WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2073
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2073
ตอนที่ 2,073 : ขยะ!
“ต่อหน้าข้า เจ้ารู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวไว้ให้มากเถอะ!”
นายท่านรองตระกูลชิว ชิวกังยี่กล่าวคำออกมาด้วยความดูถูก มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาถือดี ตีตัวเสมือนจ้าวผู้อยู่เหนือมองติบ่าวไพร่!
และท่าทีดังกล่าวทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกขัดใจไม่น้อย
“อ้อ ข้าต้องเจียมเนื้อเจียมตัวต่อหน้าเจ้าสินะ?”
สองตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลงฉับพลัน ประกายเย็นเยียบสายหนึ่งวูบวาบออก เสียงยังต่ำลงหลายส่วน
หากใครสนิทสนมกับต้วนหลิงเทียนมากพอ มาได้เห็นทีท่าดังกล่าวของต้วนหลิงเทียนล่ะก็ ย่อมรู้ได้ทันที
ว่าตอนนี้เขามีโมโหแล้วจริงๆ!
“อะไร? เจ้ายังสงสัยคำข้างั้นเหรอ!?”
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังย้อนถามด้วยท่าทางไม่พอใจ ชิวกังยี่อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มเยาะ สายตาที่มองต้วนหลิงเทียนทวีความดูถูก หว่างคิ้วแผ่พุ่งความถือดีไร้สิ้นสุดออกมา
“ชิวกังยี่ เจ้ามันจะมากเกินไปแล้ว!”
ชิวมู่ชิงก้าวออกมายืนข้างต้วนหลิงเทียน คิ้วคู่งามขมวดยู่เป็นปม คนชักสีหน้าเย็นชากล่าวออกเสียงหนัก
“หึ!”
ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันแค่นคำหัวร่อออกมาคำหนึ่ง พลังเซียนสุริยันทั่วร่างโคจรพุ่งพล่าน เตรียมปะทุพลังออกไปสั่งสอนชิวกังยี่สักครา!
ให้ชิวกังยี่มันรู้สำนึก! ว่าเขาต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ใครที่จะมาแหย่เล่นได้ง่ายๆ ยังจะให้มันรับทราบว่าเขาหรือตระกูลตงฟางกันแน่ที่มันต้องกลัว!!
แต่ในขณะที่ชุดคลุมต้วนหลิงเทียนกระพือแรง มวลพลังมหาศาลกำลังจะปะทุระเบิดนั้นเอง
“นายท่านรอง!”
ปรากฏเสียงรีบร้อนดังขึ้นจากด้านนอกเรือนส่วนตัวของชิวมู่ชิง!
และฟังจากเสียงเรียกหาของผู้มาใหม่ มันไม่ได้มาหาชิวมู่ชิงแต่อย่างใด แต่มาหานายท่านรองตระกูลชิว ชิวกังยี่!
ประกายในแววตาชิวมู่ชิงยิ่งมายิ่งเยียบเย็น
ตึก! ตึก! ตึก!
……
เสียงฝีเท้ารีบร้อนดังมาแต่ไกล ต้วนหลิงเทียนหันมองไปก็เห็น
ปรากฏชายวัยกลางคนวิ่งหน้าตั้งเข้ามา โดยไม่คิดจะขออนุญาตเจ้าของเรือนอย่างชิวมู่ชิงอีกคน พอวิ่งมาถึงเบื้องหน้าชิวกังยี่ มันก็รีบรายงานออกมาทันที “แย่แล้วนายท่านรอง ผู้นำตระกูลตงฟางพาลูกชายคนรองของมัน ตงฟางฉู่ รวมถึงอาวุโสลำดับ 1 และ 2 บุกมาเยือนถึงหน้าตระกูลชิวเราแล้ว…อีกทั้งพอพวกมันมาถึงก็ร้องเรียกให้พวกเราตระกูลชิวมอบคำอธิบายให้พวกมัน!”
ชายวัยกลางคนที่เป็นอาวุโสของตระกูลชิวเช่นกัน เร่งกล่าวรายงานออกมารวดเดียวจบ
เนื้อหาในวาจาของมันยังสรุปสั้นๆได้ว่า…
ผู้นำตระกูลตงฟางพาพวกมาถามหาคำอธิบายจากตระกูลชิว!
“ตระกูลตงฟางมาแล้วหรือ…”
ได้ยินคำของชายวัยกลางคน ชิวกังยี่ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
มองไปยังต้วนหลิงเทียนกับชิวมู่ชิงอีกครั้ง สองตายังทอประกายเยียบเย็น
เหล่าอาวุโสที่ติดตามชิวกังยี่มา ตอนนี้ก็หน้าเปลี่ยนสีไปไม่ต่าง
“อะไรกัน…ผู้นำตระกูลตงฟางพาคนมาเร็วถึงเพียงนี้เชียว…”
สีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสตระกูลชิวอัปลักษณ์ปั้นยากนัก อาวุโสคนหนึ่งยังหันไปมองชิวมู่ชิงพร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตำหนิ “คุณหนูใหญ่…ดูสิ่งที่ท่านกระทำลงไปเถิด ท่านไม่คิดแต่งงานกับตงฟางฉู่ก็แล้วไป แต่นี่ท่านกลับทำให้เรื่องราวมันเลวร้ายลง! จับมือบุรุษพาวิ่งไม่พอ มิหนำซ้ำยังพามันกลับมาที่ตระกูลชิวของเรา นี่ยังมิใช่ท่านเล่นกับไฟ ตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลตงฟางหรือไร!?”
“ในเมืองคงหมิงยังมีผู้ใดไม่ทราบว่าตระกูลตงฟางกับตระกูลชิวเรากำลังจักวิวาห์เชื่อมสัมพันธ์ แต่ท่านเลือกจับมือบุรุษอื่นอย่างเปิดเผย ซ้ำยังนำมันกลับมาที่ตระกูลเช่นนี้! ยังมิให้ผู้อื่นคิดว่าท่านคบชู้สู่ชายได้หรือไร!?”
อาวุโสอีกคนพลันตะคอกคำตำหนิออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห
“ไม่เพียงพากลับมายังตระกูลชิวเท่านั้น ยังมีหน้าพามันกลับมาพักที่เรือนส่วนตัวเช่นนี้อีก! หรือยังกลัวโดนผู้คนครหาไม่พอ?!”
อาวุโสข้างๆชิวกังยี่กล่าวค่อนแคะออกมาเสียงเย็น
“จับตัวมันส่งให้ตระกูลฟางเถอะ อย่างน้อยๆจะได้ลดโทสะคนของตระกูลฟางลงบ้าง”
อาวุโสตระกูลชิวอีกคนมองต้วนหลิงเทียนพร้อมกล่าวเสนอออกมาเสียงทุ้ม “หาไม่แล้วตระกูลชิวของพวกเรามีหวังได้เป็นศัตรูกับตระกูลตงฟางเข้าจริงๆ! ถึงตอนนั้นตระกูลเฝิงย่อมสามารถรุกคืบค่อยๆกลืนตระกูลเรากับตระกูลตงฟางทีละตระกูลอย่างไม่รีบร้อน สุดท้ายพวกเราก็ไร้ที่ยืนในเมืองคงหมิงแล้ว!!”
“หึ! เจ้าไม่คิดง่ายไปหน่อยหรือ? ต่อให้ส่งมันไปไฟโทสะของคนตระกูลคงฟางก็ใช่ว่าจะมอดลง…อย่างไรเสียครั้งนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลชิวเราก็ตบหน้าคนของตระกูตงฟางฉาดใหญ่ พวกมันไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่!”
ยังมีอาวุโสที่มองกล่าวถึงชิวมู่ชิงออกมาตรงๆ หน้ามันตอนนี้ดุร้ายปานยักษ์มารน้ำเสียงแฝงความตำหนิชัด
วาจาโทษกล่าวชิวมู่ชิงที่ทำให้ตระกูลตงฟางขุ่นเคือง!
“เช่นนั้นก็จับตัวส่งไปทั้งคู่เลยเป็นไร”
ชิวกังยี่กล่าวออกเสียงดัง
เรียกว่าหลังอาวุโสวัยกลางคนเร่งรุดมาแจ้งเรื่องให้ชิวกังยี่ทราบ…
เหล่าอาวุโสที่มาพร้อมชิวกังยี่จากที่เคยเงียบขรึม ก็จ้อกันเสียงดังสนั่น
ในวาจายังเต็มไปด้วยคำตำหนิชิวมู่ชิง ราวกับชิวมู่ชิงเป็นเหตุให้โลกวุ่นวาย
“พาพวกมันทั้งสองไปด้วยกัน! ให้พวกมันทั้งคู่ไปขอขมาผู้นำตระกูลตงฟางด้วยตัวเองก่อน หลังจากนั้นพวกเราค่อยหาคำอธิบายดีๆให้คนของตระกูลตงฟาง”
ชิวกังยี่ที่คล้ายตัดสินใจได้แล้ว พลันกล่าวสั่งออกมาเสียงเย็น หมายให้คนจับต้วนหลิงเทียนกับชิวมู่ชิงที่เป็นตัวต้นเรื่องส่งตัวให้คนของตระกูลตงฟาง จะได้ไปขอขมาเพื่อลดโทสะ หลังจากนั้นค่อยหาคำอธิบายดีๆให้
“ฮ่าๆๆๆ”
ทว่าตอนนี้เองพลันมีเสียงหัวเราะหนึ่งดังขึ้น
เสียงหัวเราะดังกล่าว มาดังขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้ย่อมสร้างความไม่พอใจให้ชิวกังยี่และอาวุโสคนอื่นๆนัก
สำหรับคนที่กำลังจะทำตามคำสั่งชิวกังยี่ เตรียมไปจับต้วนหลิงเทียนกับชิวมู่ชิงไปให้ตระกูลตงฟางเพื่อขอขมา ก็หยุดร่างลงทันที
สักพักความสนใจของทุกคนก็เบนไปตกยังเจ้าของเสียวหัวเราะ
และคนที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่ข้างๆชิวมู่ชิงนั่นเอง!
“เจ้าหัวเราะบัดซบอะไร!?”
เห็นต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาในเวลาแบบนี้ หน้าชิวกังยี่จมลงอีกครั้ง ตะคอกถามเสียงเย็น
เสียงตะคอกไม่ได้เบาแม้แต่น้อย มันกลบเสียงหัวเราะของต้วนหลิงเทียนทันที
กระทั่งชิวมู่ชิงเองยังอดหันมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสัยเสียไม่ได้ ด้วยไม่ทราบว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ไฉนต้วนหลิงเทียนยังหัวเราะออกมาได้?
ถึงแม้นางจะได้รับคำรับรองจากบิดาแล้วว่าจะพยายามช่วยปกป้องต้วนหลิงเทียนให้พ้นมือคนของตระกูลตงฟางอย่างเต็มที่
แต่พิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้ เกรงว่าเรื่องราวจะหนักหนากว่าที่นางคิดไว้หลายส่วน…
ชิวกังยี่ทั้งเหล่าอาวุโสไม่เพียงคิดส่งตัวต้วนหลิงเทียนออกไป เพื่อลดโทสะคนของตระกูลตงฟางเท่านั้น!
กระทั่งตัวนาง ชิวกังยี่ก็ไม่เว้น!
แน่นอนว่านางรู้ตัวดี ว่าต่อให้ชิวกังยี่กับพวกอยากจะจับตัวนางส่งมอบให้ตระกูลตงฟาง แต่นางก็ไม่มีทางถูกส่งไปแน่เพราะบิดาของนางย่อมไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
ตอนนี้นางกลับห่วงเรื่องต้วนหลิงเทียนมากกว่า
บิดาของนางสามารถทัดทานเหล่าอาวุโสเพื่อนางได้…แต่ทว่ากับคนนอกอย่างต้วนหลิงเทียนเล่า จะทำได้หรือ?
และในขณะที่นางกำลังเป็นกังวลถึงความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนอยู่นั้น อยู่ดีๆต้วนหลิงเทียนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังร่าเสียอย่างนั้น!
เรื่องนี้ทำให้นางสับสนงุนงงไม่น้อย
ด้วยไม่ทราบจริงๆว่าไฉนในสถานการณ์แบบนี้ต้วนหลิงเทียนยังสามารถหัวเราะออกมาได้ ยังหัวเราะร่าอย่างปลอดโปร่งราวไม่กลัวฟ้ากลัวดิน!
“หัวเราะอะไร?”
ได้ยินคำถามของชิวกังยี่ ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวตอบออกมาในเวลาที่เหมาะสม ค่อยกวาดตามองไปทางชิวกังยี่และเหล่าอาวุโสที่อยู่ด้านหลังชิวกังยี่ พูดออกมาชัดถ้อยชัดคำว่า “ข้าหัวเราะพวกเจ้าอาวุโสของตระกูลชิวอย่างไรเล่า! พวกเจ้าสักแต่จะเอาตัวรอดโดยการปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไว้ที่สตรีเพียงคนเดียว…”
“ในสายตาข้า พวกที่ผลักไสให้สตรีออกไปรับหน้าเพื่อเอาตัวรอดเช่นนี้ ล้วนไม่ต่างใดจากขยะ! เป็นเศษสวะดั่งสัดใส่ข้าวที่ใช้การไม่ได้!!”
วาจาต้วนหลิงเทียนเสียงดังฟังชัดนัก ยังกล่าวด่าผู้คนออกมาตรงๆว่าทั้งหลายเป็นขยะ! เศษสวะดั่งสัดใส่ข้าวที่ใช้การไม่ได้!!
ขยะ?
เศษสวะ ดั่งสัดใส่ข้าวที่ใช้การไม่ได้?
อรหันต์ยังมีวันพิโรธ นับประสาอะไรกับชิวกังยี่และเหล่าอาวุโสทั้งหลายของสกุลชิวที่หัวร้อนเป็นทุน!
เรียกว่าหลังถูกต้วนหลิงเทียนต่อว่าประนามออกมาโต้งๆ พวกมันทั้งหลายถึงกับอื้ออึงตะลึงงันจนต้องหันหน้าไปมองสบตากันพักหนึ่งด้วยไม่แน่ใจว่าฟังผิดไปหรือไม่
อย่างไรก็ตามทั้งหมดยืนยันเรื่องราวได้จากสายตาโกรธแค้นของกันและกัน!
พวกมันได้ยินไม่ผิด!
ต้วนหลิงเทียนกล้าด่าทอประนามพวกมันจริงๆ!
ทันใดนั้น ชิวกังยี่กับอาวุโสทั้งหลายก็ชักสายตาเยียบเย็นมากล้นไปด้วยโทสะมองต้วนหลิงเทียนอย่างเอาเรื่องทันที “ไอ้หนู! เจ้าอยากตายนักหรือไร!?”
“กล้าด่าว่าพวกเราว่าเศษสวะงั้นหรือ!?”
“ข้าคิดว่าเจ้าเบื่อชีวิตแล้วกระมัง!”
……
ไม่ใช่แค่ชิวกังยี่เท่านั้นที่มองคาดโทษต้วนหลิงเทียนหน้าเหี้ยม เหล่าอาวุโสทั้งหลายด้านหลังชิวกังยี่ก็เดือดดาลเป็นฟืนไฟ!
แต่ละคนเผยทีท่าอาการดุร้าย มวลพลังคุกรุ่นไปทั่วร่างปานพร้อมจะลงมือเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียนได้ทุกเวลา!!
วูบ!
ทว่าทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนมีบางสิ่งกระพริบวูบผ่านตา ยังสัมผัสได้ถึงสายลมแรงหอบหนึ่ง เป็นชิวมู่ชิงที่ก้าววูบออกมาบังขวางเขาเอาไว้เบื้องหน้า กันท่าไม่ให้อาวุโสทั้งหลายลงมือ
เห็นดังกล่าวต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกซึ้งใจไม่น้อย
อย่างไรก็ตามหลังต้วนหลิงเทียนละสายตาจากชิวมู่ชิง ไปมองร่างชิวกังยี่และอาวุโสคนอื่นๆอีกครั้ง สายตาซาบซึ้งก็กลายเป็นเย็นชาหยามเหยียด ปากกล่าวคำออกมาอีกรอบ “ทำไม? พวกเจ้าโมโหหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนที่เห็นว่าทั้งหมดคล้ายทนรอฆ่าเขาไม่ไหว ไม่เพียงไม่กริ่งเกรงอะไร ยังหัวเราะเยาะ ทั้งกล่าวคำเย้ยหยันออกมาอีกรอบอย่างสนุกสนาน “หรือ…พวกเจ้าคิดว่าข้ากล่าวคำไหนผิดไป?”
วาจานี้ของต้วนหลิงเทียน แม้จะทำให้ชิวกังยี่และอาวุโสทั้งหลายโมโหไม่น้อย แต่ไม่มีใครสามนารถลบล้างได้เลย
เพราะถึงแม้พวกมันจะไม่เต็มใจยอมรับเพียงใด แต่พวกมันก็ไม่อาจปฏิเสธคำของต้วนหลิงเทียนได้!
เพราะทั้งหมดที่ต้วนหลิงเทียนพูดมา ล้วนเป็นความจริง!
“ข้าว่าตอนนี้พวกเจ้าคงแทบทนรอไม่ไหวที่จะส่งข้ากับแม่นางชิวไปให้ตระกูลตงฟางจัดการ หมายลดโทสะของพวกมันแล้วสินะ…”
ทว่าทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงท้าทาย “ถ้างั้นข้ากับแม่นางชิวจะให้ความร่วมมือกับพวกเจ้าเป็นไง!”
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ชิวมู่ชิงถึงกับหันขวับมามองต้วนหลิงเทียนด้วยฉงนใจ สีหน้ายังเผยความกระวนกระวายร้อนใจไม่น้อย
แต่ทว่าก่อนที่นางจะทันได้กล่าวอะไร เสียงมากอำนาจไม่เผยช่องให้ปฏิเสธขัดของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้นมาเสียก่อน…
“แม่นางชิว ไปเถอะ! พวกเราไปที่ห้องโถงหลักตระกูลชิวกับพวกมัน แล้วไปพบหน้าคนตระกูลตงฟางอะไรนั่นดู…ใครจะไปรู้ บางทีคนของตระกูลตงฟางพอเห็นพวกเราแล้ว…พวกมันอาจจะเมตตาปราณีปล่อยพวกเราไปก็ได้?”
ฟังจากคำของต้วนหลิงเทียนแล้วคล้ายคนจะยอมรับชะตากรรม ทว่าลึกลงไปกลับแฝงความค่อนแคะประการหนึ่ง!
แน่นอนว่าชิวกังยี่กับคนอื่นๆไม่อาจตระหนักถึงเรื่องนี้ได้!