WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2134
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2134
ตอนที่ 2,134 : เข้าไปคนแล้วคนเล่า!
ในห้วงเวลาคับขันนับว่าต้วนหลิงเทียนได้ตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดได้ในพริบตา…
อีกทั้งหลังจากเข้าไปในระนาบเทียมแล้ว เขาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกคนของพันธมิตรร้อยวิญญาณตามมาแต่อย่างไร
เพราะจากที่ผู้เฒ่าหั่วบอก เมื่อเข้าสู่ระนาบเทียมประเภทนี้โดยปกติแล้วจะถูกส่งให้ไปโผล่ยังสถานที่ต่างๆในนั้นแบบสุ่ม
นั่นหมายความว่า…
เว้นเสียแต่จะมีคนสองคนหรือมากกว่านั้นก้าวผ่านรอยแยกมิติเพื่อเข้าสู่ระนาบเทียมในเวลาเดียวกัน
หาไม่แล้วยากนักที่จะถูกส่งไปที่เดียวกัน!
และเมื่อครู่ ไม่ทันที่คนของพันธมิตรร้อยวิญญาณและคนอื่นๆจะทันได้รู้สึกตัว ต้วนหลิงเทียนก็ชิงเข้าสู่รอยแยกมิตินั่นคนเดียวเรียบร้อย
ต่อให้คนของพันธมิตรร้อยวิญญาณจะฉุกคิดอะไรได้และเร่งรุดติดตามเข้าเข้ารอยแยกมา แต่โอกาสที่พวกมันจะไปโผล่ที่เดียวกันกับเขาในระนาบเทียมก็น้อยนิดจนแทบไม่มี เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนจึงไม่กลัวแม้แต่น้อย ว่าหลังเขาเข้ามาแล้วจะถูกคนของพันธมิตรร้อยวิญญาณตามมาเอาเรื่อง
การเข้าสู่รอยแยกกลางอากาศอย่างปุบปับของต้วนหลิงเทียน ก็ทำให้ผู้คนด้านนอกตกใจอีกครั้ง
ที่ด้านนอกมีกลุ่มคนมารวมตัวกันหนาตาแบบนี้ไม่ใช่เพราะสาเหตุอื่นใด ทั้งหมดทั้งมวลล้วนกลัวตายทั้งสิ้น! พวกมันไม่รู้ว่ารอยแยกน่ากลัวนั่นที่แท้คืออะไรกันแน่…เข้าไปแล้วจะโดนดีอะไรหรือไม่แล้วจะไปโผล่ที่ใด?
สุดท้ายพวกมันก็มีแค่ชีวิตเดียว ไม่มีโอกาสให้เลี้ยวกลับ!
พวกมันจึงไม่คิดเข้าสู่รอยแยกอย่างวู่วาม เพียงมั่นใจว่าไม่มีอันตรายถึงตายแล้วค่อยลงมือ
“ชาย ชุด ดำ!!”
ขณะเดียวกันนั้นเอง ด้านผู้นำพันธมิตรร้อยวิญญาณก็กลับมารู้สึกตัวในที่สุด
ทันทีที่มันรู้ตัวมันก็คำรามออกด้วยน้ำเสียงเล็ดรอดไรฟัน
เสียงเยียบเย็นทั้งบรรยากาศยะเยือกปานจะผลักไสผู้คนให้ห่างไปหมื่นลี้ พาลให้คนที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกเสมือนร่วงตกลงไปในหุบเหวไร้ก้นบึ้ง
นอกจากมัน สีหน้าของคนพันธมิตรร้อยวิญญานก็ไม่ใช่ว่าจะสู้ดีสักเท่าไร!
ฉุนหวู่…อาวุโสลำดับที่ 1 ของพวกมัน กลับต้องมาตกตายคาตา!!
การตายของฉุนหวู่ ไม่เพียงแต่จะทำให้พันธมิตรร้อยวิญญาณของพวกมันเสียหน้าผู้คนเท่านั้น แต่ยังทำให้กำลังรบโดยรวมของพวกมันอ่อนลง!
ตอนนี้ตราบใดที่พันธมิตรอำนาจทรราชยินดีจ่ายราคามากหน่อย คิดทำลายพันธมิตรร้อยวิญญาณของพวกมันก็สมควรทำได้อย่างที่ไม่ต้องสงสัยเลย!
“ท่านชุดดำกล่าวถูกแล้วจริงๆ…อาวุโส 1 ของพันธมิตรร้อยวิญญาณเป็นแค่ตัวตลกที่โดดออกมาเล่นจำอวดให้ผู้คนดูชมเท่านั้น!!”
เฉินเฉวียนป้ากล่าววาจาออกมาอย่างสนุกสนานค่อยหัวเราะออกมาดังร่า ตอนนี้นับว่ามันมีความสุขทั้งสะใจจริงๆ
ระดับสูงๆของอำนาจทรราชเองก็หัวเราะชอบใจเช่นกัน หากแต่ในแววตาของพวกมันก็ฉายถึงความเสียดายอยู่บ้าง
ทว่าที่แววตาของพวกมันฉายความเสียดายนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความตายฉุนหวู่ แต่เสียดายที่ชายชุดดำเลือกจะปฏิเสธผู้นำพวกมัน ไม่รับข้อเสนอเป็นรองผู้นำคนที่ 4 ของพันธมิตรอำนาจทรราช…
อาศัยพลังฝีมือที่ชายชุดดำเผยออกมาให้เห็นเมื่อครู่ พวกมันย่อมตระหนักได้ทันทีว่า…
ชายชุดดำผู้นั้น มีคุณสมบัติครบถ้วนและคู่ควรเป็นรองผู้นำพันธมิตรอำนาจทรราชของพวกมัน!
หลังจากนั้นไม่นานสายตาของคนพันธมิตรอำนาจทรราชก็เริ่มมองไปยังคนของพันธมิตรร้อยวิญญาณ แน่นอนว่าแต่ละคนเย้ยเยาะออกหน้าออกตา
ถึงแม้พวกมันจะไม่มีใครพูดทับถมซ้ำเติมอะไร แต่อาศัยสายตาเย้ยเยาะมุมปากยิ้มกรุ้มกริ่มก็มากพอทำให้คนของพันธมิตรร้อยวิญญาณรู้สึกอับอายขายหน้าแทบทนไม่ไหว ใคร่ขุดหลุมแล้วมุดหัวหลบลงไปให้รู้แล้วรู้รอด!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวผู้นำพันธมิตรร้อยวิญญาณ หยินเฉวี่ยนหมิง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพราะมันคิดอาศัยต้วนหลิงเทียนเพื่อทำให้เฉินเฉวียนป้าเสียหน้าแท้ๆ! แต่ไม่คิดเลยจริงๆว่ามันไม่เพียงขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังต้องเสียข้าวสารไปอีกกำมือ!
ฉุนหวู่ อาวุโสลำดับที่ 1 ของพันธมิตรร้อยวิญญาณ และยังเป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 3เปลี่ยน! เรียกว่าพลังฝีมือกล้าแข็งร้ายกาจ เป็นรองก็แต่มันและรองผู้นำทั้ง 3 เท่านั้น!!
ทว่ามือดีของกองกำลังมัน กลับต้องมาตกตายอย่างไร้ค่า!
อย่างน้อยๆสำหรับมัน ก็ถือว่าตายเปล่า!
“เฉินเฉวียนป้า เจ้าอย่าได้ย่ามใจให้มันมากนักรอดูกันไปเถอะ!!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเย้ยเยาะล้อเลียนจากเฉินเฉวียนป้าและคนอื่นๆโดยรอบ หยินเฉวี่ยนหมิงก็สูดอากาศเข้าเฮือกๆระงับอารมณ์ ก่อนที่จะหันไปถลึงตามองใส่เฉินเฉวียนป้าอย่างดุร้ายอีกครั้ง ทิ้งวาจาดุดันไว้อีกหนึ่งประโยค ค่อยกลับไปยืนอย่างสงบเสงี่ยมกับกลุ่มพันธมิตรร้อยวิญญาณ
“แล้วข้าจะรอ”
เฉินเฉวียนป้ากล่าวตอบคำอย่างไม่แยแส มันไม่ได้ให้ค่าอะไรหยินเฉวี่ยนหมิงแม้แต่น้อย
แต่ไหนแต่ไรมันไม่เคยกลัวพันธมิตรร้อยวิญญาณ
ตอนนี้อีกฝ่ายมาเสียมือดีอย่างฉุนหวู่ไปอีก พลังรบก็ยิ่งถดถอยด้อยลง มันก็ยิ่งไม่กลัว!!
“ผู้นำหยิน เจ้านับว่ากล้าดีไม่เบาที่ปล่อยให้มือดีใต้บัญชาเจ้าไปหาเรื่องชายชุดดำนั่น!”
หลังจากที่คนของพันธมิตรอำนาจทรราชกับพันธมิตรร้อยวิญญาณแยกย้ายต่างคนต่างอยู่ ฉากเรื่องราวก็เงียบลงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะปรากฏเสียงไม่แยแสหนึ่งดังลงมาจากฟ้าเบื้องบน ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที
ภายใต้สายตาที่แหงนมองขึ้นไปของทุกคนชายหนุ่มหน้าตาซีดเซียวขอบตาดำคล้ายอมโรค ในชุดเสื้อผ้าหรูหรามีระดับ ก็ปรากฏตัวลงมาจากม่านเมฆ
ด้านหลังยังมีชายวัยกลางคนติดตามลงมาอย่างใกล้ชิด
“นายน้อย!”
ชายหนุ่มในชุดหรูหราปรากฏตัวได้ไม่ทันไร ผู้นำจากพันธมิตรอำนาจทรราชและพันธมิตรร้อยวิญญาณ เฉินเฉวียนป้า กับหยินเฉวี่ยนหมิง ก็เร่งก้าวออกมาประสานมือคารวะทักทายทันที
ชายหนุ่มในชุดหรูหราผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากนายน้อยพันธมิตร 7 สังหาร โอวฉิง!
โดยปกติแล้วนายน้อยที่สารรูปเหมือนนายน้อยรุ่น 2 ที่ร่ำรวยและไม่มีอะไรดีอย่าง โอวฉิง คงไม่มีค่ามากพอให้ผู้นำพันธมิตรอำนาจทรราชและผู้นำพันธมิตรร้อยวิญญาณต้องทักทายด้วยสุภาพขนาดนี้
ทว่าพันธมิตรอำนาจทรราชกับพันธมิตรร้อยวิญญาณนั้นค่อนข้างมีภาวะจำยอม ด้วยเพราะพวกมันล้วนเป็นกองกำลังพันธมิตรที่อยู่ใต้ความคุ้มครองของพันธมิตร 7 สังหารอีกที!
ในนครแห่งบาปนั้นเหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดมากมายต่างรวมกลุ่มกลายเป็นกองกำลังพันธมิตรนับไม่ถ้วน แต่ทว่ามีกองกำลังพันธมิตรร้ายกาจแค่ 3 กองกำลังเท่านั้น ที่อยู่บนจุดยอดของปิรามิด!
พันธมิตร 7 สังหาร พันธมิตรพันสารท และพันธมิตรหมื่นโบราณ!
ในบรรดา 3 พันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น ทั้งพันธมิตรอำนาจทรราชกับพันธมิตรร้อยวิญญาณล้วนเลือกจะเข้าไปอยู่ใต้ปีกของพันธมิตร 7 สังหาร…
เพื่อที่พวกมันจะอยู่รอดได้ โดยที่ไม่ต้องถูกมหาอำนาจทั้ง 3 กลืนกิน พวกมันทำได้แค่เลือกที่จะเข้าร่วมเป็นผู้ใต้บัญชาของพันธมิตรใหญ่พันธมิตรใดพันธมิตรหนึ่งเท่านั้น
และทั้งอำนาจทรราชกับร้อยวิญญาณก็เลือกจะเข้าร่วมกับ 7 สังหาร
ด้วยเหตุนี้พันธมิตรอำนาจทรราชและพันธมิตรร้อยวิญญาณถึงได้อยู่ในภาวะแข่งขัน! ทั้งหมดล้วนเพราะพวกมันคิดสร้างความดีความชอบ เพื่อให้พันธมิตร 7 สังหารพึงพอใจ! ไปๆมาๆจึงเป็นดั่งน้ำกับไฟที่จ้องจะฆ่ากันให้ตายแบบนี้!!
โอวฉิง ในฐานะนายน้อยของพันธมิตร 7 สังหาร ในระดับหนึ่งก็ถือว่ามันเป็นผู้นำรุ่นเยาว์ของพันธมิตร 7สังหารก็ว่าได้
ในฐานะผู้นำพันธมิตรที่อยู่ใต้อาณัติของพันธมิตร 7สังหาร ยามเฉินเฉวียนป้ากับหยินเฉวี่ยนหมิง พบโอวฉิง พวกมันจึงให้ความเคารพไม่กล้าละเลย!
เพราะท้ายที่สุดแล้ว กล่าวไปพวกมันก็ถือได้ว่าเป็นผู้ใต้บัคับบัญชาของพันธมิตร 7 สังหาร!
“นายน้อย ไม่ทราบ…ที่ท่านกล่าวหมายความว่าอะไร?”
หยินเฉวียนหมิงมองโอวฉิงด้วยสีหน้าสับสน ถามออกด้วยน้ำเสียงเคารพ
มันยังไม่ลืมคำที่โอวฉิงพูดตอนปรากฏตัว
“ผู้นำหยิน เจ้านับว่ากล้าดีไม่เบาที่ปล่อยให้มือดีใต้บัญชาเจ้าไปหาเรื่องชายชุดดำนั่น!”
ฟังจากวาจานี้ของโอวฉิงแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีความหมาย…ทำนองที่ว่าตัวมันไม่ควรไปตอแยชายชุดดำ!
ด้วยเหตุนี้มันจึงอดไม่ได้ที่จะสับสนและไมเข้าใจ
ต้องทราบด้วยว่าแม้พลังฝีมือของโอวฉิงกล่าวไปแล้วจะแค่พอใช้ แต่ด้วยสถานะอันสูงส่งของมันในฐานะนายน้อยพันธมิตร 7 สังหาย อีกฝ่ายย่อมเป็นตัวตนที่ไม่แยแสคนธรรมดาหน้าไหน
ในขณะที่หยินเฉวี่ยนหมิงถามโอวฉิง เฉินเฉวียนป้าก็มองไปที่โอวฉิงเช่นกัน
ด้วยเพราะในน้ำเสียงของโอวฉิงนั้น มันสัมผัสได้ถึงความกลัวประการหนึ่ง จึงทำให้มันเองก็บังเกิดความอยากรู้ขึ้นมาเช่นกัน
ไฉนนายน้อยของพันธมิตร 7 สังหารถึงได้กลัวชายชุดดำ
“เมื่อไม่นานมานี้…”
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัยของหยินเฉวี่ยนหมิงและเฉินเฉวียนป้า โอวฉิง พลันหันไปมองนายน้อยพันธมิตรพันสารท ตงกั๋วจื่อ ที่พึ่งปรากฏตัวตามหลังมัน “ผู้อาวุโสของพันธมิตรพันสารท หวังติ่งชัน ที่ติดตามอยู่ข้างกายตงกั๋วจื่อพึ่งจะตายตกด้วยน้ำมือของชายชุดดำนั่น!”
พอเห็นนายน้อยของพันธมิตรพันสารทตงกั๋วจื่อปรากฏตัวตามหลังโอวฉิง เฉินเฉวียนป้าและหยินเฉวี่ยนหมิงรวมถึงทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่แล้วว่าไฉนอีกฝ่ายมาคนเดียว
ทว่าต่อมาเมื่อวาจาของโอวฉิงดังเข้าหูของพวกมันจนจบ พวกมันก็ถึงกับยืนตะลึงไปพักหนึ่ง
จนเมื่อเห็นว่าตงกั๋วจื่ออยู่คนเดียวจริงๆพวกมันก็รู้สึกว่าหนังศีรษะกลายเป็นชาด้านไร้ความรู้สึก!
นายน้อยของพันธมิตรพันสารท อันน่าเกรงขามไหนเลยจะไม่มียอดฝีมือคอยติดตามคุ้มครองได้?
ตอนนี้พอมาฟังวาจาของโอวฉิงพวกมันจึงได้รู้
ไม่ใช่ไร้ยอดฝีมือติดตามคุ้มครองตงกั๋วจื่อ…แต่ยอดฝีมือที่คอยคุ้มครองมันคนนั้นตายตกไปเสียแล้ว!
ถูกชายชุดดำฆ่า!
“อาวุโสพันธมิตรพันสารท หวังติ่งชัน?”
“หากข้าจำไม่ผิด…หวังติ่งชันนั่นพลังฝึกปรือสมควรทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนได้เมือ่ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังมีอันดับในรายนามยอดเซียนถึงอันดับที่ 159…”
“แต่ตัวตนที่มีพลังฝีมือระดับนี้กลับถูกชายชุดดำฆ่างั้นเหรอ?”
“เช่นนั้นแล้วชายชุดดำบรรลุด่านพลังอันใดกันแน่…หรือจะเป็นเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน!?”
“นั่นก็ไม่แน่นัก อย่างไรหวังติ่งชันก็พึ่งทะลวงด่านได้ไม่กี่ปี ไม่จำเป็นต้องเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยน ขอเพียงเป็นเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนชนชั้นยอดฝีมือก็ฆ่ามันได้ง่ายๆแล้ว”
“ใช่ เพราะถึงมันจะทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน แต่มันก็แค่เซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนทั่วๆไปเท่านั้น ยังไม่ร้ายกาจถึงขั้นยอดฝีมือ”
“แต่จะอย่างไรหวังติ่งชันก็ไม่ใช่อะไรที่ ฉุนหวู่ อาวุโส 1 ของพันธมิตรร้อยวิญญาณจะเทียบได้เลย…ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว ว่าไฉนตอนนายน้อยโอวฉิงปรากฏตัวถึงได้กล่าวออกมาแบบนั้น”
เหล่าผู้ฝึกตนที่มายืนออรอบๆรอยแยกสนทนากันอย่างออกรส ในวาจาของพวกมันเผยให้เห็นถึงความตกใจในพลังฝีมือชายชุดดำที่รับบทโดยต้วนหลิงเทียนไม่น้อย
ภายใต้พลังฝีมือที่เหนือกว่าหวังติ่งชัน ทำให้ทุกคนประเมินพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนสูงขึ้นไปอีกขั้น
“ฮึ่ม!”
สังเกตเห็นถึงสายตาแปลกๆที่มองมาจากรอบด้าน ตงกั๋วจื่อแค่นคำอย่างไม่สบอารมณ์ สีหน้ายังมืดดำหมองค้ำนัก จากนั้นมันก็เหินร่างพุ่งหายไปในรอยแยกกลางอากาศทันที!
“เฮ่! นายน้อยพันธมิตรพันสารทเข้าไปแล้ว!!”
ทันใดนั้นหลายคนก็อุทานออกมา
“นายน้อย ในเมื่อท่านรู้ถึงพลังฝีมือชายชุดดำนั่น…ไฉนท่านไม่กล่าวเตือนข้าแต่แรก?”
สีหน้าหยินเฉวี่ยนหมิงแลดูบิดเบี้ยวไปไม่น้อย น้ำเสียงยังแฝงเร้นไปด้วยความไม่พอใจ
หากโอวฉิงเลือกที่จะกล่าวเตือนมันแต่แรกล่ะก็ มันคงไม่ปล่อยให้อาวุโส 1 ของพันธมิตรร้อยวิญญาณมันอย่าง ฉุนหวู่ ไปตายเปล่าหรอก…
“หยินเฉวี่ยนหมิงเจ้ามันช่างกล้านัก!!”
วาจาของหยินเฉวี่ยนหมิงดังไม่ทันจบคำดี ลู่จิ้นที่อยู่ด้านหลังโอวฉิงก็ตะโกนออกมาว่า “นี่เจ้ากำลังตั้งคำถามกับนายน้อยงั้นเหรอ!?”
สีหน้าหยินเฉวี่ยนหมิงเปลี่ยนไปทันใด และเมื่อตระหนักได้ถึงอัตลักษณ์ของชายหนุ่มเบื้องหน้า มันก็เร่งก้มหน้าลงทันที “นายน้อยข้า…ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น…”
“เฮอะ!”
โอวฉิงเหลือบมองหยินเฉวี่ยนหมิงด้วยสายตาเยียบเย็น ค่อยหันไปพยักหน้าให้ลู่จิ้น ก่อนเหินร่างเข้าไปในรอยแยกทันที
ทันใดนั้นพลันบังเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอีกรอบ
“ไฉนพวกมันถึงได้เข้าไปในรอยแยกอย่างไร้ลังเลเช่นนี้เล่า นี่มิกลัวอันตรายถึงตายกันบ้างหรือ?”
หลายคนสงสัย
“บางทีพวกมันอาจรู้ว่าด้านในไม่มีอันตรายใดๆ…”
ใครบางคนพูดขึ้นอย่างไม่มั่นใจ
“หากไม่มีอันตรายอะไร…ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงพันธมิตรอื่นใด เอาแค่พันธมิตรอำนาจทรราชกับพันธมิตรร้อยวิญญาณมิใช่ว่าเป็นกองกำลังใต้อาณัติพันธมิตร 7 สังหารหรือไร? แล้วไฉนพันธมิตร 7 สังหารไม่กล่าวบอกอะไรพวกมันสักคำ?”
ใครบางคนกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง