WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2099
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2099
ตอนที่ 2,099 : โรงเตี๊ยม ยินดีต้อนรับ
ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่มีขุมพลังสังกัด ย่อมทิ้งสมบัติไว้ให้ขุมพลังสังกัดกระทั่งตระกูลอะไรทำนองนั้น
ทว่ายังมีผู้ฝึกตนพเนจรขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่เป็นดั่งหมาป่าเดียวดาย อยู่ตัวคนเดียวอีกมากมายนัก
พวกมันไร้ญาติขาดมิตร ไร้ซึ่งสังกัดพรรคสำนัก
และผู้ฝึกตนพเนจรเหล่านี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์โดยที่ไม่รู้เป็นตาย พวกมันมักซุกซ่อนสมบัติที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดเอาไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง…
ไม่ว่าผู้ฝึกตนพเนจรขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหล่านั้น จะผ่านทัณฑ์ไปได้สำเร็จหรือล้มเหลวตกตายไป สถานที่ซุกซ่อนสมบัติของพวกมัน ย่อมกลายเป็น คลังสมบัติสำหรับผู้ฝึกตนในระนาบโลกียะแห่งนั้นสืบไป
สุดท้ายแล้ว สมบัติที่เหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหล่านี้เหลือทิ้งไว้ อย่างไรก็ต้องมีราคาค่างวดมหาศาล เพราะนั่นอาจเป็นสมบัติชั่วชีวิตของพวกมัน ในสายตาผู้ฝึกตนทั่วไปย่อมมีค่ามีราคาถึงที่สุด!
‘ดูเหมือนว่านี่จะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผู้ฝึกตนพเนจรมากมายมารวมตัวกันที่นครแห่งบาป…’
เมื่อได้รู้ว่าบางครั้งในนครแห่งบาปจะมีข่าวลือเรื่องคลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนแพร่กระจายออกมา ต้วนหลิงเทียนก็รู้ได้ทันทีว่าไฉนผู้คนถึงแห่กันมานครแห่งบาปมากมายนัก!
กระทั่งตัวเขาเองพอได้ยินเรื่องนี้ ยังสนใจอยากค้นหาคลังสมบัติของยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่เหลือทิ้งไว้ไม่น้อย!
สิ่งของที่เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหลือทิ้งเอาไว้ ยังจะเป็นของธรรมดาๆได้อีกหรือ?
คำตอบคือไม่!
อย่างไรก็ตามหลังได้ฟังเรื่องราวพวกนี้แล้ว หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ใดๆอีกเลย เมื่อเห็นว่าตะวันก็ตกดินมานานแล้ว ต้วนหลิงเทียนจึงตัดสินใจชำระค่าสุราอาหารแล้วเดินออกจากเหลาไป เพื่อไปหาที่พักอาศัย
สำหรับผู้ที่มาเยือนนครแห่งบาปนั้น มีที่พักให้เลือกไม่น้อย
ประเภทแรกคือสถานที่พักที่ทางนครแห่งบาปสร้างไว้ให้เป็นส่วนกลาง ผู้ฝึกตนที่สัญจรผ่านมาสามารถเลือกเข้าพักได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการข่มขู่จากกองกำลังอะไร กกระทั่งพลังฝีมืออ่อนด้อยก็มีความปลอดภัย
ประเภทที่สองคือสถานที่พักของกองกำลังทั้งหลาย ที่ตระเตรียมไว้ให้เหล่าสมาชิก แน่นอนว่ามีข้อแม้คือต้องเข้าร่วมกองกำลังนั้นๆก่อน
ประเภทที่สามคือ โรงเตี๊ยม ซึ่งในนครแห่งบาปแห่งนี้ โรงเตี๊ยมที่พักก็มีทั้งห้องพักธรรมดาทั่วไป จวบจนที่อย่างบ้านลานส่วนตัว หรือแม้แต่คฤหาสน์หลังใหญ่โต!
แน่นอนว่าหากเทียบกับห้องพักทั่วแล้ว บ้านพักอันมีลานส่วนตัวนั้นแพงกว่ากันกันมาก
และที่พักระดับคฤหาสน์ก็ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะจ่ายไหว
‘ไปหาดูโรงเตี๊ยมแล้วกัน…’
อย่างไรต้วนหลิงเทียนก็พึ่งมาถึงนครแห่งบาปครั้งแรก ย่อมไม่คิดจะเลือก 2 ข้อแรกแน่นอน
โรงเตี๊ยมในนครแห่งบาปนั้น แต่ละที่ล้วนพึ่งพิงกองกำลังใดกองกำลังหนึ่งทั้งสิ้น ซึ่งผู้เข้าพักก็จะได้รับการดูแลจากกองกำลังดังกล่าว แน่นอนว่าการทำธุรกิจเช่นนี้พวกมันย่อมยึดถือเรื่องชื่อเสียงเป็นที่สุด จึงพยายามรักษาความปลอดภัยของลูกค้าอย่างดี!
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนเลือกที่จะพักโรงเตี๊ยม
หลังออกจากเหลาอาหารแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เดินโต๋เต๋มองหาโรงเตี๊ยมไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็เจอโรงเตี๊ยมที่แลดูเรียบหรูแห่งหนึ่ง จึงเดินเข้าไปชมดูทันที
แผ่นป้ายเหนือประตูทางเข้าโรงเตี๊ยมหลังนี้ติดป้าย ‘ยินดีต้อนรับ’ เอาไว้อย่างน่าประทับใจ
“ยินดีต้อนรับท่านลูกค้า มิทราบท่านต้องการพักแรมหรือรับประทานสุราอาหาร?”
หลังโต๊ะรับรองที่อยู่ด้านบริเวณพื้นีท่ต้อนรับด้านหน้าโรงเตี๊ยม ชายชราที่ก่อนหน้าแลดูเสมือนหลับอยู่ พลันลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของต้วนหลิงเทียนที่เดินเข้ามา กล่าวถามด้วยรอยยิ้มบางๆ
‘ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์งั้นเหรอ!’ แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ชายชราลืมตาขึ้นมา สัญชาตญาณในการระวังภัยของต้วนหลิงเทียนก็ร้องเตือนทันที ซึ่งการที่สัญชาตญาณของเขาจะร้องเตือนเช่นนี้…ก็เฉพาะยามเผชิญหน้ากับตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์เท่านั้น!
“มันเป็นเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยน”
และภายใต้การสอบถามจากผู้เฒ่าหั่ว เขาก็ได้รับคำตอบที่พิสูจน์ว่าสัญชาตญาณของเขายังถูกต้อง
‘แค่ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมเล็กๆนี่ยังเป็นเซียนสวรรค์ 1 เปลี่ยนเลยเหรอ…ดูเหมือนพันธมิตรผู้ฝึกตนพเนจรที่อยู่เบื้องหลังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ จะไม่ใช่เล่นๆ’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
“อ่า มาพักแรมน่ะ ที่นี่มีที่พักแบบไหนบ้าง”
“เรียนท่านลูกค้า ที่พักของโรงเตี๊ยม ‘ยินดีต้อนรับ’ ของพวกเราก็เหมือนกันกับที่พักของโรงเตี๊ยมอื่นๆในนครแห่งบาป โดยจักแบ่งออกเป็น 3 ระดับ อันได้แก่ ห้องพักระดับธรรมดา แบบบ้านเดี่ยวพร้อมลานส่วนตัว และสุดท้ายแบบคฤหาสน์ มิทราบว่าท่านลูกค้าสนใจห้องพักแบบใด?”
หลังได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน รอยยิ้มยินดีบนใบหน้าของชายชราก็ยิ่งฉีกกว้างขึ้นมาทันที นั่นเพราะแขกที่มาพักทำให้มันได้รับหินเซียนมากกว่าแขกที่มาดื่มกินอยู่แล้ว
“แล้วมีราคาเท่าไหร่บ้าง?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะได้ยินมาว่า โรงเตี๊ยมในนครแห่งบาปนั้นมีราคาแพงมาก แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะแพงขนาดไหน
และครู่ต่อมาเมื่อชายชรากล่าวตอบ ก็นับว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้ว
“ห้องพักระดับธรรมดาจักเป็นหินเซียนระดับ 3 จำนวน 1 ก้อนต่อวัน ส่วนแบบบ้านพร้อมลานส่วนตัวนั้นจักเป็น หนึ่งหินเซียนระดับ 2 ต่อวัน ส่วนแบบคฤหาสน์ ราคาจักเป็น 1 หินเซียนระดับ 1 ต่อวัน”
ชายชรากล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอได้ฟังราคาก็รู้สึกจั๊กจี้หัวใจขึ้นมาทันที
แพง!
จะแพงเกินไปแล้ว!!
ต้องทราบด้วยว่าราคาที่ผู้ดูแลคนนี้บอกกล่าวนั่นก็แค่ราคาหนึ่งวันหรือค้างคืนเท่านั้น!
ก็ใช่ที่หากอาศัยอยู่แค่วันเดียวย่อมไม่คิดว่ามันแพงอะไรมากมาย
แต่หากอยู่หลายวันเล่า?
“นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านลูกค้าเข้าพักโรงเตี๊ยมในนครแห่งบาปใช่หรือไม่?”
คล้ายจะสังเกตุเห็นความประหลาดใจของต้วนหลิงเทียนก็ไม่ปาน ผู้ดูแลพลันกล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้มทันที
“อ่า”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ อย่างไรก็เป็นการมาครั้งแรกของเขาจริงๆ ไม่มีอะไรให้ปฏิเสธ
“ขอบอกท่านลูกค้าตามตรง ราคานี้มิได้แพงกว่าโรงเตี๊ยมแห่งอื่นแต่อย่างใด ทว่าข้ารับรองได้เลยว่าบริการของทางเรานั้นยอดเยี่ยมกว่าที่อื่นในนครแห่งบาปแน่นอน!”
ชายชรากล่าวคำออกมาด้วยความมั่นใจ “แม้ว่าที่พักของโรงเตี๊ยมเราอาจจะไม่ได้เด่นล้ำกว่าที่อื่นมากมายอะไร ทว่าในด้านความปลอดภัยนั้น ข้าสามารถกล่าวได้เลยว่ามีเพียงโรงเตี๊ยมในนครแห่งบาปนี้ไม่กี่แห่งเท่านั้นที่สามารถเทียบกับโรงเตี๊ยมของพวกเราได้”
“เพราะโรงเตี๊ยมของพวกเรานั้นอยู่ภายใต้การคุ้มครองของ พันธมิตรอำนาจทรราช มียอดฝีมือที่คอยปกปักษ์พิทักษ์โรงเตี๊ยมอยู่หลายคน! หากท่านพักอาศัยที่นี่ก็มิจำเป็นต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป!!”
ยิ่งกล่าวคำสีหน้าของชายชราผู้ดูแลก็เผยความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“พันธมิตรอำนาจทรราช!”
ได้ยินวาจาของชายชราผู้ดูแลสองตาต้วนหลิงเทียนเรืองสว่างขึ้นมาวาบหนึ่ง
นั่นเพราะเขาเคยได้ยินเรื่องพันธมิตรผู้ฝึกตนที่ว่ามาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาในนครแห่งบาปเสียอีก
ครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้ก็ตอนที่เขาอยู่ในเมืองคงหมิง แน่นอนว่าเขาได้ยินมาจากหวังยี่ฝัว แถมมันยังกล่าวถึงพันธมิตรอำนาจทรราชนี้เอาไว้ไม่น้อย
กระทั่งยังบอกให้เขาระวังตัวเอาไว้ด้วย เพราะนี่คือกองกำลังพันธมิตรผู้ฝึกตนที่มีชื่อเสียงของนครแห่งบาป!
“ดูเหมือนท่านลูกข้าจักเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามพันธมิตรอำนาจทรราชของพวกเรามาแล้ว”
ชายชราผู้นี้นับว่าเป็นคนช่างสังเกตไม่น้อย ไม่ทันไรก็พบความเปลี่ยนแปลงในแววตาของต้วนหลิงเทียน
“อืม ข้าเคยได้ยินคนกล่าวถึงมาก่อนจริงๆ”
ต้วนหลิงเทียนไม่ติดปฏิเสธอะไรพยักหน้ายอมรับ พร้อมเรียกหินเซียนระดับ 1 ออกมาวางบนโต๊ะรับรองหนึ่งก้อน “ข้าจ่ายค่าบ้านลานล่วงหน้าก่อน 10 วันแล้วกัน”
“ขอบพระคุณท่านลูกค้า”
หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวบอกว่าจะเข้าพักบ้านลานส่วนตัว ผู้ดูแลก็แลดูยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้นไม่น้อย สองมือยกขึ้นมาถูกๆพร้อมเก็บหินเซียนไปอย่างไว
หลังขีดๆเขียนๆอะไรคล้ายลงทะเบียนคนเข้าพักแล้ว ชายชราผู้ดูแลก็หยิบแผ่นป้ายที่เขียนคำว่า ‘ดิน 27’ ยื่นส่งมาให้ต้วนหลิงเทียนทันที
ป้ายนี้นับว่าหนักไม่น้อย ซ้ำยังมีพลังงานแปลกๆแผ่ซ่านออกมา
‘กุญแจ ค่ายกลงั้นรึ?’
ต้วนหลิงเทียนย่อมบอกได้ไม่ยากว่านี่เป็นพลังงานผันผวนอันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายกลหนึ่ง
“ท่านลูกค้าโปรดรอสักครู่ เดี๋ยวจักมีคนพาท่านไปส่งยังที่พักเอง”
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนรับป้ายมา ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมก็กล่าวออกด้วยเสียงสุภาพก่อนที่จะหยิบยันต์เต๋าขึ้นมาแผ่นหนึ่งแล้วฉีกออก
หลังยันต์เต๋าถูกฉีกผ่านไปครบ 3 ลมหายใจ
ฮู่ววว!!
ประหนึ่งมีสายลมหอบหนึ่งกรรโชกพัดผ่านเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียนอย่างแรง ปรากฏชายรางเตี้ยหนึ่งที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง แบมือขอป้าย ดิน 27 จากต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่าสุภาพ ก่อนที่จะเดินนำทางต้วนหลิงเทียนไปยังด้านหลังโรงเตี๊ยมทันที
“ท่านลูกค้า นี่คือที่พักของท่าน”
ไม่ทันไรภายใต้การนำทางของชายร่างเตี้ย ต้วนหลิงเทียนกูกนำมายังพื้นที่ส่วนตัวแห่งหนึ่ง
มองไปเป็นบ้านลานที่มีดอกไม้ปลูกเรียงรายเป็นแถวด้านข้าง ตรงกลางเว้นว่างไว้เป็นลานว่าง ตัวเรือนนั้นแลดูสวยงามเรียบง่าย เพียงมองก็เห็นได้ชัดว่าห้องพักกับห้องรับแขกแบ่งแยกต่างหาก
“ป้ายนี้เป็นดั่งกุญแจเข้าสู่ที่พักของท่าน เพียงถือป้ายนี้ออกมาท่านก็สามารถเดินผ่านม่านพลังจากค่ายกลที่กางไว้เพื่อป้องกันรักษาความปลอดภัยในเขตที่พักของท่านเข้าไปได้ทันที”
ในขณะที่คืนป้าย ดิน 27 ให้ต้วนหลิงเทียน ชายร่างเตี้ยก็กล่าวแนะนำออกมาอย่างสุภาพ
ต้วนหลิงเทียนก็รับป้าย ดิน 27 มาก่อนที่จะพลิกดูอีกครั้ง
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนดูป้ายดังกล่าว ชายร่างเตี้ยก็วูบร่างจากไปทันที
ต้วนหลิงเทียนก็ไม่รอช้า สองเท้าก้าวเดินเข้าไปยังลานว่าง และเมื่อเข้ามาเขาก็พบว่าสรรพเสียงเซ็งแซ่ที่ดังแว่วมาจากในเมือง ล้วนเงียบหายไปหมดทันที
‘ดูเหมือนว่าค่ายกลที่ปกคุลมบ้านพักนี่จะมีค่ายกลปิดกั้นเสียงรบกวนภายนอกจัดตั้งไว้ด้วย…แต่ยังไงคิดราคาหินเซียนระดับ 2 หนึ่งก้อนต่อวันก็ยังแพงไปอยู่ดี’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
เพราะอาคมปิดกั้นเสียงรบกวนดังกล่าว อาศัยหินเซียนระดับต่ำๆไม่กี่ชิ้น ก็คงสภาพได้เป็นปี
อย่างไรก็ตามนับว่าโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับ กับบ้านพักหลังนี้ ก็เหมาะสำหรับเป็นที่พักชั่วคราวของต้วนหลิงเทียนไปตลอดระยะเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในนครแห่งบาป…
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ผู้นำกองกำลังพันธมิตรขวานปฐพีก็ได้ทำสำเนารูปเหมือนต้วนหลิงเทียน และแจกจ่ายไปให้คนในกองกำลังทั้งหมด
ยังกล่าวสั่งออกมาอีกว่า
“ตามหาคนในภาพให้พบโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย…และผู้ใดก็ตามที่มีเบาะแสของคนในภาพจะได้รับหินเซียนระดับ 1 จำนวน 100 ก้อน! กระทั่งหากจับตัวคนผู้นี้กลับมายังฐานที่มันของพันธมิตรได้ จะได้รับรางวัลเป็นหินเซียนระดับ 1 จำนวน 1,000 ก้อน!”
ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ภายใต้รางวัลอันหนักหน่วงกระทั่งผู้กล้ายังควงดาบออกลุย’ เรียกว่าคนของพันธมิตรขวานปฐพีถึงกับคึกคักขึ้นมาอักโข!
กระทั่งชนชั้นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ในพันธมิตรขวานปฐพียังถึงกับออกจากฐานที่มั่น ถือภาพเดินถามหาคนในเมืองกันจ้าละหวั่น!
และด้วยความที่ใบหน้าที่ต้วนหลิงเทียนใช้ในตอนนี้ เป็นใบหน้าเดียวกับที่เขาจงใจปลอมแปลงมาเพื่อใช้ในนครแห่งบาปแต่แรก ทำให้มันเป็นใบหน้าโฉมเดียวกันกับตอนที่เขาใช้สังหารคนของพันธมิตรขวานปฐพีทั้ง 2 หน้าเมือง!
ดังนั้นแล้วไม่นานคนของพันธมิตรขวานปฐพีจึงพบว่าเขาได้เดินเตร็ดเตร่อยู่บริเวณในกลางนครแห่งบาป ยังพบว่าเข้านั่งในเหลาอาหารใดตั้งแต่เมื่อไหร่ออกไปตอนไหน!
กระทั่งโรงเตี๊ยมที่เข้าพักอยู่ก็ถูกค้นพบ
“มันพักที่โรงเตี๊ยม ‘ยินดีต้อนรับ’ เช่นนั้นรึ?”
เมื่อรู้ว่าต้วนหลิงเทียนเข้าพักโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับ กระทั่งผู้นำพันธมิตรขวานปฐพีก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เพราะพบว่าเรื่องราวกลายเป็นยุ่งยากขึ้นมาไม่น้อย
แน่นอนว่าอาศัยผู้ดูแลกับผู้คุ้มกันของโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับย่อมไม่นับเป็นอะไรในสายตามัน
แต่ทว่ากองกำลังพันธมิตรที่อยู่เบื้องหลังโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับแห่งนี้ อย่าว่าแต่ตัวมัน…กระทั่งยกคนไปทั้งพันธมิตรขวานปฐพีของมันก็ไม่อาจตอแยด้วยได้!!