ชิงให้พวกเราย่อมเป็นไปไม่ได้เลย…”
“คุณชายรอง พวกเรารู้ดีว่าตอนนี้ท่านแค้นชิวมู่ชิงนัก…อย่างไรก็ตามเรื่องที่จะให้ตระกูลชิวส่งมอบตัวนางให้พวกเรา สมควรไร้หนทางจริงๆ”
อาวุโสของตระกูลตงฟางอีกคนก็กล่าวออกมา
ได้ยินคำทัดทานเหล่านี้ ตงฟางฉู่ก็ได้แต่เงียบไป
ไหนเลยมันจะไม่รู้เรื่องนี้
แค่มันไม่อยากยอมรับเท่านั้น
แต่เป็นธรรมดาที่ถึงแม้มันจะรู้ตัวว่ายากจะยอมรับเรื่องนี้เพียงใด แต่มันก็ต้องบอกใจให้ยอมรับ!
“ฉู่เอ๋อพ่อสัญญากับเจ้า…หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว พ่อจะหาโอกาสลอบจับตัวชิวมู่ชิงนั่นกลับมาเอง! ข้าจะให้นางมาร่ำร้องขอความเมตตาจากเจ้าให้จงได้! ตอนนี้เจ้าเพียงฆ่าเจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่นให้ตายกับมือเพื่อระบายโทสะไปก่อนเถอะ!!”
ตงฟางเฉียนรู้สึกสงสารลูกชายตัวเองไม่น้อย เร่งกล่าวปลอบอออกมาอย่างทันท่วงที
ด้วยมีคำสัญญาจากบิดา สองตาของตงฟางฉู่ก็ทอประกายเรืองวูบ ขณะเดียวกันก็เร่งกล่าวขอบคุณบิดาออกมาเร็วไว “ขอบคุณท่านพ่อ!!”
“เอาล่ะ พวกเจ้าทั้ง 3 ไปรอข้าที่ลานหลัก…ตอนนี้ข้าจะรีบไปหาอาวุโสลำดับ 1 และอาวุโสลำดับ 2 เพื่ออธิบายเรื่องราวก่อน”
ตงฟางเฉียนกล่าวออก “ข้าเชื่อว่าเรื่องที่ชิวมู่ชิงกระทำวันนี้ รวมถึงเรื่องที่ตระกูลชิวเพิกเฉยถึงขั้นที่ป่านนี้แล้วยังไม่ทำอะไร…ทั้งคู่ย่อมมีโทสะไม่ต่างอันใดจากพวกเรา”
“และหลังจากที่ข้าแจ้งทั้งสองให้ทราบอย่างละเอียดแล้ว ข้าจะไปรวมตัวกับพวกเจ้าที่ลานหลัก”
หลังจากกล่าวจบคำ ร่างตงฟางเฉียนก็วูบหายไปในอากาศว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาทุกคน
ตงฟางเฉียน ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนนั้น ความเร็วของมันย่อมเป็นอะไรที่ว่องไวเกินกว่าสายตาของตงฟางฉู่และอาวุโสจะมองตามได้ทัน
อย่างไรก็ตามหลังจากตงฟางเฉียนจากไป ทั้ง 3 ก็ออกไปรอที่ลานหลักแต่โดยดี
เป็นอย่างที่ตงฟางเฉียนกล่าวไว้ไม่มีผิด ทันทีที่อาวุโส 1 และอาวุโส 2 รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกมันทั้งคู่ล้วนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ!
เพราะในสายตาของพวกมัน ครั้งนี้นับว่าชิวมู่ชิงได้ล้ำเส้นเกินไปแล้วจริงๆ!!
ไม่นานตงฟางเฉียนก็พาอาวุโสลำดับที่ 1 และ 2 ไปสมทบกับพวกตงฟางฉู่และอาวุโสอีก 2 คนที่ลานหลัก ค่อยพากันเหินร่างขึ้นฟ้า เหาะออกจากตระกูลตงฟางไป
ทั้งหมดเหาะไปยังทิศทางที่ตั้งตระกูลชิว!
ระหว่างที่พวกมันเดินทาง ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนในเมืองคงหมิงไม่น้อย
“เฮ่ นั่นมิใช่ตงฟางเฉียนประมุขตระกูลตงฟางรึไง?”
ผู้คนที่สัญจรไปมาไม่ว่าจะบนถนนด้านล่างหรือในอากาศ ต่างสังเกตเห็นร่างคนของตระกูลตงฟางที่กำลังเหาะเหินเดินทางทั้งสิ้น เพราะเพดานบินของพวกมันทั้ง 6 ไม่ได้สูงอะไรมากมาย
“นอกจากนี้ยังมีอาวุโสลำดับที่ 1 กับลำดับที่ 2 ของตระกูลตงฟางอยู่ด้วย…หืม? คุณชายรองของตระกูลตงฟางอย่างตงฟางฉู่ก็อยู่ด้วยรึ นี่พวกมันกำลังไปที่ใดกันนะ อ๊ะ! หรือว่า…”
“มิผิด! อย่างที่เจ้าคิด! ทางนั้นเป็นที่ตั้งตระกูลชิว! พวกมันต้องไปหาความที่ตระกูลชิวแน่นอน!!”
มีคนในเมืองคงหมิงไม่น้อยที่ได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าพอเห็นคนของตระกูลตงฟางเหินร่างไปทางตระกูลชิวแบบนี้ พวกมันย่อมคาดเดาเหตุผลได้ไม่ยาก!
“จะว่าไปแล้วเรื่องราวในวันนี้ คุณหนูใหญ่ตระกูลชิวก็ใจกล้าจริงๆที่คิดปกป้องบุรุษที่กล้าทำให้คุณชายรองตงฟางฉู่อับอายขายหน้า ข้าล่ะยังไม่อยากจะเชื่อเลย…ว่านางจะกล้าพาบุรุษผู้นั้นกลับตระกูลชิว!”
“เหอะๆ ครั้งนี้การกระทำของชิวมู่ชิงไม่ต่างอะไรจากตบหน้าตระกูลตงฟางทั้งตระกูล เป็นเรื่องธรรมดาที่ประมุขตระกูลตงฟางจะพาคนไปหาความเช่นนี้…”
“อา ดูเหมือนว่าอะไรๆในเมืองคงหมิงกำลังจักเปลี่ยนไปอีกแล้ว…หากตระกูลตงฟางกับตระกูลชิวมิอาจจับมือเป็นพันธมิตรกันได้ ตระกูลเฝิงไหนเลยจะพลาดโอกาสอันประเสริฐเช่นนี้ ไม่พ้นต้องเร่งรุกคืบกลืนกินกิจการทั้งหมดในเมืองคงหมิงไว้แต่ผู้เดียวแน่…”
“ครั้งนี้นับว่า ‘นารีเป็นเหตุ’ จริงๆ….”
(นารีเป็นเหตุ หรือ หญิงงามเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะ มีความหมายเดียวกันคือ ผู้หญิงเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่อง!)
“มิผิด อาศัยเพียงสตรีนางเดียวกลับทำให้ทั้ง 2 ตระกูลแตกหักกัน…นับว่าหญิงงามเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะโดยแท้”
“นั่นสิ! แถมเจ้าหนุ่มชุดม่วงที่ชิวมู่ชิงพากลับไป…ข้าเชื่อว่าคราวนี้ถ้ามันไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่ๆ…”
……
เห็นคนของตระกูลตงฟางมุ่งหน้าไปทางตระกูลชิวเช่นนี้ หลายๆคนในเมืองคงหมิงก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
และฟังจากวาจาของพวกมัน ชิวมู่ชิง เป็นดั่งหญิงงามที่เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ อีกทั้งชายหนุ่มชุดม่วงที่นางพาตัวไปอย่างต้วนหลิงเทียนไม่น่าจะรอดพ้นคราวเคราะห์ไปได้
เรื่องราวภายนอกจะวุ่นวายเพียงใด เป็นธรรมดาที่ต้วนหลิงเทียนจะไม่รู้เลย
ตอนนี้เขากำลังนั่งสนทนากับชิวมู่ชิงที่พึ่งกลับมาจากไปหาบิดาอยู่ในลานว่างหลังบ้านพักส่วนตัว หนึ่งในบ้านพักของเรือนรับรองในเขตที่พักส่วนตัวของชิวมู่ชิง
“จริงสิแม่นางชิว…ท่านได้บอกชื่อข้ากับบิดาของท่านไปแล้วหรือไม่?”
(ผมดูผิด คำ ‘แม่นางมู่ชิง’ เป็นชิวมู่ชิงสั่งให้ตงฟางฉู่เรียก แต่ต้วนหลิงเทียนจะเรียกนางว่า แม่นางชิวมาตลอด…ผมไม่ทันได้ดูให้ดี ขออภัยด้วยครับ-*-)
ทันใดนั้นคล้ายต้วนหลิงเทียนจะนึกอะไรได้ออก จึงเอ่ยถามนางออกมาทันที
เพราะเขาจำได้ว่าก่อนที่ชิวมู่ชิงจะจากไปก่อนหน้า เขาได้บอกชื่อให้นางรู้
เขามีเรื่องบาดหมางกับผู้คนเอาไว้ไม่น้อย ที่สำคัญคนเหล่านั้นหาใช่คนธรรมดาๆไม่ ล้วนเป็นตัวตนระดับสูงของ 1 ใน 3 ลัทธิที่ยิ่งใหญ่อย่างลัทธิบูชาไฟทั้งสิ้น!