WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2114
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2114
ตอนที่ 2,114 : ชำนาญทั้งสิ้น!
เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนใช้เวทย์พลังปีกอีกาทองคำออกมา เซี่ยจงก็สามารถยืนยันตัวตนของเขาได้ทันที
ต้วนหลิงเทียน! อัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับที่ 2 ของลัทธิบูชาไฟ!!
ถึงแม้ว่ามันจะได้เห็นภาพเหมือนของต้วนหลิงเทียนที่ลัทธิบูชาไฟเผยแพร่ออกมาแล้ว
ทว่าต้วนหลิงเทียนในรูปนั้นมีหน้าตาแตกต่างจากต้วนหลิงเทียนตอนนี้อย่างสิ้นเชิง แถมที่ลัทธิบูชาไฟก็สมควรยืนยันก่อนทำรูปเหมือนแล้วด้วยว่า…ต้วนหลิงเทียนไร้ซึ่งการปลอมแปลงรูปโฉมใดๆ
ทว่าหลังจากที่มันได้เห็นทักษะแปลงโฉมอันเลิศล้ำของต้วนหลิงเทียนกับตา มันก็เดาได้ไม่ยากว่าต้วนหลิงเทียนปลอมแปลงรูปโฉมเพื่อเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟเช่นกัน เพียงแค่ใช้ชื่อต้วนหลิงเทียนเหมือนเดิมเท่านั้น
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะนึกได้ว่าข้าคือต้วนหลิงเทียนแห่งลัทธิบูชาไฟ โดยอาศัยการมองจากเวทย์พลังที่ข้าใช้แค่ 2 ชนิด”
ได้ยินคำของเซี่ยจง ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ว่าเซี่ยจงรู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟ
แต่เรื่องนี้เขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ยังไม่สนใจอะไรแม้แต่น้อย เพราะอย่างไรเขาก็ไม่คิดจะปิดบังสักนิด ถึงได้ใช้เวทย์พลังทั้ง 2 ออกมาต่อหน้าเซี่ยจง
และตอนนี้ถ้าเซี่ยจงยังไม่ระแคะระคายหรือเชื่อมโยงเขากับต้วนหลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟ ก็เกรงว่ามันคงเป็นตัวโง่งมเกินเยียวยาแล้ว
แน่นอนว่าไฉนที่เซี่ยจงพึ่งมาตระหนักได้เอาตอนนี้ เพราะเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟเป็นนักรบมังกรแปลง 9 กรงเล็บนั้น ถูกลัทธิบูชาไฟปิดข่าวเอาไว้ ไม่ได้แพร่กระจายออกไปยังด้านนอกลัทธิ
แต่อันที่จริงเรื่องนี้ก็แพร่กระจายออกมาอยู่บ้าง ทว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เชื่อ!ทำให้เรื่องราวไม่ได้กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ลำพังแค่ศิษย์ลัทธิบูชาไฟที่ไม่เห็นกับตาชัดๆยังไม่ค่อยจะเชื่อ นับประสาอะไรกับลัทธิอารามทมิฬที่ภาคกลาง
เหตุผลที่กระทั่งศิษย์ที่ไม่ได้เห็นกับตายังไม่เชื่อ ก็เพราะเรื่องนี้มันเหลือเชื่อเกินความจริงมากเกินไป…
นักรบมังกร 9 กรงเล็บ สำหรับคนในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแล้ว มันเป็นดั่งตัวตนที่มีอยู่แต่ในตำนาน! ทั้งหมดล้วนไม่มีใครเคยพบเคยเห็นมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บด้วยซ้ำ กระทั่งบันทึกว่าเคยเจอก็ไม่มี! เช่นนั้นเรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหลในสายตาทุกคนทั้งสิ้น!!
ด้วยเหตุนี้เซี่ยจงจึงไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ!
หาไม่แล้วเผลอๆมันจะยืนยันได้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ไม่ต้องเคยเห็นเวทย์พลังอะไรทั้งสิ้น…
ว่าต้วนหลิงเทียนที่ลัทธิบูชาไฟ…เป็นคนเดียวกันกับต้วนหลิงเทียน นายน้อยตำหนักเมฆาครามของภูมิภาคเบื้องล่างที่มันช่วงชิงตราผนึกมารมา!
“เจ้าไม่คิด ข้าเองก็คิดไม่ถึงจริงๆ…”
ลูกตาเซี่ยจงฉายประกายเยียบเย็นกล่าวออกเสียงต่ำ “หากข้ารู้ว่าเจ้าจะสามารถเติบโตได้ถึงขั้นนี้ วันนั้นในตำหนักเมฆาครามที่ภูมิภาคเบื้องล่างข้าคงไม่เมตตาละเว้นเจ้า!”
“เมตตาละเว้นข้า?”
ได้ยินวาจาเซี่ยจง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ “เซี่ยจง หากข้าจำไม่ผิด…ไม่ใช่ว่าที่เจ้าไม่กล้าฆ่าข้าเพราะหวาดกลัวมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บรึไง?”
“อีกทั้งไม่ใช่ว่าเจ้าได้แต่ปลอบใจตัวเองหรอกเหรอ…ว่าด้วยพรสวรรค์ของข้า ตลอดชั่วชีวิตนี้คงไม่มีวันไล่ตามเจ้าได้ทัน?”
“ยังมาทำเป็นพูดเมตตาละเว้นข้าไม่อายปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!”
ต้วนหลิงเทียนลบล้างวาจาถือดีของเซี่ยจงทิ้งในชั่วพริบตา ยังยัดเยียดสถานะตัวขี้ขลาดให้มัน พาลให้สีหน้าเซี่ยจงกลายเป็นเขียวสลับขาวทันที
“อะไร? หรือตอนนี้เจ้าบังเกิดความเสียใจแล้วที่วันนั้นเจ้าปอดแหกไม่กล้าฆ่าข้า?”
เห็นเซี่ยจงโมโหทั้งอับอายจนหน้าเปลี่ยนสีไปมาราวไฟกระพริบไร้คำตอบ ต้วนหลิงเทียนก็แสยะยิ้มกล่าวเยาะไม่หยุด “เจ้าคงกำลังคิดสินะ…หากวันนั้นเจ้าฆ่าข้าทิ้งไป? ข้าคงไม่มีวันได้ก้าวหน้าเติบโตมาถึงจุดที่ทำให้เจ้าหน้าเสียอย่างตอนนี้?”
“น่าเสียดาย…โลกนี้ไม่มีโอสถรักษาอาการเสียใจให้เจ้ากิน!”
“วันนี้ข้าต้วนหลิงเทียนจะขอบอกเจ้าไว้ตรงนี้…หนี้เลือดอาวุโสกู่มี่กับพี่น้ององครักษ์เกราะทมิฬหลายสิบชีวิตที่เจ้าคร่าไปของตำหนักเมฆาคราม ข้าต้วนหลิงเทียนจะล้างมันด้วยเลือดของเจ้า!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงดังฟังชัด ทุกถ้อยคำยังดังประหนึ่งฟ้าผ่า
เผยความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นออกมาชัดเจน!
“เฮอะ! เสียใจรึ?”
วาจาแสลงหูของต้วนหลิงเทียนย่อมดึงสติเซี่ยงจงให้กลับมาอยู่กับร่อกับรอยได้ทันที และหลังจากรู้สึกตัวจากความเดือดดาลทั้งอับอาย เซี่ยจงแค่นคำหัวร่อ กล่าวออกอย่างถือดี “ต้วนหลิงเทียน เจ้าคิดมากไปแล้ว”
“ข้ายอมรับว่าพลังฝีมือของเจ้านั้นพอใช้ได้…แต่ระหว่างเจ้ากับข้าความสูงต่ำไม่ต้องกล่าวก็รู้กัน…อาศัยฝีมือสวะของเจ้า คิดว่าจะมีปัญญาล้างแค้นข้าได้?”
หลังกล่าวเย้ยจบคำ เซี่ยจงก็เชิดหน้ามองมาอย่างดูแคลน
“เรื่องนั้น…เดี๋ยวเจ้าก็รู้!”
ต้วนหลิงเทียนคร้านกล่าวคำไร้สาระกับเซี่ยตงสืบไป สิ้นเสียงเยียบเย็นเขาก็ลงมือทันที
ทันใดนั้นปีกอีกาทองคำคู่โตพลันสะบัดโบกลงฉับไว!
ครู่ต่อมา
ปง! ปง! ปง! ปง!
……
เสียงแตกระเบิดของอากาศดังสนั่นขึ้นเป็นชุด ร่างต้วนหลิงเทียนอันตรธานหายไปจากจุดเดิม โจนทะยานเข้าใสเซี่ยจงด้วยความเร็วสูง ความเร็วไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนแม้แต่น้อย!!
“ให้ข้าดูชม ว่าอัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับที่ 2 ของลัทธิบูชาไฟมันจักแน่สักแค่ไหน!!”
เผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียนที่โจนทะยานมาด้วยจิตฆ่าฟัน เซี่ยจงไม่หวาดกลัว แค่นคำตะโกนออกเสียงเย็น ทั่วร่างบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในฉับพลัน!
พลังเซียนต้นกำเนิดที่คล้ายตระเตรียมไว้พรั่งพร้อม ระเบิดปะทุออกมาดั่งเพลิงไฟร้อนแรง!
วูบหนึ่ง ร่างเซี่ยจงพลันโจนทะยานล่าถอยขึ้นไปยังฟ้าสูง สภาวะรวดเร็วล่องลอยปานเมฆหมอก ความเร็วในการเคลื่อนไหวของมันมองปราดเดียวก็บอกได้ว่าไม่ด้อยไปกว่าต้วนหลิงเทียน!
แน่นอนว่าเซี่ยจงนั้นเร่งใช้ออกด้วยเวทย์พลังสนับสนุน รวมถึงเวทย์พลังเสริมท่าร่างออกมาทันที นั่นทำให้หลังเร่งเร้าพลังเคลื่อนร่างขึ้นฟ้าไปพักหนึ่งมันก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่บ้าง ที่ความเร็วของมันกลับไม่มีเปรียบต้วนหลิงเทียน!!
‘คนที่เป็นดั่งมดในสายตาข้า..ไฉนในเวลาเพียงไม่นานกลับมีพลังฝีมือทัดเทียมกับข้าได้กัน!?’
หลังจากตระหนักถึงความจริงอันน่าตื่นตระหนกว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนกลับไม่ได้ด้อยไปกว่าความเร็วของมันเลย ทั้งๆที่มันใช้ออกด้วยเวทย์พลังทั้ง 2สายแล้วเช่นกัน พาลให้ใบหน้าของมันจมลงทันใด!
ต้องทราบด้วยว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่ทันได้แปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บที!
หากต้วนหลิงเทียนแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ความเร็วสมควรเพิ่มพูนขึ้นจนเหนือมันแน่!
‘ระยำ! ตัวบัดซบต้วนหลิงเทียนนี่ไฉนมันถึงได้ชำนาญเวทย์พลังทั้ง 2 สายนี่ได้ในเวลาอันสั้นไม่ถึงสองปี…อีกทั้งเห็นว่ามันยังเชี่ยวชาญเวทย์พลังสายจู่โจมกับป้องกันขั้นสูงอีกด้วย!’
‘แถมเวทย์พลังสายป้องกันขั้นสูงที่มันเข้าใจ สมควรเป็นเวทย์พลังป้องกันขั้นสูงอันดับ 1 ของลัทธิบูชาไฟอย่างปราการเต่าทมิฬที่ลือกันว่ายากเข้าใจนักหนา มันทำได้ยังไง!?’
คิดถึงเรื่องนี้ใจของเซี่ยจงก็รู้สึกหงุดหงิดนัก ความรู้สึกด้อยกว่าเริ่มกัดกินในใจ
‘สมแล้วที่มันเป็นลูกชายคนเดียวของจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬ…ถึงเซี่ยจงมันจะทะลวงมาถึงเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนได้ไม่นาน แต่อาศัยแค่ความเร็วนี่ ศิษย์ที่แท้จริงด่านพลังเดียวกันอย่าง ปู้หง ยังด้อยกว่ามันมาก!!’
หลังจากได้เห็นความเร็วของเซี่ยจง ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็พบว่าเซี่ยจงสมควรใช้เวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูง ส่วนเวทย์พลังสายสนับสนุนของมันสมควรเป็นแค่ขั้นกลางเท่านั้น
“แปลง! นักรบมังกร 9 กรงเล็บ!!”
แม้ต้วนหลิงเทียนไม่คิดใช้กระบี่นิลสวรรค์ฆ่าเซี่ยจงให้จบเรื่องไปในพริบตา แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดตระหนี่วิธีการอื่น เมื่อพบว่าความเร็วของเซี่ยจงไม่ด้อยไปกว่าเขา เช่นนั้นเขาก็แปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บทันที!!
เพียงเวลาแค่ชั่วพริบตา ต้วนหลิงเทียนทีเป็นมนุษย์อยู่หลัดๆ ก็แปรเปลี่ยนไปคล้ายอสูรกายตนหนึ่ง! เนื้อตัวเต็มไปด้วยเกล็ดแกร่งสองมือกลายเป็นกรงเล็บมังกร เผยรูปลักษณ์ครึ่งคนครึ่งมังกรอันน่าเกรงขามออกมาชัดเจน!!
นี่คือร่างนักรบมังกร 9 กรงเเล็บ!
‘ตอนนี้ก็ไม่ต้องกั๊กอะไรสืบไป…ข้าจะให้เซี่ยจงมันได้รู้…’
‘ว่าความสิ้นหวังคืออะไร!’
ตอนนี้นอกจากกระบี่นิลสวรรค์แล้ว ทุกสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนสามารถใช้ออกได้ก็ใช้ออกจนหมด
ลงมือเต็มที่อย่างไร้ซึ่งการออมรั้งสิ่งใด
ต้องทราบด้วยว่าก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะกลายเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ความเร็วเขาก็ทัดเทียมกับเซี่ยจงอยู่แล้ว
เช่นนั้นหลังจากที่แปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ความเร็วของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง!
ซึ่งมันก้าวข้ามความเร็วของเซี่ยจงไปอย่างสิ้นเชิง
“เซี่ยจง!!”
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็คำรามออกมาอย่างดุร้าย ปีกอีกาทองคำสะบัดอีกคราปะทุพลังอันเกรี้ยวกราดดั่งจุดระเบิด ส่งร่างต้วนหลิงเทียนที่เดิมว่องไว กลายเป็นว่องไวปานสายฟ้าจี้ทะยานย่นระยะเข้าใส่เวี่ยจงในชั่วพริบตา!
“บัดซบ!!”
เห็นร่างต้วนหลิงเทียนย่นระยะตัดฟ้ามาด้วยความเร็วน่าขนลุก เซี่ยจงรู้ตัวดีว่าไม่อาจชิงชัยด้วยความเร็ว มันไม่คิดเคลื่อนร่างให้เสียพลังเปล่าปลี้ หยุดร่างลงทันที
หลังหยุดร่างลงแล้ว พลันปรากฏหอกยาว 7 ฉื่อเล่มหนึ่งผุดจากความว่างเปล่าเข้ามือของมัน!
วู้มมม!!
มวลพลังถ่ายทอดลงสู่ตัวหอกปานน้ำเชี่ยว ตัวหอกเริ่มส่องแสงเรืองรองสั่นไหวสะท้าน พาลให้ความว่างเปล่ารอบตัวหอกกระเพื่อมไปเป็นวงดั่งระลอกน้ำ!
ยังมีกลิ่นอายแหลมคมแผ่พุ่งออกมาแทงทะลวงในบรรยากาศ
กลิ่นอายอันแหลมคมเสียดแทงนี้ ให้ความรู้สึกถึงพลังอำนาจที่แตกต่างจากศาสตราเซียนธรรมดาหลายขุมนัก!
“หอกพันอาคมเซียน?”
ทันทีที่แลเห็นพลังอำนาจของหอก ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวพึมพำออกมาเสียงเบา ไม่คิดว่าอาวุโสของลัทธิอารามทมิฬที่เป็นเพียงเซียนสวรรค์ 3เปลี่ยน จะมีศาสตราพันอาคมเซียนไว้ใช้งาน…
ทว่าพอคิดอีกครั้งเขาก็รู้สึกว่ามันสมควรแล้ว อย่างไรอีกฐานะของเซี่ยจงก็ไม่ธรรมดา
ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่ตัวตนอย่างจ้าวราชสีห์ขนทอง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 มหาธรรมราชาจะให้ศาสตราพันอาคมเซียนกับบุตรชายไว้ใช้งาน
“โฮ่! ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะรู้ด้วยว่ามันคือศาสตราพันอาคมเซียน!?”
เซี่ยจงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่มันจะเร่งเร้าพลังสุดตัว ควงหอกเป็นวงปานจักรผันยักย้ายไปมา คล้ายกำลังร่ายกระบวนหอกหนึ่ง พลังที่อัดแน่นในหอกยิ่งมายิ่งเพิ่มพูนมหาศาล!
ตอนนี้เซี่ยจงกำลังใช้ออกด้วยวรยุทธ์เซียนที่มันฝึกปรือจนแตกฉานถึงขั้นไร้ตำหนิ ผสานด้วยเวทย์พลังสายจู่โจมหนึ่งเต็มกำลัง ทั้งปะทุพลังอำนาจของพันอาคมเซียนออกมาอย่างพร้อมเพรียง ก่อเกิดเป็นขุมพลังสังหารอันน่าพรั่นพรึง
หอกที่ควงเร็วรี่สั่งสมพลังสภาวะถึงขีดสุด ทะลวงจ้วงไปอย่างดุร้ายอำมหิต!
ปงงงง!!
ยามหอกเสือกทะลวงออกบังเกิดเป็นเสียงแตกระเบิดของกาศดังลั่นก้องฟ้า ยังดังปานจะกลบทุกสรรพเสียงในโลกหล้า!
ฟั่ฟฟฟ!!
แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่บังเกิดเสียงแตกระเบิดออกของอากาศจากการแทงหอก พลันปรากฏเสียงกระบี่กรีดอากาศฉับไวถึงขีดสุด แสงแสงกระบี่ตีวงโค้งไปดั่งฟ้าแลบ!!
และพริบตาที่ต้วนหลิงเทียนจู่โจมออก สองตาเซี่ยจงก็ทอประกายร้อนแรงวูบหนึ่ง!
“กระบี่พันอาคมเซียน!”
ด้วยเนตรวิญญาณคู่หนึ่ง เซี่ยจงย่อมแลเห็นความไม่ธรรมดาของกระบี่ต้วนหลิงเทียน! ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังน่ากลัวที่คล้ายคลึงกับหอกของมัน! จึงทราบได้ทันทีว่านี่คือศาสตราพันอาคมเซียนเช่นกัน!!
เซี่ยจงซึ่งแต่เดิมคิดว่าสมควรมีเปรียบต้วนหลิงเทียนแน่ เมื่อควักหอกพันอาคมเซียนออกมาจู่โจมลงมือ ทว่าสีหน้าของมันจำต้องแปรเปลี่ยนไป! ใจไม่อาจคาดคิดได้ออก ว่าไฉนคนที่มาจากภูมิภาคเบื้องล่างอันล้าหลังมีปัญญาถือครองกระบี่พันอาคมเซียน!!
เคร๊งงงงงง!!!
เสียงโลหะดังกระทบกันสนั่นลั่นฟ้า เสียงนี้ยังดังแหลมดั่งมีดแทงทะลวงแก้วหูผู้คนแทบฉีกขาด เป็นกระบี่พันอาคมเซียนฟันปะทะกับปลายหอกพันอาคมเซียนเต็มกำลังอย่างแม่นยำดุจซัดด้ายลอดรูเข็ม! สภาวะศาสตราทั้ง 2 ไม่มีใดยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เสียงระเบิดของมวลพลังที่อัดแน่นในศาสตราที่กำลังหักหาญชิงชัยดังสนั่นลั่น บรึม บรึม ออกมาไม่หยุด!!
แน่นอนว่าหากเทียบกับเสียงกระบี่หอกปะทะกันก่อนหน้า เสียงระเบิดของพลังที่ปะทะกันอยู่ยังคล้ายกลายเป็นเสียงยุงบินไปทันที
อั๊ค!!
ทว่าหลังจากศาสตราต้านกันไปพักหนึ่ง เซี่ยจงยิ่งมายิ่งสีหน้าซีดเซียว! สุดท้ายร่างไม่อาจทานรับพลังสะท้อนได้ไหวสืบ คนปลิดปลิวกระเด็นออกไปพร้อมหอกพันอาคมเซียนอย่างหมดท่า! โลหิตแดงฉานยังมีลิ่มเลือดสีคล้ำกระอักออกมาคำใหญ่!!
โลหิตที่กระอักออกเป็นสายยามต้องสะท้อนแสงตะวัน บังเกิดเป็นความงามวิปลาสประการหนึ่ง!