WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2088
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2088
ตอนที่ 2,088 : เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า!
“จ้าวตำหนักฟ้าลี้ลับถึงกับตกตายในกระบวนท่าเดียวหรือ?”
ได้ยินคำของหวางเฟยเซวียนลี่หลัวกับลี่เฟยอดไม่ได้ที่จะตกใจ
โดยเฉพาะลี่หลัว
ในฐานะภรรยาของต้วนหรูเฟิงจ้าวตำหนักเมฆาคราม นางย่อมเป็นคนที่อยู่กับต้วนหรูเฟิงมากกว่าใคร จึงเป็นธรรมดาที่จะได้รับทราบเรื่องราวในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ามามากมาย
นอกจากนั้นยังมีความเข้าใจในขุมพลังต่างๆของภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ดี
และเท่าที่นางทราบ
ถึงแม้พลังฝีมือของจ้าวตำหนักฟ้าลี้ลับจะไม่อาจเทียบได้กับสามีของนาง แต่นางก็ไม่กล้าพูดว่าสามีนางจะร้ายกาจถึงขั้นสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในกระบวนท่าเดียว หากยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนนภา!
ทว่าตอนนี้หวางเฟยเซวียนพึ่งบอกว่า…
มีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งสามารถสังหารจ้าวตำหนักฟ้าลี้ลับได้ในกระบวนท่าเดียว
หากเป็นเช่นนั้นจริง…
แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นมันมีพลังมากขนาดไหน?
สำหรับต้วนเนี่ยนเทียนเนื่องจากยังเด็กแน่นอนว่าไม่เข้าใจแม้แต่นิดเดียวว่าหวางเฟยเซวียนกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
ส่วนต้วนหรูเฟิงนั้นไม่ได้แปลกใจอะไรกับเรื่องที่หวางเฟยเซวียนเล่า หากทว่าใบหน้าเผยความอึมครึมทันที “ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีปีศาจวัวแค่ตัวเดียวที่บุกเข้ามาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่าง…”
สิ่งที่ต้วนหรูเฟิงกังวลในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
ตอนแรกที่ปีศาจวัวบุกเข้ามาในตำหนักเมฆาครามนั้น แม้ต้วนหรูเฟิงจะฆ่ามันได้แต่ไม่เพียงจะไม่ดีใจ ยังเป็นกังวลไม่น้อย
เพราะสุดท้ายแล้วการปรากฏกตัวของปีศาจวัวในภูมิภาคเบื้องล่างดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแบบนี้ ก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย…
ต้องทราบด้วยว่าปีศาจวัวนั้น คือตัวตนที่สมควรมีอยู่แต่ในแดนเนรเทศเท่านั้น!
ทว่าตอนนี้มันกลับมาปรากฏในภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าได้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากำแพงมิติกันแดนระหว่างแดนเนรเทศกับดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่างกำลังมีปัญหาแล้ว!
กำแพงมิติสมควรบังเกิดรอยรั่ว! และปีศาจวัวก็ได้ค้นพบรอยรั่วดังกล่าว! เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ 2 ประการ ก็คือ…หากปีศาจวัวตัวที่แล้วไม่ได้ผ่านรอยรั่วนั่นมาโดยบังเอิญ…
ก็มีแนวโน้มสูงนักว่าปีศาจวัวทั้งเผ่าได้ค้นพบรอยรั่วนั่นแล้ว! และอีกไม่นานไม่ใช่แค่ปีศาจวัวแต่เผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศก็จะแห่กันเข้ามา!!
หากเป็นอย่างหลังล่ะก็
น่ากลัวดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจะต้องหวนกลับไปสู่ยุคมนุษย์ปีศาจอีกครั้ง ผู้คนไม่พ้นล้มตายเป็นผักปลา! ความตายระบาดไปทั่วทุกแห่งหน!!
“ปีศาจวัว?”
แม้เสียงกล่าวพึมพำของต้วนหรูเฟิงจะไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่ลี่หลัวและคนอื่นๆก็ยังได้ยิน ทั้งหมดหันมองไปยังต้วนหรูเฟิงเป็นสายตาเดียวกัน
เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของทุกคนที่ได้ยินคำว่า ปีศาจวัว
“ท่านปู่ ปีศาจวัวเป็นตัวอะไรหรือ?”
ต้วนเนี่ยนเทียนที่ได้ยินเสียงพึมพำของต้วนหรูเฟิงเช่นกัน จึงกล่าวถามออกมาด้วยสองตาใสแป๋ว เต็มไปด้วยความอยากรู้ของเด็กน้อยนัก
“เฟยเอ๋อเจ้าพาเนี่ยนเทียนกลับไปพักก่อน…ถึงเวลาที่ข้าจะเล่าเรื่องบางอย่างให้พวกเจ้าฟังแล้ว แต่ข้าจะเล่ามันให้ลี่หลัวฟังก่อนแล้วค่อยให้นางเล่าให้เจ้าฟังทีหลัง ”
ตอนนี้เองต้วนหรูเฟิงพลันส่งเสียงผ่านพลังไปหาลี่เฟย เพื่อให้ลี่เฟยพาต้วนเนี่ยนเทียนกลับไป
ในวาจาที่ส่งมาก็เผยเรื่องหนึ่งให้เห็นชัด
เรื่องที่ต้วนหรูเฟิงกำลังจะเล่านั้น เป็นอะไรที่ไม่อยากให้ต้วนเนี่ยนเทียนรับรู้
ถึงแม้ไม่ทราบว่านี่มันเรื่องราวอะไร แต่ลี่เฟยย่อมสัมผัสได้ถึงความจริงจังในน้ำเสียงต้วนหรูเฟิง แม้นางจะอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย แต่ก็เข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม จึงอุ้มลูกจากไปทันที
ครู่ต่อมาห้องโถงหลักอันกว้างใหญ่ของตำหนักเมฆาครามก็เหลือเพียงต้วนหรูเฟิง ลี่หลัวและหวางเหฟยเซวียน
“พี่เฟิง ท่านให้เสี่ยวเฟยพาเนี่ยนเอ๋อออกไปงั้นหรือ?”
ลี่หลัวกล่าวถาม
ในฐานะภรรยาของต้วนหรูเฟิง บวกกับการกระทำเมื่อครู่ของลี่เฟยนางย่อมคาดเดาเรื่องราวได้ง่ายดาย
คือสามีนางมีเรื่องสำคัญจะกล่าว และไม่อยากให้หลานชายตัวน้อยได้ยิน
“อืม”
ต้วนหรูเฟิงพยักหน้ารับ ค่อยกล่าวออกเสียงขรึม “เนี่ยนเอ๋อยังเล็กเกินไป ข้ามิอยากให้หลานต้องมารับรู้เรื่องราวพวกนี้ และต้องใช้ชีวิตหลังจากนี้ต่อไปด้วยความหวาดกลัว…”
ปีศาจวัวนั้นเกี่ยวพันถึงแดนเนรเทศ และการกลับมาของยุคมนุษย์ปีศาจในอดีตกาล
นึกภาพออกได้เลย
หากหลานชายตัวน้อยล่วงรู้ว่า ในอดีตเคยมีประวัติศาสตร์อันมืดดำที่มนุษย์ทุกคนต้องอยู่กันอย่างหวาดกลัว ในใจย่อมบังเกิดเงาแน่นอน ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อการเติบโตหลังจากนี้ และไม่มีประโยชน์อะไรเลย
หลังได้ยินคำของต้วนหรูเฟิง ลี่หลัวก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆคราหนึ่ง “พี่เฟิงอย่าได้ทำให้ข้าตกใจกลัวแล้ว…ที่แท้นี่เป็นเรื่องราวใดกันแน่?”
ลี่หลัวย่อมรู้จักสามีของนางดี อีกฝ่ายคงไม่ชักหน้าเคร่งถึงขนาดนี้ต่อหน้านางหากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย
ด้วยเหตุนี้นางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงขรึมของสามี
“ปีศาจวัวที่ข้าพึ่งกล่าวถึงนั่น…มันมาจากแดนเนรเทศ”
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของลี่หลัวและสายตาเปี่ยมสงสัยของหวางเฟยเซวียน ในที่สุดต้วนหรูเฟิงก็เลือกที่จะเล่าเรื่องราวออกมา ต้นกำเนิดของปีศาจวัวถูกเล่าให้สตรีทั้ง 2 ฟัง เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งแสนปีก่อน ยังกล่าวถึงยุคมนุษย์ปีศาจเมื่อหลายแสนปีก่อน
ทันทีที่ได้รับรู้ ไม่ว่าจะลี่หลัวหรือหวางเฟยเซวียนก็หน้าเสียไปด้วยความตกใจ
ในยุคมนุษย์ปีศาจนั้น เหล่าปีศาจกับมนุษย์ได้เข่นฆ่ากัน เป็นมหาสงครามระหว่าง 2 เผ่าพันธุ์
มนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนถูกฆ่าตายกลายเป็นซากศพแห้งกรัง
นอกจากเหล่าชนชั้นยอดฝีมือที่สามารถเอาตัวรอดมาได้ เหล่าผู้ฝึกตนที่รอดมาได้ก็ต้องกระเสือกกระสนแทบตาย ยังมีไม่น้อยที่กลายเป็นผู้ฝึกมารเพื่อแสวงหาพลังอย่างสิ้นทาง
เรียกว่าในยุคนั้นทุกทั่วหัวระแหงเต็มไปด้วยความโกลาหล เป็นห้วงกลียุคแห่งความตายอย่างแท้จริง กระทั่งผู้คนในทวีปมนุษย์อันห่างไกลยังไม่อาจอยู่ได้อย่างสงบ
“ปีศาจวัว…เผ่าพันธุ์ปีศาจ?”
“แดนเนรเทศ?”
หลังได้ล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของแดนเนรเทศและเผ่าพันธุ์ปีศาจรวมถึงพลังของพวกมัน ลี่หลัวกับหวางเฟยเซวียนอดไม่ได้ที่จะหวาดกกลัว
“แม่หนูเฟยเซวียน เจ้ายังพอจดจำได้หรือไม่ว่าปีศาจวัวตัวที่บุกไปตำหนักฟ้าลี้ลับวันนั้น…มันสูงเท่าใด?”
ทันใดนั้นเองต้วนหรูเฟิงพลันหันไปมองถามหวางเฟยเซวียน
ได้ยินคำถามของต้วนหรูเฟิง หวางเฟยเซวียนที่จมจ่อมอยู่ในความคิดก็กลับมารู้สึกตัว หน้าที่ซีดเซียวเริ่มหวนกลับมามีสีเลือด ไม่นานแก้มงามหวนกลับมามีสีคล้ายดอกกุหลาบ
สองคิ้วหวางเฟยเซวียนพลันขมวดเป็นปม แววตาเลื่อนลอยคล้ายครุ่นคิด
“ดูเหมือนว่ามันจะสูงกว่า 4 หมี่…ทว่ายังไม่ถึง 5 หมี่”
หลังจากนึกทบทวนเรื่องราวพักหนึ่ง ในที่สุดหวางเฟยเซวียนก็กล่าวตอบต้วนหรูเฟิงออกมา
“หมายความว่าพลังฝีมือของปีศาจวัวที่บุกไปตำหนักฟ้าลี้ลับ ก็พอๆกับปีศาจวัวที่บุกเข้ามาในตำหนักเมฆาครามของข้าวันนั้น…”
ต้วนหรูเฟิงพยักหน้ารับ กล่าวออกมาเสียงเรียบด้วยสายตาเหม่อลอย ครู่ต่อมาสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นจริงจังอีกครั้ง
“อะไร บุกเข้ามาในตำหนักเมฆาครามวันนั้น?”
ทว่าไม่ทันที่ต้วนหรูเฟิงจะได้กล่าวอะไรต่อ เป็นลี่หลัวที่โพล่งถามออกมาด้วยความตื่นตระหนก ใบหน้าทาทับไปด้วยความกังวล “พี่เฟิงมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดกัน ไฉนท่านถึงไม่บอกข้า?”
เห็นได้ชัดว่าลี่หลัวไม่รู้เรื่องที่ปีศาจวัวบุกกเข้ามาในตำหนักเมฆาครามเลย
“ก็เพราะข้ากลัวเจ้าเป็นห่วง ข้าเลยไม่ได้กล่าวบอกอะไรเจ้า…”
ต้วนหรูเฟิงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “นอกจากนั้นข้าก็ฆ่ามันไปแล้ว”
“ฆ่ามันไปแล้ว?”
ทันทีที่ต้วนหรูเฟิงกล่าวคำนี้ออกมา ลี่หลัวกับหวางเฟยเซวียนที่ได้ยินก็ตกตะลึงไปทันที
ปีศาจวัวนั่น มันร้ายกาจถึงขั้นสามารถฆ่าจ้าวตำหนักฟ้าลี้ลับได้ในกระบวนท่าเดียว…
ทว่าเมื่อบุกมาที่ตำหนักเมฆาครามกลับถูกต้วนหรูเฟิงฆ่าตาย
“ในเผ่าพันธุ์ปีศาจวัว พลังความแข็งแกร่งของพวกมันจะสามารถประเมินคร่าวๆได้จากความสูง…อีกทั้งในเผ่าพันธ์ปีศาจวัวยังมีปีศาจวัวเป็นจำนวนมากที่มีพลังร้ายกาจกว่าปีศาจวัวตัวที่บุกไปยังตำหนักฟ้าลี้ลับและตัวที่บุกเข้ามาตำหนักเมฆาครามของเรา…”
ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกเสียงขรึม
“ตอนแรกข้ายังสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าปีศาจวัวตัวที่บุกมายังตำหนักเมฆาคราม ใช่ปีศาจวัวที่บังเอิญหลุดมาจากแดนเนรเทศเข้ามาในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องล่างแค่ตัวเดียวหรือไม่…ทว่ามาตอนนี้ดูเหมือนมันจะมีมากกว่าหนึ่งตัวจริงๆ!”
ต้วนหรูเฟิงกล่าว ใบหน้ายังฉายชัดถึงความหวาดกลัว “ข้าฆ่าตัวที่บุกตำหนักเมฆาครามไปหนึ่ง มีไปโผล่ที่ตำหนักฟ้าลี้ลับอีกหนึ่ง…ข้ากลัวว่าจะมีที่อื่นด้วย”
ยิ่งมาสีหน้าต้วนหรูเฟิงก็ฉายความหวาดกกลัวออกชัด
ในขณะเดียวกันกับที่ต้วนหรูเฟิงกล่าวเล่าถึงปีศาจวัว และเผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนเนรเทศ รวมไปถึงยุคมนุษย์ปีศาจ รวมถึงการคาดเดาสถานการณ์ในปัจจุบันให้ลี่หลัวและหวางเฟยเซวียนฟังนั้น…
ณ ภาคตะวันตกของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าในภาคตะวันตกนอกเหนือจาก 1 ใน 3 มหาอำนาจยักษ์ใหญ่อย่างลัทธิบูชาไฟ ยังมีขุมพลังอีกหนึ่งขุมที่แม้แต่ลัทธิบูชาไฟยังต้องหวั่นเกรงดำรงอยู่
ขุมพลังที่ว่าคือ เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า!
เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้านั้น กล่าวไปเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความลึกลับยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์มังกรเสียอีก
สาเหตุที่ไฉนเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าถึงได้ลึกลับนั้น เหตุเพราะกฏที่เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ากำหนดขึ้นไว้ในอดีต
คนของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ามิได้รับอนุญาตให้ออกไปจากเผ่าพันธุ์เด็ดขาด ผู้ใดที่ออกจากเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เพียงแต่จะถูกขับออกจากเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าเท่านั้น ยังจะถูกเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าตามล่าอีกด้วย!
ด้วยเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ามีกฏอันเข้มงวดแบบนี้ แม้คนของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าคิดออกไปชมดูโลกภายนอก ก็ทำไม่ได้
แต่ดั่งคำกล่าวที่ว่า
หงส์ฟ้าไม่อาศัยอยู่ในแดนไร้สมบัติ
สถานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้านั้น ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของภาคตะวันตก สถานที่แห่งนี้ประหนึ่งแดนสวรรค์ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์
และเหตุผลเดียวที่เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้าเลือกสถานที่แห่งนี้ในการตั้งรกราก เหตุผลก็ดุจเดียวกันกับลัทธิบูชาไฟ…มีสายแร่หินเซียนระดับสวรรค์ดำรงอยู่!
แน่นอนว่ามันเล็กกว่าเหมืองหินเซียนระดับสวรรค์ของลัทธิบูชาไฟอยู่บ้าง
ในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าร่ำลือกันว่า มีสายแร่หินเซียนระดับสวรรค์ดำรงอยู่ 3 ที่เท่านั้น และทั้งหมดล้วนถูกลัทธิใหญ่ทั้ง 3 ครอบครองผูกขาด…ทว่านี่เป็นข่าวที่ 3 ลัทธิจงใจแพร่ออกมาเอง
พวกมันต้องการแสดงอำนาจ!
ไฉนเขตที่อยู่ของเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้านั้นเสมือนตัดขาดจากโลกภายนอกนั้น…ล้วนเป็นเพราะว่ามันมีมหาค่ายกลจัดตั้งเอาไว้!
มหาค่ายกลดังกล่าวยังผสานไปด้วยค่ายกลโจมตี ค่ายกลป้องกัน ค่ายกลมายา และค่ายกลหลอนประสาทมากมาย
อีกทั้งหากพลังฝึกปรือไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ ยังไม่อาจมองออกได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีมหาค่ายกลจัดตั้งเอาไว้!
ยิ่งไปกว่านั้นหากพลังฝึกปรือไม่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน ก็ไม่อาจต้านทานพลังจู่โจมของค่ายกลโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว
ทว่าวันนี้ เผ่าพันธุ์หงส์ฟ้ากลับมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือน
ฮู่วว!!
ทันใดนั้นบังเกิดเสียงคล้ายสายลมกรรโชกแรงหอบหนึ่ง
ครู่ต่อมาด้านนอกม่านพลังของมหาค่ายกลคุ้มกันเผ่าพันธุ์หงส์ฟ้า พลันปรากฏร่างชายชราคนหนึ่ง
เป็นชายชราที่มีเส้นผมขนคิ้วขาวโพลน มองผิวเผินดั่งนักปราชญ์ คนลอยค้างกลางหาวดั่งเทพเซียน
หากหานเฉวี่ยไน่มาอยู่ที่นี่ด้วยคงจดจำชายชราคนนี้ได้ทันที
เพราะชายชราผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นเป็นดั่งอาจารย์ลุงของนาง และยังเป็นผู้สืบทอดของทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 2 ความลับสวรรค์รุ่นที่แล้ว!
ผู้เฒ่าพยากรณ์…