WSSTH – สงครามจักรพรรดิทะยานสวรรค์ - ตอนที่ 2143
War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2143
ตอนที่ 2,143 : วาสนาในคราวเคราะห์
ตอนนี้ในอีก 2 กลุ่มยังไม่มีใครตาย
ทว่าในกลุ่มของเขากลับมีคนตาย!
มีคนตาย!!
วินาทีนี้ไม่ใช่แค่ ไป๋ลี่ เหวยสั่ว ตงกั๋วอี้ และเหอเฟยยี่เท่านั้นที่หน้าเปลี่ยนสีไปอย่างมหันต์…
กระทั่งต้วนหลิงเทียน และคนอื่นๆที่รับทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันทีเช่นกัน
คนในกลุ่มของเขากลับตกตายก่อนคนของอีก 2 กลุ่มที่เหลือ นั่นหมายความว่า…กลุ่มของเขาจะเป็นกลุ่มที่ถูกกำจัดทิ้ง!
และจุดจบของการถูกคัดออกนี้…คือความตาย!
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
…
ในขณะที่มีคนในกลุ่มของต้วนหลิงเทียนตกตาย และคนที่เหลือกำลังหน้าเปลี่ยนสีนั้นเอง ภายในถ้ำปิดอันกว้างใหญ่แห่งนี้พลันบังเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นไม่หยุด!
อีกทั้งเสียงดังกล่าวยิ่งมายังยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ!
ได้ยินเสียงที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ ใจต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆก็สั่นสะท้านไปทันใด
และทันใดนั้นเอง
“รีบเข้ามาในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเร็ว!!”
“เร็วเข้า!!”
เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในหูต้วนหลิงเทียนติดๆกันสองรอบ น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความร้อนใจทั้งกังวลนัก!
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนไม่ทันตอบสนองต่อเสียงของผู้เฒ่าหั่วแต่อย่างไร เพียงวูบร่างเข้าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไปตามสัญชาตญาณทันที เขาไม่มัวมาคิดว่าไฉนอยู่ๆผู้เฒ่าหั่วต้องให้เขารีบเข้าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติอย่างกะทันหัน! เพียงห้วงคิดร่างก็วูบเข้ามาอยู่ในเจย์หลิงหลง 7 สมบัติที่มีขนาดเท่าเม็ดฝุ่นและซุกซ่อนอยู่ในหูของเขาเรียบร้อย!!
แม้เขารู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเปิดเผยต่อคนทั้งหมดในที่นี้ แต่ต้วนหลิงเทียนไม่มัวคิดถึงอะไรหยุมหยิมทั้งสิ้น
นี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่เขาได้ยินเสียงกล่าวสั่งให้ทำอะไรบางอย่างด้วยความร้อนใจของผู้เฒ่าหั่ว!
เช่นนั้นทันทีที่เสียงของผู้เฒ่าหั่วดังขึ้นในหู ต้วนหลิงเทียนจึงเร่งเข้าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไปในหนึ่งห้วงคิดทันที! ไม่คิดเรื่องอื่นใด กระทั่งยังไม่มีเวลาให้คิดเรื่องใดอื่น…
วูบ!
การที่ร่างของต้วนหลิงเทียนอยู่ดีๆก็อันตรธานหายไปในอากาศย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นธรรมดา แต่ทว่าในที่นี้มีเพียงแค่ไป๋ลี่กับเหวยสั่วเท่านั้น ที่สัมผัสได้ถึงการหายตัวไปอย่างกะทันหันของต้วนหลิงเทียน
ทว่าเรื่องราวมันบังเกิดขึ้นฉับไวดั่งฟ้าแลบ
คนอื่นๆนั้นไม่อาจมีใครทันได้ตระหนักถึงการหายตัวไปของต้วนหลิงเทียนแม้แต่นิดเดียว
ตูมมม!
ทว่าทันใดนั้นเอง ไม่ทันที่ไป๋ลี่จะได้ทำอะไร เสียงหนึ่งพลันระเบิดดังลั่นก้องไปทั่วทั้งถ้ำ!
พร้อมกันนั้น ปรากฏพลังทำลายล้างมหาศาลยากจะหาใดเปรียบขุมหนึ่งกวาดทำลายไปทั่วโถงถ้ำ! ในเวลาชั่วพริบตาดุจละอองไฟวาบดับนี้ ทุกผู้คนในถ้ำถูกมวลพลังมหาศาลระเบิดออกมาครอบคลุมทุกคนทันที และกระทั่งตัวตนที่มีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนหรือเหนือกว่านั้นอย่างไป๋ลี่กับเหวยสั่ว ยังถูกพลังทำลายล้างน่ากลัวดังกล่าวป่นร่างจนแหลกสลายเป็นเศษธุลีในชั่วพริบตา!
เรียกว่าเผชิญกับพลังอำนาจทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวนี้ กระทั่งตัวตนขอบเขตเซวียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนอย่าง ไป๋ลี่ ยังไม่อาจต้านทานใดๆได้เลย ถูกฆ่าทันที!
ไป๋ลี่ที่ทรงพลังกล้าแข็งที่สุดยังตายตกร่างสลายในชั่วพริบตา…แล้วยังนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ?
อย่างไรก็ตามแม้พลังอำนาจทำลายล้างนี้อยู่ๆจะปะทุระเบิดไปทั้งถ้ำ จนสรรพสิ่งสลายหายหลงเหลือแต่ความว่างเปล่า…กลับมีธุลีเล็กๆหนึ่ง ลอยล่องอยู่กลางความว่างเปล่านั้นโดยไม่ถูกทำลาย!
อีกด้านหนึ่งนั้น
ร่างต้วนหลิงเทียนที่พึ่งวูบเข้ามาในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ เรียกว่าคนผุดโผล่ในชั้น 1 ของเจดีย์ได้ไม่ทันไร กระทั่งร่างยังไม่ทันตกลงถึงพื้นชั้น 1 ของเจดีย์ด้วยซ้ำ เขาก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาล ปานมีอะไรบางอย่างกำลังเขย่าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติอย่างแรง!!
เช่นนั้นพริบตาต่อมาร่างต้วนหลิงเทียนก็ถูกพลังอำนาจของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติถล่มเข้าร่างทันที!
“โอย ปวดตัวเวียนหัวแทบตาย…!”
ต้วนหลิงเทียนรู้สึกราวกับมีวัตถุหนักแข็งทุบฟาดเข้าศีรษะอย่างจัง รวมทั้งทั่วทั้งร่างยังเสมือนถูกบีบอัดจนแทบแหลก! เป็นพลังอำนาจของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติถล่มเข้าร่างเขาเพื่อขับไล่ออกจากเจดีย์เพราะความไร้เสถียรของห้วงมิติ! เรียกว่าตอนนี้เขาวิงเวียนศีรษะทั้งอยากอาเจียนถึงที่สุด ร่างยังบอบช้ำราวกับได้รับบาดเจ็บภายใน!!
แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บภายในดังกล่าวไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพียงอยู่นิ่งๆสักครู่ ก็สามารถฟื้นตัวได้แล้ว
“นี่มัน…”
อย่างไรก็ตามเมื่อต้วนหลิงเทียนดึงสติกลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้สำเร็จ และพบว่ารอบกายคงเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใด เขาก็เหวอไปทันที!
‘ถ้ำ’ ก่อนหน้านี้ไม่มีอีกแล้ว…
คนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเขาก็หายไปหมดไม่มีเหลือ…
“กะ…เกิดอะไรขึ้นกัน!?”
อยู่ๆเจออะไรแบบนี้ ต้วนหลิงเทียนจึงรู้สึกงุนงงไม่เข้าใจอยู่บ้าง
ทั้งหมดเป็นเพราะ…
ในชั่วเวลาเสี้ยวพริบตาก่อนที่พลังทำลายล้างมหาศาลจะปะทุระเบิดทำลายไปทั่วถ้ำนั้น ผู้เฒ่าหั่วกลับสั่งให้ต้วนหลิงเทียนเข้าสู่เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ! ซึ่งต้วนหลิงเทียนเองก็เชื่อฟังคำของผู้เฒ่าหั่ววูบร่างเข้าไปทันที จึงรอดพ้นหายนะตกตายจากแรงระเบิดสังหารนั่นมาได้!
ช่วงเวลานั้นช่างแม่นยำและเหมาะเจาะเหลือเกิน!
เพราะในเสี้ยวพริบตาที่ร่างต้วนหลิงเทียนหายเข้าเจดีย์ไป พลังมหาศาลนั่นก็ปะทุระเบิดป่นทำลายทุกสิ่งอย่างในถ้ำ!!
พลังทำลายล้างนั่น มันน่าสะพรึงกลัวถึงขั้นที่กระทั่งตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนอย่างไป๋ลี่ หรือต่อให้เป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ยังไม่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ ก็ยังไม่อาจรอดพ้น!!
นั่นเพราะมันเป็นพลังอำนาจที่เกิดจาก ค่ายกลสังหารที่ ‘ครึ่งก้าวเซียนอมตะ’ ผู้ข้ามผ่านหกายนะทัณฑ์สวรรค์ถึง 3 คนร่วมกันจัดตั้ง!!
ยังเป็นค่ายกลสังหารที่น่ากลัวนัก!
ปะทุมวลพลังสังหารทั้งหมดออกมาในชั่วพริบตา!!
และมวลพลังสังหารที่ปะทุระเบิดออกมา อย่างต่ำๆก็เทียบได้กับพลังทั้งหมดที่ตัวตนขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะผู้ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สววรรค์ไปแล้วลงมือ!!
ดังนั้นอย่าว่าแต่ตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ยังไม่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เลย ต่อให้เป็นตัวตนขอบเขต ครึ่งก้าวเซียนอมตะ หรือก็คือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้แล้ว มาเจอเข้า ก็เกรงว่าต่อให้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!!
เช่นนั้นก็รับทราบได้
ว่าค่ายกลสังหารที่ 3 ครึ่งก้าวเซียนอมตะร่วมกันจัดตั้งนี้ มันทรงอานุภาพร้ายกาจถึงเพียงใด!
“รีบไปกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณที่ยังหลงเหลืออยู่เร็ว! อย่าให้พวกมันกระจัดกระจายหายไปอย่างเสียเปล่า!!”
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังอื้ออึงกับเรื่องราวโดยรอบ เสียงผู้เฒ่าหั่วก็แผดดังในหูอีกครั้ง
เป็นผู้เฒ่าหั่วบอกให้เขากลืนพรสวรรค์รากวิญญาณที่หลงเหลืออยู่รอบๆ!
ต้วนหลิงเทียนที่ได้ยินคำของผู้เฒ่าหั่ว ก็แผ่สำนึกเทววะออกไปทันที และเขาก็สัมผัสได้ถึงเศษเสี้ยววิญญาณที่กำลังจะกระจัดกระจายไปในความว่างเปล่าจำนวนมาก และนั่นทำให้เขาถึงกับตกใจไม่น้อย
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!!”
ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ และไม่คิดถึงเรื่องที่มีววิญญาณกำลังจะสลายหายไปรอบๆ ต้วนหลิงเทียนรู้แค่หากเขาไม่กลืนพรสวรรค์รากวิญญาณที่เหลืออยู่เดี๋ยวนี้ อีกไม่กี่อึดใจพวกมันต้องสลายหายไปในสวรรค์และโลกหมดสิ้นแน่!
ถึงตอนนั้นเขาอยากรับประทาน ก็ไม่มีให้รับประทานแล้ว!!
“รากวิญญาณสีน้ำเงิน!”
“พระช่วยนี่ก็รากวิญญาณสีน้ำเงิน!!”
“น้องสาวมันเถอะ! รากวิญญาณสีครามก็มี!!”
ต้วนหลิงเทียนรู้สึกตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย เพราะในขณะที่เขาปลดปล่อยพลังดูดรั้งออกมากลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณที่หลงเหลือในความว่างเปล่า เขาก็สัมผัสได้ว่าพวกมันคือพรสวรรค์รากวิญญาณสีใดบ้าง…และนั่นทำให้เขาตกใจไม่น้อย!
เพราะเขาพบว่าพรสวรรค์รากวิญญาณที่เหลือให้เขารับประทานเปล่านี้ มีรากวิญญาณสีน้ำเงินถึง 5 ราก รากวิญญาณสีคราม 2 ราก และก็มีรากวิญญาณสีเขียวอีกมากมาย!
“ระ…รากวิญญาณแต่กำเนิดของข้า…”
หลังจากกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณทั้งหมดที่หลงเหลืออยู่ในความว่างเปล่าหมดแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็พบว่า…
รากวิญญาณสีครามของเขาได้แปรเปลี่ยนสีไปอย่างใหญ่หลวง ตอนนี้มันกลายเป็นสีครามเข้มแล้ว!
รากวิญญาณสีครามเข้ม ย่อมหมายความว่า…มันห่างจากรากวิญญาณสีม่วงอีกแค่ก้าวเดียว!
‘หากข้าได้กลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณจำนวนมากและมีคุณภาพแบบเมื่อครู่อีกสักชุดล่ะก็…พรสวรรค์รากวิญญาณแต่กำเนิดของข้าไม่เปลี่ยนเป็นรากวิญญาณสีม่วงข้าให้คนถีบจนตายยังได้!’
เมื่อได้ลิ้มรสความหอมหวานจากการกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณชุดใหญ่ ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นเลียริมฝีปากอันแห้งผากอย่างกระหาย สองตาฉายประกายโหยหิวอยู่บ้าง
หลังจากนั้นไม่นาน ต้วนหลิงเทียนก็ฟื้นคืนความรู้สึก และหันมาสนใจเรื่องราวรอบๆอีกครั้ง จึงพบว่าตอนนี้ทั้งถ้ำและผู้คนล้วนอันตรธานหายไปหมดสิ้นแล้ว
ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งรู้ตัว ก็อดไม่ได้ที่จะร่างสะท้านไปวูบหนึ่ง
“ผะ…ผู้เฒ่าหั่ว…พะ….พรสวรรค์รากวิญญาณที่ข้าพึ่งกลืนกินไปเมื่อครู่…หรือจะเป็นพรสวรรค์รากวิญญาณของคนในกลุ่มเดียวกับข้า?”
จังหวะนี้เสียงต้วนหลิงเทียนที่ส่งไปถามผู้เฒ่าหั่วยังสั่นไปไม่น้อย
หากพรสวรรค์รากวิญญาณที่เขาพึ่งกลืนกินไป มันเป็นพรสวรรค์รากวิญญาณของ ไป๋ลี่ เหวยสั่ว ตงกั๋วอี้ และเหอเฟยยี่และคนในกลุ่มจริง เรื่องที่ไฉนพวกมันมีระดับสูงก็ย่อมไม่แปลกอะไร
อย่างไรไป๋ลี่ก็คือตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน!
เหวยสั่วก็เป็นถึงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน!
ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋านั้น หากผู้ใดคิดบ่มเพาะพลังถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนล่ะก็ อย่างน้อยๆก็ต้องมีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน!
แน่นอนว่ายังมีกรณีพิเศษอยู่บ้าง
ในประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า เคยมีผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวเท่านั้น ทว่ามันกลับทะลวงถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้สำเร็จ ทว่ากรณีพิเศษเช่นนี้ยากที่จะพบพานได้ในรอบพันปี!
“อืม เป็นพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมัน’
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสงบ
“ใช่จริงๆ!”
หลังได้รับคำยืนยันจากนผู้เฒ่าหั่วแล้ว ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล้กลงโดยพลัน ร่างยังสะท้านไปอย่างแรง สีหน้าท่าทีเผยความไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง “เป็นไปได้ยังไงกัน…พวกมัน…พวกมัน…”
“หลังจากที่ข้าเรียกให้เจ้าเข้ามาในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้ไม่ทันไร พวกมันก็ถูกพลังของค่ายกลสังหารฆ่าตายกันหมด…”
ตอนนี้เองเสียงผู้เฒ่าหั่วพลันดังขึ้นอีกครั้ง “ยังโชคดีนักที่เจ้าไม่ลังเลรั้งรออันใด หาไม่เจ้าคงได้ตายไปแล้ว…พลังทำลายล้างเมื่อครู่ แทบจะเป็นพลังอำนาจทำลายล้างสูงสุดเท่าที่คนในระนาบโลกียะจะบรรลุได้แล้ว…”
“ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ทว่าหากยังไม่อาจข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ ก็ไม่อาจทานรับพลังทำลายล้างเมื่อครู่ได้แม้แต่นิดเดียว!”
“กระทั่งให้เป็นตัวตนขอบเขต ครึ่งก้าวเซียนอมตะ ที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์มาได้แล้ว หากต้องมาต้านรับพลังทำลายล้างจากค่ายกลเมื่อครู่เพียงลำพัง เกรงว่าถึงไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!”
“พลังนั่นเกิดจากการบีบอัดมวลพลังมหาศาลที่สั่งสมมานาน แล้วปะทุปลดปล่อยออกมาคราวเดียว เช่นนั้นจึงมีพลังอำนาจทำลายล้างอันน่ากลัวนัก…ที่สำคัญยังเป็นพลังอำนาจที่เกิดจากค่ายกลที่ 3 ครึ่งก้าวเซียนอมตะร่วมมือกันจัดตั้ง พลังทำลายจึงแทบบรรลุถึงจุดสูงสุดของพลังในระนาบโลกียะ…”
จากวาจาของผู้เฒ่าหั่ว ทำให้ต้วนหลิงเทียนตระหนักได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงที่พึ่งผ่านพ้นมาทันที
“อย่างไรก็ตามแม้พลังอำนาจนั่นแทบจักบรรลุถึงจุดสูงสุดเท่าที่ระนาบโลกียะจะบรรลุถึงได้ แต่มันก็ทำได้แค่ทำลายล้างสรรพสิ่งในระนาบโลกียะเท่านั้น แหวนพื้นที่หรือยอดศาสตราเซียนใดๆไม่อาจรอดพ้น…ทว่าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัตินั้นเป็นยอดสมบัติสวรรค์ พลังทำลายล้างเพียงเท่านี้ ยังไม่พอจะสร้างรอยขีดข่วนให้มัน…”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวสืบต่อ
หลังได้ยินเรื่องราวที่ผู้เฒ่าหั่วกล่าวบอก ต้วนหลิงเทียนรู้สึกกลัวจนเหงื่อแตกพลั่ก!
ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง!
‘โชคดี…นับว่าโชคดีจริงๆ ที่ได้ผู้เฒ่าหั่วกล่าวเตือนทันเวลา อีกทั้งเป็นข้าที่เชื่อใจผู้เฒ่าหั่วอย่างไร้เงื่อนไข จึงเร่งเข้าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติทันที ถึงสามารถหลบเลี่ยงพลังทำลายล้างที่อาจจะร้ายแรงที่สุดนระนาบโลกียะนั่นมาได้…’
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคิดในใจอย่างหวาดเสียว ลมหายใจยังถี่รัวขึ้น รู้สึกแน่นหน้าอก ตกใจไม่หาย!
ตอนนี้เขาพลันตระหนักได้ ว่าเมื่อครู่เข้าใกล้ ‘ประตูผี’ มากขนาดไหน…
“ผู้เฒ่าหั่ว ขอบคุณท่านมาก”
ครู่ต่อมาหลังจากสงบสติอารมร์ลงได้แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เร่งขอบคุณผู้เฒ่าหั่วก่อนสิ่งใด
“วาสนาในคราวเคราะห์…ครั้งนี้เจ้านับว่าได้พบวาสนาในคราวเคราะห์แล้วจริงๆ”
ผู้เฒ่าหั่วกล่าว
……